ตอนที่ 161 ข้อตกลง

สามีข้า คือพรานป่า

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 161 ข้อตกลง

ตอนที่ 161 ข้อตกลง

“ดูท่านพูดเข้าสิ! ตอนแรกเป็นเพราะข้าห่วงชื่อเสียงของนางจึงต้องปฏิเสธไป แต่เมื่อกลับถึงบ้านข้าจะไม่สั่งสอนนางได้อย่างไร!”

แม้ว่าภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านจะยังไม่คล้อยตามแต่นางก็รับฟัง คนที่มีลูกสาวในครอบครัวย่อมเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่

“หลายปีมาแล้วที่ไม่มีเรื่องน่าอับอายเช่นนี้เกิดขึ้น เจ้าต้องดูแลให้ดี แม้ทุกคนจะบอกว่าเจ้าชัดเจนและตรงไปตรงมา แต่มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าลูกสาวของเจ้าเป็นคนทํา? คราวที่แล้วนางตามรังควานหยุนเคอ ตอนนี้ยังจะทําเช่นนั้นอีก หากไม่สั่งสอนนางให้ดี ผู้เฒ่าในหมู่บ้านอาจจะมาจัดการเจ้า!”

“ใช่ ๆ ท่านพูดถูก ข้าได้ให้บทเรียนที่ดีแก่นางแล้ว คราวหน้าคงไม่กล้าทําอีก พี่สาว ข้ามาเพื่อจะถามท่านว่ารองเท้าคู่นี้ดูเป็นอย่างไร สามีของข้าทํางานนอกบ้านต้องแต่งตัวให้สุภาพ”

ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านไม่ได้ทําให้นางรู้สึกอับอายต่อไป แต่แนะนําอย่างจริงจังอีกครั้งสองครั้ง จากนั้นทั้งสองก็ทํางานในมือไปด้วย คุยกันไปด้วย

“ พี่สาว ข้าอยู่บ้านว่างๆ อยากหางานทํา เห็นคนในหมู่บ้านทํางานกันอย่างหนักในโรงงาน ยังหาคนช่วยงานอยู่หรือไม่?”

ภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านยังคงระมัดระวังตัว นางมองดูฉู่เกินฮูหยินด้วยสายตาพินิจพิเคราะห์

“ขอเตือนไว้ก่อนว่าโรงงานมีความสาคัญกับคนในหมู่บ้านมาก หากมีอะไรผิดพลาดทุกคนไม่มีทางยอมรับได้ อย่าคิดเข้ามาทําเรื่องไม่ดีเป็นขาด อีกอย่างเจ้าทําให้เถียนเถียนไม่พอใจ นางจะรับเจ้าเข้าทํางานหรือ?”

ฉู่เกินฮูหยินพยักหน้าด้วยความละอาย “นั่นสินะ ถ้าพี่สาวคิดว่าไม่ดีก็ลืมมันไปเถิด”

แต่ในใจนางนั้นแสนชิงชัง มีผู้ใดไม่รู้บ้างว่าครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านได้รับผลประโยชน์มากมายจากโรงงาน ต้องเป็นเพราะนังผู้หญิงสารเลวผู้นั้นนําผลประโยชน์มาล่อ หัวหน้าหมู่บ้านถึงได้คอยปกป้องนางเช่นนี้

ทั้งคู่ต่างกระอักกระอ่วนเมื่อพูดถึงหัวข้อนี้ ผ่านไปครู่หนึ่งฉู่เกินฮูหยินก็กลับไป

รอยยิ้มจืดเจื่อนของภรรยาหัวหน้าหมู่บ้านก็หายไปเช่นกัน

อะไรกัน? กล้าพูดอย่างโจ่งแจ้งว่าอยากทํางานในโรงงาน ทั้งที่ก่อเรื่องน่าละอายถึงเพียงนั้น ดูเหมือนว่าครอบครัวนี้จะยังไม่ยอมรามือ คงต้องเตือนเฉินซ่งให้ดี หากเกิดอะไรขึ้นจะเสียหายเอาได้

แม้ทุกอย่างจะผ่านไปอย่างเรียบร้อย แต่หยุนเถียนเถียนยิ่งเคร่งครัดกับโรงงานมากขึ้น ก่อนที่จะทําการค้าอื่นๆได้ โรงงานนี้ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของนาง!

บ่ายวันถัดมา ฉู่เกินฮูหยินลากเฉินฉู่เกินไปที่ปาหลังภูเขา

ชายวัยกลางคนยืนอยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดว่าเขามารอนานแล้ว

“สวัสดี ข้าคือแม่ของเฉินเจียวเจียว”

ชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความสงสัย เฉินเจียวเจียวคือผู้ใด?

ไม่แปลกที่เขาจะงุนงงเพราะคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านแห่งนี้ล้วนแซ่เฉิน

ฉู่เกินฮูหยินรีบอธิบาย ” ท่านพบลูกสาวของข้าเมื่อสองสามวันก่อน และบอกว่าต้องการซื้อสูตรลับสําหรับทําเนื้อตากแห้งใช่หรือไม่?”

ชายวัยกลางคนจึงรับรู้ว่าทั้งสองคนเป็นคนในครอบครัวของหญิงสาวผู้นั้น

“แล้วอย่างไร? พวกเจ้าได้สูตรมาแล้วหรือ?”

“สูตรลับจะหามาง่ายๆได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ จะไปทําอะไรได้? ไม่ใช่พวกผู้ใหญ่อย่างเราหรือที่ต้องเป็นคนลงมือ?”

ชายวัยกลางคนค่อนข้างร้อนใจ เขามาที่นี่เพื่อหาสูตร โดยไม่สนว่าต้องจ่ายเงินมากน้อยเพียงใด แต่คนเหล่านี้กําลังทําให้เขาหมดความอดทน

“ผู้ใดกล่าวเช่นนั้น? ข้าไม่สนหรอกนะ ข้าทํางานยื่นหมูยื่นแมวตลอด อย่าได้คิดเอาของปลอมมาหลอกขายข้า หากข้ารู้ว่าเป็นสูตรปลอม ครอบครัวพวกเจ้าไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายแน่!”

ฉู่เกินฮูหยินตกตะลึงกับท่าทางอันสง่างามนี้ เมื่อสังเกตดูก็พบว่า ชายวัยกลางคนผู้นี้แต่งตัวหรูหรา หากต้องการจัดการกับครอบครัวชาวนาที่ยากจนนั้นสามารถทําได้ง่ายดายเพียงใช้ปลายนิ้วบดขยี้

ชายวัยกลางคนหงุดหงิดใจมาก เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับหญิงชาวนาผู้นี้

“แล้วเจ้าต้องการอะไร?”

จู่ๆก็ขึ้นเสียงใส่จนทําให้ฉู่เกินฮูหยินตกใจ

“อย่างน้อยท่านก็ต้องทําให้พวกข้าสบายใจ เหมือนตอนสั่งของ แค่วางเงินมัดจําก็พอแล้วไม่ใช่หรือ?”

ชายวัยกลางคนยกมุมปากขึ้นอย่างเหยียดหยาม กลายเป็นว่าที่หญิงผู้นี้พูดพล่ามอยู่นานเพียงเพราะอยากได้เงิน!

“เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา! ข้าจะทําตามที่เจ้าเสนอโดยให้เงินมัดจําหนึ่งร้อยตําลึง แต่ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าสามารถเอาของมาให้ข้าได้? เมื่อถึงเวลาหากนําสูตรลับมาให้ข้าไม่ได้ เจ้าต้องคืนเงินให้ข้าสองร้อ ตําลึง! แต่ถ้าเจ้าเอาของมาให้ข้าตรงตามกําหนด ข้าจะจ่ายหนึ่งร้อยตําลึงที่เหลือให้”

เมื่อได้ยินว่าหากทําไม่สําเร็จต้องเสียเงินหนึ่งร้อยตําลึง เฉินฉู่เกินก็เป็นกังวลมาก เขาเป็นคนที่ซื่อตรงและอยากใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่อยากทําอะไรที่ต้องเสียเงิน

“ฮูหยิน ลืมมันไปเถอะ หากเราทําไม่สําเร็จจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่ ต่อให้ขายทั้งครอบครัวเราสามคน ก็ไม่สามารถจ่ายเงินหนึ่งร้อยตําลึงได้!”

ฉู่เกินฮูหยินจ้องมองเขา สาเหตุที่ทําให้ครอบครัวยากจนอยู่เสมอก็คือผู้ชายตรงหน้านาง เขาขี้ขลาดเกินไป!

โลกนี้โอบอุ้มผู้กล้า ส่วนคนขี้ขลาดต้องอดตาย ตราบใดที่ได้เงินมาจะต้องกลัวอะไรกลับความเสี่ยง? ยิ่งไปกว่านั้นนางวางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว ต้องได้สูตรลับมาแน่นอน!

“เจ้าช่างไร้ประโยชน์นัก! หากครั้งนี้ข้าทําได้ ก็เท่ากับว่าพรุ่งนี้ เราจะได้เงินมาใช้สองร้อยเหรียญโดยไม่ต้องเสียอะไรเลย!”

ชายวัยกลางคนไม่คิดว่าผู้หญิงโง่เง่าคนนี้จะทําอะไรได้ หากล้มเหลวเขาก็จะได้เงินหนึ่งร้อยตําลึง แต่ถ้าทําสําเร็จผลประโยชน์ที่ได้ นั้นย่อมมากกว่าเงินสองร้อยตําลึงแน่

อย่างไรก็ไม่ขาดทุน

ดังนั้นชายวัยกลางคนจึงเขียนสัญญากู้ยืมเงินสองร้อยตําลึง โดยระบุว่าหากนําสูตรลับมาแลก ไม่เพียงแต่สามารถยกเลิกสัญญากู้ยืมเงิน แต่ยังจะได้รับเงินอีกหนึ่งร้อยตําลึง!

เฉินฉู่เกินไม่คิดว่าจะทําได้ เมื่อต้องประทับนิ้วมือลงไปร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่สามารถต้านทานความชั่วร้ายของภรรยาได้ ฉู่เกินฮูหยินกดนิ้วมือของเขาลงไปอย่างแรง!

เมื่อถูกประทับลายนิ้วมือ เฉินฉู่เกินราวกับเรี่ยวแรงหดหาย จากนั้นก็ทรุดตัวลงกับพื้น

ชายวัยกลางคนเพิ่งเคยเห็นคนที่อ่อนแอเช่นนี้ เขาเหลือบมองเฉินฉู่เกินที่ทรุดนั่งบนพื้นด้วยสายตาดูถูกและเดินจากไปอย่างเย่อหยิ่ง

เดิมที่เขาไม่มีสัญญากู้ยืมเงินนี้อยู่ในมือ จึงไม่สามารถควบคุมครอบครัวนี้ได้ แต่ในตอนนี้คนพวกนั้นยอมให้ความร่วมมือ นับเป็นเรื่องที่ดีมาก