ตอนที่ 93 ท่านแม่ นั่นคือหมาป่า !

หลินเว่ยเว่ยสาวน้อยจอมพลัง

พี่รอง ท่านกลับมาแล้ว เหนื่อยหรือไม่ ? ได้ซื้อเนื้อกลับมาหรือเปล่า ? เจ้าหนูน้อยวิ่งไปรอบตัวหลินเว่ยเว่ยอย่างตื่นเต้นยินดี หากเขามีหางก็คงส่ายไปมาแน่นอน

หลินเว่ยเว่ยจึงจงใจแกล้งเขา ไม่ได้ซื้อมา ! ถ้าเราอยากกินเนื้อ…กระต่ายหลังบ้านเรากำลังตัวอวบอ้วนพอดี เจ้าก็ฆ่าสักตัวเพื่อมาทำอาหารสิ !

เจ้าหนูน้อยได้ยินเช่นนั้นก็รีบพูดทันที ข้าไม่ได้อยากกินเนื้อขนาดนั้น ! ท่านแม่บอกไว้ว่าช่วงนี้อากาศร้อน กินอะไรที่สดชื่นหน่อยถึงจะดี ! มะเขือยาวผัดน้ำมันที่พี่รองทำอร่อยกว่าเนื้ออีก เย็นนี้พวกเรากินมะเขือยาวผัดกันเถิด

หลินเว่ยเว่ยยิ้มกว้างอย่างดีใจ เด็กน้อยขี้งกเช่นเจ้าเลี้ยงกระต่ายไว้เยอะเพียงนั้นแต่ไม่ยอมกิน เจ้าจะเก็บไว้ขายตอนปีใหม่หรือ ?

เจ้าหนูน้อยจึงพูดเออออตามไปหมด พี่รอง รอให้กระต่ายมีลูกเยอะ ๆ จนใส่ในคอกไม่หมด แล้วเราค่อยฆ่ามันกิน หรือไม่ก็นำมันไปขายแลกเงิน หากเรากินมันตอนนี้ ในอนาคตมันจะคลอดลูกกระต่ายให้เราได้เช่นไร ?

หลินเว่ยเว่ยเอานิ้วจิ้มปลายจมูกน้องชายแล้วกล่าวพลางหัวเราะ ไม่ต้องกังวล ไม่กินกระต่ายของเจ้าหรอก เจ้าดูสิ ข้าซื้อกระดูกและเนื้อมา แล้วเย็นนี้ข้าจะทำกระดูกหมูตุ๋นสมุนไพรให้ซด !

พี่รองซื้อเนื้อกับกระดูกมาอีกแล้ว ประเดี๋ยวท่านแม่ก็บ่นว่าท่านใช้เงินมือเติบอีกหรอก เวลานี้เจ้าหนูน้อยถอนหายใจออกมาราวกับผู้ใหญ่

หลินเว่ยเว่ยเห็นเช่นนั้นก็อดบีบแก้มนุ่มของเขาไม่ได้ เงินที่เรานำมาใช้จ่ายในครอบครัวไม่ได้มาจากการใช้เงินที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่มาจากการที่เราทำงานแลกมา พวกเราต้องกินของดีเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรงจะได้ไม่ป่วยง่าย เจ้าลองคิดสิว่าเราป่วยครั้งหนึ่งต้องใช้เงินเท่าไร แล้วเงินพวกนั้นซื้อเนื้อได้มากน้อยเพียงใด !

เจ้าหนูน้อยพยักหน้าอย่างรู้ความ ใช่แล้ว ! หากให้เทียบกับการดื่มยารสขม สู้นำมาซื้อเนื้อไว้กินบำรุงร่างกายดีกว่า ที่ท่านแม่ป่วยเพราะไม่ยอมกินข้าวก็เลยสุขภาพย่ำแย่ !

นางเฝิงหัวเราะในขณะที่มองหลินเว่ยเว่ยเย้าแหย่กับน้องชาย แต่จะว่าไปแล้วที่เด็กสาวกล่าวมาก็ถูกต้องทั้งหมด เพราะการกินให้ท้องอิ่มจะเรียกว่าสิ้นเปลืองได้เช่นไร !

เมื่อกลับถึงบ้าน นางเฝิงเพิ่งหยุดพักผ่อนได้ไม่นานก็เริ่มมาทำลูกท้ออบแห้งต่อทันที ส่วนหลินเว่ยเว่ยก็ขึ้นไปบนภูเขาแล้วแบกลูกท้อกลับมาอีกหนึ่งกระบุง จากนั้นนางก็รับหน้าที่ล้าง ปอกเปลือกและต้มลูกท้อ แม้แต่พี่สาวคนโตก็ยังรีบกลับบ้านมาช่วยงานตั้งแต่ต้น

นางหวงทำงานหนักไม่ไหวแต่ก็ยังพอเป็นลูกมือให้ได้ หลังจากทุกคนแบ่งหน้าที่ทำงานกันอย่างขยันขันแข็งเป็นเวลากว่าสองชั่วยาม ในที่สุดก็ได้ลูกท้อเชื่อมหนึ่งร้อยกว่าชั่งแล้วนำมาผึ่งลมตรงลานบ้าน

กลางดึกที่เงียบสงัด สายลมยามค่ำคืนพัดโชยมาให้ความรู็สึกเย็นสบาย บุตรสาวคนโตที่นอนอยู่ในห้องใหญ่กับนางหวงถูกบางสิ่งปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจ นางลองเงี่ยหูฟังก็ได้ยินเสียงเคาะประตูไม้ดังมาจากสวนหลังบ้าน

นางนึกขึ้นได้ว่าหลังบ้านเลี้ยงกระต่าย แพะ กวางและแม่ไก่เอาไว้ ‘คงไม่ใช่…ขโมย’ ครอบครัวของนางอาศัยอยู่ปากทางเข้าหมู่บ้าน ในครอบครัวก็มีแต่ผู้หญิงและเด็ก ถ้าเป็นโจรขึ้นมาแล้วจะทำอย่างไร ?

บุตรสาวคนโตหวาดกลัวมาก นางหันไปมองนางหวงที่กำลังหลับสนิทอยู่ข้างกาย ตอนนี้ร่างกายของมารดาไม่แข็งแรง ต้องกินยาบำรุงร่างกายทุกวัน ดังนั้นนางจะทำให้มารดาตกใจกลัวไม่ได้

จริงสิ ! หลินเว่ยเว่ยมีพละกำลังมากมาย หากมีนางอยู่ด้วยต่อให้เป็นโจรสองคนก็น่าจะรับมือไหว…จริงหรือไม่ ?

เสียงเคาะและเสียงกระแทกประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง บุตรสาวคนโตจึงค่อย ๆ ลงจากเตียงแล้วสวมรองเท้าอย่างเงียบเชียบ จากนั้นก็รีบวิ่งไปที่ห้องตะวันตกซึ่งเป็นห้องของหลินเว่ยเว่ย

หลินเว่ยเว่ยตกใจตื่นเพราะเสียงเคาะประตูที่ดังรัวไม่หยุด นางใช้เวลาลืมตาตื่นอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินไปเปิดประตู เมื่อเห็นว่าเป็นพี่สาวมารบกวนการนอนหลับ นางจึงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า ดึกดื่นป่านนี้ไม่หลับไม่นอน มาเคาะประตูห้องข้าด้วยเหตุใด ? หากเจ้าไม่ให้คำตอบที่เหมาะสม ข้าจะตีเจ้าเดี๋ยวนี้ !

มี…มีโจรบุกเข้ามาในสวนหลังบ้าน ! พี่สาวกลัวจนใกล้จะร้องไห้ ทำเช่นไรดี ?

ว่าอย่างไรนะ ? หลินเว่ยเว่ยตาสว่างทันที นางเดินไปหยิบจอบที่ลานบ้านแล้วกล่าวว่า จะทำเช่นไรได้อีก ? ก็ต้องจัดการสิ อย่าให้มันกลับออกไปได้ !

หลินเว่ยเว่ยเดินอย่างองอาจไปที่สวนหลังบ้าน หลังจากที่พี่สาวลังเลได้สักพักก็คว้าไม้คานหาบกระบุงขึ้นมาแล้วทำใจกล้าเดินตามไป

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าของหลินเว่ยเว่ยแล้ว เสียงเคาะที่ด้านนอกประตูไม้แสนทรุดโทรมก็หยุดลง

ผู้ใด ! หลินเว่ยเว่ยจับด้ามจอบเอาไว้แน่น จากนั้นนางก็ตะโกนถามออกไปด้วยเสียงเคร่งขรึม

ทันใดนั้นก็มีเสียงหอนสั้น ๆ ของหมาป่าดังมาจากด้านนอกประตู เมื่อพี่สาวได้ยินดังนั้นก็กระโดดโหยงจนคานหาบที่อยู่ในมือร่วงลงพื้น ท่านแม่ ! หมาป่า ! นั่นคือหมาป่า ! !

หลินเว่ยเว่ยฟังออกว่าคือเสียงของเจ้าเทาเพราะเสียงหอนของมันมีเอกลักษณ์จำได้ง่าย ตอนที่มันหอนถึงช่วงท้ายจะใช้เสียงหลบเล็กน้อย

นางจึงหันไปมองพี่สาวที่แข้งขาอ่อนจนทรุดตัวนั่งกับพื้น จากนั้นนางก็ทำมือทำไม้ส่งสัญญาณให้พี่สาวเบาเสียงลง เลิกตะโกนได้แล้ว อยากปลุกท่านแม่กับน้องสี่หรือไร ? อย่าทำให้พวกเขาตกใจตื่น หมาป่าน่ากลัวตรงไหน ?

พี่สาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เจ้า เจ้าไม่คิดว่าหมา…หมาป่าตัวเดียวน่ากลัว แล้ว…ถ้าพวกมันมาเป็นฝูงล่ะ ? ข้าเคยได้ยินซุนเอ้อร์หยาเล่าว่าที่หมู่บ้านทางใต้ของภูเขา ช่วงกลางดึกมีหมาป่าประมาณ 3 ตัวบุกเข้ามาในบ้านหนึ่ง ครอบครัวของพวกเขาทั้งห้าถูกหมาป่ากัดตายหมด…

พอแล้ว เลิกทำให้ตัวเองกลัวได้แล้ว ! ที่นี่ไม่มีฝูงหมาป่าหรอก มีแค่หมาป่าตัวเดียวเท่านั้น ! ระหว่างที่พูดหลินเว่ยเว่ยก็เดินไปปลดกลอนที่ประตูหลัง

ทันใดนั้นเสียงของพี่สาวที่กำลังหวาดกลัวอยู่ก็เปลี่ยนไป เจ้าทำอันใด ? อย่าเปิดประตูนะ ! หมาป่าไม่เข้ามา บางทีมันอาจจะไปแล้ว เจ้า…เจ้าลองคิดสิว่าในบ้านของเรายังมีท่านแม่ น้องเล็ก…นางน้องบ้า ! !

พี่สาวเบิกตากว้างแล้วตะโกนออกมาด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อเห็นว่าหลินเว่ยเว่ยเปิดประตูหลังแล้ว ทันใดนั้นนางก็ร้องตะโกนเสียงสูงจนทำลายความเงียบยามค่ำคืนหมดสิ้น

ห้องที่อยู่ตรงกับด้านหลังของพวกนางมีเสียงของนางหวงดังขึ้น หลินเฉียงเอ๋อร์ ? เจ้าไม่หลับไม่นอน วิ่งไปทำอันใดอยู่หลังบ้าน ?

เมื่อประตูหลังถูกเปิดแง้มออกไป ทันใดนั้นก็มีหัวสีเทายื่นเข้ามาจากรอยแยกของประตู ดวงตาสีอำพันแสนสุขุมของมันคล้ายเปลวไฟสองดวงที่คอยให้แสงสว่างในยามค่ำคืน มันจับจ้องไปที่พี่สาวของหลินเว่ยเว่ยด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

เจ้าเทา…ไม่สิ จ่าฝูงเจ้าเทา ไม่ไปนอนกับหมาป่าตัวเมียของเจ้า ดึกดื่นเช่นนี้วิ่งมาที่นี่ทำให้ผู้อื่นหวาดกลัวด้วยเหตุใด ? หลินเว่ยเว่ยย่อตัวลูบศีรษะเจ้าเทาอย่างเบามือต่อหน้าต่อตาพี่สาวที่ใกล้จะเป็นลมเต็มทน

เจ้าเทาละสายตาที่ดูแคลนออกจากพี่สาวคนโต จากนั้นกวางแดงตัวใหญ่ก็ถูกลากมาจากด้านนอกประตู

ว้าว ! เจ้าเอามาให้ข้าหรือ ? หลินเว่ยเว่ยกอดเจ้าเทาด้วยความซาบซึ้งใจ ใบหน้าของนางซุกไซ้อยู่ตรงซอกคอของมัน หมาป่ารู้คุณคนจริงด้วย นางเคยช่วยชีวิตมันไว้ มันจึงล่าสัตว์มามอบให้เพื่อเป็นการตอบแทน !

พี่สาวค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นจากพื้นด้วยแข้งขาสั่นเทา นางคอยมองจากในระยะไกล มันน่าทึ่งมาก ! ตั้งแต่หลินเว่ยเว่ยตกไปในสระน้ำก็เปลี่ยนเป็นคนละคนราวกับมีเทพเซียนมาใช้ร่าง ไม่โง่เขลาเหมือนอดีตแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังคิดหาเงินเก่งอีกด้วย แถมตอนนี้ยังสามารถทำให้หมาป่ายอมจำนนได้ คงไม่ได้…ถูกวิญญาณร้ายในป่าเขาสิงใช่หรือไม่ ?

แม้จะถูกวิญญาณสิงร่าง แต่นางก็ไม่เคยทำร้ายผู้ใดมาก่อนและยังดูแลทุกคนในครอบครัวเป็นอย่างดี มีแต่จะทำให้ครอบครัวใช้ชีวิตสุขสบายขึ้นทุกวัน วิญญาณเช่นนี้ต่อให้มาสิงเพิ่มก็ไม่เป็นไร !

หลินเว่ยเว่ยคุยกับเจ้าเทาได้สักพักก็เริ่มสำรวจมองเหยื่อที่เจ้าเทานำมามอบให้ ว้าว ! เป็นกวางแดงที่ตัวใหญ่มาก เจ้าเทามีสายตาเฉียบคมไม่เบา มันเลือกกวางแดงตัวโตที่มีอายุประมาณ 1 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่เนื้อกวางแดงจะมีคุณภาพและมีรสชาติยอดเยี่ยมที่สุด เจ้ากวางแดงตัวนี้น่าจะหนักอย่างน้อย 200 ชั่งได้เลย รับรองว่าต้องขายได้ราคาดีแน่นอน !

หลินเว่ยเว่ยคิดได้เช่นนั้นก็ชื่นชมเจ้าเทาอีกยกใหญ่

ตอนต่อไป