บทที่ 123 กายใจรวมเป็นหนึ่ง

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 123 กายใจรวมเป็นหนึ่ง

กลิ่นเหล้าหอมเตะจมูก จมูกของเจียงหยุนเอ๋อเต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ที่เข้มข้น แค่ดมกลิ่นก็ทำให้นิ้วชี้ของเธออ้าออก เธอคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนที่เห็นแก่เหล้าชั้นดี แต่ถูกกลิ่นเหล้าเย้ายวนที่ลี่จุนถิงยื่นมา ดื่มแล้วกลิ่นเหล้าหอมอบอวลในปาก แก้มก็แดงเล็กน้อย

เจียงหยุนเอ๋อหายใจเข้า พูดด้วยเสียงที่เบา: “เหล้านี้ไม่เลว กลิ่นหมอกลมกล่อม และไม่บาดคอ”

ดวงตาที่ตื่นเต้นของเธอเปล่งประกาย ลี่จุนถิงมองจนหายใจติดขัดเล็กน้อย จากนั้นก็พูดเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม: “เป็นไง ผมก็บอกแล้วว่าคุณต้องชอบแน่”

เธอพยักหน้า ก็ได้รินเหล้าให้ตัวเองอีกแก้ว แล้วไปชนแก้วเหล้าในมือของลี่จุนถิง “ไม่ง่ายเลยที่เราสองคนจะมีเวลาดื่มเหล้าด้วยกัน จุนถิง ฉันขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว”

ทั้งสองคนดื่มไปดื่มมาต่างดื่มไปไม่น้อย ดูเหมือนจะเมาเล็กน้อย แต่ว่ามันไม่ใช่เหล้าแรงอะไรมากมาย แม้ว่าเหล้าจะเข้าปากไปหลายแก้ว ทั้งสองคนยังคงมีสติ

อาจจะเป็นเพราะแสงจันทร์ที่มีเสน่ห์ในคืนนี้ บรรยากาศเป็นใจ ใบหน้าที่แดงเล็กน้อยของเจียงหยุนเอ๋อ อ่อนโยนและสวยงามภายใต้แสงไฟ ลี่จุนถิงเพียงรู้สึกปากแห้งเล็กน้อย อดไม่ไหวจึงได้ดึงตัวเจียงหยุนเอ๋อเข้ามา โอบกอดร่างเล็กของเธอไว้ในอ้อมแขน ปลายจมูกของเธอมีกลิ่นหมอของเหล้าและกลิ่นของเจลอาบน้ำบนร่างกายของเธอ มันช่างดึงดูดนัก

ลี่จุนถิงได้ซุกหน้าไว้บนคอของเจียงหยุนเอ๋อ การหายใจอย่างหนักและรวดเร็วพ่นลงบนผิวบอบบางของเธอ ทั้งคันทั้งร้อน เจียงหยุนเอ๋อทนไม่ไหวจนต้องหดตัว พูดด้วยเสียงที่เบา: “คันจัง”

เธอลองผลักมือของใครบางคนออก แต่กลับถูกตอบสนองด้วยแรงที่เพิ่มมากขึ้น หัวใจของเจียงหยุนเอ๋อเต้นเร็วขึ้น ตามมาด้วย น้ำเสียงที่แหบแห้งดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ : “คันตรงไหน หือ?”

เจียงหยุนเอ๋อหายใจติดขัด เงยหน้าขึ้นมาจากอกของเขา กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ก็ได้ถูกลี่จุนถิงใช้ปากกดทับริมฝีปากเธอเอาไว้ มีเพียงเสียงอู้ๆอี้ๆดังออกมา……..

ร่างในอ้อมอกที่กำลังสัมผัสนั้นอยู่ รู้สึกถึงความร้อนระอุ ไม่ใช่ภาพในร่างที่คลุมเครือในความทรงจำ ด้านความสุขทางร่างกายดูเหมือนจะดุเดือดร้อนแรงมากขึ้น

จากนั้น เจียงหยุนเอ๋อร่างกายเมื่อยล้าหมดแรง หลับไปด้วยความเหนื่อยล้า แม้กระทั่งลี่จุนถิงช่วยเธอทำความสะอาดร่างกายเธอยังไม่รู้สึกตัวเลย

กลางดึก เจียงหยุนเอ๋อตื่นจากฝัน หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่รู้ว่าฝันอะไร สีหน้าเธอดูกระวนกระวาย รีบยื่นมือออกไปข้างเตียง ลี่จุนถิงไม่ได้อยู่บนที่นอน สีหน้าเธอเปลี่ยนไปทันที ในใจรู้สึกว่างเปล่าขึ้นมาทันที รีบร้อนลงจากเตียง

ในใจเฝ้าโทษแต่ตัวเอง ทำไมจึงได้หลับลึกขนาดนี้ คนข้างกายไม่อยู่ก็ยังไม่รู้ตัวเลย

จนกระทั่งเจียงหยุนเอ๋อผลักประตูห้องข้างๆออก ก็ได้เห็นร่างใหญ่ร่างน้อยนอนอยู่บนเตียง ใจที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายจึงได้ถูกวางลง รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

ถวนจื่อที่อยู่ในอ้อมกอดของลี่จุนถิงน่ารักน่าเอ็นดู นอนหลับอย่างหอมหวาน เจียงหยุนเอ๋อเห็นท่ากอดเด็กของลี่จุนถิง ที่แฝงด้วยความหมายของการปลอบโยน ทันใดนั้นก็เข้าใจขึ้นมา

ต้องเป็นเพราะเด็กน้อยตื่นขึ้นมากลางดึก ไม่เห็นแม่อยู่ข้างกายก็เลยร้องไห้โวยวาย บังเอิญตัวเองหลับลึก ลี่จุนถิงจึงได้ไปปลอบโยนดูแลถวนจื่อแน่เลย? คิดถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาก็อ่อนลง

มองดูลี่จุนถิงที่หลับตาอยู่ เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ้มๆ จากนั้นก็ได้ขึ้นไปบนเตียงอย่างเบาๆ นอกลงด้านหลังของลี่จุนถิง กอดเอวที่หนาแน่นของลี่จุนถิงอย่างเบามือ แล้วก็หลับตานอน

ทั้งสามคนหลับฝันดีตลอดคืน

นอกหน้าต่างท้องฟ้าใกล้จะสว่าง เดิมทีลี่จุนถิงก็ได้วางแผนไว้ว่าจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ได้คลานอยู่บนเตียงมองดูสองแม่ลูก หัวเราะเบาๆ: “หมูขี้เกียจสองตัว ตื่นได้แล้วจ้า ไม่อย่างนั้นเราจะพลาดดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วนะ”

เจียงหยุนเอ๋อลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียแล้วเอามือนวดตรงหน้าผาก มองเพดานห้องอย่างเหม่อลอย จึงได้ถูกใครบางคนดึงตัวขึ้นมา ถวนจื่อตื่นคนสุดท้าย ทำให้ไม่มีเวลาทานข้าวเช้ากันในห้อง จึงได้ซื้อแซนด์วิชสามอันก็ออกเดินทาง

“แด๊ดดี๊ ยังอีกไกลมั้ย?” ถวนจื่อที่เกาะอยู่หลังของลี่จุนถิงหายใจหอบ ถามด้วยท่าทางที่อ่อนแรง

“อีกประเดี๋ยวก็ถึงยอดเข้าแล้ว”

“อ่อ”

“เจ้าเด็กน้อย หนูก็ไม่ได้ปีนเขาเอง ทำไมจึงเหนื่อยเพียงนี้?” เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกขำขัน

ถวนจื่อกลอกลูกตา หัวเราะแฮ่ๆ: “ผมเหนื่อยแทนแด๊ดดี๊ไงครับ”

เจียงหยุนเอ๋อหัวเราะส่ายหัวอย่างจำยอม

ตอนเช้าบนยอดเขาลมเย็นโชยมาเป็นระยะๆ เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อเหมือนจิตจะส่งถึงกัน ต่างจามในเวลาเดียวกัน ลี่จุนถิงได้ให้เขาทั้งสองดื่มน้ำอุ่น ทั้งสามคนอาบแดดยามเช้า ในใจนั้นมีความสุขความสงบ

ลงจากเขา ทั้งสามคนก็ได้เดินเที่ยวในเมืองโบราณ ก่อนที่จะจากไป ความรู้สึกเหมือนยังเที่ยวไม่พอ โดยเฉพาะถวนจื่อ หันกลับไปมองด้วยสายตาที่เสียดายหลายรอบ

เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงได้รับปากเขาของเพียงมีเวลา ก็จะพาเขามาเที่ยวบ่อยๆ

วันนี้ในห้าปีที่แล้ว ในสถานที่เดิม เจียงหยุนเอ๋อจู่ๆก็ปล่อยวางเรื่องหลายเรื่องภายในคืนเดียว คนในความฝันเมื่อคืนชัดเจนเพียงนี้ ความฝันที่เลือนรางเมื่อห้าปีก่อน จะมีอะไรให้น่าคิดถึงอีก?

ลี่จุนถิงเพิ่งกลับถึงบริษัท ซู่จี้งยี้ก็เข้ามาที่ห้องทำงาน เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งขรึม

“ท่านประธาน ช่วงที่คุณไม่อยู่บริษัท คุณป้าของคุณ ดูเหมือน…….จะเข้าใกล้คุณแม่คุณมากเป็นพิเศษ เธอยังได้เงินจากคุณแม่ของคุณห้าร้อยล้านหยวน ไปลงทุนเปิดบริษัทเครื่องสำอาง”

ลี่จุนถิงขยับเนทไท นั่งลงบนเก้าอี้หัวเราะอย่างเยือกเย็น: “เธอยังทำเรื่องอะไรอีก?”

ซู่จี้งยี้นิ่งไปสักพัก ก็กล่าวขึ้น: “ก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร จู่ๆก็ได้มีเรื่องกับดาราชายคนนั้น กำลังคิดหาทางที่จะยกเลิกสัญญาของดาราชายคนนั้น ตอนนี้กำลังหายืมเงินไปทั่ว ทำให้ฉาวโฉ่ไปทั่ว…….”

ซู่จี้งยี้พูดอย่างระมัดระวังจนจบ ก็ได้เห็นสีหน้าของลี่จุนถิงนั้นดูมืดมนจนดูแย่มาก ดวงตาที่เรียวยาวเต็มไปด้วยความเย็นเยือก

ลี่จุนถิงพูดอย่างเยาะเย้ย: “เธอไม่มีวันที่จะอยู่สงบนิ่งๆได้เลยจริงๆ เรื่องของเธอ นายไม่ต้องยุ่ง ไม่ว่าเธอจะเล่นลูกไม้อะไรก็แล้วแต่ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน เธอจะไปหาเงินผิดสัญญาที่มากมายมหาศาลนี้จากที่ไหน หากเธอหาได้จริง ก็ถือว่าเธอเก่ง”

ซู่จี้งยี้พยักหน้า ในใจกลับรู้สึกกังวลแทนคุณป้า นิสัยของประธานลี่ มีหรือคนใกล้ชิดอย่างเธอจะไม่เข้าใจ? ดูท่าทาง คงจะโกรธคุณป้าจริงๆแล้ว

จู่ๆเขาก็มีความรู้สึกเหมือนจะเกิดเรื่องราวที่ใหญ่โต