ตอนที่ 36: ความโชคดี

ทันทีที่เซินเหยารู้ว่าเสี่ยวเฉิงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เธอก็พลันเดินเข้ามาและห้ามเขาเอาไว้ทันที “นายชนะคนพวกนี้ไม่ได้หรอก พวกเขาเป็นถึงหุ้นส่วนใหญ่ของคาสิโนเชียวนะ ฉันว่านายน่าจะโดนกระทืบตายก่อนที่จะชนะเดิมพันแน่”

ในฐานะผู้หญิงตัวเล็กจอมหัวรั้น เซินเหยาเองก็รู้เรื่องของพวกแก๊งสี่จตุรเทพมาพอตัว ด้วยเหตุนั้น เธอจึงไม่คิดว่าเสี่ยวเฉิงจะชนะในศึกครั้งนี้ได้ เขาไม่ควรที่จะเข้าไปพัวพันกับคนพวกนี้เลยด้วยซ้ำ

“ไม่ลองแล้วจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ?” เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ

“ที่นี่มีแต่พวกนักพนันมากฝีมือทั้งนั้น นายคิดว่าตัวเองจะชนะหรือยังไงกัน? อีกอย่าง แต่ละโต๊ะก็มีแต่พวกนักพนันมากประสบการณ์ แล้วนายเป็นใครกันล่ะ? พวกมือใหม่ไง! พวกมือสมัครเล่น! แถมยังคิดที่จะเอาชนะคนพวกนั้นอีกเนี่ยนะ?” เซินเหยาพลันขมวดคิ้ว “ฟังฉันนะ อย่าเข้าไปยุ่งกับคนพวกนี้เลย ไม่ว่าพวกแก๊งเสือขาวจะหัวรุนแรงขนาดไหน แต่พวกเขาก็ไม่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สาธารณะหรอก อย่างมากสุด เพื่อนนายก็คงจะถูกต้อนให้จนมุมแล้วก็ต้องลาออกไป”

“เธอคิดการสมัครเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมันง่ายมากหรือยังไงกัน?” เสี่ยวเฉิงพลันกรอกตาและมองไปยังเซินเหยา “ถ้าเขาต้องถูกไล่ออก เธอคิดว่าจางจะไปหางานที่มั่นคงแบบนี้ได้จากไหนอีกล่ะ? คิดว่าทุกคนมีชีวิตที่สุขสบายเหมือนตัวเองหรือยังไงกัน? เธอคงจะไม่เข้าใจความยากลำบากของคนธรรมดาสินะ”

“นายช่วยพูดกับฉันให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือยังไงกัน? ฉันก็แค่อยากจะช่วยเองนะ! สาเหตุที่เพื่อนนายถูกพวกแก๊งเสือขาวจับตัวมาก็น่าจะเป็นเพราะเขาไปทำเรื่องที่ไม่ควรทำนั้นแหละ” เซินเหยากล่าว “จะบอกให้นะว่าถ้าเป็นเรื่องเงินสองแสนหยวน ฉันเต็มใจให้นายแบบไม่ต้องคืนเลยก็ได้! แต่ฉันขอล่ะ… อย่าเข้าไปพัวพันกับคนพวกนี้เลย พวกเขาไม่ใช่คนที่นายควรจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยเลย”

เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังฉางเหรินที่กำลังรู้สึกหวาดกลัวและถูกเทปปิดปากเอาไว้ เขาเผยสีหน้าสุดสิ้นหวังและมองตรงมายังเสี่ยวเฉิงราวกับกำลังขอร้องให้ช่วย ท้ายที่สุดแล้ว เสี่ยวเฉิงก็พลันกัดฟันและกล่าวคำพูดกับชายวัยกลางคนตรงหน้า “แล้วจะเดิมพันแบบไหนล่ะ?”

“นี่คือชิปมูลค่าหนึ่งร้อยหยวน ชิปก็คือเบี้ยที่ใช้แทนเงินเพื่อเล่นพนัน ฉันจะให้เวลาครึ่งชั่วโมง… ถ้านายกลับมาพร้อมกับชิปมูลค่าหนึ่งแสนหยวนได้ ก็เอาตัวเพื่อนนายกลับไปได้เลย”

“หือ?” เซินเหยาพลันคิดว่าโอกาสที่เสี่ยวเฉิงจะกลับมาพร้อมกับชิปหนึ่งแสนหยวนนั้นมีน้อยมาก “เหตุผลของบรรดานักพนันก็คือต้องการกำไร แต่ใครจะไปทำกำไรให้ได้มากกว่าเงินจำนวนเดิมตั้งหนึ่งพันเท่าได้กันล่ะ? จากหนึ่งร้อยเป็นหนึ่งแสน? ยังไงก็เถอะ ถ้านายเริ่มเล่นด้วยเงินสักหนึ่งหรือไม่ก็สองหมื่นหยวน มันก็ยังคงมีโอกาสที่นายจะหาเงินแสนมาได้… แต่นี่นายต้องหาเงินให้ได้หนึ่งแสนหยวนทั้งที่มีเงินเริ่มต้นแค่หนึ่งร้อยหยวนภายในเวลาสามสิบนาทีเนี่ยนะ? อันที่จริง มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยด้วยซ้ำ!” เซินเหยาพลันรู้สึกได้ทันทีเลยว่าคนพวกนี้กำลังกลั่นแกล้งเสี่ยวเฉิงอยู่ “ขนาดนักพนันที่เก่งที่สุดในคาสิโนนี้ยังทำแบบนั้นไม่ได้เลยมั้ง!”

ทว่า ชายวัยกลางคนพลันกล่าวคำพูดแทรกขึ้นมา “ถ้าไม่กล้า ก็ออกไปจากที่นี่เสียเถอะ!”

ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงพลันถามกลับ “ฉันเล่นโต๊ะไหนก็ได้ใช่ไหม?”

ชายวัยกลางคนพลันยักไหล่ “อ่า”

จากนั้น เสี่ยวเฉิงจึงเอื้อมมือไปหยิบชิปมาจากมือของผู้ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

ทันใดนั้น เสี่ยวเฉิงก็เดินออกมาจากห้องทำงาน เซินเหยาเองก็เดินตามเขามาด้วยเหมือนกัน “นายบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”

“ยังไม่เรียกว่าบ้าหรอกน่า… ถ้าจางรู่เหลียนถูกไล่ออกเพราะว่าทำผิดจริง ฉันก็จะไม่พูดอะไรเลย แต่เธอก็เห็นอยู่ ถ้าเขาต้องมาถูกไล่ออกเพียงเพราะกับดักที่ไอ้พวกบัดซบนั่นวางไว้แต่แรกเพื่อตามหาแล้วก็จัดการฉันล่ะ? มันไม่ยุติธรรมเลยนะ! ยังไงก็เถอะ มันก็ต้องลองดูซักตั้ง!” เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ

เซินเหยาพลันกล่าวคำพูด “ถ้าวางเดิมพันด้วยเงินทั้งหมดลงไป นายก็มีโอกาสชนะแพ้อยู่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์… แล้วถ้านายแพ้ ทุกอย่างก็จบ! แต่ถ้าชนะ นายก็จะได้เงินกลับมาแค่สองร้อยหยวนเองนะ! แต่คนบ้าพวกนั้นต้องการเงินตั้งหนึ่งแสนหยวนภายในครึ่งชั่วโมง!”

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันชนะเดิมพันจนได้เงินมาสองร้อยหยวน แล้วเอาสองร้อยไปลงอีก ก็ได้มาอีกสี่ร้อยหยวน แล้วเอาไปลงอีก ก็ได้มาแปดร้อยหยวน แล้วเอาไปลงอีก ก็ได้มาหนึ่งพันหกร้อยหยวน… แล้วก็ทำแบบนั้นต่อไปเรื่อย ๆ ล่ะ?” เสี่ยวเฉิงพลันถามขึ้น

เซินเหยาพลันเผยเสียงหัวเราะออกมา “นักพนันที่เก่งที่สุดในโลกยังทำอะไรแบบนั้นไม่ได้เลย คิดว่ามันจะเป็นแบบนั้นไปตลอดหรือยังไงกันล่ะ? ดูเหมือนว่านายจะมั่นใจในตัวเองมากไปหน่อยแล้วนะ! อีกอย่าง นายเองจะรู้ได้ไงว่าตัวเองจะไม่แพ้พนันตั้งแต่ครั้งแรก? เว้นแต่นายจะโกงไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง… แต่ยังไงนายก็หลบหนีจากสายตาของพวกเจ้ามือไปไม่ได้หรอกน่า อันที่จริง ก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่านายเป็นพวกผู้ชายอวดดีแล้วก็เข้าใจยาก แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วแหละว่านายก็ไม่ต่างอะไรกับพวกคนโง่เลย”