บทที่ 122 ข้าอิจฉา(ปลาย)

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

ไอ้ซูอัน ไอ้เวรเอ๊ยมันเล่นข้าอีกแล้ว! ข้าจะไปรู้ได้ยังไงว่าไอ้คำพูดของมันหมายความว่าอะไร ข้าไม่เคยได้ยินใครใช้คำนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ! ดอกบ๊วยเจ็ด ก่นด่าอยู่ในใจอย่างรุนแรงแต่ภายนอกกลับยังคงรักษารอยยิ้มไว้อย่างสุภาพ เขาระงับความโกรธที่ล้นออกมาและกล่าวกับเขาไปว่า “นายน้อยซู ช่างเป็นผู้ที่มีความรู้กว้างขวางจริง ๆ ผู้น้อยขอชื่นชม”

ในระหว่างที่พูด ดอกบ๊วยเจ็ดก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้พนักงานเฝ้าโต๊ะประมาณว่าต่อให้ ซูอัน จะทุ่มหมดตัวในครั้งแรก ก็จงปล่อยให้ซูอันชนะไปก่อน แล้วค่อยเล่นงานเขาคืนทีหลังให้หมดตัวจนเป็นหนี้หัวโตไปเลย เพราะถ้าหากทำให้ ซูอันแพ้ไปเลยเขาอาจเปลี่ยนใจหนีไปทันทีเมื่อเสียเงินก้อนแรก!

เมื่อได้รับสัญญาณจาก ดอกบ๊วยเจ็ด พนักงานเฝ้าโต๊ะพยักหน้าเล็กน้อยจากนั้นเขายกโถ ที่ด้านในมีลูกเต๋าอยู่3ลูกขึ้นมาเขย่าครู่หนึ่งก่อนจะวางกระแทกมันลงบนโต๊ะและเอ่ยว่า “โปรดวางเดิมพันของท่านได้เลย!”

ซูอัน หยิบตั๋วเงินออกมาปึกหนึ่งแล้วพลิกมันเล่นมันในมือและพูดว่า “อันที่จริงแล้วตั๋วเงินพวกนี้เป็นของดอกบ๊วยสิบสามทั้งหมดซึ่งเขาเป็นคนให้ข้ามาเอง ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าตอนนี้พี่น้อยของเขาจะให้ข้าเพิ่มอีกเท่าไหร่กัน”

หางตาของ ดอกบ๊วยเจ็ด กระตุกทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาได้ยินมาแล้วเรื่องที่เกิดขึ้นกับดอกบ๊วยสิบสาม มันหลอกดอกบ๊วยสิบสามให้ไปโดนอาจารย์ของสถาบันจันทร์กระจ่างยำจนเละ จากนั้นก็ปล้นเงินของเขาไป แต่ตอนนี้มันกลับบอกว่าศิษย์น้องของเขาให้เงินนั้นเองด้วยความเต็มใจเนี่ยนะ!? ไอ้สารเลวน่าไม่อายเอ๊ย!!

ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยเจ็ด สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +155!

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับข้าเช่นกัน ดอกบ๊วยสิบสาม ไม่มีดีอะไรมากไปกว่า ไอ้พวกหลงตัวเอง เจ้านั่นคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเขาเพียงเพราะระดับการบ่มเพาะของเขาสูงที่สุด ในบรรดาพวกเรา ซึ่งมันทำให้เจ้าสำนักตั้งความคาดหวังกับเขาเอาไว้สูงด้วยเหตุผลนี้ หึ… วันนี้ข้าจะให้เจ้าสำนักรู้ว่าสมองสำคัญกว่ากล้ามเนื้อ!

ด้วยความคิดดังกล่าว รอยยิ้มบนใบหน้าของดอกบ๊วยเจ็ดก็ฉายชัดขึ้น จากนั้นเขาก็เริ่ม เดิมพัน “นายน้อยซู ท่านจะเดิมพันว่า ‘สูง’ หรือ ‘ต่ำ’

ซูอัน กวาดสายตาไปรอบ ๆ โต๊ะอย่างสบาย ๆ เขาค่อนข้างเข้าใจสิ่งที่ดอกบ๊วยเจ็ดคิด อยู่บ้าง ในรอบแรกนี้ดอกบ๊วยเจ็ดคงน่าจะยังไม่ใช่กลเม็ดอะไรกับเขาเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้เขากลัว ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะเดิมพัน ‘สูง’ หรือ ‘ต่ำ’ เขาก็มีโอกาสชนะพอสมควร

แต่แล้ว ซูอัน จะสนใจอัตราการเดิมพันเพียง 1:1 ได้อย่างไร?

เขาวางตั๋วเงินมูลค่า 1,000 ตำลึงเงินไปที่ช่องทายว่าเต๋าจะออกมาเป็น 17 แต้มโดยไม่ลังเล และพูดขึ้นเสียงดังว่า “ลูกผู้ชายอย่างข้า ถ้าไม่วัดดวงให้ถึงที่สุดข้าขอนอนอยู่ที่บ้านดีกว่า นั่นเป็นคติประจำใจของข้า!”

เมื่อเห็นว่า ซูอัน วางเงิน 1,000 ตำลึงเงินลงในคราวเดียวโดยไม่แม้แต่จะกะพริบตา หน้าผากของ ฉู่ชูเหยียน ก็ย่นเข้าหากัน ถึงแม้ว่านางจะไม่ใช่นักพนัน แต่นางก็พอจะรู้ว่าการเดิมพันโดยการทายผลเป็นผลรวมของตัวเลขแบบนี้มีนมีความเสี่ยงสูงมากกว่าการเดิมพัน ‘สูง’ หรือ ‘ต่ำ’ อย่างมาก โดยเฉพาะการเดิมพันว่าแต้มจะออก 17 แต้มมันมีอัตราจ่ายสูงถึง 1:50 ซึ่งอัตราการจ่ายนี้มันบอกได้อย่างชัดเจนว่าการทายผลของมันยากมากแค่ไหน! ฉู่ชูเหยียน อยากแนะนำ ซูอัน เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ในความคิดที่สองนางก็รู้ว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายเช่นกัน อย่างน้อยที่สุด หากเขาหมดตัวไปตอนนี้เลยนางก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอะไรมากมายกับที่นี่ นางเกลียดกลิ่นของที่นี่จริง ๆ อยากจะออกจากสถานที่นี้ไปเต็มแก่แล้ว

“เปิด! เปิด!”

นักพนันที่อยู่รอบ ๆ เริ่มส่งเสียงเชียร์เพื่อให้พนักงานดูแลโต๊ะเปิดฝาครอบโถลูกเต๋า พวกเขามีความคิดคล้ายกับ ฉู่ชูเหยียน คืออยากให้ซูอันเสียจนหมดตัว เพราะอยากเห็นสีหน้าของไอ้คนไร้ยางอายผู้นี้ว่ามันจะเป็นยังไงหากมันเสียเงินทั้งหมด 1,000 ตำลึงเงินของมันตั้งแต่การเล่นครั้งแรก

แม้แต่ดอกบ๊วยเจ็ดก็หัวเราะออกมาเช่นกัน “นายน้อยซู ท่านยังเด็กเกินไปในโลกแห่ง การพนัน จริง ๆแล้วท่านควรจะค่อยๆเล่นไปเรื่อย ๆ และทุ่มในบางจังหวะที่ดวงของท่านกำลังมา เอาแบบนี้ไหม ข้ามีข้อเสนอให้ท่าน ข้ายินดีให้ท่านยืมเงินจากเราเพื่อต่อทุนเพื่อที่ท่านจะได้มีโอกาสสร้างรายได้คืนหลังจากนี้ และท่านไม่ต้องกังวล เพื่อเห็นแก่ตระกูลฉู่ ข้าจะไม่คิดดอกเบี้ยใด ๆ จากท่านแม้แต่ตำลึงเดียว!”

ประโยคนี้แทบจะเป็นประโยคเดิมที่เขาเคยใช้กับ ซูอัน ก่อนหน้านี้จนซูอันคนก่อนต้องเป็นหนี้ถึง 1,000 ตำลึงเงิน อย่างไรก็ตาม ดอกบ๊วยเจ็ด ยังคงแปลกใจอยู่บ้างกับการเปลี่ยนแปลงของ ซูอัน เพราะเมื่อครั้งก่อนที่ ซูอัน มาที่นี่ ซูอัน ไม่ได้กล้าบ้าบิ่นแทงตาแรกก็เทหมดหน้าตักเช่นนี้ ทว่าในเวลาเพียงไม่กี่วัน จู่ ๆ ซูอัน กลับกลายเป็นเหมือนคนละคนจนสามารถโยนเงินพันตำลึงออกไปได้โดยไม่แม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำ?

เอ…หรือว่าการได้แต่งงานกับหญิงงามจะทำให้คนเราเปลี่ยนจากไก่่ไปเป็นหงส์ได้จริง ๆ ?

ถ้าเป็นแบบนั้นเส้นทางที่ข้าเดินมาตลอดชีวิตมันก็น่าจะไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้องล่ะสิเนี่ย?

ในขณะที่ดอกบ๊วยเจ็ดกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติรอบตัวเขา ทำไมทั้งบ่อนถึงได้เงียบลงราวกับป่าช้าแบบนี้? บรรดานักพนันทั้งหลายต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงและมองมาที่เขาด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย ซึ่งส่วนใหญ่มันดูเหมือนจะเต็ม ไปด้วย… ความเวทนา?

ลางสังหรณ์ที่น่ากลัวกระทบหัวใจของ ดอกบ๊วยเจ็ด ราวกับกลองศึก จากนั้นเมื่อเขาหันไปมองที่โถลูกเต๋าเขาก็แทบจะหัวใจสลายเพราะลูกเต๋าที่ปรากฏตรงหน้าของเขาอยู่ตอนนี้มันออกเลข ‘6’, ‘6’ และ ‘5’ ซึ่งก็คือ 17 แต้ม!

ดอกบ๊วยเจ็ด แทบจะเป็นลมพับลงตรงนั้น จากอาการเลือดขึ้นไปไหลขึ้นไปเลี้ยงสมองไม่ทัน จิตใจของเขาจู่ ๆ กลายเป็นว่างเปล่าในขณะที่กำลังคิดว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่เขาฝันไป

อัตราที่เขาต้องจ่ายเงินให้กับซูอันคือ 1:50 ซึ่งเท่ากับว่าบ่อนของพวกเขาเพิ่งสูญเสียเงินไป 50,000 ตำลึงเงิน!

ใช่แล้วมันคือ 50,000 ตำลึงเงินที่เขาไม่ควรจะเสีย!

แค่คิดเกี่ยวกับจำนวนตัวเลขนี้มันก็มากเพียงพอที่จะทำให้วิสัยทัศน์ของ ดอกบ๊วยเจ็ด ดับวูบลง เพราะจำนวนนี้มันเท่ากับกำไรครึ่งเดือนของบ่อนพวกเขา!

ชายหนุ่มจ้องเขม็งไปที่ลูกศิษย์ของเขาซึ่งเป็นคนดูแลโต๊ะ เขาเริ่มสงสัยว่า ซูอัน ได้ซื้อตัว ลูกศิษย์ของเขาไปแล้วรึเปล่า? แต่ในไม่ช้าเขาก็สลัดความเป็นไปได้นั้นทิ้งไป เพราะเขาได้ตรวจสอบภูมิหลังคนของทุกคนไปเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะรับพวกเขาเข้ามาทำงาน และเขามั่นใจว่าคนของเขาทุกคนสามารถเชื่อถือได้

หรือว่ามัน อาจจะโชคดี?

ซูอัน โบกมืออย่างสบายอารมณ์ด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้านึกว่าตอนแรก น้องสิบสามของเจ้าใจดีแล้วที่ให้ข้ามา 800 ตำลึงเงินก่อนหน้านี้แต่ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะใจดีกว่า เจ้าสิบสามอีก เจ้าให้ข้ามาเพิ่มตั้ง 50,000 ตำลึงเงิน ฮ่า ๆ ๆ ๆ! ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริง ๆ เอาล่ะมาๆ ถึงเวลาจ่ายเงินแล้ว!”

ดอกบ๊วยเจ็ด แทบกระอักเลือดออกมาคำโต ฝันไปเถอะที่ข้าจะให้เงินมากมายขนาดนี้ กับเจ้า!

ท่านยั่วยุ ดอกบ๊วยเจ็ด สำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น +543!

เมื่อสักครู่นี้เองที่เขายังคงดูถูกดอกบ๊วยสิบสามที่ตกเป็นเหยื่อของ ซูอัน อย่างง่ายดาย แต่ใครจะคิดว่าชะตากรรมที่แย่กว่านั้นกำลังรอเขาอยู่?

ไม่สิ เดี๋ยวนะ เมื่อครู่นี้ ซูอัน บอกให้ข้าจ่ายเลยงั้นหรือ… ไม่ใช่ว่ามันแปลว่า…

“นายน้อยซู ท่านจะกลับแล้วงั้นหรือ?” ดอกบ๊วยเจ็ดถามอย่างกังวล

“แน่นอนอยู่แล้ว” ซูอัน ตอบด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ข้าได้เงินมาแล้วตั้ง 50,000 ตำลึงเงิน ข้าจะโง่เล่นต่ออีกทำไมกันจริงไหม?”

ซูอันประทับใจกับผลของโอสถโชคลาภเป็นอย่างมาก พูดตามตรง เรื่องการพนันอะไรพวกนี้เขาไม่เคยมั่นใจเลยว่าถ้าเป็นตามปกติเขาจะชนะได้ต่อให้จะแค่แทง สูงหรือต่ำ ก็ตาม แต่ทุกอย่างมันกลับออกมาดีเกินคาดสรรพคุณของโอสถโชคลาภมันวิเศษอย่างที่ระบบบอกเอาไว้จริง ๆ

ดอกบ๊วยเจ็ดพลันพุ่งตัวไปหาซูอันในทันที ถ้าเขายอมให้ ไอเวรนี่เดินออกไปด้วยเงิน 50,000 ตำลึงเช่นนี้ ผู้นำนิกายคงจะต้องถลกหนังหัวเขาทั้งเป็นแน่นอน!

“นายน้อยซู ช้าก่อน!” ดอกบ๊วยเจ็ดรีบพุ่งไปข้างหน้าเพื่อขวางทางของ ซูอัน และในเวลาเดียวกันนั้นลูกน้องของเขาก็ก้าวเข้ามาล้อมซูอันและฉู่ชูเหยียนอย่างรวดเร็วพร้อมกับกำอาวุธ ในมือแน่น

เมื่อเห็นเช่นนี้สีหน้าของ ซูอัน เปลี่ยนเป็นมืดหม่นทันที “เจ้าต้องการจะทำอะไร? นี่ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปพร้อมกับเงินที่ข้าเล่นชนะมาได้งั้นหรือ? นี่คือวิธีที่บ่อนของเจ้าเวลามีคนชนะรางวัลใหญ่หรือไง?”

เมื่อพูดจบ ซูอัน ก็รีบไปหลบข้างหลัง ฉู่ชูเหยียน ทันทีชายหนุ่มผลักนางมาข้างหน้าเบา ๆ “ที่รัก คนพวกนี้กำลังจะโกงพวกเรา!”

ฉู่ชูเหยียน ขมวดคิ้วทันทีเพราะนางไม่เคยชินกับการถูกชายใดสัมผัสมาก่อน แต่นางรู้ดีว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาเหมาะที่จะตำหนิเขา นางทำได้แค่เพียงเอาความโกรธของนางไปลงกับ ดอกบ๊วยเจ็ด และพวกคนของสำนักดอกบ๊วยแทน “เจ้าแน่ใจนะว่าจะหยุดพวกข้า?”

นักพนันคนอื่นๆ ก็โห่ร้องประท้วงเช่นกัน

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบขี้หน้าซูอันมากขนาดไหนที่มีภรรยางดงามมากขนาดนี้แต่ในฐานะสหายนักพนันเหมือนกัน พวกเขาทนไม่ได้ที่จะเห็นบ่อนพนันกำลังเอาเปรียบคนที่ชนะรางวัลใหญ่เช่นนี้ ถ้ามันสามารถเกิดขึ้นกับ ซูอัน ได้มันก็ขึ้นกับพวกเขาในวันอื่นได้เช่นกัน