บทที่ 131 แอบปูทางให้ภรรยา

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 131 แอบปูทางให้ภรรยา

บทที่ 131 แอบปูทางให้ภรรยา

การเป็นพรีเซนเตอร์ถูกยกเลิก?

เกิดอะไรขึ้น?

ถังหว่านขมวดคิ้ว และหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งเธอจึงกดโทรออกไปหาจางซิ่วจือ

“เสี่ยวหว่าน คุณได้รับข่าวแล้วใช่ไหม” คำพูดที่มาพร้อมกับเสียงหัวเราะของจางซิ่วจือดังออกจากโทรศัพท์มือถือ

“ใช่ พี่สะใภ้ช่วยบอกฉันได้ไหมว่าทำไม?”

“อย่าถามเลย ตอนนี้ฉันยุ่งอยู่ เอาไว้ค่อยคุยกันใหม่นะ” จางซิ่วจือบอกปัดเสียงใส

“ก็ได้ค่ะ”

ถังหว่านวางสายด้วยสีหน้างุนงง

ถูกยกเลิกงานนี้คงไม่ใช่เรื่องดี

แล้วพวกเขายกเลิกทำไม? การยกเลิกสัญญานี้ไม่เป็นผลดีต่อพวกเขาซะด้วยซ้ำ?

ถังหว่านคิดไม่ออก

แถมน้ำเสียงของจางซิ่วจือเมื่อครู่ก็ฟังดูดีมาก เห็นได้ชัดว่าไม่ได้โกรธเคืองกัน…

แล้วปัญหาคืออะไร?

ตอนเย็น โจวอี้ซื้อวัตถุดิบอาหารมามากมาย ซึ่งถ้าขนกลับเองเขาคงไม่สามารถพาลูกสาวของเขากลับบ้านมาพร้อมกับเขาได้ ดังนั้นเขาจึงเจรจากับทางห้างสรรพสินค้า และพนักงานหลายคนของห้างสรรพสินค้าก็ช่วยเขาจัดส่งวัสถุดิบอาหารไปที่บ้าน

อาหารเย็นพร้อมแล้ว

โจวอี้รู้สึกประหลาดใจที่เห็นถังหว่านกลับมาเร็วกว่าปกติ

“วันนี้ไม่ยุ่งเหรอ?” โจวอี้ถาม

“อืม!” ถังหว่านตอบอย่างลวก ๆ

“งั้นก็ล้างมือแล้วมากินอาหารที่ผมทำ คืนนี้ผมทำเอาไว้เยอะมาก” โจวอี้ยิ้ม

“ไม่อยากกิน ฉันไม่หิว คุณกับเหมียวเหมี่ยวกินเถอะ” ถังหว่านส่ายหน้าและหันหลังเดินออกไปข้างนอกทันที

เธออารมณ์ไม่ดีเหรอ?

คุณโกรธเรื่องที่บริษัทอีกแล้วเหรอ?

โจวอี้มองตามแผ่นหลังของถังหว่าน ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาบอกลูกสาวของเขาให้ทานอาหารดี ๆ จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหาอู๋ฉี่หาง

เซี่ยงไฮ้

อู๋หมิ่นหรูกำลังเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ เมื่อเธอได้รับโทรศัพท์จากอู๋ฉีหางพี่ชายของเธอ เธอก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

เธอไม่อยากให้เพื่อนบ่นจึงออกไปที่ระเบียงด้านนอก จากนั้นก็รับโทรศัพท์แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “ทำไม? พี่คิดถึงฉันเหรอถึงโทรหา? พี่ออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอ”

“ยัง!” อู๋ฉีหางตอบยิ้ม ๆ

“แล้วพี่โทรมาหาฉันทำไม”

“ต่อให้ฉันไม่มีธุระอะไร ฉันโทรหาเธอไม่ได้เหรอ?” อู๋ฉีหางกล่าวอย่างหงุดหงิด

“โธ่! พี่ชาย พี่ไม่เคยโทรหาฉันถ้าไม่มีธุระสำคัญสักครั้ง จำไม่ได้เหรอ? ว่าแต่ข่าวเรื่องการรักษาตัวในโรงพยาบาลของพี่น่ะ คุณพ่อกับคุณแม่รู้เรื่องแล้วรึยัง” อู๋หมิ่นหรูเยาะเย้ย

“ก็ได้ ๆ! มันเป็นความผิดของฉันเอง เอาไว้หลังจากนี้ฉันจะโทรหาเธอทุกวันดีมั้ยล่ะ!” อู๋ฉีหางยิ้มและพูดต่ออีกว่า “พ่อกับแม่ยังไม่รู้เรื่องเข้าโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุที่ฉันโทรมาวันนี้เป็นเพราะมีเรื่องบางอย่างให้ช่วย”

“ว่ามา!”

“อย่าให้ถังหว่านไปร่วมงานกับบริษัทของเธอ”

“ทำไม?”

“มันเป็นการตัดสินใจของโจวอี้ที่จะตั้งบริษัทบันเทิงโดยไม่ให้ถังหว่านรู้น่ะ เขากำลังวางแผนให้ถังหว่านเซ็นสัญญากับบริษัทของเขาเท่านั้น”

“เขาเปิดบริษัทบันเทิงเหรอ เขาเป็นหมอไม่ใช่หรือไง ทำไมจู่ ๆ เขาถึงอยากทำธุรกิจบันเทิงล่ะ?” อู๋หมิ่นหรูถามด้วยความประหลาดใจ

“เขาไม่ได้พูดอะไรที่เฉพาะเจาะจงหรอก แต่เพราะเขาต้องการจะทำ ดังนั้นอย่าเซ็นสัญญากับถังหว่าน นอกจากนี้อย่าบอกถังหว่านเกี่ยวกับแผนการของโจวอี้เรื่องการเปิดบริษัทบันเทิงล่ะ เขาต้องการเซอร์ไพรส์ถังหว่าน” อู๋ฉีหางเตือน

“ตกลง ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวฉันจะติดต่อถังหว่านเอง” อู๋หมิ่นหรูคิดว่ามันน่าเสียดาย แต่ทั้งนี้เธอก็เห็นด้วย

ภายในห้องนอนอันแสนอบอุ่น

ถังหว่านนั่งคิดอะไรบางอย่างอยู่เงียบ ๆ

เธอตัดสินใจที่จะออกจากบริษัทเดิมทันทีที่สัญญาหมดอายุ ถ้าซุนเหมิงเต็มใจไปกับเธอ เธอก็จะจ้างซุนเหมิงต่อไป

ส่วนเฉินอ้ายหลิน ถึงเวลาที่ต้องแยกทางกันแล้ว

กริ๊ง…

ถังหว่านได้ยินเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเธอ จึงหยิบขึ้นมาดูและพบว่าเป็นอู๋หมิ่นหรู

“พี่หมิ่นหรู เป็นไงบ้าง”

“เสี่ยวหว่าน ฉันไม่ได้โทรมารบกวนใช่ไหม”

“ไม่ค่ะ มีอะไรให้รับใช้คะ?”

“เสี่ยวหว่าน ฉันโทรมาขอโทษเธอ เนื่องจากบริษัทของฉันเพิ่งได้รับเงินลงทุนจำนวนมากมา ดังนั้นฉันจึงไม่สามารถยอมรับการลงทุนของเธอได้แล้ว แต่ถ้าเธอยังต้องการมาที่บริษัทของเรา เงื่อนไขที่ฉันสัญญากับเธอ มันยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนะ”

“ไม่เป็นไรพี่หมิ่นหรู ไม่ต้องขอโทษหรอก สำหรับการเซ็นสัญญากับบริษัทของพี่ ขอเวลาฉันมากกว่านี้หน่อย เหลืออีกเจ็ดแปดเดือนก่อนที่สัญญาของฉันจะหมดอายุ หลังจากที่ฉันออกไป ฉันจะพิจารณาบริษัทของพี่ทันทีเลย”

“ตกลง งั้นเอาตามนี้ก็แล้วกัน”

เมื่อวางสายลง สีหน้าของถังหว่านก็ดูย่ำแย่

เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เธอเพิ่งได้รับข่าวเลิกจ้างเป็นพรีเซนเตอร์จากบริษัทอัญมณีสีน้ำเงิน และตอนนี้แม้แต่อู๋หมิ่นหรูก็บอกว่าจะไม่ยอมรับการลงทุนด้วย ดังนั้นถ้าเธอไปที่บริษัทของอู๋หมิ่นหรู เธอจะลงเอยด้วยการเซ็นสัญญาเป็นพนักงานอย่างเดียวเท่านั้น

ทันใดนั้น

เธอก็จำสิ่งที่โจวอี้พูดเมื่อคืนนี้ขึ้นมาได้

จะเปิดบริษัทบันเทิง?

การเปิดบริษัทบันเทิงไม่ใช่เรื่องสนุก

เธอไม่มีเงินมากพอ ไม่มีคนช่วยหนุน และไม่คุ้นเคยกับการดำเนินงานและการจัดการของบริษัทบันเทิง ถ้าเปิดบริษัทบันเทิงโดยประมาท ไม่แปลกใจเลยถ้าเธอจะเจ๊ง!

“เฮ้อ…”

หลังจากถอนหายใจ เธอก็ตกอยู่ในความเงียบอันยาวนาน

ณ วิลล่าข้าง ๆ

หลังจากรับประทานอาหารเย็นกับลูกสาวแล้ว โจวอี้ก็เริ่มจัดเตรียมส่วนผสมสำหรับทำเค้ก หลังจากที่ทุกอย่างพร้อมแล้ว เขาก็พาลูกสาวไปดูทีวี เขายังไม่ได้ไปส่งลูกสาวจนกว่าเธอจะง่วง

04.30 น โจวอี้ตื่นแต่เช้าตรู่

หลังจากล้างหน้าแล้วเขาก็เริ่มงานในครัว

เขาต้องการทำเค้กสี่แบบและชาสมุนไพรอีกหนึ่งแบบ แต่ละเมนูมีหลายขั้นตอนที่ต้องทำ

อย่างไรก็ตาม ในฐานะพ่อของเหมียวเหมี่ยว เขาได้เข้าร่วมการประชุมผู้ปกครองของลูกสาวเป็นครั้งแรก เขาคิดว่าควรที่จะทำบางสิ่งที่น่าอร่อยให้กับครูและผู้ปกครองของเหล่าเด็ก ๆ

ลูกสาวของเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นถ้าได้รับความเอ็นดูจากบรรดาครูและพวกผู้ปกครองของเด็กคนอื่น ๆ และเขาผู้เป็นพ่อจะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นโดยใช้ทักษะการทำอาหารของตัวเอง!

ถังหว่านตื่นขึ้นมาแต่เช้าเพราะความหิว

เมื่อคืนเธอไม่ได้กินอะไรเลยเพราะมัวแต่คิดมาก

เธอช่วยลูกสาวแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วจับมือกันเดินไปยังวิลล่าของโจวอี้ ทันทีที่เธอเข้าไปในห้องนั่งเล่น เธอก็ได้กลิ่นอาหาร และสิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกหิวมากขึ้น

“คุณทำอะไร?”

ทันทีที่เธอถามจบ เธอเห็นว่าโต๊ะและพื้นเต็มไปด้วยกล่องเก็บอาหาร

“อาหารเช้าอยู่บนโต๊ะนะ พาลูกสาวของเราไปกินข้าวก่อน ผมจะมาทำความสะอาดเครื่องครัว” โจวอี้หันมายิ้มให้ จากนั้นก็หันไปส่งจูบให้ลูกสาว

“ฮิฮิ…” ถังเหมียวเหมี่ยวส่งจูบกลับไปอย่างมีความสุข

ถังหว่านไม่รีบร้อน เธอไปที่โต๊ะอาหารและถามด้วยความสงสัยว่า “นี่คืออะไร?”

“วันนี้โรงเรียนของลูกสาวเราจะจัดประชุมผู้ปกครอง ผมไม่เคยไปงานประชุมผู้ปกครองให้เธอมาก่อน! ผมก็เลยคิดจะทำเค้กอร่อย ๆ แล้วเอาพวกมันไปโรงเรียนเพื่อแบ่งปันกับครู ผู้ปกครอง และเด็กคนอื่น ๆ น่ะ” โจวอี้ยิ้ม

“ประชุมผู้ปกครอง?”

ถังหว่านตกตะลึง

เมื่อเห็นสีหน้าที่มีความสุขของลูกสาวเธอรู้สึกผิดอยู่ในใจ

ด้วยสถานะของเธอ เธอไม่เคยไปประชุมผู้ปกครองเลย ไม่สิ จริง ๆ แล้ว เธอไม่เคยไปเข้าร่วมกิจกรรมครอบครัวใด ๆ ที่โรงเรียนของลูกสาวเลยสักครั้ง

“หลังอาหารแล้วฉันจะให้คนขับรถไปส่ง” ถังหว่านกล่าว

“ไม่ ผมติดต่อพี่น้องจากทีมรักษาความปลอดภัยเอาไว้แล้ว พวกเขาสัญญาว่าจะขับรถไปส่งที่โรงเรียน” โจวอี้ยิ้ม

“ทีมรักษาความปลอดภัยงั้นเหรอ? พวกเขาตกลงทำตามคำขอนี้ของคุณด้วยเหรอ?”

“ฮ่าฮ่า แค่พวกเขาได้ยินว่าผมต้องการขอความช่วยเหลือจากพวกเขา พวกเขาต่างก็ตกลงอย่างทันที ผมไม่ได้คุยโอ้อวดนะ แต่ความสัมพันธ์ของผมกับพวกเขาดีมากเลยล่ะ!” โจวอี้ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“คุณนี่เยี่ยมจริง ๆ!”

ถังหว่านยิ้มและพาลูกสาวไปที่ห้องอาหารทันที