บทที่ 121 คุณหึงเหรอ

นี่คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ? ลี่จุนถิงได้ชี้ไปที่เจียงหยุนเอ๋อ

“ใช่ วันนี้ทำไมคุณมาแต่เช้าเลยล่ะ?” ขณะที่เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงนั้นก็ประหลาดใจเหมือนกัน

“คุณจะไปทำอะไร? ไปเดทเหรอ?”

ลี่จุนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย ยายผู้หญิงคนนี้ วันหยุดสุดสัปดาห์ไม่พักผ่อนอยู่ในบ้าน ยังจะออกไปอีก อีกทั้งยังออกไปเช้ามากด้วย

“ไม่ใช่ ฉันไปบริษัทน่ะ เมื่อวานยังมีงานที่ยังจัดการไม่เสร็จ ฉันว่าจะไปจัดการสักหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่สบายใจ” เจียงหยุนเอ๋อเวลานี้ได้ใส่รองเท้าเรียบร้อยแล้ว

“ห้ามไปเด็ดขาด” ลี่จุนถิงได้ขวางประตูไว้ ไม่ให้เจียงหยุนเอ๋อเดินออกไป

เจียงหยุนเอ๋อเงยหน้าขึ้นมามองลี่จุนถิงอย่างงงๆ ไม่รู้ว่าเช้าๆอย่างนี้เขาจะเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก

“คุณจะให้ตัวเองเหนื่อยจนคลานไม่ไหวถึงจะยอมหยุดทำงานได้ใช่มั้ย? สีหน้าของลี่จุนถิงจริงจังเล็กน้อย วันนี้เป็นวันหยุดซึ่งเป็นเวลาพักผ่อน คุณต้องฟังผมวันนี้คุณห้ามไปบริษัท ต้องออกไปเที่ยวกับผม”

เจียงหยุนเอ๋อเดิมทีนั้นยังอยากที่จะอธิบายเพิ่มเติม: “จุนถิงแต่ว่า ฉัน……….”

แต่ลี่จุนถิงได้จ้องเขม็งเธอโดยตรง พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง: “หากคุณไม่ตกลง คุณก็รู้ว่าผลลัพธ์มันจะเป็นยังไง”

เพียงประโยคเดียวเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่กล้าที่จะออกเสียงอีกเลย

เธอรู้ความร้ายกาจของลี่จุนถิงดี หากตัวเองยังคงดื้อดึงอีก ไม่รู้ว่าลี่จุนถิงจะใช้วิธีการอะไรที่ร้ายกาจกับเธอ

สุดท้าย เจียงหยุนเอ๋อทำได้เพียงจำยอม: “งั้นก็ได้”

“ถวนจื่อล่ะ?” ลี่จุนถิงถามขณะที่เดินเข้ามาในบ้าน

เจียงหยุนเอ๋อหันกลับมามอง แล้วกล่าว: “ถวนจื่อยังนอนอยู่เลย”

ถวนจื่อยังนอนอยู่คุณก็กล้าที่จะออกไปตัวคนเดียว? คุณไว้ใจเหรอ? ลี่จุนถิงรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ของตัวเองช่างเป็นคนที่บ้างานเหลือเกิน ให้เด็กอยู่ในบ้านโดยที่ไม่สนใจห่วงใย

“เมื่อวานฉันได้คุยกับถวนจื่อแล้ว อีกอย่างเขาก็โตแล้วด้วย ไม่เป็นไรหรอก” เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าเด็กไม่จำเป็นที่ต้องพาติดตัวเสอมไป

“คุณจะให้ผมว่าคุณอะไรดี” ลี่จุนถิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอือมระอาเล็กน้อย

ลี่จุนถิงสั่งให้เจียงหยุนเอ๋อรีบเก็บข้าวของ พวกเขาจะออกเดินทางกันแล้ว

เพราะการเร่งเร้าของลี่จุนถิง เจียงหยุนเอ๋อก็เลยเก็บสัมภาระเสร็จอย่างรวดเร็ว

“พวกเราจะไปไหน?” ขึ้นไปนั่งบนรถแล้วเจียงหยุนเอ๋อก็ได้ถามขึ้น

พูดไปครึ่งค่อนวัน ลี่จุนถิงยังไม่ได้บอกว่าพวกเขาจะไปที่ไหนกัน

“ขับรถเที่ยวไง” ลี่จุนถิงขับเคลื่อนรถออกไป

“คุณตอบไม่ตรงคำถามนะ ฉันถามคุณว่าเราจะไปไหน” เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองถูกลี่จุนถิงแกล้งจนอยากจะหัวเราะแล้ว

“ความลับ” ลี่จุนถิงหัวเราะอย่างทะเล้น

“คุณก็บอกฉันหน่อยสิ ยังไงฉันก็ต้องไปอยู่แล้ว” เจียงหยุนเอ๋อเริ่มออดอ้อน

“ใช่ไง ยังไงคุณก็ต้องไปอยู่แล้ว จะรู้ช้าหรือเร็วมันจะต่างกันยังไง” ลี่จุนถิงรู้สึกมีความสุขที่เจียงหยุนเอ๋อออดอ้อนเขา “ไม่ต้องถามแล้ว ถึงคุณจะถามผมยังไง ผมก็ไม่บอกคุณหรอก ถึงแล้วคุณก็จะรู้เอง”

เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมบอก เธอก็เลยเลิกถาม

นั่งพิงกระจกรถมองดูวิวอย่างเงียบๆ

แต่เจียงหยุนเอ๋อนั้นกลับคิดไม่ถึงเลย สถานที่ที่ลี่จุนถิงพาเธอมา ก็คือเมืองโบราณหนิงซี

เมืองโบราณหนิงซีมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน ทิวทัศน์โดยรอบนั้นก็งดงามมาก เดินอยู่บนทางเดินของเมืองโบราณ คุณจะสัมผัสถึงความเงียบสงบและผ่อนคลาย สถานที่ตรงนี้เหมาะแก่การเที่ยวสบายๆหรือมาพักผ่อน

เจียงหยุนเอ๋อที่เดินอยู่ในตลาดเมืองโบราณ จู่ๆก็มีความรู้ว่าได้ข้ามไปอยู่ในอีกโลกหนึ่ง

มือของเธอได้จุงมือขาวๆนุ่มๆเล็กๆของถวนจื่อเอาไว้ มองดูลูกชายตัวเองที่โตขนาดนี้แล้ว มีความคิดมากมายอยู่ในใจ

เรื่องในคืนนั้น ทำให้ตัวเองมีเทพบุตรตัวน้อยที่ลงมาจากสวรรค์ แม้ว่าชีวิตจะโชคร้าย แต่ก็ไม่เป็นไร สวรรค์ได้ส่งเทพบุตรตัวน้อยคนนี้มาเป็นเพื่อนตัวเอง ก็ถือว่าดีกับตัวเองมากแล้ว

แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อก็กลัวเหมือนกัน กลัวว่าพ่อของถวนจื่อจู่ๆก็ปรากฏตัวออกมา แล้วมาแย่งถวนจื่อไปจากชีวิตตัวเอง

ชั่วขณะนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ลนลานเล็กน้อย มีความเสียใจนิดๆ และเศร้าหน่อยๆ

ยังมีความรู้สึกที่ยากจะพรรณนา ราวกับว่าตัวเองตอนนี้กำลังอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เรื่องทุกอย่างในรอบๆตัวเป็นเรื่องไม่จริง

การที่สมาชิกในครอบครัวทั้งสามคนมาเที่ยวเล่นด้วยกัน ในไม่ช้า ใจของเจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยๆผ่อนคลายขึ้นมา ไม่ได้ตึงเครียดและเศร้าเหมือนเมื่อกี้แล้ว

“จุนถิง คุณทำอะไร?” เจียงหยุนเอ๋อเห็นลี่จุนถิงถอดรองเท้าของตัวเองออก

“มา คุณลงมาเล่นน้ำด้วยกัน” ลี่จุนถิงแกว่งรองเท้าที่ถืออยู่ในมือตัวเองไปมา

แม้ว่าจะรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ได้ถอดรองเท้าออก และก็ได้ถอดรองเท้าของถวนจื่อออกด้วย

ทั้งสามคนอยู่ในน้ำเอาน้ำสาดกันไปมา เล่นกันอย่างสนุกสนาน

จากนั้นพวกเขาก็ไปเดินเที่ยวในเมืองโบราณ แล้วก็ไปทานข้าวที่บ้านพักตากอากาศ

พรบค่ำ พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ท้องฟ้าทิศตะวันตกสาดกระจายด้วยแสงสีทอง แสงพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน ทำให้เมืองโบราณทั้งเมืองถูกย้อมให้เหมือนสมัยโบราณ เหมือนว่าเวลาได้ย้อนกลับไปในช่วงสมัยโบราณ

ลี่จุนถิงจุงมือซ้ายของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อจุงมือขวาของถวนจื่อ ทั้งครอบครัวได้เดินมาถึงบนสะพานโค้งแห่งหนึ่ง

“เป็นไงบ้าง รู้สึกสบายขึ้นเยอะเลยใช่มั้ย?” ลี่จุนถิงมองไปที่เจียงหยุนเอ๋อ แสงพระอาทิตย์สาดส่องอยู่บนใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ จนลี่จุนถิงสามารถมองเห็นขนใสบนใบหน้าของเจียงหยุนเอ๋ออย่างชัดเจน

“ใช่ เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า ทำไมคุณถึงเลือกพาฉันมาที่นี่ล่ะ?”

ถูกเจียงหยุนเอ๋อถามแบบนี้ ลี่จุนถิงก็อึ้งไปทันที หลังจากปรับสีหน้าแล้ว: “ในเมื่อคุณถามแล้ว งั้นผมก็จะพูดตรงๆเลย”

เจียงหยุนเอ๋อเลิกคิ้ว ยังมีเรื่องอะไรที่ต้องพูดตรงๆอีก?

ลี่จุนถิงกำมืออย่างหลวมๆขึ้นมา มาไว้ที่ปากแล้วกระแอมไปหนึ่งที จึงได้พูดขึ้น อันที่จริงผมเคยมีความทรงจำที่ดีกับคนที่เจอกันโดยบังเอิญที่ตรงนี้ ดังนั้นทุกปีผมจะกลับมาเที่ยวที่นี่

เจียงหยุนเอ๋อได้ฟังพระเอกพูดอย่างนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกอึดอัดและเจ็บปวดเล็กน้อย สีหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนไป

ที่แท้ลี่จุนถิงก็มีผู้หญิงที่คิดถึงอยู่เหมือนกัน

ลี่จุนถิงพูดจบก็สังเกตอาการของเจียงหยุนเอ๋อโดยละเอียด พบว่าสีหน้าของเธอเปลี่ยนไป ก็ยิ้มอย่างกวนๆแล้วพูดขึ้น: “คุณหึงเหรอ?”

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหัวแล้วพูดขึ้น ไม่หรอก: “ตอนนี้คุณก็ดีกับฉันมากขนาดนี้แล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นที่ต้องจะหึง”

เริ่มแรกในใจของเจียงหยุนเอ๋ออึดอัดเล็กน้อย ทว่าเธอได้ปล่อยวางมันไปอย่างรวดเร็ว ลี่จุนถิงกับเรื่องราวของผู้หญิงคนอื่นที่พบเจอกันโดยบังเอิญก็ได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว อีกอย่างตอนนี้ลี่จุนถิงก็ดีกับตัวเองโดยไม่ได้ขัดตกบกพร่อง ยังไม่รังเกียจถวนจื่อ ไม่รังเกียจอดีตของตัวเอง เธอต้องรู้จักพอใจ อย่างน้อยตัวเองสามารถที่เจอคนที่ดีกับตัวเอง

หากยังไปหึงคนในอดีต เธอก็คือผู้หญิงโง่คนหนึ่ง

ลี่จุนถิงยื่นมือไปกอดไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ ได้บรรจงจูบลงต้องหน้าผากของเธอ

เวลานี้ถวนจื่อได้ดึงชายเสื้อของเจียงหยุนเอ๋อ ยิ้มหวานแล้วกล่าวขึ้น: “แด๊ดดี้ หม่ามี๊ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรผมชอบที่นี่มากเลย”

ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็เต้น “ตุ๊บตั๊บ” ไปหนึ่งที คิดในใจ มันก็ใช่อยู่ ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นสถานที่เกิดของถวนจื่อ

ถวนจื่อกลับมาอีกครั้ง ในใจก็ต้องสัมผัสและรับรู้ได้