ตอนที่ 155 การเดินทางที่โลลิสนุกสนานเริ่มต้นขึ้น

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

155 การเดินทางทำงานต่างประเทศที่สนุกสนานเริ่มต้นขึ้น

 

“ไม่เลยครับ ริโนะซังเป็นคนผิดเหมือนกันนะครับ อยากให้บอกผมเร็วกว่านี้สักหน่อย”

 

อุมุ ช่างเป็นใบหน้าที่สกปรกและเต็มไปด้วยความโลภเสียจริง

ใบหน้าของเขาเหมือนกับรวบรวมทุกสิ่งจากส่วนลึกของการกระทำ……ไม่เพียงแต่ทุกมุมของร่างกายของเขา แต่แม้แต่แก่นแท้ของหัวใจของเขาก็ยังถูกปกคลุมไปด้วยความโลภ

 

ถึงจุดนี้ยิ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างน่าชื่นชม

ใช่ หากซ่อนเอาไว้ได้ไม่ดีพอ จะกลายเป็นการเสียมารยาทและดูขัดเกลามาไม่ดีพอ มาถึงตอนนี้……ม๊า ถึงจะไม่ค่อยดี แต่ทำตัวเข้าใจง่ายแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

 

ทอร์ก・เซโดนี

เขาเป็นลูกชายของมาร์จู・เซโดนี ประธานบริษัทเซโดนี และตัวเขาเองก็เป็นพ่อค้า ดูเหมือนว่าเขาจะได้พบกับริโนกิสในคราบนักผจญภัยริโนะหลายต่อหลายครั้ง แต่นี่เป็นการพบกันครั้งแรกของฉันกับเขานับตั้งแต่ฤดูหนาวที่ฉันไปแว็ง เดอ ครุช

 

การที่ทอร์กมีสีหน้าละโมบแบบนี้ คงเพราะเขาได้ยินข้อมูลที่ฉันรั่วไหลไปให้มาร์จูในช่วงก่อนวันหยุดฤดูร้อน

ก่อนกลับบ้านในช่วงวันหยุดยาว ฉันได้ไปทักทายบริษัทเซโดนี ผู้ซึ่งช่วยเหลือฉันในหลาย ๆ ด้าน และฉันก็เผลอเล่าให้ฟังอย่างไม่ได้ตั้งใจว่าจะใช้เงินจำนวนพันล้านครัมยังไง

 

――ลงทุนในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ที่จะจัดขึ้นในปลายปีหน้า

 

เมื่อพิจารณาจากจำนวนเงิน พวกเขาน่าจะสามารถคาดเดาขนาดของทัวร์นาเมนต์ได้

เขาจึงได้มีใบหน้าเช่นนี้

 

ม๊า ในฐานะพ่อค้า หากเขาไม่เข้าใจคุณค่าของข้อมูลนั้น ฉันก็คิดว่าเขาไม่มีคุณค่าพอที่จะเป็นพ่อค้าอีกต่อไป ถึงจะพูดแบบนั้น ก็อยากให้ซ่อนไว้สักหน่อยอยู่ดี เพราะเขาไม่ควรแสดงใบหน้าแบบนั้นให้เด็กเห็น ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอันดำมืด กับฉันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าเป็นเด็กทั่วไปคงร้องไห้ไปแล้ว

 

“ซ้าซ้า เชิญขึ้นเรือสิครับ เพื่อน ๆ ของคุณรออยู่แล้ว อ้า แม่หนูระวังเวลาเดินด้วยน่ะ”

 

เราได้รับการต้อนรับจากทอร์กที่ยิ้มแย้มแจ่ใส และขึ้นเรือความเร็วสูงรูปปลาเป็นครั้งที่สอง

 

 

 

ฉันใช้เวลาหลายวันในการถ่ายทำในดินแดนลิสตันอย่างที่คาดไว้ ซึ่งไม่มีอะไรนอกจากนรก และในที่สุดก็ได้รับการปลดปล่อยเมื่อคืนนี้

จริง ๆ แล้วฉันไม่อยากที่จะจำไว้เลย อยากจะรีบ ๆ ลืมไปซะด้วยซ้ำ ทว่าเบนเดริโอ้ไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น

 

เช่นเดียวกับครั้งที่ไปแว็ง เดอ ครุชในฤดู พวกเราปลอมตัวกันตอนอยู่บนเกาะหลักของดินแดนลิสตันเป็น「นักผจญภัยริโนะ และลูกศิษย์ ลิลลี่」 และขึ้นเรือความเร็วสูงที่ถูกเตรียมไว้สำหรับพวกเราในครั้งนี้ 

 

โชคดีที่ทริปออกล่าครั้งนี้จะเน้นการเดินทางด้วยเรือความเร็วสูง

พูดอีกอย่าง ระยะของการออกล่านั้นจะกว้างมาก และดันประสิทธิภาพเวลาไปได้จนสูงสุด

 

ในขณะที่ฉันกำลังทำงานตามตารางงานอันเลวร้ายซึ่งอัดแน่นเต็มไปหมด ฉันก็ดีใจที่สามารถสะสมเวลาได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์

 

ยังไงก็ตาม สัปดาห์หน้าก็จะเต็มไปด้วยความรุนแรง! ฉันจะสนุกกับการต่อยสัตว์อสูรทุกชนิดจนตาย! ฉันจะกำจัดความแค้นที่มีต่อเบนเดลิโอ้ออกไปให้ได้มากที่สุด!

 

 

 

“อะ ชิโชว!”

 

“โอ้ ลิลลี่”

 

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

 

หลังจากแยกตัวจากริโนกิสซึ่งกำลังคุยเรื่องกำหนดการเดินเรืออยู่ออกมา และแอบมองเข้าไปในห้องรับแขกก่อนล่วงหน้า

เพื่อนที่ทอร์กพูดถึงในนั้น……ทุกคนที่สัญญาเอาไว้ว่าจะมาก็อยู่กันครบ

 

แกนดอล์ฟ อันเซล เฟรซา

 

หากพูดอย่างเคร่งครัดก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ แต่หากพูดในความหมายกว้าง ๆ พวกเขาเป็นลูกศิษย์ของฉัน

 

“ทุกคนมากันแล้วสินะ เพื่อให้แน่ใจ ฉันชือลิลลี่ เป็นลูกศิษย์และผู้ติดตามของริโนะ ในแง่ของตำแหน่งตอนนี้ ฉันถือว่าอยู่ต่ำสุด เพราะแบบนั้นฉันจะทำงานจิปาถะบางอย่างจริง ๆ”

 

“เรื่องนั้น จะมอบงานจิปาถะให้ชิโชวได้ยังไงกัน!”

 

“ฉันบอกให้หยุดทำอย่างงั้นไง แค่ตอนนี้”

 

ฉันไม่ได้เกลียดบุคลิกที่ซื่อสัตย์ของแกนดอล์ฟ แต่ก็คิดว่าน่าหนักใจนิดหน่อยที่เขาเป็นคนไม่ยืดหยุ่นเอาซะเลย

 

“พวกข้าเก่งในเรื่องการทำตามคำสั่งแบบนั้นอยู่แล้ว”

 

ม๊า ฉันเดาว่าไม่น่าเป็นไร ตราบใดที่อันเซลและเฟรซาอยู่ด้วย

 

“ว่าแต่ทำไมทั้งสองคนถึงได้สวมชุดสูทกันล่ะ? เป็นชุดลำลองเหรอ?”

 

แกนดอล์ฟสวมชุดลำลอง แต่อันเซลและเฟรซาสวมชุดสูทสีดำ พูดตามตรง พวกเขสองคนดูแตกต่างอย่างมากในฐานะสมาชิกกลุ่มนักผจญภัย แม้ว่าฉันจะสวมชุดฝึกซ้อมก็ตาม

 

“เป็นเพราะข้าเติบโตขึ้นมาในที่แย่ ๆ ล่ะนะ ผู้คนมักถูกตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอันดับแรก นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าระมัดระวังเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองสวมใส่”

 

“ส่วนฉันถูกฝึกฝนให้พกพาอาวุธลับล่ะนะ สะดวกดีออกเห็นไหม”

 

อื~ม……ม๊า ช่างเถอะ ก็พวกเขาไม่ได้ออกล่าจริงอยู่แล้ว คนที่ฆ่าคือฉันต่างหาก

 

 

 

จากนั่นก็เข้าสู้ขั้นตอนการนับถอยหลังสู่การเร่งความเร็ว ทำตามขั้นตอนที่ฉันจำได้ เรือความเร็วสูงก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

“น่าทึ่งมาก ความเร็วนี้”

 

ประสบการณ์การเดินทางก่อนมาถึงดินแดนลิสตันนั้นค่อนข้างสงบ พวกเขาจึงดูประหลาดใจมากเมื่อได้สัมผัสการออกตัวนี้เป็นครั้งแรก ครั้งแรกฉันก็ประหลาดใจเหมือนกัน

 

“――หวังว่าจะไม่มากันแท้ ๆ”

 

ริโนกิสซึ่งยังมีทัศนคติที่ไม่ดีนัก แม้จะเป็นการได้พบกันครั้งแรกหลังไม่เจอกันนานก็ตาม พวกเรานั่งรอบโต๊ะ

 

ซ้า

 

“ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำอะไร มีบางสิ่งที่ฉันอยากจะคุยกับทุกคนก่อน ก่อนอื่น――”

 

ก่อนอื่น ฉันบอกพวกเขาถึงวิธีใช้เงินหนึ่งพันล้านครัม

 

ใช้เป็นเงินทุนสำหรับการจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้

ทริปออกล่าในครั้งนี้ ฉันตั้งใจเพิ่มจำนวนเงินที่มีให้ถึงจำนวนขั้นต่ำที่จำเป็นสำหรับการจัดงาน

 

และ ริโนกิสจะเป็นผู้ชนะในอันดับต้น ๆ

 

“แน่นอนว่าทุกสามารถเข้าร่วมได้ ถึงชนะก็ไม่เป็นไร ฉันคิดว่าจะเป็นทัวร์นาเมนต์ขนาดใหญ่ในระดับประเทศ ดังนั้นจะมีเงินรางวัลเป็นจำนวนมากด้วยเหมือนกัน แน่นอนว่าหากชนะก็เอาไปได้ทั้งหมดเลย ฉันจะไม่ขอให้จ่ายให้ฉันอีกต่อไป”

 

และอีกอย่าง

 

“สถานการณ์ปัจจุบัน ริโนกิสมีความได้เปรียบมากที่สุด ระยะเวลาการฝึกก็ยาวนานที่สุดเช่นกัน ดังนั้นหากริโนกิสชนะ เราจะแบ่งเงินรางวัลให้กับทุกคน”

 

นี่คือสิ่งที่ฉันกับริโนกิสตัดสินใจด้วยกันล่วงหน้า เป็นเรื่องจริงที่ฉันทำเงินได้มากมาย แต่เงินที่ระดมมาได้นั้นก็ยังคงได้รับจากทุกคน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าเป็นเรื่องดีที่จะแบ่งให้พวกเขา

 

“ลิลลี่จะไม่เข้าร่วมเหรอ? ดูเหมือนจะชอบอะไรแบบนั้นมากเลยไม่ใช่เหรอ”

 

ฉันส่ายหัวให้คำถามของเฟรซา

 

“ถ้าฉันเข้าร่วมก็จะกลายเป็นไม่ต้องทำอะไรจริงไหม ตั้งแต่แรกแล้วฉันจะเข้าร่วมด้วยทำไม? นี่คือวิธีที่ฉันจะสามารถทำเงินได้ และฉันไม่สนใจที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองด้วย แถมในอีกแง่หนึ่ง ฉันก็มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ที่สำคัญฉันไม่คิดว่าจะมีผู้เข้าร่วมที่น่าสนใจด้วย ถ้าเป็นแบบนั้นฉันไปหาสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งดีกว่า”

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีผู้เข้าร่วมที่ทำให้ฉันสนใจจริง ๆ ในกรณีนั้น ฉันก็ไม่คิดที่จะทำอะไรต่อหน้าสาธารณะอยู่ดี

ฉันอยากตายในแบบที่ต้องการในสถานที่ที่จะไม่ถูกรบกวน

 

แม้ว่าแต่แรกแล้วฉันก็ไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากปัญหาด้านอายุ แต่ก็ไม่ได้มีความน่าดึงดูดใจมากนักเช่นกัน

 

 ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มใช้ชีวิตที่สถาบันการศึกษา ข้อมูลมากมายจากโลกภายนอกก็เข้ามา

ทำให้ฉันรู้ว่านักสู้ในยุคนี้ไม่แข็งแกร่งมากนัก

 

ว่าแล้ว ไม่รู้สึกถึงสิ่งน่าดึงดูดใจเลย

ฉันยังไม่พบคนที่ดูเป็นนักสู้

 

……อย่างที่คิด อาจจะไม่ใชในระดับประเทศ แต่หากเป็นในระดับโลก น่าจะมีใครสักคนในโลกที่สามารถเอาชนะฉันได้อยู่ล่ะมั้ง

 

…………

 

ถึงตอนนี้คงไม่ใช่ว่าฉันจะแข็งแกร่งที่สุดในโลกหรอกนะใช่ไหม?

แม้ว่าร่างกายนี้จะยังอายุไม่ถึงสิบขวบ หากร่างกายนี้เติบโตขึ้นก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นตาม

 

――แย่จริง การแข็งแกร่งก็เป็นปัญหางั้นเหรอเนี่ย

 

 

 

ในขณะที่หารือเกี่ยวกับแผนการเดินทางและการฝึกฝน ฉันก็อดไม่ได้ที่จะตั้งตารอสัปดาห์ที่กำลังจะเริ่มขึ้นสำหรับนักสู้และลูกศิษย์ นักสู้เพื่อนักสู้

 

ซ้า ราวกับจะบรรเทาความคับข้องใจที่สะสมมาจากการถ่ายทำ ฉันจะดูแลทุกคนอย่างเอ็นดูให้เอง!