ตอนที่ 40 หลินฟ่าน ผู้น่าสงสาร

หลังจากที่ เซี่ยหว่านชิว พยักหน้าใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดง นี่คืออีกครั้งหนึ่งที่ หลินฟ่าน จะยอมทำเพื่อเธอ นั่นคือการเขียนบทละครให้กับเธอ

” นี่ หลินฟ่าน นายคงไม่ได้ต้องการแกล้งฉันอีก ใช่ไหม” เซี่ยหว่านชิว เงยหน้าขึ้นมองตา หลินฟ่าน และเขาก็ทำเหมือนอยากจะแสดงร่วมกับเธออยู่เหมือนกัน นั่นหมายความว่าเขาอาจกำลังแกล้งอะไรเธอบางอย่าง

” นี่เห็น ฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง”หลินฟ่าน

พูดจริงจัง

“ก็ใครจะรู้ล่ะ” เซี่ยหว่านชิว บ่นพึมพำ

“เธอเชื่อจริงๆงั้นเหรอว่าฉันจะเขียนบทได้ ฉันเคยเขียนมันเป็นเวลาสามปีแล้วหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย แต่ไม่มีใครอ่านหนังสือที่ฉันเขียนและฉันมักจะถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว” หลินฟ่านยิ้ม

เซี่ยหว่านชิว มองไปที่ หลินฟ่าน และยิ้มหวาน “ฉันเชื่อว่านายจะทำได้อยู่แล้ว”

ไม่ใช่ว่าเธอไม่ต้องการแสดงฉากจูบ แต่เธอแค่อยากแสดงฉากจูบกับคนที่เหมาะสมอย่างเช่น หลินฟ่าน

อย่างไรก็ตามหลินฟ่านไม่เคยออกรายการโทรทัศน์มาก่อนจะสามารถปรากฏตัวในละครกับเธอได้อย่างไร

แต่เธอก็ยังมีความไว้วางใจว่า หลินฟ่าน และไม่เชื่อว่า หลินฟ่าน จะสามารถเขียนบทที่ดีได้มาก

” ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่ทำอะไรที่เธอคิดไว้ละกัน แต่ที่สำคัญคือจะได้เงินค่าเขียนบทด้วย” หลินฟ่าน ยิ้มในที่สุดเขาก็รับปากจะเขียนบท แน่นอนว่ามันจะต้องทำเงินได้และเป็นไปไม่ได้ที่จะเขียนมันโดยเปล่าประโยชน์เหมือนเช่นเมื่อก่อนอีกแล้วเพราะตอนนี้เขาได้รับระบบ ทักษะนักเขียนมาแล้ว

“แน่นอนฉันจะช่วยนาย เต็มที่เลยถ้าถึงเวลานั้น” เซี่ยหว่านชิว ทำหน้าน่ารัก

“ฉันจะถ่ายโฆษณากับเสี่ยวหยู ในวันนี้และฉันอาจจะต้อง ถ่ายทำรายการวาไรตี้ด้วย พอหลังจากนั้นช่วงพักนายต้องไปที่ บริษัท เพื่อรับฉันและเสี่ยวหยู ไปกินข้าวกับนาย และฉันจะจ่ายเงินด้วยนะ” เซี่ยหว่านชิว บอกกับ หลินฟ่าน” อย่าลืมว่ารับปากแล้วต้องเตรียมสลัดผักให้ฉันทุกวัน “

” ไปกันเถอะ พาฉันไปที่บ้านของ เสี่ยวหยู ฉันต้องทำงานแล้ววันนี้ “เซี่ยหว่านชิว ส่งแผนที่ ที่ หลินฟ่าน ทางโทรศัพท์

“งั้นก็ออกไปขึ้นรถ” หลินฟ่าน พา เซี่ยหว่านชิว ออกจากประตูและไปที่โรงรถข้างๆ

เมื่อเปิดประตูโรงรถ เซี่ยหว่านชิว ก็ตะลึง

เบื้องหน้าของเธอมีรถสปอร์ตเท่ห์ ๆ สองคันและรถสามล้อ

เธอพอจะรู้จักรถสองคันนี้คันแรกคือ บูกัทติ ลาโวชูนั่วร์ และคันที่สองคือ เคอร์นิกเส็กก์ วัน

รถสปอร์ตสองคันล้วนเป็นรถสปอร์ตราคาหลายร้อยล้าน!

และไม่ต้องสงสัยเลยว่ารถทั้งสองรุ่นนี้ล้วนเป็นรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของโลก

” หลินฟ่าน นายอาศัยอยู่ในวิลล่าหรูและยังมีรถสปอร์ตอีกสองคันเหรอ ฉันอยากจะเป็นลม ทำไมฉันไม่เคยรู้เลย” เซี่ยหว่านชิว รู้สึกเวียนหัว

มองจากดวงตาที่สวยงามของเธอตอนนี้มีความสุขแทน หลินฟ่าน เธอคิดว่าเขาต้องทำงานหนักขนาดไหนที่ผ่านมา ในระหว่างที่เรียนมหาวิทยาลัยและจนถึงตอนนี้ หลินฟ่าน ก็ประสบความสำเร็จแล้ว เธอมีความสุขและยินดีมากจริงๆ

เธอต่างผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่จะกรีดร้องเมื่อเห็นรถสปอร์ต

แต่อีกมุมหนึ่งในความคิดเธอก็รู้สึกสงสารหลินฟ่าน ไม่รู้ว่าเขาต้องผ่านความพยายามและความยากลำบากมากมายขนาดไหน บางทีไม่อาจจินตนาการได้ ต้องการสู้เพื่อทรัพย์สินหลายร้อยล้าน

เซี่ยหว่านชิว หันกลับมาและมองไปที่ หลินฟ่าน เสียงของเธออ่อนโยนมาก “หลินฟ่าน เราแทบไม่ได้ติดต่อกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมากขนาดไหนกันถึงได้มีทรัพย์สินเหล่านี้”

หลินฟ่าน ยิ้มและเปิดประตูรถของ บูกัทติ

“ช่างมันเถอะน่า…ขึ้นรถสวมหน้ากากและหมวกด้วย อย่าให้คนอื่นจำเธอได้” เซี่ยหว่านชิว ทำหน้ามุ่ย เพราะเธอมีทรัพย์สินหลายร้อยล้านและมีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ถึงความยากลำบากและอื่น ๆ เธอก็เริ่มต้นจากศูนย์ แต่มาถึงปัจจุบันได้ต้องแลกกับความเหนื่อยที่คนทั่วไปคาดไม่ถึงเลย

“หลินฟ่าน มันยากมากกว่าจะมีเงินมากมายฉันรู้ แต่ได้ทำไมถึงไม่เคยขอให้ฉันช่วยอะไรนายเลยเมื่อตอนที่นายลำบาก “

เธอยินดีที่จะช่วยเหลือ หลินฟ่าน หากมีปัญหาอะไรก็ตาม แต่ หลินฟ่าน ไม่เคยมาหาเธอเพื่อขอความช่วยเหลือเลย

หลังจากขึ้นรถแล้วเขาก็คาดเข็มขัดนิรภัยและ หลินฟ่าน ก็พา เซี่ยหว่านชิว และขับรถไปบนถนนของเมืองเมจิกซิตี้

หลินฟ่าน ขอให้ เซี่ยหว่านชิว นั่งเบาะหลังเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นเธอ

มีสาว ๆ กรี๊ดตลอดทาง

“อื้อหือ บูกัทติ คันนี้อีกแล้ว พี่ชายคนนี้หล่อสุด ๆ !!”

“หล่ออะไรกันเนี่ยอาจจะเป็นผู้ชายตัวใหญ่ก็ได้ รถอาจจะราคาไม่กี่ล้านและอาจจะเป็นรถมือสองละมั้ง”

“ห๊ะ เธอรู้อะไรไหม นี่คือ ลิมิเต็ดอิดิชั่น ทั่วโลกมีไม่กี่คัน มีรถสปอร์ตมือสองที่ไหนและขายในราคา 126 ล้าน! “

“ฉันเคยเห็นน้องชายคนนี้ เขาขับรถ บูกัทติ บนถนนเมื่อสองสามวันก่อนและจะไม่มีใครนั่งมาด้วย น้องชายรูปหล่อของฉัน เขาต้องยังไม่มีแฟนแน่ๆ”

” … “

เสียงสาวๆที่พบเห็นหลินฟ่านขณะขับรถผ่านทำให้ สาวๆเหล่านั้นได้ชุ่มชื้นหัวใจเหมือนเช่นเคย

เซี่ยหว่านชิว พอจะสามารถมองเห็นคนนอกรถได้ แต่ผู้คนที่อยู่บริเวรนั้นไม่สามารถมองเห็น เซี่ยหว่านชิว ได้

เมื่อใดก็ตามที่ เธอเห็นหน้าของสาว ๆ เหล่านี้เธอก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างสดใสเธอเข้าใจแล้วว่าทำไม หลินฟ่าน ถึงไม่อยากโกรธและเธอก็เข้าใจด้วยว่าทำไม หลินฟ่าน ถึงไม่คิดที่จะตอบรับคำเชิญชวนของ ซู่หยาง ให้มาเป็นศิลปินของ บริษัท

แค่ขับรถสปอร์ตก็มีสาว ๆ มากมายที่อยากจะไล่ตาม หลินฟ่าน ถ้าเขาเป็นดาราดังก็จะไม่มีทางสงบสุขได้เลย เพราะสาวๆเหล่านี้คงจะเฝ้าถึงประตู ชุมชนลานโบ๋หว่าน ตลอดเวลา

เซี่ยหว่านชิว รู้สึกอบอุ่นในใจและยินดีกับการที่มีคนรักและชื่นชมหลินฟ่านมากมายขนาดนี้

แต่หลังจากนั้นไม่นาน หลินฟ่าน ก็ขับรถลงมาที่บ้านของ ซูเสี่ยวหยู

ซูเสี่ยวหยู รออยู่ที่นี่เป็นเวลานาน โดยถือแตงกวาชิ้นหนาอยู่ในมือและก็ไม่มีคนอยู่แถวนั้นเลย

หลังจากกัดแตงกวาซูเสี่ยวหยู ก็ไปพบ บูกัทติ ค่อยๆจอดลงที่ชั้นล่าง

เมื่อเปิดประตูรถ หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว ต่างก็เดินลงมา

คุณหนูไฮโซอย่าง ซูเสี่ยวหยู ยังต้องตะลึง

เธอมองไปที่ หลินฟ่าน จ้องหน้าเขาอย่างเฉื่อยชา พูดอะไรไม่ออก

เธอคิดว่า หลินฟ่าน จะขี่รถสามล้อ หรืออาจขับรถธรรมดามา แต่เธอคิดผิดไปมาก เขาขับรถ บูกัทติ มาส่ง เซี่ยหว่านชิว

ซูเสี่ยวหยู ไม่รู้จัก บูกัทติ คันนี้ แต่เธอมีโทรศัพท์มือถือหลังจากหาข้อมูลอย่างรวดเร็วเธอก็พบว่า … บูกัทติ คันนี้เป็นรถหรู รุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่นของโลก ราคา 126 ล้าน

แม้แต่ ซูเสี่ยวหยู ก็ไม่สามารถซื้อรถสปอร์ตแบบนี้ได้ หากจะบอกว่าต้องมีเงินทุนหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านเพื่อซื้อรถสปอร์ต แล้ว หลินฟ่าน จะร่ำรวยขนาดไหน?

ทรัพย์สินของ หลินฟ่าน ควรมีอย่างน้อย 500 ล้านหยวนหรือ1,000ล้านหยวน!

เธอไม่รู้มาก่อนว่าหลินฟ่านรวยขนาดไหน

” หว่านชิว หลินฟ่าน มีรถสปอร์ตที่ราคาถึง 126 ล้าน ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน” ซูเสี่ยวหยู โล่งใจและจับแขนของเซี่ยหว่านชิว

” เขายังมีบ้านพักตากอากาศใจกลางทะเลสาบมูลค่ากว่า 200 ล้านหยวน ในชุมชน ลานโบ๋หว่าน เขาเปิดร้านอาหารเล็ก ๆนั้น เพื่ออยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุข หลินฟ่าน ดีกว่าเราสองคนเยอะมาก” เซี่ยหว่านชิว มองไปที่ หลินฟ่าน รู้สึกมีความสุขเล็กน้อยในใจ ท้ายที่สุดใครไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักเป็นดั่งเจ้าชาย หรือเทพบุตรทั้งนั้น

“ว้าวว้าวว้าว !!! หลินฟ่าน ฉันขอยกย่องคุณในฐานะอาจารย์ได้ไหมเนี่ย”

ซูเสี่ยวหยู ดูประหลาดใจ วิลล่า 200 ล้าน ในใจกลางทะเลสาบ รถสปอร์ต 100 ล้านปรากฎว่า หลินฟ่าน เก่งมาก อายุเพียงเท่านี้ก็มีทรัพย์สินย์มากมาย

แม้ว่าเธอจะเป็นดาราดัง แต่เงินที่เธอหามาได้จะถูกแบ่งตามข้อตกลงของ บริษัท แม้ว่าเธอจะสามารถซื้อวิลล่าและรถสปอร์ตได้ แต่เธอก็ไม่มีเงินเหลือเลยหลังจากซื้อมันแล้ว

นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากสำหรับเธอและ เซี่ยหว่านชิว ที่จะหารายได้สี่หรือห้าพันล้านได้สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้าสู่วงการบันเทิงได้ไม่กี่ปีแม้ว่าพวกเขาจะเป็นดาราดังแล้วก็ตาม

“เสี่ยวหยู ดูเธอให้ความสนใจกับหลินฟ่านนะตอนนี้” เซี่ยหว่านชิว หัวเราะเบา ๆ และเกาแขน ซูเสี่ยวหยู

“ว้าว! หลินฟ่าน ฉันจะไปบ้านของคุณได้ไหมเย้..เย้..ไปที่วิลล่าหลังใหญ่ของคุณกับ หว่านชิว เพื่อทานอาหารด้วยกันอีก!” ซูเสี่ยวหยู ส่งเสียงเชียร์โดยยังไม่สามารถซ่อนความตื่นเต้นของเธอได้ ที่สำคัญคือ เธอติดใจรสชาติอาหารในวันนั้นมาก และจะต้องได้กินของอร่อยแบบนั้นอีก

“ต้องได้อย่างแน่นอนสิ” หลินฟ่าน ยิ้ม

เมื่อเห็น หลินฟ่าน และ เซี่ยหว่านชิว มาด้วยกัน

ซูเสี่ยวหยู ยิ้มเจ้าเล่ห์และเข้าใจอะไรบางอย่างเธอมองไปที่ เซี่ยหว่านชิว และ หลินฟ่าน แล้วถามด้วยเสียงต่ำ “หว่านชิว…. เธออยู่ที่บ้าน หลินฟ่าน เมื่อคืนนี้ทั้งคืนเลยใช่ไหม?”

หลังจากฟังคำพูดของ ซูเสี่ยวหยู แล้ว เซี่ยหว่านชิว ก็ก้มลงใบหน้าที่สวยงามของเธอก็แดงมากขึ้น

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของ เซี่ยหว่านชิว แล้ว ซูเสี่ยวหยู ยิ้ม “อ่อ..ฉันเข้าใจแล้ว” แต่เธอก็สงสัยว่า หลินฟ่าน พา เซี่ยหว่านชิว ไปที่บ้านได้ยังไงเมื่อมีแต่นักข่าวคอยมองหาพวกเขาตลอดเวลา