หยวนชิงหลิงดึงมือกลับทันที พลางผลักเขาออก “ท่านทำอะไร?”

หยู่เหวินเห้าจ้องหน้านาง “หมายความว่าไงทำอะไร?”

“หน้าของท่าน!” หยวนชิงหลิงต่อว่าเขา ไม่นึกเลยว่าเขาจะเป็นคนลามก

หยู่เหวินเห้าสบถออกมา “เจ้าต่างหากละที่ขยับเข้ามา ขาแค่ต้องการจะเอาหัวออก เจ้าจะได้ไม่ล่วงเกินข้า”

“ฟังดูแล้วข้าผิดอย่างนั้นหรือ?”

“หรือจะให้ข้าผิดหรือ?ข้าบอกให้เจ้าขยับเข้ามาหรืออย่างไร?”

เขานั่งหลังตรง พร้อมกับพูดเสียงแข็ง “มันจะทำไมหรือ?ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นซะหน่อย อีกอย่าง ข้าเองก็ยังถูกเจ้าเห็นทุกอย่างแล้ว ข้าก็ไม่เห็นเป็นอะไร”

หยวนชิงหลิงมีสีหน้าอยากจะร้องก็ร้องไม่ออก “ตอนนั้นข้าทำไปเพื่อทำแผลให้ท่าน”

“ใครใช้ให้เจ้าเข้ามายุ่งวุ่นวาย?”

“ถ้ารู้ก่อนข้าก็จะไม่สนใจ ปล่อยให้หลังจากนี้กลับมาเดินไม่ได้ แล้วไม่ให้มีลูกมีหลานสืบต่อไป” หยวนชิงหลิงรู้สึกว่าความโกรธของนางตอนนี้เริ่มควบคุมไม่อยู่แล้ว นี่ก็เป็นเพราะว่า เขาทำมากเกินไป

“เจ้าเป็นชายาของข้า ข้าไม่มีลูกหลาน เจ้าเองก็ไม่มีเหมือนกัน”

“หลังจากนี้ท่านต้องปลดข้า” หยวนชิงหลิงพูดพลางหลี่ตา “เราสองคนมีพันธสัญญาต่อกัน”

“ก่อนที่จะคิดถึงเรื่องนี้ เจ้ากลับไปทบทวนคำสัญญาของเจ้ากับเสด็จพ่อก่อนเถอะ เจ้าบอกว่าจะมีหลานให้พระองค์ภายในหนึ่งปี” เขาพูดเสียงเยือกเย็น

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นอย่างสบายใจ “หนึ่งปี อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายรอบ ตอนนี้ถึงข้าคิดไปก็เปล่าประโยชน์”

หยู่เหวินเห้าไม่พูดอะไร แต่ในใจของเขารู้สึกไม่พอใจบางอย่าง

เพราะว่านางพูดออกมาอย่างสบายใจ และเพราะว่านางพูดว่าเปลี่ยนแปลงหลายรอบ

จากนั้นจึงไม่มีใครพูดอะไร และทั้งสองต่างก็ขยับออกห่างกัน เพราะรังเกียจกันและกัน

พอกลับมาถึงจวน หยวนชิงหลิงก็กลับไปที่หอเฟิ่งหยีทันที

ภายในนั้น หยวนชิงผิงกำลังกินน้ำต้มถั่วแดงที่แม่นมทำให้กิน พอเห็นว่านางกลับมาแล้ว ด้วยท่าทางไม่พอใจ “ทำไมพึ่งกลับมา?”

“มีบางเรื่องทำให้ล่าช้า” หยวนชิงหลิงนั่งลง พลันหันไปมองน้ำต้มถั่วแดงที่ดูน่ากิน “แม่นม เอามาให้ข้าถ้วยหนึ่ง”

“มีเรื่องล่าช้าอะไรหรือ?” หยวนชิงผิงถามขึ้น

“เรื่องเล็กน้อย” หยวนชิงหลิงมองนางที่กำลังจ้องตัวเองอยู่ ด้วยสีหน้ากังวลใจเล็กน้อย ก็อดแปลกใจไม่ได้ น้องสาวคนนี้ดูพอใช้ได้เลยทีเดียว

“ท่านฉลาดขึ้นหน่อยไม่ได้หรือ?” หยวนชิงผิงพูดขึ้นอย่างกังวล

“ไม่มีอะไรจริงๆ”

หยวนชิงผิงไม่เชื่อนางเลยสักนิด แต่ว่าเรื่องนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่นางจะมากังวลได้

นางจึงพูดขึ้น “ฮูหยินรองสั่งให้ข้าคอยจับตาดูท่านว่าความสัมพันธ์กับท่านอ๋องนั้นเป็นไปตามที่ท่านพูดหรือไม่”

“อืม” หยวนชิงหลิงตอบขึ้นด้วยความเหม่อลอย

หยวนชิงผิงกินไปสองคำก็วางลง แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโห “ทำไมท่านถึงไม่สนใจล่ะ?ที่จวนต้องการสอดแนมท่านเป็นเพราะมีเป้าหมาย ทำไมสมองของท่านถึงได้เลอะเลือนขนาดนี้?”

หยวนชิงหลิงมองหน้านางที่อยู่ดีๆ ก็โกรธขึ้นมา จึงหัวเราะ “มีเป้าหมายอะไร?”

“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง?ต้องเป็นคำสั่งท่านพ่อ ถ้าหากว่าท่านช่วยท่านพ่อไม่ได้ งั้นสุดท้ายต้องมีผลลัพธ์ที่ร้ายแรงแน่นอน ข้าดูออกว่าท่านกับท่านอ๋องไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจริง”

หยวนชิงหลิงเองก็คิดอย่างนั้นจึงพูดขึ้น “เจ้าเองก็ดูเป็นคนคิดปรุโปร่งนะ”

หยวนชิงผิงจึงพูดขึ้นอย่างไม่ประสบอารมณ์ “ปรุโปร่งอะไร?ไม่กี่ปีมานี้ท่านพ่อลงทุนไปเพื่ออะไร ใครบ้างไม่รู้?ข้าเองก็ไม่ได้โง่”

“นั่นมันเรื่องของเขา เจ้าไม่ต้องไปสนใจ” หยวนชิงหลิงพูด

หยวนชิงผิงหัวเราะออกมา “ไม่ต้องสนใจงั้นหรือ?ข้าเองก็ไม่อยากสนใจ แต่ว่าข้าจะทำอะไรได้ เรื่องงานแต่งข้าท่านพ่อก็ได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่รอขายข้า เพื่อเปิดทางให้อนาคตของเขาได้ดี”

“เรื่องแต่งงานของเจ้าได้เตรียมไว้แล้วงั้นหรือ?ทำไมข้าถึงไม่รู้เรื่อง?” หยวนชิงหลิงอึ้ง ไม่ใช่ว่านางพึ่งจะเป็นสาวหรือ?ทำไมถึงรีบวางแผนงานแต่งให้นางแล้ว?

“วันเดือนปีเกิดของข้าก็ได้เอาไปให้แล้ว”

“เป็นใครหรือ?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น

หยวนชิงผิงตอบเสียงเยือกเย็น “ฉู่ต้าโหย่ว”

“ฉู่ต้าโหย่วเป็นใคร?”

แม่นมสี่ที่อยู่ด้านข้างจึงพูดขึ้น “หลานชายของโสว่ฝู่ฉู่ อายุสามปีกว่าแล้ว ภรรยาเอกคนที่สามตายแล้ว”

“เจ้าพึ่งจะอายุสิบห้าปี แต่งกับคนอายุสามปีกว่าเพื่อเป็นอนุงั้นหรือ?แบบนี้ใช้ได้ที่ไหน!” หยวนชิงหลิงได้ฟัง ก็โมโห เจ้าพระยาจิ้งเป็นบ้าไปแล้วหรือ?แบบนี้มันเป็นการเหยียบย่ำลูกสาวตัวเองเลยนะ

“ท่านพ่อบอกว่า ถือว่าข้าเอื้อมสูงขึ้นแล้ว ถึงเขาจะอายุสามสิบกว่า แต่ว่าเข้าได้เป็นถึงพระยาหุ้ยติ่ง ฐานะสูงส่ง”

“แล้วจะยังไง?” หยวนชิงหลิงถามขึ้น

“ไม่ยังไง ทำได้แค่ฟังคำสั่ง” หยวนชิงผิงก็ยังพูดออกมาเสียงแข็ง นางพึ่งอายุสิบห้าปี แต่สามารถมองทะลุปรุโปร่ง ในเรื่องการแต่งงานของตัวเอง นางไม่มีอำนาจที่จะออกความคิดเห็น

หยวนชิงหลิงจึงถามแม่นมสี่ “เจ้าพระยาหุ้ยติ่งเป็นคนอย่างไร?”

แม่นมสี่ตอบ “พระชายาลองไปถามท่านอ๋องได้เพคะ ตั้งแต่ท่านอ๋องอายุสิบห้าก็ได้ออกรบ และติดตามเจ้าพระยาหุ้ยติ่งที่อายุประมาณสี่สิบปีในตอนนั้น ท่านอ๋องถึงจะตอบได้ดี”

หยวนชิงหลิงหันไปมองหน้าหยวนชิงผิงที่ดูไม่ค่อยดี “เจ้าคงจะไปสืบมาก่อนแล้วใช่หรือไม่?”

หยวนชิงผิงหน้าซีด “ไปสืบแล้ว เป็นคนเหี้ยมโหด”

เหี้ยมโหดสองคำนี้ เกรงว่าจะเป็นแค่การพูดทั่วๆ ไป

ทันใดนั้นหยวนชิงหลิงก็เข้าใจทันที นางไม่ได้อยากอยู่ที่นี่กับตัวเอง แต่อยากจะหลบสักหน่อย เพื่อให้ได้หายใจ

สิบห้าปี นักเรียนมอต้นนะ

เพื่ออนาคตตัวเองเจ้าพระยาจิ้งลงทุนทำถึงขนาดนี้เลย

หยวนชิงผิงมองนางด้วยสายตาจ้องเขม่น “ข้าเคยโกรธเกลียดท่าน ถ้าหากว่าท่านได้ครอบครองหัวใจของอ๋องฉู่ แล้วช่วยให้ท่านพ่อเลื่อนตำแหน่ง บางทีข้าอาจจะไม่ต้องแต่งกับเจ้าพระยาหุ้ยติ่ง แต่ข้าก็รู้ว่าการคิดแบบนี้มันเห็นแก่ตัวเกินไป”

หยวนชิงหลิงหันไปมองหน้าตาที่ดูไม่พอใจ เด็กมอต้นต้องมาแบกรับพวกนี้ ถือว่าเกินอดแล้ว

“ท่านมีวิธีช่วยข้าหรือไม่?ข้าไม่อยากแต่งกับพระยาหุ้ยติ่ง ข้าไม่อยากตาย” หยวนชิงผิงน้ำตาเอ่อล้นขอบตา เหมือนกับว่าน้ำตานั้นได้อดกลั้นไว้นานแล้ว พอได้ยินคำพูดขอร้องของนาง ก็อดจะร้องไห้ตามไม่ได้

หยวนชิงหลิงนิ่งไป ในยุคสมัยนี้ เรื่องแต่งงานนั้นเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่เป็นคนจัดการ คนอย่างพี่สาวนางที่เคยทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นด้วย จะมีสิทธิ์พูดอะไรได้?

“ไม่ได้ใช่หรือไม่?” หยวนชิงผิงหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น พลางเอามือเช็ดน้ำตา “ข้ารู้ว่าขอร้องท่านไปก็เปล่าประโยชน์ ท่านเองก็ยากที่จะเอาตัวรอด จะมาดูแลข้าได้อย่างไร?”

หยวนชิงหลิงพูดขึ้นด้วยความลำบากใจ “เรื่องแต่งงานของเจ้า ข้าไม่มีอำนาจเข้าไปขัดขวาง”

“ท่านทำไม่ได้ แต่ถ้าหากว่าท่านเป็นคนโปรด ก็สามารถขอให้ท่านอ๋องช่วยขัดขวางได้ เขาเป็นถึงอ๋องฉู่ เพียงแค่เขายอมพูดสองสามความว่าพระยาหุ้ยติ่งไม่เหมาะสม ท่านพ่อต้องฟังเขาแน่นอน แต่ว่าท่านไม่สามารถขอร้องท่านอ๋องได้ ใช่หรือไม่?” หยวนชิงผิงจ้องนาง

หยวนชิงหลิงก็ยังไม่ยอมพูด ว่าขอร้องได้หรือไม่?นางยังไม่กล้ารับปาก นางเองก็ไม่อยากจะให้คำมั่นสัญญากับหยวนชิงผิง เพราะถ้าหากว่าไม่สามารถทำสำเร็จ ก็อาจจะทำให้หยวนชิงผิงผิดหวัง

“พระชายา น้ำต้มถั่วแดง…..” แม่นมถือเข้ามาให้ บรรยากาศของสองคนพี่น้องดูกลัดกลุ้ม ไม่ควรจะอยู่นาน

หยวนชิงหลิงรับเอา แล้วค่อยๆ ดื่ม ที่นางเคยมั่นใจในตัวเองนั้นตอนนี้ดูแล้วไม่มีประโยชน์เลย

หยวนชิงผิงฮึบน้ำตาเข้าไป พร้อมกับพูดอย่างผิดหวัง “ช่างเถอะ ท่านเองก็เจอเรื่องหนักหนา อีกทั้งก่อนหน้านี้ข้าก็ทำไม่ดีกับท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องช่วยข้า”

หยวนชิงหลิงนึกขึ้นมาในหัว วันก่อนคำพูดของนางนั้นถือว่าแทงใจดำมาก และชอบพูดประชดคนอื่น

แต่ว่านางก็มีความอ่อนโยนอยู่บ้าง อย่างเช่น ทุกครั้งที่เจ้าของร่างเดิมถูกพ่อแม่ต่อว่า นางก็จะช่วยพูด และของที่เจ้าของร่างเดิมชอบ นางก็ไม่ค่อยแย่ง ถึงแม่ว่านางก็ชอบเหมือนกัน

ความสัมพันธ์ระหว่างสองคนพี่น้องนั้นถือว่าแน่นอยู่ แต่ว่าไม่มีทางที่จะไม่มี

บางที นางเองควรจะพูดขอร้องหยู่เหวินเห้า