ตอนที่ 149 สงครามมากราโด ① แผนการลงพื้น

ถนนสู่อาณาจักร – Oukoku e Tsuzuku Michi

149 สงครามมากราโด ① แผนการลงพื้น

—————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

จบการหยุดการโจมตี ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย

กองทัพ ไม่เพียงแค่เป็นเบี้ย ที่ถูกใช้ไปบนสนามรบ ถ้ากองทัพนั้นใหญ่พอ มันพิจารณาได้ว่าเป็นเมืองที่เคลื่อนที่ ที่มีคนเป็นหลายๆหมื่น พวกเขาจะบริโภคอาหารและน้ำทุกวันเป็นจำนวนมาก แน่นอน ว่าถ้าไม่มีสถานที่ที่ถูกต้อง แม้แต่ของเสียรายวัน จะมีเป็นจำนวนที่มหาศาล

ตราบใดที่อาหารยังถูกขน เมื่อก้าวเข้าไปในดินแดนศัตรู อะไรที่เกิดหลังจากนั้น ไม่ใช่ความน่ากังวล อย่างไรก็ตาม การมาทำอะไรก็ตามในประเทศตัวเอง ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่สุด ซึ่งมันจำกัดที่ที่จะตั้งแคมป์ และเลี่ยงไม่ได้ ที่ต้องถูกตั้ง เมื่อข้ามแม่น้ำ

「เมืองในมากราโด……มันเรียกว่าอะไรแล้วนะ?」

「ท่าแรนเดล」

「แม้ว่าเราจะเห็นมันได้ มันยังดูไกลออกไป」

ระหว่างเวลา ก่อนการหยุดการโจมจะหมดลง เราได้ตั้งแคมป์ ในที่ที่เตรียมไว้ล่วงหน้า ตั้งอยู่ในป่า ใกล้กับเมืองท่าเล็กๆ ที่เรือ ไมjสามารถเห็นได้จากแม่น้ำ

เรามองชายฝั่งตรงข้าม บนหอสังเกตุการณ์ที่ใช้ต้นไม้สูง ถ้าบริเวณนั้นเชื่อมต่อกันโดยพื้นดิน มันน่าจะไม่ใช้มากไปกว่า 30 นาทีบนหลังม้า เพื่อที่จะเดินทางในระยะเท่านี้ แต่มันยังไกลเกินไป ที่คนจะว่าย หรือลอยคอข้ามไป

「สงสัยว่าทำไมมีเรือน้อยจัง」

มีเรือถูกพรางอยู่ที่ชายฝั่งของเมืองท่า ในแบบทีพวกมันจะไม่โดดเด่น แต่มากสุด ที่พวกมันจะขนส่งได้ น่าจะประมาณ 3000

「มันยังไม่ถูกรู้ ว่าศัตรูเตรียมมามากแค่ไหน แต่ชั้นมั่นใจ ว่าหน่วยแรกจะค่อนข้างเก่ง」

พวกเขาน่าจะคำนวณเรือในบริเวณอื่นด้วย แต่ผมสงสัย ว่าเราทำได้ ด้วยจำนวนเท่านี้มั้ย นี่มันทำให้ผม ค่อนข้างที่จะไม่สบายใจ

「เราควรจะตั้งหน่วยรอบกองทัพอาณาจักร สำหรับการต่อสู้แรก」

ลีโอโพลต์อยู่ดีๆก็โผล่ ยอดหอสังเกตการณ์ ที่ซีเลียและผมอยู่ ซีเลีย เบะปากและพองแก้มของเธอ

「โอ้ อยากจะให้พ่อสนใจหนูเหรอ」

「การตรวจสอบจากตอนนี้ไป จะทำโดยไม่รู้การเคลื่อนไหวของศัตรู มันเป็นไปไม่ได้ ที่จะส่งทหารสอดแนม และมันจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะช่วยพวกเค้า ในโอกาสน้อยๆ ที่พวกเค้าจะเข้าไปติดกับ เราควรจะเลี่ยงความเสี่ยง ที่จะเสียกองทัพของเราเองไป」

เขาเมินผม ผมเข้าใจว่าลีโอโพลต์พูดอะไร แต่ถ้าผมไปบอกทหารของอาณาจักร ว่าให้กันทหารขอผมไว้ พวกเขาจะสงสัย ว่าพวกเขาถูกใช้เป็นเบี้ย กำลังใจของพวกเขา จะไม่เพิ่มขึ้นด้วย

「อุมุมุ……」

ผมกำลังจะนำเหรียญทองออกมาจากกระเป๋า และดีดมัน แต่ซีเลียหยุดผม

「ไม่! พ่อมาตัดสินใจบางอย่าง สุ่มๆแบบนี้ไม่ได้นะ!」

「งั้นมาทำมันแบบนี้ — ให้กองทัพของอาณาจักร ลงน้ำก่อน แต่บัญชาการพวกเค้าตรงๆ」

ในแบบนั้น ทหารจะไม่พิจารณาว่าพวกเขาเอง เป็นเบี้ยสังเวย นอกจากนี้ มันสำคัญว่าผู้บัญชาการ คือคนแรกที่ก้าวเข้าไปในดินแดนของศัตรู ดันั้น มันไม่ได้ดูเหมือน พวกเขาแค่มองมันจากไกลๆ

「ไม่!」 「นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี」 「ทำไม่ได้นะ!」 「ศัตรูจะถูกแทง!」 

ซัเลียและคนอื่นๆ — ไมล่า ปีปี้ อิริจิน่า — ทั้งหมดโผล่ออกมา พวกเธอไปซ่อนที่ไหนกัน

「มันจะแย่หนัก ถ้าพี่ไปติดกับดัก! พีลีโอโพลต์ซัง ควรจะไปก่อน!」

「มันสำคัญที่ผู้บัญชาการจะนำทัพ แต่มันขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาและสถานการณ์ มันมีปัจจัยที่ไม่รู้มากมายใจครั้งนี้」

「หนูไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พี่ทำไม่ได้นะ!」

「มันได้เวลากินรึยัง!?」

เวลา ที่ผลออกมาเป็นไม่ดี หลังจากที่ผมเชื่อสัญชาตญาณผม……มีน้อยและห่างกันไกล และลีโอโพลต์ เป็นคนที่น่าจะบ่นมากที่สุด แต่เขายังคงเงียบอยู่

「กำลังของประเทศของเรา และการสั่งการบนสนามรบ ทั้งสองอย่างเหนือกว่าพวกเค้า แต่ยังคงมีโอกาส แม้ว่าจะเล็ก  ที่ลอร์ดฮาร์ดเลตต์เปิดเผยตัวเองสู่อันตราย」

「มากเท่านั้นมันช่วยไม่ได้」

มันโง่ที่จะหวังความปลอดภัยที่แน่นอน จากการต่อสู้

「งั้นไม่มีอะไรอื่นที่หนูจะพูด แต่อย่าได้ลืม ถ้าพี่พ่ายแพ้ ศึกนี้ และดินแดนของพี่ จะจบ」

「เพราะทั้งหมด ลอร์ดฮาร์ดเลตต์มีอิทธิพลที่ยิ่งใหญ่สำหรับการต่อสู้ ไม่ว่ามันจะดีหรือร้าย…….」

ออกมาจากการคุยที่เป็นลางร้าย ที่พวกเธอสองคนคุยกันอยู่ ผมถูตูดอิริจิน่า ที่กัดเนื้อมีกระดูก

「หยุดอยู่ในแง่ลบได้แล้ว เพราะเราอาจจะสามารถลงพื้นได้ โดยไม่มีปัญหาเลยซักนิด」

「หนูจะไปกับพ่อแน่นอน!」

「หนือโด้ย!!」

ซีเลียจะไม่ออกจากข้างผม ไม่ว่าอย่างไร ผมเดาว่า อย่างน้อยผมเอาหน่วยคุ้มกันไปได้ แล้วก็ อย่าพูดเมื่ออาหารเต็มปากสิ หนูสาดเนื้อมาเป็นฝน และน้ำมันไปทุกที่เลย

「อย่างที่คนหนึ่งคาดได้ เราเคลื่อนไหวตอนกลางคืนไม่ได้ มาขึ้นเรือ ทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้นเถอะ」

มันโง่ที่จะส่งทหาร ที่ไม่คุ้นกับการอยู่บนเรือ ในความมืดสนิท และพวกเขาจะเตรียมการสำหรับลงพื้นไม่ได้ด้วย เพราะทั้งหมด แคมป์ไฟจะดึงดูดความสนใจ จากชายฝั่ง

「ครั้งสุดท้ายที่เราอยู่บนเรือ คือเมื่อเราเดินทางกันในอดีต」

ซีเลียนำหัวเข้ามาใกล้ ในแบบที่รำลึกความหลัง ไมล่าและอิริจิน่า ดูค่อนข้างที่จะเบื่อ

ที่เวลานั้น คนเดียวที่ผมรู้จัก คือซีเลียและนนน่า และผมแค่เจอเมลิสซ่าระหว่างทาง มันอาจจะไม่น่าสนใจ กับสาวๆคนอื่น ผมเดาว่า

「คุณพร้อมที่จะเตรียมขึ้นเรือ เมื่อทุกอย่างสงบแล้วได้」

ผมจะทิ้งดินแดนไว้ให้อดอล์ฟ ดังนั้นความเหนื่อยของใจและกายผม ตอนนี้ถูกรักษาได้ ผมจะเตรียมการสำหรับการออกศึกพรุ่งนี้ และผ่อนคลายความเครียด ของครึ่งล่างของผมด้วย

—————————————————————

วันต่อมา บนเรือ

「เรือข้างหน้าได้ผ่านไปครึ่งแม่น้ำแล้ว! ทัพเรือของศัตรู ไม่ปรากฎตัว!」

「โอ้ ช่างน่าผิดหวัง」

「งั้นนี่คือแม่น้ำ……ขาหนูอ่อนแล้ว……หัวหน้า น่ากลัวมากเลยอ่ะ!」

ด้วยกันกับตะวันที่ขึ้นมา เรือที่แยกไป ที่มีทหารอยู่ 2500 คนน และหน่วยคุ้มกันของผม มุ่งหน้าไปที่ท่าแรนเดลอย่างช้าๆ ไปด้วยกันกับกระแสน้ำ ทหารม้าหนัก มีน้ำหนักมากกว่าที่คาด และการขนส่งทหารม้าธนู ดูเหมือนจะใช้เวลาและความพยายามมาก ตัดสินจากการตอบสนองที่กลับของปีปี้ การขึ้นและลงน้ำ อาจจะไม่ราบลื่นด้วยเหมือนกัน

เรามีเรือศึกเตรียมอยู่ และทุกคนระวังกันสูง สำหรับการโจมตีสวนของศัตรู แต่ไม่มีอะไเกิดขึ้นเลยซักนิด

「ให้ตายซี่ ศัตรูอาจจะเน้นคววามสนใจไปที่แนวหน้า ที่กองทหารที่หนึ่งของลอร์ดราดาห์ล ถูกส่งออกไป」

ซีเลีย วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น

「อีริชอาจจะมีเวลาที่ยาก แต่การต่อสู้โดยพื้นฐานแล้วจะถูกสรุป ถ้าเราลงพื้น

ถ้ากองทัพที่มากกว่า 40,000 ของผม ลงพื้นได้อย่างสมบูรณ์ เราน่าจะมีพอที่จะสู้กองทัพของมากราโด แม้ว่าจะด้วยตัวเราเอง ถ้าเราไปทางแม่น้ำ และยึดเมืองท่าไว้ ทัพเรือของศัตรู จะทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะถูกเรียกว่าทัพเรือ พวกเขาไม่ได้อยู่บนน้ำตลอด และต้องเติมอาหารและเสบียง และลูกธนูด้วย ไม่งั้น พวกเขาจะไร้พิษพัย

「ทัพเรือของศัตรู……! มัน มันเป็นกลุ่มเล็กๆ มันอาจจะเป็นหน่วยสอดแนม」

รายงานที่ถูกมอบโดยคนเฝ้าระวัง ทำให้ทั้งตัวของผมตรึงเครียด แต่ศัตรู ส่งแค่เรือเล็กไม่กี่ลำ เมือผมมมองใกล้ๆ เรือศึกของเรายิงธนู และเรือศัตรู วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว กองเรือได้ข้ามมาจุดกลางของแม่น้ำแล้ว แม้ว่าพวกเขาส่งการโจมตีสวน มันจะสายเกินไป

「อย่างที่หนูคิด ท่านเอเกอร์ซามะ มีโชคของสตรีอยู่ข้างเค้า」

「แต่พ่อจำไม่ได้ พ่อไปนอนกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่นะ」

ซีเลียโกรธ บอกผมว่าอย่าไปพูดบางอย่าง ที่จะทำให้ผมถูกลงโทษ

เรือข้างหน้า เริ่มตะโกน และธนูไฟขึ้นมาจากเรือไม่กี่ลำ มันดูเหมือนว่าการยิงกัน เกดขึ้นระหว่างพวกเขาและศัตรูที่พื้นดิน ที่ปกป้องเมืองอยู่ แต่เราฝ่าไปได้ หลังจากที่มาไกลเท่านี้แล้ว และไปลงพื้นได้ แม้ว่าเรือจะติดไฟ เพราะยังไง ก็ไม่มีทหารมากที่ปกป้องเมือง

「ทุกคนเครียมพร้อมต่อสู้ เราจะตีเมืองให้พ่ายอย่างเร็ว และเรียกคนอื่นให้ตามเรามา ชั้นไม่ถือ ถ้านายเผาเมือง แต่พยายามอย่าทำลายเรือ ไม่ว่าจะขนาดเท่าไหร่」

ถ้าเรายึดที่นี่ได้ โดยไม่บาดเจ็บ มันจะทำให้การขนส่งทหาร สำเร็จได้ง่ายขึ้น

「และสุดท้าย……อย่าฆ่าผู้หญิง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้านายอยากเอาพวกเธอ ทำให้มั่นใจ ว่าเธออนุญาตแล้ว เข้าใจมั้ย!?」

‘โออออออ้!’ — ทหารทั้งหมดตะโกนกลับมาในการตอบรับ ตอนนี้ สงครามกับมากราโด ในที่สุดก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว

—————————————————————

【–มุมมอง บุคคลที่สาม/มากราโด–】

ดินแดนของมากราโดร  เมืองท่า: ท่าแรนเดล

「เรือโกลโดเนียเข้ามา และทหารพวกเค้าลงแล้ว!」

「เราหยุดเค้าทางใดก็ทางนึงได้มัย!? หน่วยป้องกันทำอะไรอยู่」

「หน่วยป้องกันมี 2000 ระหว่างที่ศัตรู มีใกล้กับ 3000!!」

ทหารและผู้บัญชาการ ตะโกนอย่างดังใส่กันและกัน ท่าแรนเดลไม่ใช่เมืองใหญ่ไม่ว่าจะยังไง มีฐานที่สำคัญอื่น แต่เหตุผล ที่กองกำลังมากมาย ถูกประจำกาารยู่ที่นี่ เพราะความระวังโกลโดลเนีย

「บัดซบเอ้ย! ทำไมพวมเค้ามาที่นี่วะ? พวกเค้ามีกำลังเสริมมั้ย!?」

「จากเรือสอดแนม พวกเค้ามีทหารหลายหมื่นในเมือง ที่ชายฝั่งตรงข้าม!」

การตะโกนหยุดลงชั่วขณะ

「หลายหมื่น……ปฏิบัติการลงพื้นของแท้ งั้นหรอ? ยังไงซะ เราจบแล้วหละ ไม่มีทาง ที่เราจะต้านพวกเค้าไว้……」

「หยุดบ่นได้แล้ว! ไม่ว่าจะมีกี่หมื่น แค่ไม่กี่พันจะผ่านแม้น้ำมาได้แต่ละครั้ง ศัตรูไม่มีเรือมากขนาดนั้น!」

「เราต้านไม่กี่หมื่นไม่ไหวหรอก! กำลังเสริมไม่มาเหรอ?!」

เมื่อใช้สามัญสำนึก มันปรกติที่จะคิดว่า มันจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะป้องกันทั้งชายฝั่งจากโกลโดเนีย ที่มีกองกำลังจำนวนมากกว่า ดังนั้น มันจะเป็นปรกติที่จะทำด้วยแผน ที่กองกำลังหลัก จะประจำการอยู่ในพื้นดิน และพยายามจะเอาชนะศัตรู ก่อนที่กองทัพจะลงพื้นที่ฐานได้ อย่างไรก็ตาม แผนเช่นนี้ ต้องการอะไรบางอย่าง

「ทัพเรือทำอะไรอยู่……? พวกโกลโดเนียไม่ได้แม้แต่ดิ้นรนที่จะมาที่นี่เลย!」

ทัพเรือ สมควรที่จะเอาาชนะศัตรู และแม้ว่าพวกเค้าจะไม่สามารถทำได้ พวกเค้า อย่างน้อยควรซื้อเวลา โดยเลี่ยงศัตรู จากการททำปฏิบัติการลงพื้น หรือหยุดพวกเขา จากการเคลื่อนไหว ท่าแรนเดล มีฐานทัพเรือซ่อนอยู่ใกล้เมือง ควันสัญญานฉุกเฉิน ได้จุดขึ้นแล้ว และพวกเขาควรจะมาในไม่นาน

 「ทำไม……? ทำไมพวกเค้าไม่มา? ถ้าเป็นแบบนี้ กองทัพศัตรูจะลงพื้น ประเทศเราจะจบสิ้น!」   

เสียงกรีดร้องที่ใหญ่ดังขึ้น เมื่อทหารหันไปสนใจทางนั้น พวกเขาเห็นกองทัพของทหารม้าหนักโบกธงดำ ฉีกหน่วยป้องกัน และแถวการต่อสู้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ อัศวินที่ขี่อยู่ข้างหน้า ส่งทหารบินไปซ้ายและขวา อัศวินคนเดียวคนนั้น ทำลายแถวที่รีบๆสร้างบนถนน

 「อสูรสงคราม ฮาร์ดเลตต์……」   

ไม่มีทหารแม้แต่คนเดียว ผู้ที่ไม่รู้ชื่อที่เป็นของนักรบอสูร ที่ตีผู้บัญชาการ แรดกัล์ฟพ่ายแพ้ และกองทัพอีลิท ทุกคน รู้ว่าสถานการณ์ มันจะแค่แย่ลง —————————————————————

【–มุมมอง เอเกอร์–】

 「ถอยไป!!」   

ผมน็อคทหารที่เรียงแถวหอก และขยี้รถเกวียน ที่ถูกกองเพื่อทำเป็นกำแพง ชายกระโดดขึ้นไปบนหลังคาบ้าน และเหวี่ยงดาบใส่ผม แต่ผมแทงเขากลางอากาศ และโยนเขากลับไปสู่ในอากาศ เสียงเผละของชายที่ตกลงพื้น ทำลายกำลังใจของศัตรู และทหารในบริเวณนี่เริ่มจะวิ่งหนี

 「ท่านเอเกอร์ซามะ พ่อพุ่งเข้าตีไกลไปแล้ว! กองทัพอาณาจักร ในที่สุดก็ระงับท่าเรือไว้ได้แล้ว!」   

 「มันพอแแล้วที่เค้าจะยึดท่าเรือ ศัตรู จะพังทลายทันที」   

ผมก้มหัว เพื่อหลบหอกของทหารม้าที่วิ่งมาใส่ผม จากทั้นแทงอาวุธของผมเอง ทะลุคอของทหาร เพราะหอกผมหนา คอเขาถูกฉีกออก……มันเละอีกแล้ว

 「ช่องเปิด!」

 「ป่าวเลย」      

ผมจับหอกที่แทงมาที่ผม ทหารเข้ามาใส่ผมระหว่างนั้น ผมเหวี่ยงหอกใส่กับชายที่ถืออาวุธของเขาในกำแพง ทำลายด้านข้างขอบ้าน

 「ฮฮฮฮฮฮฮิ้!」 「ว-วิ่งหนี!!」   

ฟุมุ มากเท่านี้ควรจะดี ผมเดาว่าผมจะกลับไปที่พวกของผมแล้วตอนนี้

 「บอกเรือให้กลับไปทันที แล้วขนทหารเรามาที่นี」   

ผมให้เรือรอพร้อม เพื่อที่เราจะได้หนีได้เผื่อไว้ก่อน เราเจอส่วนใหญ่ของกองทัพบนพื้นดิน แต่เมือง จะพ่ายไปอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าเป็นแบบนั้น ผมควรจะให้ทหารมาที่นี่ และตามหลังผม ทันทีที่เป็นไปได้ ถ้าพวกเขาเร็ว พวกเขาเดินทางได้สองรอบไปกลับ

 「อย่างที่คาดกับทีมที่ฝึกมาโดยอีริช พวกเค้า ค่อนข้างที่จะทรงพลัง」   

กองทัพของอาณาจักร ไม่ได้รอผมสั่ง และรู้ว่าพวกเขาต้องทำอะไรแล้ว ผู้บัญชาการของพวกเขา อยู่ในระดับที่สูงกว่าสูง และเอาชนะศัตรูได้ แม้ว่าจำนวนจะเท่ากัน

 「ได้เลย เพราะท่าเรือถูกควบคุมไปแล้ว ก้าวต่อไปคือโยนศัตรูออกจากเมือง ดันไปต่อ!」   

เพราะผู้บัญชาการกองทหารเอง อยู่ในหมู่ศัตรู กำลังใจของทหารนั้นสูง ทหารพุ่งเข้าตีเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมดัวยการตะโกน และทหารของมากราโด ถูกดันถอยไปอย่างรวดเร็ว

 「ถ้าพ่อไปไกลมากกว่านี้ มันจะเสียประโยชน์ของพวกเดียวกัน」   

 「ใช่ และมีโอกาส ที่จะไปโดนลูกหลงด้วยเหมือนกัน มันดีกว่า ที่พ่อจะไปอยู่ข้างหลัง」   

ไม่มีจุดหมายในการอาละวาด เมื่อพวกของเรากดดันศัตรูอยู่แล้ว

 「แม้อย่างนั้น……มันน่าตกใจที่ทัพเรือของศัตรูไม่ได้โผล่มา」   

 「นั่นจริง นั่นเป็นความกังวลใหญ่ที่สุด」   

มันชัดเจน ที่สิ่งต่างๆจะออกมาเป็นแบบนี้ เมื่อทัพเรือไม่ได้เข้ามายุ่งด้วย ไม่ว่าฐานบนพื้นดินจะถูกแบ่งออกมากแค่ไหนบนพื้นดิน มันทำให้ผมรู้สึกแปลก เมื่อพวกเขาไม่โผล่มาซักนิดเลย

 「ไม่ว่าจะแบบไหน เราลงพื้นสำเร็จแล้ว ถ้าพวกเค้าทิ้งที่นี่ มันอาจจะถึงชีวิตสำหรับพวกเค้า ในรูปรวมของสงคราม ดังนั้น พวกเค้าจะส่งกำลังเสริมมาที่นี่อย่างแน่นอน เราต้องรีบควบคุมเมือง และเสริมการป้องกัน โดยการเรียกทหารให้ตามมาที่นี่」   

ผมมั่นใจ ตอนนี้ ผมได้ยึดท่าเรือแล้ว ทหารจะถูกขนส่งได้ซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้ว่าศัตรูจะมาหาเรา ถ้าเราปกป้องเมือง กองกำลังของเรา จะเพิ่มจกา 6000 เป็น 9000 ทุกวัน

‘ว่าาาา’ – เสียงเชียร์ดังขึ้นจากทหาร มันดูเหมือนการต่อต้านสุดท้ายได้ล้มลงแล้ว และการต่อสู้ ได้เคลื่อนที่ไปนอกเมือง

 「อย่าไล่ลึกเกินไป สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือยึดเมือง และส่งสัญญานควันเขียว」   

นี่ไม่เป็นไร ตอนนี้ลีโอโพลต์และไมล่า ผู้ที่อยู่อีกชายฝั่ง น่าจะส่งสาส์นด้้วยมาแล้วถึงวังและอีริช ว่าเราได้ลงพื้นกันสำเร็จแล้ว

 

 「ยังไงซะ ตอนนี้เราเสร็จขั้นตอนแรกแล้ว หาอะไรเบาๆกินกันเถอะ」      

 「พ่อพูดถูก ศัตรูอาจจะโจมตีสวน มันเลยอาจจะดีกว่าที่จะเติมท้อง……」   

ซีเลียดูเหมือนจะมีสีหน้าผ่อนคลายมากขึ้น เทียบกับเมือเธออยู่ระหว่างการต่อสู้ ระหว่างนั้น อิริจิน่า กลับมาจากการต่อสู้ที่แนวหน้า พร้อมด้วยชุดเกราะของเธอ ปกคลุมไปด้วยเลือดของศัตรู

 「ศัตรูได้ถูกโยนออกไปนอกกำแพงเมืองแล้ว!! ไม่ได้มีทีมใหญ่อยู่ใกล้ด้วยเหมือนกัน! ดังนั้นตอนนี้…….」   

ผมมีความรู้สึกที่แย่ เกี่ยวกับนี่ อย่างไรก็ไม่รู้

 「สงครามนี้ มันเป็นชัยชนะของเรา!!」   

อิริจิน่าตะโกนในเสียงที่ดัง

เมื่อเรือขนส่ง เสร็จจากการออกจากท่าแรนเดล ควันที่หนา ปรากฏในท้องฟ้าที่เคยปลอดโปร่ง เงาได้ถูกสาดมาทับเมือง และในที่สุดมันก็เริ่มจะฝนตก บางอย่างที่หายาก ในเวลานี้ของปี

—————————————————————   

เรื่องราวด้านข้าง: ความประมาทของครอลล์ (ส่วนแรก)

 「ครอลล์ ถือนี่ได้มั้ย?」   

 「ได้ครับ พี่นนน่าซะ……มาดาม」   

บางทีเบื่อจากแจกันใหญ่ในห้องนอน เธออยากย้ายมันไปที่ทางเดิน ไม่มีใครยกเว้นสาวๆ ที่เข้าห้องของนนน่าได้จริงๆ ภรรยาน้อยคนอื่น และห้องคนรักใช้ก็ไม่ได้ คนทีเข้าและออกได้อย่างอิสระ คือบัตเลอร์เซบาสเตียนและครอลล์ อย่างที่คนหนึ่งคาดได้ นนน่าและเมด มีแขนที่บาง เซบาสเตียนแก่แล้ว ดังนั้นพวกเขา ไม่ควรจะขนอะไรหนักๆ หมายถึง มันได้กลายเป็นหน้าที่ของครอลล์

 「เอามันไว้……ที่นี่เหรออครับ?!」   

แจกันนั้นหนัก แต่ร่างกายของเขาแข็งแรงพอ จากงานทั่วไป และการฝึกที่เขาทำ

 「ใช่ ทางนั้น และรูปวาดจะเข้าไปในห้อง……」   

 「ทำได้ดีมาก ไปกินขนมได้ถ้าอยากกิน」   

ครอลล์หายใจแรง หลังจากที่ได้ทำงานอย่างทั่วถึงมากและกินน้ำ

 「โดยไม่มีพี่เอเกอร์ซามะใกล้ๆ……มันเหงา ไม่ใช่เหรอ」   

นนน่า เอนไปข้างหน้ากับโต๊ะอย่างขี้เกียจ

 「อึ๋นน!!??」   

ครอลล์ตื่นตกใจ ซึ่งมันธรรมชาติที่เกิดขึ้น เพราะหน้าอกที่มหาศาลของนนน่า เล็ดออกมาบนโต๊ะ เอ็นของเขา ดันใส่กางเกงของเขา

 「? มีอะไร?」   

 「ม-ไม่ ไม่มีอะไรครับ……」   

นนน่าไม่ใช่คน ที่จะปล่อยผู้ชายไป แค่เพราะเขายังเด็ก ถ้าเธอรู้ถึงการโด่ของเขา เธอจะกรีดร้องทันที ที่เธอถูกล่วงเกิน

 「ย-ยังไงซะ ถ้าอย่างนั้น ผมขอตัว!」   

 「ฮ่าาา ยังไงซะ ถ้านายไม่ต้องการอะไร นั่นไม่เป็นไร」   

คาร์ล่าปรากฏอยู่ตรงหน้าครอลล์ หลังจากที่เขารีบออกไปจากห้อง เธอแต่งตัวน้อยๆ เกือบจะอยู่ในแบบที่ล่อแหลม หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ เอ็นของเด็กชาย ยิ่งแข็งขึ้นและแข็งขึ้น

 「เป็นอะไรล่ะเนี่ย รีบวิ่งไปทั่วจัง」   

 「มันไม่มีอะไรครับ!」    

เขาผ่านเธอไปอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่ห้องนั่งเล่น ที่จะเห็นเมล กอดลูกคนเล็กที่สุด กิลบาร์ด ปรกติแล้วเมลจะแต่งตัวเรียบร้อย ดังนั้นนี่น่าจะโล่งใจได้นิดหน่อย  

 「ฟฟฟู่……」   

แต่สถานการณ์กลับหัวกลับหาง อย่างรวดเร็ว

 「อะร้า? หิวเหรอลูก? นมมาแล้วนี่ไงนี่ไง~」   

เมลชำเลืองมองครอลล์ และเห็นเขาหันกลับไป ก่อนที่จะนำหน้าอกของเธอออกมา และให้กิลบาร์ดดูดพวกมันเพื่อนม

อย่างไรก็ตาม มันไม่มีทางเลย ที่เด็กชายอายุ 15 จะถอนสายตาของเขาจากหน้าอกที่สวยได้ แม้ว่าจะเป็นเลดี้ที่อายุมากกว่า

 「ออออุ่-!!」   

ครอลล์รีบวิ่งออกไปจากห้องนั่งเล่น

 「……ผมแตก」   

แมว่า เขาจะไม่ได้แตะเอ็นเขาเลยซักนิด มันน้ำแตกอย่างรุนแรง

—————————————————————   

กลางคืน

 「ฮ่าา ฮ่าา……นี่ไม่ดี! แม้แต่ทำมามันด้วยตัวชั้นเอง……」   

ครอลล์ชักเอ็นของเขาเมื่อตอนกลางคืน แต่เขา ไม่สามารถจะทำให้ตัวเองพอใจได้ เขาสามารถที่จะระงับความอยาก ที่จะชักว่าวทั้งคืนในอดีตได้ แต่หลังจากที่เขา ได้มีประสบการณ์ถึงความรู้สึกของผู้หญิง มันจะไม่พอแล้ว

เขาอยากจะอยู่ในปากผู้หญิง ในหน้าอก และแน่นอน รูที่มีค่าของเธอด้วย

 「ผู้หญิง……ชั้นจะเอาผู้หญิง」      

ความเงี่ยนของเขาถึงขีดจำกัด และความรู้สึกที่อันตราย เริ่มที่จะก่อฟองมาภายในเขา — ความรู้ึก ที่ทำให้เขาอยากข่มขืนผู้หญิงของมาสเตอร์

 「ครอลล์ ตื่นอยู่มั้ย?」   

คนที่ปรากฏมา คืออัลม่าคนรับใช้ที่เก็บตัว ที่โตมาในบ้านเด็กกำพร้าเดียวกันกับครอลล์ และเด็กกว่าเขาหนึ่งปี แต่ไม่นานมานี้ เริ่มเปิดตัวมากขึ้น

เขารีบเก็บเอ็นของเขาไป และทำเสื้อผ้าให้ตรง

 「มีอะไร มาดึกดื่นตอนกลางคืน?」   

 「อืม ชั้นได้ยินมาว่า วันนี้ครอลล์ทำตัวแปลกๆวันนี้ ดังนั้น……」   

 「มันไม่มีอะไร แค่ไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า ไม่ใช่เหรอ?」   

 「……แต่ชั้นกังวล มีเหตุการณ์นั้นก่อนหน้าด้วย……」   

หน้าของครอลล์บิดเบี้ยว เขาไม่อยากทำให้ถูกจำ ถึงเวลาที่เขาโดนว่า เรื่องไปที่ร้านขายเซ็กส์

 「มันไม่เป็นไร รีบไปเหอะ……」   

สายตาของเขา ไปหยุดที่บริเวณหน้าอกของอัลม่า มันไม่เหมือนว่ามันถูกเปิดเผย และมันแม้แต่ไม่ได้ชัดเจนเลย ว่าเธอมีนมหรือไม่ แต่ชุดนอนบางๆของเธอ ไม่ได้ซ่อนกายเธอเลย เหตุผลที่อัลม่าที่ขี้อาย ให้ครอลล์ดูรูปลักษณ์แบบนี เพราะเธอลดการป้องกันใกล้ๆเขา ผู้ที่เธอ ปฏิบัติเหมือนพี่ชาย

 「เราโตมาด้วยกันนานแล้ว มันอาจจะไม่ใช่ที่พึ่งพาได้ที่สุด แต่นายคุยกับชั้น เกี่ยวกับอะระ-……」   

อัลม่ายิ้ม ขณะที่เธอถูกกอด ระหว่างที่ครอลล์เสียเหตุผลไป จากความรู้สึกที่นุ่มมนิ่ม และกลิ่นที่ลอยมาของเด็กสาว

—————————————————————

ตัวเอก: เอเกอร์ ฮาร์ดเลตต์ 22 ปี ฤดูใบไม้ร่วง เวลาสงคราม

ผู้บัญชาการกองทหารที่สาม

ทีมลูกน้อง: 45,900

กองทัพส่วนตัว: 8000 (หน่วยที่ถูกพามาเพื่อต่อสู้เท่านั้น)

ทหารราบ: 2500, ทหารม้า: 500. พลธนู: 700, ช่าง: 300, ทหารม้าธนู: 4000 ปืนใหญ่: 10 (ของแท้ 1)

กองทัพของอาณาจักร – 2 เหล่า: 29,900

กองทัพลอร์ดบริวารเพื่อนบ้าน: 8000

ไม่ได้อยู่ภายใต้การบัญชาการของตัวเอกอย่างเคร่งครัด

เพิ่มเติม – ทีมป้องกันราเฟน : 1000

ลูกน้องกองทัพ:

ลีโอโพลต์ (รองผู้บัญชาการสูงสุด), ซีเลีย (ผู้ช่วย), ไมล่า (ผู้บัญชาการ), อิริจิน่า (ผู้บัญชาการ), ลูน่า (ผู้บัญชาการของทหารม้าธนู), ปีปี้ (มาสคอต), ทริสตัน (เฝ้าบ้าน)

ตำแหน่งปัจจุบัน: ท่าแรนเดล

ความสำเร็จ: ยึดท่าแรนเดล

—————————————————————

<ผู้แปล: จะมีการใช้คำทับศัพท์มากขึ้นนะครับ>

 แปลโดย: wayuwayu

เป้าหมายเดือน 9/66

ค่าเน็ต 200/200

กาแฟ 200/300

คอมใหม่ 0/2000

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ถ้าท่านชอบและอยากอ่านเพิ่ม โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปลด้วยนะครับ ซื้อตอน จองตอน แจ้งได้ทาง Facebook ครับ