ทาสพวกนั้นมีทั้งชายและหญิง, บ้างก็ชรา บ้างก็วัยรุ่น.

พวกเขาใส่ชุดขาดๆ แต่ก็โชคดีที่ตอนนี้ไม่ใช่หน้าหนาว ไม่งั้นแล้วพวกเขาคงได้หนาวตาย.

“ทำตัวให้มันดีๆหน่อยสิ! ไม่เห็นเหรอว่าเจ้านายกำลังเดินมา?!”

ทาสนักสู้สปาตั้นคำราม, พวกทาสตัวสั่นด้วยความกลัวแล้วคำนับเย่เทียนทันที.

“เจ้า! เจ้ามาเป็นเชฟส่วนตัวให้ข้า!”

เย่เทียนเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มนั้น, ดูราว 15 ไม่ก็16ปี ซึ่งมันทำให้เขาประหลาดใจเขาเลยพูดกับเธอ.

ตอนนี้ทุกๆมื้อต้องทำอาหารเยอะมาก, เย่เทียนก็ไม่อยากให้ไดอาน่ากับแองเจล่าทำงานหนักและให้มือพวกเธอกระด้าง เขาจึงคิดไว้แล้วว่าจะต้องหาเชฟส่วนตัว.

ดังนั้นเย่เทียนจึงเลือกเธอมาเพราะในบ้านห้ามผู้ชายเข้า.

เด็กคนนั้นไม่ได้สวยอย่างเดย์ซี่หรือคนอื่นๆแต่เธอก็สวยสะดุดจากในกลุ่มนั้น.

“ขอบพระคุณค่ะเจ้านาย….:

เด็กคนนั้นตื่นเต้นมาก อย่างน้อยเธอก็ไม่หิวตายจากการทำงานในครัว.

“คนอื่นๆไปล้างตัวให้สะอาดก่อนแล้วข้าจะให้ชุดใหม่กับแจงหน้าที่. วางใจเสีย ข้าจะไม่รังแกพวกเจ้าแน่นอน!”

เย่เทียนพูดกับทาสคนอื่นๆด้วยรอยยิ้มสดใสราวแสงอาทิตย์, มันทำให้พวกทาสรู้สึกอบอุ่น.

“ขอบพระคุณเจ้านาย….”

…..

ทาสทุกคนรู้สึกโล่งใจและซาบซึ้งในเวลาเดียวกัน. พวกเขาได้พบกับนายทาสที่ใจกว้างแล้ว เพราะไม่มีนายทาสคนไหนอยากจะให้ชุดใหม่กับพวกทาสหรอกนะ.

“ก่อนหน้านี้เจ้าชื่ออะไรล่ะ?”

เย่เทียนพูดกับทาสหญิง.

“เรียนเจ้านาย, ชื่อของข้าคือมาโก้”

มาโก้รู้สึกประหม่าเล็กน้อย.

“อย่ากลัวไปเลย. แล้ว, เจ้ากลายมาเป็นทาสได้ยังไง?”

เย่เทียนถามด้วยความสงสัย.

“เจ้านาย……ข้าเกิดมาในตระกูลที่ยากจน, เพื่อหาเงินเลี้ยงครอบครัวแล้วพ่อข้าได้ขายข้าให้ท่านฟิลิป……”

แล้วน้ำตาของมาโก้ก็เริ่มไหล.

“เจ้าไม่มีสามีงั้นรึ?”

เย่เทียนถาม.

“เจ้านายคะ, ครอบครัวข้ายากจนถึงขนาดว่าพ่อข้าไม่มีเงินค่าสินสอดให้เจ้าบ่าว ก็เลยไม่มีใครอยากจะมาขอข้า…..”

มาโก้เช็ดน้ำตาเธอแล้วพูดอย่างหนักแน่น.

เย่เทียนไม่พูดอะไรต่อ, เพียงแต่ถอนหายใจเบาๆแล้วสั่งให้เธอไปอาบน้ำ.

ในอีกไม่กี่วัน เย่เทียนจะต้องมีงานยุ่งมากแน่ๆ.

เพราะร้านอาหารกำลังจะสร้างแล้ว เย่เทียนเลยออกบ้านไปคุมงานอยู่บ่อยๆ. ตอนกลับถึงบ้านมา เขาก็ต้องมาฝึกพวกทาสให้ทำอาหารอีกจะได้พร้อมทำงานภายใน2เดือนและไว้วางใจได้.

แล้วเขาก็มาฝึกสาวหมาป่าวิคตอเรียตอนกลางคืน.

หลังจากฝึกกับเย่เทียน สติปัญญาของวิคตอเรียก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็วและตอนนี้เธอสามารถเดินตัวตรงได้เหมือนมนุษย์แล้ว แต่เธอก็ยังชอบวิ่งสี่ขาเหมือนเดิม. เพราะยังไงเธอก็โตมาแบบนี้แล้วก็เร็วมากๆด้วย.

วิคตอเรียยังคงพูดไม่ได้ แต่เธอก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เย่เทียนพูดซะส่วนใหญ่และทำตามคำพูดของเขาอย่างดีด้วย.

เรื่องน่าเศร้าของเย่เทียนเพียงอย่างเดียวก็คือค่าความภักดีของวิคตอเรียนั้นอยู่ที่99 ไม่ถึง100ซักที.

เย่เทียนคิดอยู่ว่า อาจจะเป็นเพราะเขาปฏิเสธจะร่วมรักกับเธอซ้ำๆก็ได้.

ใช่แล้ว, คนที่อาบน้ำให้สาวหมาป่าทุกๆวันก็คือเย่เทียน. เธอมีความรู้สึกทุกครั้งที่เย่เทียนแตะของลับของเธอ แต่เย่เทียนก็ปฏิเสธทุกครั้ง นางจึงรู้สึกระสับระส่ายเล็กน้อย.

ยักษ์สาวนั้นพัฒนาไกลกว่ามาก เธอได้เรียนรู้คำเพิ่มมากมายและสามารถคุยกับคนอื่นแบบง่ายๆได้แล้ว.

หลายวันผ่านมานี้ ปอมปีย์ก็ยังคงไม่ส่งเงินมาให้และแครสซัสเองก็ไม่โผล่หน้ามาขวางเย่เทียนเลย เพราะเขากำลังยุ่งอยู่กับงานแต่ง.

ใช่แล้ว, แครสซัสกำลังจะแต่งงานและเจ้าสาวของเขาคือลูกสาวจากตระกูลมากหน้าหลายตา.

“แครสซัส! ไอ้เวร! นี่มันไม่ชวนชั้นจริงๆหรอ?!”

พรุ่งนี้เป็นวันงานแต่งของแครสซัส, เขาได้เชิญชนชั้นสูงหลายคนและแม้แต่พวกพ่อค้ารวยๆบางคนด้วย แต่จนถึงเที่ยงคืน เย่เทียนก็ไม่ได้รับคำเชิญจากเขาเลย.

“นี่มันกลัวว่าถ้าชั้นไปชั้นจะทำอารมณ์มันเสียเหรอ?”

เย่เทียนยิ้มอย่างเลือดเย็นแล้วพูด “นี่มันคิดจริงๆหรอว่าชั้นไปไม่ได้ถ้าไม่เชิญ?”

เขาจะไปงานแต่งของแครสซัสแน่ ไม่งั้นแล้วเขาก็จะไม่รู้ว่าเจ้าสาวของแครสซัสคือใคร.

การลักพาตัวเจ้าสาวของแครสซัสไม่ใช่แค่ลมปากแน่ๆ.

ไม่งั้นแล้ว พอมันแต่งเสร็จ มันคงจะมาสร้างปัญหาให้เย่เทียนแน่.

ตอนนี้ร้านของเย่เทียนกำลังก่อสร้างอยู่. ด้วยปัญญาของแครสซัส เขาคงจะเดาได้ว่าเป้าหมายของเย่เทียนคือหาเงินหาทอง. และด้วยนิสัยของเขา เขาไม่ปล่อยให้เย่เทียนได้ประสบความสำเร็จในโรมได้ง่ายๆแน่ๆ.

“วิคตอเรีย, คืนพรุ่งนี้ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วนะ, แสดงให้ข้าเห็นว่าเจ้าเก่งแค่ไหน. จำได้มั้ยว่าต้องทำให้คนสลบยังไง? อย่าทำแรงไปล่ะ…..”

ในกลางดึกนั้น เย่เทียนยังคงคลุกคลีอยู่กับสาวหมาป่า. เขาฝึกให้เธอทำงานพิเศษในช่วงหลายวันมานี้.

สาวหมาป่าคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการลักพาตัวเจ้าสาวของแครสซัส.

“จุ๊บ….”

สาวหมาป่าพยักหน้าแล้วหอมแก้มเย่เทียน. หลังจากเย่เทียนสอนเธอหลายครั้งหลายครา เธอก็เลิกแลบลิ้นออกมาซักที.