ตอนที่ 2

Earth’s Best Gamer

“ไม่”

จีเย่ไม่ได้เลือกเรียนรู้หมัดตั๊กแตนตำข้าวเจ็ดด้าน

หลังจากเก็บลูกศรที่ใช้แล้วทั้งหมด เก็บไอเทมที่ดร็อปทั้งหมดและกินเนื้อนาคอนด้าชิ้นหนึ่ง เขาใช้เวลา 10 นาทีในการสำรวจป่าที่ร้อนและชื่นก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำที่ซ่อนอยู่หลังหินก้อนใหญ่

เขาพบจุดซ่อนตัวนี้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน หลังจากสังหารผู้ที่อาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ซึ่งก็คือหมีดำระดับสามัญ อันดับ 7

ในระหว่างที่เขาอยู่ เขาออกเดินทางหลายครั้งเพื่อกำจัดมอนเตอร์ที่คุกคามอยู่โดยรอบถ้ำ และวางกับดักไว้หลายจุดเพื่อความปลอดภัยของเขา!

นอกเหนือจากขนสัตว์และเนื้อสัตว์แห้งในถ้ำแล้ว สิ่งที่สะดุดตากว่านั้นก็คือเครื่องประดับขนาดเล็ก

ตัวอย่างเช่น ขวดโคโลญจ์สีเหลือง ไฟแช็คซิปโป และใบมีดโดนหนึ่งกล่อง

สิ่งเหล่านี้ดร็อปออกมาหลังจากสังหารมอนเตอร์

โคโลญจ์ไม่มีประโยชน์สำหรับเขา

มันไม่ใช่ว่าจีเย่ชอบกลิ่นเหงื่อ แต่เพราะมีสิ่งมีชีวิตที่มีกลิ่นเหม็นมากเกินไปในป่า หากเขาใช้โคโลญจน์ มันก็จะเป็นการดึงดูดกลุ่มของตัวต่อทมิฬที่มีพิษเข้ามา

ไฟแช็คซิปโปนั้นมีประโยชน์มากทีเดียว หนึ่งในนั้นมีแม้กระทั่งรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นที่มีสีทอง

ในฐานะผู้รอดชีวิต จีเย่รู้วิธีก่อไฟหลายวิธี มันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาที่จะกินเนื้อดิบเหมือนเนื้ออนาคอนด้าสดที่เขาเพิ่งนำกลับมา!

สำหรับมีดโกน…

สาดดด!

ด้วยการใช้น้ำกรองที่เก็บรักษาไว้ในที่พักพิง จีเย่ได้ลอกสีอำพรางและโกนหนวดออกจากผิวสีแทนของเขาซึ่งแสดงให้เห็นใบหน้าที่แข็งกร้าวของชายหนุ่ม ใบหน้าที่คมชัด คิ้วเข้ม และผิวคล้ำทำใหห้เขาดูเป็นผู้ใหญ่ซึ่งแตกต่างจากไอดอลหนุ่มที่มีชื่อเสียงในรายการทีวี

“เรียนรู้”

เขานั่งลงบนพรมที่ทำจากอดีตเจ้าของถ้ำผู้โชคร้ายและหยิบลูกแสงที่มีสกิลใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับออกมา

[การเรียนรู้สกิล เสียค่าประสบการณ์ 10 แต้ม เสียค่าประสบการณ์ 10 แต้ม เสียค่าประสบการณ์…]

จากนั้นจีเย่ก็นั่งลงและไม่เคลื่อนไหว เขาดูเหมือนว่าจะเข้าสู่สภาวะว่างเปล่าในการทำสมาธิในนวนิยายแนวบ่มเพาะ

“อ่าาา…”

เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายชั่วโมง

แม้ว่าเขาจะดูทรุดโทรมไปเล็กน้อย แต่การมองเห็นที่แข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นจากออร่าใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับ

ความจริงก็คือโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงและแต้มประสบการณ์นับร้อย เขาได้รับความรู้เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ดั้งเดิมของโลก หมัดตั๊กแตนเจ็ดด้าน ที่จะทำให้เขาต้องใช้เวลาศึกษาอย่างขมักเขม้นหลายเดือนกว่าจะเข้าใจ

แม้แต่กล้ามเนื้อและมือของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับศิลปะการต่อสู้ที่เขาเพิ่งเรียนรู้มา

ถูกต้องแล้ว ใน ‘ดินแดนแห่งมรดก’ แห่งนี้มีกฏเหมือนกับเกม แต้มประสบการณ์ที่ได้รับจากการสังหารมอนเตอร์สามารถเปลี่ยนเป็น ‘ประสบการณ์’ ที่แท้จริงได้!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นสิ่งที่เขาทำให้เขาประหลาดใจมากที่สุด

ตามทฤษฏีแล้ว ทุกคนสามารถเรียนรู้อะไรก็ได้ไม่ว่าจะเป็น ศิลปะการต่อสู้ เทคโนโลยี ความรู้ ด้วยระยะเวลาอันสั้น ตราบเท่าที่พวกเขารวบรวมสิ่งที่จำเป็นได้

สำหรับระยะเวลาและค่าประสบการณ์ที่แน่นอนที่ต้องการ รวมถึงขีดจำกัดที่จะไปถึงนั้นทั้งหมดขึ้นอยู่กับการรับรู้ของส่วนบุคคล!

[คุณได้เรียนรู้ ‘หมัดตั๊กแตนเจ็ดด้าน (ความเชี่ยวชาญต่ำ)’ ]

การรับรู้ของจีเย่นั้นยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย ในครั้งแรกที่เขาบ่มเพาะ เขาได้ไปถึงขั้นความเชี่ยวชาญต่ำของหมัดตั๊กแตนเจ็ดด้านแล้ว

นอกจากนี้แม้ว่าหมักตั๊กแตนเจ็ดด้านจะถูกเรียกว่าเทคนิคหมัด แต่เพื่อกล่าวให้ชัดเจนก็คือ มันควรเป็นการผสมผสานระหว่าง ‘หมัดตั๊กแตน’ และ ‘ฟุตเวิร์คเจ็ดด้าน’ มันรวมถึงการเคลื่อนไหวด้วยมือที่หลากหลายซึ่งใช้ข้อมือ ขาและเทคนิคการต่อสู้….

“มันถูกสร้างขึ้นโดยการเลียนแบบท่าทางและเจตนาของตั๊กแตน ด้วยระดับเชี่ยวชาญต่ำ หมัดตั๊กแตนเจ็ดด้านควบคู่ไปกับความจริงที่ว่าร่างกายของฉันแข็งแกร่งกว่าคนธรรมดามากกว่าสองเท่า หากฉันต้องเผชิญหน้ากับตั๊กแตนตำข้าวหยกม่วงชั้นยอด ฉันก็ควรจะฆ่ามันได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ!”

เขารู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและพอใจมากขึ้น

เขากำลังพิจารณาว่าควรจะล่ามอนเตอร์อีกสักตัวเพื่อให้ได้รับประสบการณ์มากขึ้นก่อนที่ฟ้าจะมืด

[เวลาการทดสอบของคุณสิ้นสุดลง

คุณสามารถเลือกที่จะกลับไปยังตำแหน่งเดิมของคุณก่อนที่จะ ‘เข้าสู่ระบบ’

คุณจะได้รับพรสวรรค์ใหม่สำหรับการทดสอบสำหรับเผ่าพันธุ์ ‘มนุษย์’

ตามอันดับปัจจุบันของคุณ คุณสามารถเลือกที่จะรับสกิลพรสวรรค์ ‘มรดก’ หรือสกิลพรสวรรค์ระดับสมบูรณ์ที่หายากตามมาตรฐานการทดสอบ!]

ข้อความนั้นปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาในตอนที่เขาคาดหวังมันน้อยที่สุด

เดี๋ยวก่อน ฉันสามารถกลับโลกได้ใช่มั้ย?

ความสับสนใจตอนแรกของเขาถูกแทนที่อย่างรวดเร็วด้วยความตื่นเต้นที่ไม่สามารถควบคุมได้ในขณะที่เขาเข้าใจว่านี่หมายความว่าอะไร

นอกเหนือจากความกดดันทางจิตใจที่เกิดจากโลกที่อันตรายและมอนเตอร์รอบตัวเขาแล้ว เขายังกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่คาดเดาไม่ได้ของเขา

เขาเคยสงสัยเกี่ยวกับฐานะ ‘ผู้บุกเบิก’ การได้รับอนุญาตให้ ‘ออกจากระบบ’

ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าอย่างหลังก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างไม่ต้องสงสัย!

นอกจากนี้สาเหตุที่มันยากลำบากอย่างมากในเดือนที่ผ่านมาเป็นเพราะ ‘การทดสอบ’ งั้นเหรอ?

ตอนนี้เขาผ่านการทดสอบแล้ว เขาจึงสามารถเลือกรับ ‘สกิลพรสวรรค์’!

“สกิลพรสวรรค์?”

หลังจากผ่านประสบการณ์ชีวิตและความตายมานานกว่าหนึ่งเดือน จีเย่ก็สงบมากกว่าคนธรรมดามาก

ดังนั้นเขาจึงกลับมาสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วหลังจากความตื่นเต้นชั่วครู่

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ออกจากระบบทันที เขามุ่งความสนใจไปที่ ‘พรสวรรค์’ ที่กล่าวถึงในสองข้อความสุดท้าย

‘ฉันควรเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างพรสวรรค์ ‘มรดก’ หรือพรสวรรค์ระดับสมบูรณ์ดีนะ? อืมม…’

จากสิ่งที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้ เขารู้ว่าทุกสิ่งในดินแดนแห่งมรดกมีแนวโน้มว่าจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ระดับที่แตกต่างกันซึ่งได้แก่ ‘สามัญ’ ‘ขัดเกลา’ ‘ยอดเยี่ยม’ ‘เหนือชั้น’ และ ‘สมบูรณ์แบบ’

นอกจากนี้ไอเทมพิเศษบางชิ้นจะมีคำว่า ‘หายาก’ อยู่ข้างหลังซึ่งหมายความว่ามันหายากมากและอาจจะเป็นไอเทมเฉพาะ!

มันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหากเขาเลือกพรสวรรค์ ‘ระดับสมบูรณ์แบบที่หากยาก’ เขาจะสามารถได้รับสกิลที่ทรงพลังมากอย่างแน่นอน อย่างน้อยมันก็แข็งแกร่งกว่าหมัดตั๊กแตนเจ็ดด้านที่เขาเพิ่งได้รับมา

เหมือนที่เขาจำได้ มันเป็นเพียงระดับ ‘ยอดเยี่ยม’ แม้ว่าจะมีชื่อเสียงถึงจุดหนึ่งบนโลกก็ตาม

แต่มีบางอย่างเกี่ยวกับตัวเลือกอื่น…

“ฉันเลือกพรสวรรค์มรดก”

เขาตัดสินใจหลังจากผ่านการไตร่ตรองชั่วครู่

เหตุผลนั้นเรียบง่ายมาก โลกนี้ควรจะเป็น ‘ดินแดนแห่งมรดก’

[คุณได้รับพรสวรรค์มรดก : การผสาน]

“การผสาน…?”

ในขณะที่งุนงง เขาก็เรียก ‘หน้าต่างตัวละคร’ ของเขาขึ้นมาในใจของเขา

[ฝ่าย : มนุษย์ (โลก)]

[พรสวรรค์ : การผสาน (มรดก)]

[ระดับ : สามัญ อันดับ 8 (พบได้ทั่วไป)]

[สกิล : พลังทลายดิน (เชี่ยวชาญสูง) หมัดตั๊กแตนเจ็ดด้าน (เชี่ยวชาญต่ำ)]

[คลังเก็บของ : หน้าไม้ทลายดินสีทองแดง ใบมีดคู่หยกม่วง เสื้อโค้ทตั๊กแตนตำข้าวหมายเลข 1 ไฟแช็คซิปโป้ มีดโกน โคโลญจน์…]

เขาเปลี่ยนความสนใจของเขาไปที่คอลัมน์ ‘พรสวรรค์’

[การผสาน (สกิลพรสวรรค์)]

[ระดับ : สามัญ]

[ความหายาก : มรดก]

[รายละเอียด : ผสานองค์ประกอบไว้ในการครอบครองของคุณ ในปัจจุบันคุณสามารถผสานได้สององค์ประกอบระดับสามัญ]

นี่หมายความว่าฉันสามารถผสามสิ่งต่างๆ ได้ใช่มั้ย?

คำอธิบายสั้นๆ นี่ชัดเจนมาก

หลังจากอ่านจบ จีเย่ก็ตรวจสอบไอเทมของเขาเพื่อจินตนาการว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้างด้วยสกิลนี้

เขาสามารถผสานไฟแช็คเข้ากับใบมีดใหม่เพื่อทำให้มันพ่นเปลวไฟสีน้ำเงินได้ใช่มั้ย?

หรือจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาผสานใบมีดคู่หยกม่วงของเขากับหน้าไม้สีทองแดงของเขากัน? เขาจะได้รับอาวุธคอมโพสิตที่สามาถต่อสู้ระยะประชิดได้งั้นเหรอ?

หากเขาผสานน้ำหอมเข้ากับเซลล์ของเขา เขาจะสามารถทำให้เหงื่่อของตัวเองมีกลิ่นเหมือนโคโลญจน์ได้หรือไม่?

ต้องบอกว่าจีเย่พบว่าความคิดสร้างสรรค์ของเขากำลังไหลออกมา…

‘ไม่ๆๆๆ นั่นเป็นเรื่องไร้สาระ เดี๋ยวก่อน มันขึ้นว่า ‘องค์ประกอบ’ ’

ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่ควรจำกัดไอเทมใช่มั้ย?

ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างและสายตาของเขาก็เลื่อนไปที่ ‘คอลัมน์สกิล’ ของเขา

เขามองไปที่สกิล ‘ทลายดิน’ ที่เชี่ยวชาญสูงของเขาซึ่งเป็นสกิลอื่นที่เขามีก่อนที่จะเรียนรู้หมักตั๊กแตน

ชื่อของสกิลฟังดูคล้ายกับหน้าไม้ทลายดินสีทองแดงเพราะมันมาจากมอนเตอร์ตัวเดียวกัน

มันเป็นลูกวัวตัวเล็กที่มีความสูงน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของคน มันมีผิวสีทองแดงทั้งตัว แต่มันก็มีพลังที่เกินจริงจนสามารถเตะหัวของหมาป่าอันดับ 4 ที่พุ่งเข้ามาหามันได้!

นอกจากนี้มันยังเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นยอดตัวแรกที่จีเย่พบหลังจากเข้าสู่ดินแดนแห่งมรดก

เขาล่ามันโดยการใช้วิธีที่ดีที่สุดโดยการใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์โดยใช้กับดักที่วางไว้อย่างดีจำนวนมากและล่อมันด้วยอาหาร

เขาได้รับ ‘หน้าไม้ทลายดินสีทองแดง’ สารเสริมสร้างเซลล์ ‘ความแข็งแกร่งของวัว’ ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับร่างกายของตนเองได้โดยตรงเช่นเดียวกับ ‘พลังทลายดิน’ ที่เห็นได้ชัดว่าไม่ได้มีอยู่บนโลก

มันเป็นเพราะการเสริมทัพของทั้งสองอย่างทำให้สมรรถภาพทางกายของเขาสามารถไปถึง ‘ระดับสามัญ อันดับ 8 ’ ที่เหนือกว่าแชมป์กีฬาของโลก!

กลับไปที่คำถาม เขาสามารถรวมองค์ประกอบทั้งสองนี้ที่ชื่อดูคล้ายกันได้มั้ย?

บางทีอาจได้รับเทคนิคระดับสูงกว่า ตัวอย่างเช่น เขาสามารถบ่มเพาะพลังภายในในตำนาน แก่นแท้อันลึกลับ หรือแม้แต่พลังงานทางจิตวิญญาณในการบ่มเพาะการเป็นอมตะ?

ไม่จริง มันเป็นไปไม่ได้!

“ผสาน : ไฟแช็คซิปโปและหน้าไม้ทลายดินสีทองแดง!”

อย่างไรก็ตามหลังจากพิจารณาแล้ว จีเย่ก็ยังไม่ได้ผสานสกิลโดยตรง เขาเลือกไอเทมสองชิ้นแทน

หลังจากที่จีเย่ตัดสินใจแล้ว ‘หน้าไม้ทลายดินสีทองแดง’ และ ‘ไฟแช็คซิปโป’ ที่เขาถืออยู่ในมือของเขาก็เริ่มเรืองแสงด้วยแสงสีขาวและเปลี่ยนไปเป็นลูกกลมแสงที่คล้ายกับสินสงครามที่ตั๊กแตนตำข้าวหยกม่วงดร็อปออกมา

จากนั้นพวกมันก็ค่อยๆ เข้าใกล้กันและกัน

“รอ…”

และเมื่อลูกกลมแสงทั้งสองเข้ามาติดกัน

จีเย่รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างในใจของเขาในขณะที่เขาหลับตาลงในทันที

มันใช้เวลาประมาณ 10 นาทีเพื่อให้ลูกกลมกลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะเปิดเผยผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย

มันเป็นหน้าไม้ที่ใหญ่และหนักมากกว่าหน้าไม้สีทองแดงก่อนหน้านี้ พื้นผิวของมันเป็นสีเงินที่หรูหรา และโครงสร้างที่ดีของมันนั้นซับซ้อนมาก

มันยังคงมีโลโก้ ‘ซิปโป’ ติดไว้ด้านหนึ่ง!

[หน้าไม้ (ไร้ชื่อ)]

[ระดับ : วิสามัญ อันดับ 0 ]

[ความหายาก : เหนือชั้น (หายาก)]

[รายละเอียด : ผลลัพธ์จากการผสานที่ยอดเยี่ยมของหน้าไม้ทลายดินสีทองแดงและไฟแช็คซิปโป หน้าไม้คอมโพสิตที่มีโครงสร้างอันเป็นเอกลักษณ์ ลูกศรที่ยิงออกมาจะมีเอฟเฟกต์การเผาไหม้แบบต่อเนื่องพิเศษ!]

มันกลายเป็นไอเทมหายาก และระดับและคุณภาพของมันก็เพิ่มขึ้นทั้งหมด!

จีเย่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งและมองไปที่หน้าไม้สีเงินหนักในมือของเขา แววตาของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ

แม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นอะไรอย่าง ‘พิเศษ’ มาก่อน แต่มันก็เป็นเรื่องเล็กน้อยที่จะจินตนาการว่ามันอยู่ในระดับที่สูงกว่า ‘สามัญ’!

คุณภาพที่ดีขึ้นของไอเทมยังไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่สำคัญที่สุด

‘ตอนนี้ฉันสามารถจำขั้ยการของการผสานได้แล้ว รวมถึงรายละเอียดทุกขั้นตอนทางวิศวกรรมได้’

‘หากฉันเข้าใจวัสดุและเครื่องมือที่จำเป็นได้ ฉันสามารถลองสร้างหน้าไม้เพลิงแบบเดียวกันได้โดยไม่ต้องใช้สกิลนี้ ฉันแม้กระทั่งมั่นใจว่าสามารถทำซ้ำบนโลกได้หากพบวัสดุทดแทนที่มีลักษณะคล้ายกัน!’

ความสุขในแววตาของจีเย่นั้นไม่สามารถปกปิดได้

‘ใช่แล้ว ฉันเลือกถูกแล้ว’

เท่าที่เขาเห็น ‘พรสวรรค์’ ใหม่ของเขานั้นมีความสำคัญอย่างมาก

และนี่เป็นเพียงการผสานของไฟแช็คและหน้าไม้เท่านั้น

จากประเภทของไอเทมที่ดร็อปในดินแดนแห่งมรดก

‘จะเกิดอะไรขึ้นหากเขาสามารถประดิษฐ์ปืนไรเฟิลแห่งอนาคต ยาดัดแปลงยีนที่ทำให้ได้พลังเหนือธรรมชาติ หนังสือสกิลที่ช่วยให้ผู้คนบ่มเพาะ หรือม้วนเวทมนตร์ต้องห้ามได้ใช่มั้ย?’

อย่างไรก็ตามสกิลการผสานได้เข้าสู่ช่วงคูลดาวน์หลังจากใช้งานครั้งก่อน ดูเหมือนว่าเขาต้องรอเป็นเวลา 2 วันก่อนที่จะสามารถลองใช้งานมันใหม่ได้อีกครั้ง

ได้เวลากลับไปแล้ว

หลังจากแน่ใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจึง ‘ออกจากระบบ’