ตอนที่ 199 หยกสงบวิญญาณ (1)
ตามคำขอของจวินอู๋เสีย ร่างของจวินกู้ถูกวางไว้ในลานเรือนพักของนาง เพราะนางไม่สามารถสัมผัสกับหยกวิญญาณได้ จวินอู๋เสียจึงทำได้เพียงตรวจสอบร่างกายของจวินกู้เท่านั้น
ผลจากการตรวจสอบที่ออกมาเกินความคาดหมาย ร่างกายของจวินกู้เหมือนถูกแช่แข็งทันทีที่เสียชีวิต อวัยวะทุกส่วนในร่างกายอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมโดยไม่มีความเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น
สิบปี ไม่ใช่สิบวัน นอกเหนือจากสาเหตุที่มาจากหยกวิญญาณแล้ว จวินอู๋เสียก็คิดไม่ออกเลยว่ายังมีเหตุผลอะไรที่ทำให้ร่างกายของจวินกู้สมบูรณ์ไม่เสียหายเยี่ยงนี้
จากการสัมผัสกับหยกวิญญาณของจวินอู๋เสียแล้ว หยกวิญญาณมีแรงดึงดูดอย่างมากต่อจิตวิญญาณที่ไม่เสถียร ในวันที่จวินกู้เสียชีวิต จวินกู้ถูกส่งตัวกลับมาที่จวนหลินอ๋องทันทีและถูกนำตัวบรรจุลงในโลงศพในตอนเช้าของวันถัดมา ตั้งแต่นั้นมาหยกวิญญาณชิ้นนั้นก็ถูกวางอยู่บนร่างของจวินกู้มาโดยตลอด
จวินอู๋เสียมีเหตุผลที่จะเชื่อว่าในเวลานั้นจิตวิญญาณของจวินกู้ยังไม่ได้สลายไปอย่างสมบูรณ์ และจิตวิญญาณของเขาอาจจะถูกดูดเข้าไปในหยกวิญญาณ!
หากสามารถค้นหาจิตวิญญาณของจวินกู้ได้ ในขณะที่ร่างกายของเขาถูกรักษาไว้เป็นอย่างดี การทำให้จวินกู้ฟื้นคืนชีพก็มิใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้!
แต่ตอนนี้จวินอู๋เสียกำลังประสบกับปัญหาอย่างหนึ่ง
นางไม่สามารถสัมผัสกับหยกวิญญาณโดยตรงได้ เมื่อนางสัมผัสหยกวิญญาณแล้ว หยกวิญญาณจะดึงจิตวิญญาณของนางออกไปทันที จวินอู๋เสียทำไม่ได้แม้แต่จะตรวจสอบลายเส้นที่อยู่ด้านหลังของหยกวิญญาณด้วยซ้ำ
สำหรับหยกวิญญาณอันลึกลับนี้ จวินอู๋เสียทำได้เพียงจ้องมองมัน แต่การคาดเดามากมายที่ค้างคาอยู่ในใจของนางทำให้นางไม่อาจข่มตานอนหลับได้
ดอกบัวขาววิ่งเท้าเปล่าไปที่โลงศพ เขายืนเขย่งเท้าแล้วยื่นศีรษะมองไปที่ใบหน้าอันสงบของจวินกู้ เขามองไปที่จวินกู้แล้วสลับกับจวินอู๋เสียไปมา ดวงตาใสซื่อบริสุทธิ์ของเด็กน้อยเบิกกว้างขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“เจ้านาย พี่ชายคนนี้เหมือนท่านมาก”
ดอกบัวขาวน้อยเคยเห็นจวินเสี่ยน จวินชิงและจวินอู๋เย่ามาก่อน เขาเคยเห็นทุกคนที่มีสายเลือดเดียวกันกับจวินอู๋เสีย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคนที่มีใบหน้าเหมือนกับจวินอู๋เสียมากเยี่ยงนี้
พี่ชายรึ…
จวินอู๋เสียมองเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่มีใบหน้าไร้เดียงสา นางยื่นมือออกไปลูบศีรษะทุยของเขาเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เขาเป็นท่านพ่อของข้าต่างหาก”
พี่ชายอะไร สถานะมันต่างกันเกินไป!
“ท่านพ่อหรือ” ดอกบัวขาวน้อยเอียงศีรษะ เขาถามต่อว่า “แต่ท่านพ่อของเจ้านายทำไมถึงมีสิ่งของจากโลกภูติวิญญาณของพวกข้าเล่า”
จวินอู๋เสียผงะไปครู่หนึ่ง “สิ่งของจากโลกภูติวิญญาณหรือ”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จวินอู๋เสียได้ยินคำว่าโลกภูติวิญญาณจากปากของเจ้าดอกบัวขาวน้อย แม้ว่านางจะไม่รู้ว่ามันคือที่ใด แต่ก็ไม่ยากที่จะคาดเดาจากคำพูดดอกบัวขาวน้อยว่าโลกภูติวิญญาณเป็นสถานที่ที่ภูติวิญญาณอาศัยอยู่ร่วมกัน
สถานที่ที่ภูติวิญญาณอาศัยอยู่ จวินอู๋เสียเคยได้ยินจากปากของเจ้าดอกบัวขาวเท่านั้น นางเคยถามจวินเสี่ยนและจวินชิง แต่ก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องโลกภูติวิญญาณนี้มาก่อน
แต่ก็เข้าใจได้ เพราะภูติวิญญาณของคนทั่วไปไม่ใช่อาวุธก็เป็นสัตว์ร้าย แม้ว่าภูติวิญญาณทั้งสองประเภทนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้านายของพวกมันได้ แต่ก็ไม่มีทางสนทนาได้อย่างแน่นอน แม้ว่าเจ้าดอกบัวขาวจะเป็นภูติวิญญาณประเภทพฤกษา แต่ด้วยความพิเศษที่สามารถจำแลงกายเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ ความสามารถนี้จึงทำให้จวินอู๋เสียได้ยินเสียงจากภูติวิญญาณที่คนอื่นไม่สามารถได้ยิน
“นั่นมิใช่หยกสงบวิญญาณหรือ” ดอกบัวขาวน้อยใช้มือและขาที่ป้อมสั้นอวบอ้วนของเขาตะเกียกตะกายปีนเข้าไปในโลงศพ นิ้วเล็กๆ ราวกับน้ำนมชี้ไปที่หยกวิญญาณครึ่งหนึ่งที่อยู่ในปากของจวินกู้ “แต่ว่า…ทำไมหยกสงบวิญญาณชิ้นนี้ถึงถูกทำลายเหลือแค่ครึ่งเดียวกัน” เจ้าดอกบัวขาวน้อยเกาศีรษะด้วยความงุนงงไม่เข้าใจ
ตอนที่ 200 หยกสงบวิญญาณ (2)
“เจ้าพูดว่าหยกสงบวิญญาณอย่างนั้นหรือ นี่ไม่ใช่แค่หยกวิญญาณหรอกเหรอ” จวินอู๋เสียมองไปที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยเพราะชื่อที่เขาพูดออกมานั้นมากกว่าที่นางรู้อยู่หนึ่งคำ
ดอกบัวขาวน้อยกะพริบตาปริบๆ มันพูดออกมาอย่างลังเลว่า “หยกวิญญาณคืออะไรกัน ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ข้าเคยเห็นภาพหยกสงบวิญญาณในโลกภูติวิญญาณ หน้าตาเป็นแบบนี้ไม่ผิดแน่ และ…บนหยกนี้มีพลังจิตวิญญาณของโลกภูติวิญญาณของพวกข้าอยู่ด้วย”
“พลังจิตวิญญาณคืออะไร” จวินอู๋เสียยิ่งฟังยิ่งสับสน เจ้าดอกบัวขาวน้อยพูดคำมากมายที่มีเพียงภูติวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเข้าใจได้
ดอกบัวขาวน้อยมองดวงตาที่สงสัยของจวินอู๋เสียแล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่งจึงจะกระโดดลงไปที่พื้น เขามองจวินอู๋เสียแล้วกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “ดูเหมือนว่าเจ้านายจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโลกภูติวิญญาณเลย แต่ไม่เป็นไร ข้าจะค่อยๆ บอกท่าน”
“พลังจิตวิญญาณคือพลังที่ภูติวิญญาณอย่างพวกข้าบ่มเพาะ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าพลังแห่งจิตภูติวิญญาณ แท้จริงแล้วภูติวิญญาณอย่างพวกข้าก็คือจิตวิญญาณ ฉะนั้นพลังก็เป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณ หยกสงบวิญญาณเป็นหนึ่งในเจ็ดอาวุธวิเศษในโลกภูติวิญญาณ ที่มีพลังในการปกป้องจิตวิญญาณและรักษาจิตวิญญาณ ไม่ว่าจิตวิญญาณจะคลั่งแค่ไหน แต่ภายใต้พลังของหยกสงบวิญญาณ มันจะค่อยๆ สงบลงและฟื้นฟูจิตใจเดิมขึ้นมาใหม่ แต่ว่า…ข้าไม่เคยเห็นหยกสงบวิญญาณที่แท้จริงมาก่อน ข้าเคยได้ยินพวกเขากล่าวว่าอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดหายไปในช่วงสงครามใหญ่ และตอนนี้ในโลกภูติวิญญาณก็เหลือเพียงภาพของอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดเท่านั้น ด้วยเหตุนี้เจ้าแห่งโลกภูติวิญญาณจึงได้สั่งให้ภูติวิญญาณมากมายออกค้นหาเบาะแสของอาวุธวิเศษทั้งเจ็ดชิ้น”
ในขณะที่พูด เจ้าดอกบัวขาวน้อยก็แสดงรอยยิ้มโง่ๆ ออกมา
“ข้าไม่คิดว่าข้าจะโชคดีถึงเพียงนี้ที่ได้พบหยกสงบวิญญาณของจริง ถ้าข้าสามารถนำหยกสงบวิญญาณชิ้นนี้กลับสู่โลกภูติวิญญาณได้ล่ะก็ ข้าจะต้องได้รับรางวัลมากมายอย่างแน่นอน” เจ้าดอกบัวขาวน้อยยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข โดยไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่าสีหน้าของจวินอู๋เสียดำคล้ำลงเรื่อยๆ
ภูติวิญญาณโง่ๆ ตนหนึ่งพูดต่อหน้าเจ้านายของมันว่าเขาจะนำสิ่งของสำคัญของเจ้านายมันกลับไปแลกของรางวัล
นอกจากคำว่ารนหาที่ตายแล้ว ก็ไม่มีคำอื่นใดที่สามารถยกขึ้นมาเปรียบเปรยได้อีก
“เจ้านาย ข้าสามารถฆ่าเจ้าเด็กนี่ได้หรือไม่” แมวดำตัวน้อยหรี่ตาลง มันมองไปที่ดอกบัวขาวตัวอวบอ้วนที่กำลังยืนเพ้อฝันอยู่
เจ้าดอกบัวขาวน้อยตกใจมาก มันรีบเก็บรอยยิ้มบนใบหน้าทันทีและมองเจ้าแมวดำตัวน้อยด้วยความหวาดกลัว
“เจ้า…อย่าเข้ามานะ…”
“เจ้าสามารถโง่กว่านี้ได้หรือไม่ ไร้ประโยชน์ไม่พอยังคิดจะฉกชิงของสำคัญของเจ้านายไปอีก เจ้ามันช่างเนรคุณและไร้ประโยชน์จริงๆ เก็บไว้ก็ไร้ประโยชน์ ให้ข้ากินเจ้าเสียจะดีกว่า” แมวดำตัวน้อยที่มีความสุขกับการกลืนกินภูติวิญญาณตนอื่นค่อยๆ เลียเขี้ยวอันแหลมคมของมัน
ความกล้าของเจ้าดอกไม้โง่ๆ นี่นานวันยิ่งมากขึ้นทุกที
เจ้าดอกบัวขาวน้อยตกตะลึงไปครู่หนึ่ง และมองไปที่เจ้าแมวดำตัวน้อย วินาทีต่อมาน้ำตาเม็ดโตก็หยดแหมะลงมาจากดวงตากลมโตของเขา เขาล้มลงตรงที่เท้าของจวินอู๋เสียพร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น แขนอวบอ้วนและมือเล็กๆ จับชายกระโปรงของจวินอู๋เสียไว้แน่น กล่าวพร้อมน้ำตาว่า “ข้า…ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะขอรับ ข้าไม่ได้ต้องการจะเอาของของเจ้านาย ข้าแค่บอกว่าถ้าเจ้านายเสียชีวิตในอนาคต ข้าจึงจะนำหยกสงบวิญญาณกลับไปก็เท่านั้นเอง”
เขาเป็นดอกไม้ที่ซื่อสัตย์ เขาจะขโมยของของเจ้านายได้อย่างไรกัน
สีหน้าของจวินอู๋เสียดำคล้ำมากขึ้นไปอีก
เจ้าดอกไม้โง่นี่นำเรื่องถือโอกาสหยิบของติดมือกลับไปด้วยขึ้นมาสาปแช่งให้นางตายในเร็ววัน…
แมวดำตัวน้อยลับกรงเล็บที่แหลมคมของมันและพุ่งเข้าใส่เจ้าดอกไม้ที่โง่เขลานั้น
ทันใดนั้น กลิ่นหอมของดอกบัวก็ฟุ้งกระจายไปทั่วห้อง และสิ่งที่ตามมาพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ที่เพิ่มขึ้นก็คือเสียงกรีดร้องของเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
จวินอู๋เสียกุมขมับ มองดูสองคู่อริเก่าตัวเล็กที่ต่อสู้กัน
นางสามารถหาคำตอบที่นางต้องการได้หรือไม่