ตอนที่ 145 เริ่มต้นชั้นโลลิศึกษาปีที่สอง

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

145 เริ่มต้นชั้นประถมศึกษาปีที่สอง

 

“เช่นนั้นแล้ว ไว้พบกันใหม่นะเพคะ องค์ชาย”

 

วันรุ่งขึ้นหลังงานแต่งงานของซัคเฟิร์ดกับฟิเลเดีย

ฉันกับริโนกิสอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรมแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน

 

“อา คราวหน้าออกไปทานมื้อเย็นแทนทำงานกันแล้วกัน”

 

คนเดียวที่ออกมาล่ำลาได้คือ ฮิเอโร่ซึ่งพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกัน

 

เมียร์โก้・ไทล์ กับทีมงานถ่ายทำยังคงพักอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลฮาสกิตันตั้งแต่เมื่อวาน และกำลังตัดต่อภาพสะท้อนกันอยู่ เมื่อเสร็จแล้วถึงจะเดินทางกลับ

 

และฮิเอโร่ก็ถูกหลาย ๆ คนเรียกหาเพื่อฟังเกี่ยวกับเมจิกวิชั่นที่แสดงในพิธีแต่งงาน เขาอาจจะไม่กลับอาร์ตัวร์ไปอีกสักพักใหญ่

 

“คงเป็นไปได้ยากจริงไหมเพคะ เพราะเห็นได้ชัดว่าพระองค์ยังใจจดใจจ่อกับการพูดคุยเกี่ยวกับโครงการอยู่เลย”

 

“ฮ่าๆๆๆ ก็อาจจะเป็นเช่นนั้น ทว่า นั่นก็แล้วไม่ใช่รึ”

 

ม๊า บางทีก็อาจจะช่วยไม่ได้ เพราะเมจิกวิชั่นเป็นหัวข้อเดียวที่พวกเราเหมือนกัน

 

「ฝากแสดงความนับถือซัคเฟิร์ดซามะกับฟิเลเดียซามะด้วยนะเพคะ」ฉันกล่าวทิ้งท้าย ก่อนออกจากโรงแรม

 

ครั้งนี้เป็นวันหยุดที่วุ่นวายเช่นเดิม

ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากจะให้ช้าลงอีกสักหน่อย แต่――

 

ฤดูใบไม้ผลิจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า และภาคการศึกษาใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับบ้าน

 

“คุณหนูค่ะ”

 

ขณะที่พวกเรากำลังเดินทางไปที่ท่าเรือเหาะภายใต้ท้องฟ้าสดใสของโลกภายนอก ริโนกิสก็พูดขึ้นมา

 

“ไหน ๆ ก็อาจจะไม่ได้มาแว็ง เดอ ครุชอีกพักใหญ่ ทำไมไม่ไปทานปู่ก่อนกลับสักหน่อยล่ะคะ?”

 

“เอ๊ะ? ……แห๋ม ช่วยไม่ได้ล่ะนะ”

 

ฉันคิดว่าน่าจะยังไม่มีร้านไหนเปิด……ไม่สิ ถ้าเป็นที่ท่าเรือก็น่าจะมีสักร้านที่เปิดให้บริการสำหรับกะลาสียามเช้า

 

ปู อร่อย

ริโนกิสดูเหมือนจะชอบมาก ฉันก็ชอบมากเหมือนกัน

ในงานปาร์ตี้เมื่อวานก็มีแซนด์วิชสอดใส่เนื้อปูที่คลุกกับครีมเปรี้ยวบางอย่าง อร่อยมากเช่นกัน ฉันเดาว่าน่าจะครั้งสุดท้ายที่ได้กิน

 

“อยู่ได้ไม่นานใช่ไหม?”

 

“นั่นสินะคะ ไม่คิดว่าจะเหมาะเป็นของฝากด้วยสิคะ”

 

สมกับเป็นสาวใช้ของฉัน เหมือนกับอ่านความคิดของฉันได้เลย

 

“ม๊า ดิฉันคิดว่าปลาแห้งตัวเล็กก็น่าจะพอสำหรับแกนดอล์ฟ ปลาแห้งขนาดกลางสำหรับลินเนตต์ และปลาแห้งขนาดเล็กมากสำหรับอันเซลกับเฟรซ่าค่ะ”

 

สมกับเป็นสาวใช้ของฉัน เธอเย็นชาต่อลูกศิษย์คนอื่นจริง ๆ

 

ม๊า ก็ไม่แน่ใจว่าปลาแห้งจะดีหรือเปล่า ลองไปดูที่ท่าเรือกันก่อนดีกว่า แว็ง เดอ ครุชไม่ได้มีชื่อเสียงในเรื่องอาหารทะเลมากนัก ม๊า แต่บางทีอาจจะมีชื่อเสียงเรื่องปูในอนาคตก็ได้

 

 

 

เช่นเดียวกับตอนวันหยุดฤดูหนาว ภาคเรียนใหม่เริ่มต้นทันทีที่ฉันกลับมาถึงอาณาจักรอาร์ตัวร์

 

ตั้งแต่วันนี้ฉันจะเป็นนักเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่สอง สวมชุดใหม่ที่วัดโดยช่างตัดเสื้อไว้ล่วงหน้าก่อนกลับไปที่ดินแดนลิสตัน

 

ยังไงก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เป็นพิเศษ

แต่หากพูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนแล้ว ห้องว่างของหอพัก และห้องเรียนที่เปลี่ยนไป

 

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หกสำเร็จการศึกษา หรือย้ายไปเรียนชั้นมัธยมต้นแล้ว ดังนั้นพวกเธอบางส่วนจึงย้ายออกไปจากหอพักหญิงสำหรับขุนนาง แต่ฉันไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษอยู่แล้ว เลยไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกอะไรมากนัก

 

” ――เนียจัง……ลาก่อนน๊า……”

 

” ――ฉันอยากอยู่กับเนียจ๊างงงงง……”

 

แต่ก็ไม่ใช่ว่าก่อนวันหยุดฤดูหนาวก่อนจะไม่มีใครมาร้องห่มร้องไห้……

 

ยังไงก็ตาม แม้ว่าพวกเธออาจจะคุ้นเคยกับใบหน้าของฉันที่มักจะได้เห็นบ่อย ๆ ในเมจิกวิชั่น แต่สำหรับฉัน พวกเธอเป็นคนรู้จักก็แค่เพราะอาศัยอยู่ในหอพักเดียวกันเท่านั้น อย่างที่คิด บรรยากาศต่างกันจริง ๆ

 

“――หนูก็เหมือนกันค่ะ”

 

ม๊า ฉันพูดเผื่อไว้

 

บางครั้งความจริงก็ทำร้ายผู้คน เพราะแบบนั้นฉันจึงเชื่อว่าความจริงนั้นไม่ถูกต้องเสมอไป

 

 

 

“อรุณสวัสดิ์ เนีย”

 

อ้า พอมาคิดดูแล้ว พูดถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ก็เรื่องนี้ด้วย

 

“อรุณสวัสดิ์ เรเลีย”

 

เมื่อฉันออกจากห้อง ฉันก็ได้พบกับเรเลียเรดซึ่งก็ออกมาพร้อม ๆ กันทันที

 

――ใช่แล้ว เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงห้องในหอพัก ฉันจึงได้ลงเอยมาอยู่ห้องถัดจากเรเลียเรด ไม่รู้ว่าการจัดครั้งนี้เป็นเรื่องบังเอิญ หรือโดยตั้งใจ

 

“เน๊ ได้ยินเรื่องนั้นแล้วรึยัง? เรื่อง่ที่ว่าอาจจะมีการตั้งสถานีออกอากาศที่สถาบันน่ะ”

 

หืม?

 

“ถ้าเรื่องนั้น พวกเราก็ได้ยินพร้อมกันไม่ใช่รึไง”

 

ในช่วงปลายภาคเรียนที่สาม ตอนที่ฉันกับเรเลียเรดอยู่ด้วยกัน พวกเราก็บังเอิญเจอกับนักเรียนชั้นมัธยมต้นคนหนึ่งที่คอยดูแลทีมงานถ่ายทำของสถาบัน

พวกเราก็ได้ยินเรื่องดังกล่าวในตอนนั้น

 

ในตอนแรกทีมถ่ายทำของสถาบันเป็นเพียงกลุ่มอาสาสมัครเท่านั้น

จริง ๆ แล้ว ฉันรู้จักพวกเขาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเพียงมือสมัครเล่น ว่าไปแล้ว ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเกินจริง หากจะบอกว่าฉันเป็นคนฟูมฟักพวกเขา ……ไม่สิ นั่นอาจจะเกินจริงไป

 

ยังไงก็ตาม ตอนนี้พวกเขาก็ได้รับประสบการณ์มากมายจากการเรียนรู้งานที่สถานีออกอากาศเมืองหลวง และได้โอกาสเข้าร่วมการถ่ายทำด้วย จะบอกว่าตอนนี้พวกเขามีทักษะมากพอที่จะสามารถเรียกตัวเองว่าทีมงานมืออาชีพมากกว่านักเรียนสมัครเล่นได้แล้ว

 

ฉันคิดว่ายังมีอีกหลายแง่มุมที่ยังไม่ชำนาญ แต่พวกเขาสามารถถ่ายทำในขั้นต่ำได้อย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อได้รับประสบการณ์ที่มากขึ้นก็จะพัฒนามากยิ่งขึ้นไปอีก

 

“เรื่องผลลัพท์ต่างหากย่ะ ดูเหมือนจะมีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการแล้ว”

 

อ้า งั้นเหรอ

 

“ทางสถาบันได้ประกาศยอมรับสถานะอย่างเป็นทางการแล้วสินะ”

 

“ใช่ พูดให้ชัดคือ ให้อยู่ในสถานะ『กึ่งสถานีออกอากาศ』น่ะ จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนจากประเทศ ถึงที่สุดก็ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแค่ทีมงานของสถาบันเฉย ๆ เอง”

 

ไม่สิ ไม่สิ

 

“แค่นั้นก็พอแล้ว จนถึงตอนนี้ก็เรียกกันเอาเองจริงไหมล่ะ”

 

“เน๊ะ ฉันก็ตกใจเหมือนกัน ที่เป็นการเรียกกันเอง”

 

อืม น่าตกใจ ในช่วงภาคเรียนที่สาม ฉันได้ยินมาว่าทางกลุ่มประกาศด้วยตัวเองว่าเกิดจากการรวบรวมอาสาสมัคร ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นมือสมัครเล่น

 

“ไม่ใช่แค่ได้ชื่ออย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่เรื่องที่แฝงอยู่ก็ใหญ่มากเหมือนกัน ดูเหมือนว่าจะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่ายกิจกรรมกับค่าเครื่องไม้เครื่องมือด้วย”

 

นั่นเป็นเรื่องดี เพราะหินเวทมนตร์และอุปกรณ์ในการถ่ายทำมีราคาที่แพงมาก

 

“จริงด้วยสิ พวกเขาอยากให้ฉันกับเนียเข้าร่วมสังกัดด้วยล่ะ”

 

“เป็นไปไม่ได้จริงไหม?”

 

“ฉันอดไม่ได้ที่จะตอบทันที แต่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะไม่มีที่ว่างแม้แต่จะคิดเรื่องนั้น

 

“นั่นสิน๊า แต่ดูเหมือนฮิลเด้ซามะจะเข้าร่วมน่ะ”

 

“เอ๊ะ? เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือไง?”

 

ต้องขอบคุณเรื่องนั้นที่ทำให้ ฉัน เรเลียเรด และฮิลเดโทร่าต่างก็ยุ่งกับงานทุกวัน ดังนั้นคงเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเราที่จะสังกัดอยู่ในสถานีออกอากาศของสถาบัน

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของฉัน ที่มีปัญหาเรื่องการฝึกสั่งสอนลูกศิษย์และหาเงินพันล้านครัม

หากจำนวนงานเพิ่มขึ้น เวลาจะหมดลงก่อนอย่างแน่นอน

 หนึ่งในนั้นจะต้องถูกทิ้งไป แม้แต่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ก็มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการมีเวลาและไม่มีเวลา

 

“ม๊า เดาว่าพวกเราคงต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมอีกทีล่ะ”

 

นั่นสินะ

ไม่คิดว่าจะสามารถสรุปอะไรได้ในตอนนี้

 

ขณะที่พูดคุยกัน พวกเราก็มุ่งหน้าสู่อาคารเรียน

 

――ในขณะที่ถูกจดจ้องจากสายตาอยากรู้อยากเห็นของนักเรียนประถมปีหนึ่งที่เพิ่งมาใหม่

 

 

 

และหลังเลิกเรียน

 

วันนี้ไม่มีเรียน มีแต่คำทักทายของผู้อำนวยการ และคำอธิบายเกี่ยวกับภาคการศึกษาใหม่

เมื่อฉันกลับมาที่หอพักพร้อมกับเรเลียเรด ตอนที่พวกเรามาถึงก็มีคนจำนวนมากออกันอยู่ที่หน้าหอพัก

 

เพราะสถานที่ตั้งจึงทำให้มีแต่เด็ก ๆ แต่ก็มีนักเรียนชายจำนวนมากอยู่ด้วย แม้เป็นหน้าหอพักหญิงก็ตาม

 

“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ?”

 

เรเลียเรดถามกับฉัน แต่เนื่องจากฉันเองก็คิดไม่ออกเหมือนกัน จึงตอบกลับได้แค่「ซ้า?」คำเดียว

ทว่า พวกเราก็ได้รู้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“――ยินดีต้อนรับค่ะ ไปกันเลยไหมคะ?”

 

ที่อยู่ท่ามกลางฝูงชนคือ ทีมถ่ายทำของสถานีออกอากาศของสถาบันที่ฉันพึ่งได้ยินว่าได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางกลางเมื่อเช้า และฮิลเดโทร่า

 

ฉันรู้สึกถึงเดจาวูชั่วขณะหนึ่ง และในขณะเดียวกันก็ตระหนักว่ากำลังจะทำอะไรกัน

 

“ปีนี้ก็จะทำรายการแนะนำสถาบันอีกสินะคะ?”

 

ดูเหมือนเรเลียเรดเองก็เข้าใจได้ในทันที

 

“ใช่แล้วค่ะ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ทำจริงไหมคะ?”

 

ม๊า ฮิลเดโทร่าพูดถูก

 

เห็นได้ชัดว่ารายการแนะนำอันแสนวุ่นวายของปีที่แล้วจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ถ้าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีแบบนั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำอีก

 

……อุมุ สำหรับนักเรียนใหม่ ในแง่หนึ่ง นี่อาจกลายเป็นอีเว้นต์ที่มาแทนที่งานเฉลิมฉลองการเข้าเรียนก็ได้

 

ถ้าเป็นอย่างงั้น ฉันคิดว่าก็ควรจะทำ

ครั้งนี้ในฐานะนักเรียนปัจจุบัน ขอต้อนรับทุกคนอย่างอบอุ่น

 

 

 

และเช่นเดิม ในปีนี้ก็ลงเอยด้วยการถ่ายทำแนะนำสถาบันที่แย่มาก ไม่การให้ความร่วมมีกันเลยแม้แต่น้อยนิด มีเด็ก ๆ มากมายมารวมตัวกันเดินป่วนไปทั่ว และไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนที่วางไว้เลย

 

――ชั้นประถมศึกษาปีที่สองก็เริ่มต้นเช่นนี้