ตอนที่ 135 ช่วยซื้อตู้แช่แข็ง

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 135 ช่วยซื้อตู้แช่แข็ง

พนักงานสั่งสินค้าหนุ่มรับเงินแล้วก็จากไป

แต่กลับถูกกลุ่มเถ้าแก่เถ้าแก่เนี้ยของร้านอาหารในถนนสายเดียวกันล้อมเอาไว้ที่หน้าประตูร้าน

เหล่าเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยพวกนั้นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวอยากให้เขาลงสินค้าให้

แม้พวกเขาจะไม่มีผงยี่หร่า จึงขายเซาเข่าไม่ได้

แต่หากว่ามีเบียร์ ก็สามารถขายเสียวเฉ่า(1)ในตลาดกลางคืนได้ ธุรกิจเองก็พอจะดำเนินไปได้บ้าง

พนักงานส่งสินค้าหนุ่มกลอกตาแล้วพูดขึ้น “เบียร์ของโรงงานเราไม่ขายให้กับบุคคลธรรมดา เราทำการค้าระหว่างร้านค้าเท่านั้น ไม่ใช่ว่าพวกคุณอยากซื้อ แล้วผมจะสามารถส่งสินค้าให้พวกคุณได้หรอกนะ”

เถ้าแก่เนี้ยคนหนึ่งชี้ไปยังหน้าร้านของหลินม่ายแล้วถาม “งั้นทำไมคุณถึงส่งสินค้าให้พวกเขาได้กันล่ะ?”

พนักงานส่งสินค้าหนุ่มพูด “คนอื่นเขามีเส้นสาย ถ้าพวกคุณก็มีเส้นเหมือนกัน หัวหน้าโรงงานก็คงจัดการให้ผมมาส่งสินค้าให้เองนั่นแหละ”

เถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยเหล่านั้นล้วนถูกตอกหน้าเสียจนพูดอะไรไม่ออก ทำได้เพียงจ้องเขม็งมองพนักงานส่งของที่ขี่รถสามล้อจากไป

สถานการณ์ข้างนอกนั้น พวกของหลินม่ายมองเห็นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่ในร้าน

โจวฉายอวิ๋นแค่นหัวเราะฮึด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ “เบียดกันหากินจนจะเบียดหน้าร้านเราอยู่แล้ว น่าเสียดายที่คนอื่นเขาไม่เอาด้วย!”

หลี่หมิงเฉิงถามหลินม่ายด้วยความสงสัย “จริงๆ แล้วใครเป็นคนช่วยติดต่อเรื่องเบียร์ให้เราอยู่เบื้องหลังกันแน่?”

“ใครเสียอีกล่ะ ก็ต้องเป็นศาสตราจารย์ฟางอยู่แล้ว!”

โจวฉายอวิ๋นวิเคราะห์ “ในคนที่ม่ายจื่อรู้จักก็มีเขานี่ล่ะที่เส้นสายกว้างขวาง เขาคือคนที่แม้แต่ผงยี่หร่าก็หามาได้ นับประสาอะไรกับเบียร์เล่า!”

หลินม่ายเองก็เดาว่าเป็นเขาเช่นกัน

มีแค่เขาคนเดียวที่ทำความดีโดยไม่เคยหวังผล

หลี่หมิงเฉิงได้ยินก็รู้สึกต่ำต้อย

ตนเองนั้นไม่ว่าฐานะทางสังคมรูปร่างหน้าตาหรือการศึกษาก็เทียบศาสตราจารย์ฟางไม่ได้เลยสักอย่าง ทำได้แค่ทำงานให้ม่ายจื่อเท่านั้น แต่ศาสตราจารย์ฟางกลับเป็นคนที่สามารถช่วยเหลือม่ายจื่อได้

คนสองคนช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ตนจะมีคุณสมบัติอะไรไปแย่งชิงม่ายจื่อกับเขากัน!

หากว่าเขาเป็นคนที่ทำดีกับม่ายจื่อด้วยใจจริง เขาก็จะยอมถอยออกไป เป็นเพื่อนที่ดีของม่ายจื่อไปชั่วชีวิต

โต้วโต้วได้กินหอมสิบลี้สองสามไม้นั้นที่โจวฉายอวิ๋นให้หล่อนเกลี้ยงไปตั้งนานแล้ว

เมื่อครู่เห็นว่าแม่และพนักงานคนอื่นๆ ต่างก็กำลังยุ่งกันอยู่ หล่อนจึงไม่ได้ส่งเสียงรบกวนว่าอยากกินอีก

ตอนนี้เมื่อเห็นพวกเขาว่างแล้ว หล่อนจึงวิ่งเข้าเกาะขาของหลินม่ายเอาไว้ แหงนใบหน้าเล็กแล้วพูด “แม่คะ หนูอยากกินหอมสิบลี้อีกจัง”

หลินม่ายส่ายหน้า “หอมสิบลี้กินมากๆ ไม่ได้นะ แค่ชิมนิดหน่อยก็พอแล้ว”

โต้วโต้วนั้นเชื่อฟังเป็นอย่างดี แล้วจึงพาอาหวงออกไปเดินเล่นอย่างเบิกบานใจ

ในตอนนั้นเอง ก็มีรถสามล้อที่บรรทุกน้ำอัดลมเต็มคันรถมาจอดอยู่ที่หน้าประตูร้าน

พนักงานส่งสินค้าที่สวมเครื่องแบบของโรงงานน้ำอัดลมหวงเฮ่อโหลวขี่อยู่บนรถสามล้อแล้วโก่งคอตะโกน “หลินม่าย ใครคือหลินม่าย?”

หลินม่ายวิ่งออกไปด้วยความรีบร้อน “ฉัน! ฉันเองค่ะ!”

พนักงานส่งสินค้ายื่นใบรายการสินค้าให้เธอหนึ่งใบ “รับสินค้าด้วยครับ!”

คราวนี้หลินม่ายไม่ถามอะไรทั้งนั้น พลันโบกมือ ให้พนักงานทั้งหมดช่วยกันขนอัดลม

หลังจากพนักงานส่งสินค้าของโรงงานน้ำอัดลมไปแล้ว เหล่าพนักงานต่างก็ปลื้มอกปลื้มใจ “เบียร์ก็มีแล้ว น้ำอัดลมก็มีแล้ว ตลาดกลางคืนของพวกเราคืนนี้ต้องขายดีแน่ๆ”

โจวฉายอวิ๋นตีหลินม่ายอย่างแรง “ศาสตราจารย์ฟางเขาทำเรื่องมากมายขนาดนี้เพื่อเธอ มื้อเย็นเธอต้องทำอาหารอร่อยๆ ให้เขาหลายๆ จานเลยนะ”

หลินม่ายค่อนข้างลำบากใจ

ตอนนี้อากาศร้อนมาก น่ากลัวว่าถึงไปซื้อเนื้อที่ตลาดสดมา เนื้อก็คงจะไม่สดแล้ว

แม้แต่อาหารจานเนื้อยังไม่มี แล้วจะไปทำอาหารอร่อยๆ หลายๆ อย่างได้อย่างไร? หากไม่มีข้าวสารก็หุงข้าวไม่ได้หรอก

ถ้ามีตู้เย็นสักตัวก็คงดี จะได้สามารถซื้อวัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์แต่เช้าตรู่มาแช่ไว้ในตู้เย็น อยากจะกินตอนไหน ก็หยิบออกมาทำอาหารได้เลย

แม้ว่าห้างสรรพสินค้าของเมืองเจียงเฉิงจะมีตู้เย็นขาย แต่ก็แพงเกินไป แพงยิ่งกว่าโทรทัศน์เสียอีก

ตัวหนึ่งตั้งห้าร้อยกว่าหยวน แถมยังต้องใช้คูปองอุตสาหกรรมด้วย

ในตอนนี้แม้เธอจะสามารถซื้อได้ แต่หลังจากซื้อมาแล้ว เงินน้อยนิดที่เก็บหอมรอมริบมาอย่างยากลำบากในสมุดบัญชีก็คงใช้ไปจนแทบไม่เหลือ

ช่างเถอะ หาเงินมาก็เพื่อใช้นี่แหละ

หลินม่ายตัดสินใจรวดเร็วฉับไว เธอวางแผนที่จะไปซื้อตู้เย็นกลับมาในทันที พรุ่งนี้จะได้ซื้อหมูเห็ดเป็ดไก่มาใส่ตู้เย็น

เธอขี่รถสามล้อ ไปซื้อคูปองอุตสาหกรรมที่ตลาดมืดก่อน

ในวันที่อากาศร้อนระอุ พ่อค้าคูปองผีในตลาดมืดก็มีอยู่ไม่มากนัก

และในมือของคนขายคูปองผีที่มีอยู่เพียงไม่กี่ร้านนั้นก็ไม่มีคูปองอุตสาหกรรมเลย

ขณะหลินม่ายกำลังเดินคอตกจากไป ด้านหลังก็มีเสียงผู้ชายเสียงหนึ่งดังขึ้น “จะซื้อคูปองอะไรแล้วยังหาไม่ได้เหรอ?”

หลินม่ายหันกลับไป และเห็นว่าเป็นเฉิงเฟิง

จึงรีบโบกมืออย่างลนลาน “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร!”

แม้เฉินเฟิงจะเดินอยู่ในเส้นทางสีเทา แต่ก็ไม่ได้เป็นคนดิบเถื่อน ตรงกันข้าม เขามีความคิดที่ละเอียดอ่อนด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าหลินม่ายไม่ยอมพูดความจริงกับเขา เขาก็รู้ว่าเธอไม่ต้องการเข้ามาใกล้ตนมากเกินไป

ในใจเขาปวดร้าว แต่ใบหน้ากลับแย้มรอยยิ้มร้ายกาจขึ้นจางๆ “เธอกลัวว่าฉันจะให้เธอฟรีๆ เหรอ? พวกลูกน้องพวกพ้องของฉันก็ต้องดูแล ฉันจะให้เธอฟรีๆ ได้หรือไง? ฉันจะขายให้เธอ บอกมาเถอะน่า ยังหาคูปองอะไรไม่ได้ล่ะ? ฉันขายให้”

หากเป็นการทำการค้า อย่างนั้นก็คงไม่มีปัญหา

หลินม่ายพูด “คูปองอุตสาหกรรมยี่สิบใบ ฉันต้องการก่อนห้าโมงเย็น”

เฉินเฟิงขมวดคิ้ว “ต้องการคูปองอุตสาหกรรมมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอจะซื้ออะไร? โทรทัศน์? โทรทัศน์ขาวดำธรรมดาก็ยังใช้คูปองอุตสาหกรรมไม่มากมายขนาดนี้เลยนะ”

“เปล่า ซื้อตู้เย็นน่ะ”

เฉินเฟิงใคร่ครวญเล็กน้อย “อย่างนั้นเธอก็ไปรอฉันที่หน้าห้างเจียงเฉิง ฉันรับประกันว่าจะหาคูปองอุตสาหกรรมมากให้เธอยี่สิบใบก่อนห้าโมง”

หลังจากหลินม่ายจากไป เหลียนเฉียวก็ขมวดคิ้วพูดกับเฉินเฟิง “ลูกพี่ ในมือเรามีคูปองอุตสาหกรรมมากขนาดนั้นที่ไหนกัน?”

เฉินเฟิงเหลือบตามองหล่อน “ไม่พอก็ไปซื้อมาจากร้านคูปองผีใหญ่ๆ สักสองสามที่ สรุปก็คือ ไปรวบรวมมาเดี๋ยวนี้”

เหลียนเฉียวได้ยินก็ไม่สบายใจอย่างมาก

หล่อนนึกว่าเฉินเฟิงนั้นเห็นหลินม่ายเป็นเพียงคนโง่ ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่ใช่

เฉินเฟิงใส่ใจกับเรื่องของหลินม่ายเกินไปแล้ว!

ยังไม่ทันถึงห้าโมง เฉินเฟิงก็มาส่งคูปองอุตสาหกรรมให้ด้วยตัวเอง

หลินม่ายจ่ายเงินทันที

แต่เฉินเฟิงกลับไม่มีความคิดที่จะจากไปแม้แต่น้อย เขาพูดกับเธอ “ให้ฉันไปซื้อตู้เย็นเป็นเพื่อนเถอะ พอเธอซื้อตู้เย็นเสร็จแล้ว ฉันจะได้ช่วยเธอแบกขึ้นรถสามล้อได้”

แม้ว่าหลินม่ายจะเกิดใหม่อีกครั้งแล้ว แต่บางครั้งความทรงจำก็ยังหยุดอยู่ในชาติก่อน

เธอลืมไปอยู่เรื่อยว่าตอนนี้การบริการหลังการขายนั้นไม่ได้เรื่องเลยสักนิด ซื้อเครื่องใช้ในบ้านแล้วอย่าว่าแต่จัดส่งให้ถึงบ้านเลย แต่ช่วยเธอขนขึ้นรถสามล้อก็ยังเป็นไปไม่ได้

อีกเดี๋ยวซื้อตู้เย็นแล้ว เธอก็ไม่มีวิธีเอามันขึ้นรถสามล้อได้จริงๆ นั่นแหละ

ด้วยเหตุนี้หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พยักหน้าตกลง

ทั้งสองมายังแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

หลินม่ายพบว่า ไม่เพียงแค่มีขายตู้เย็นเท่านั้น ยังมีขายตู้แช่แข็งอีกด้วย

ทว่าตู้แช่แข็งในยุคนี้ไม่ใช่ประตูเปิดปิดแบบกระจก แต่เป็นประตูเปิดปิดโลหะ

หลินม่ายยืนลังเลอยู่หน้าตู้เย็นและตู้แช่แข็งตัดสินใจไม่ได้

พนักงานขายที่ต้อนรับพวกเขาพูดแนะนำอยู่ด้านข้าง “ซื้อเครื่องใช้ในบ้านแต่งเรือนหอตู้เย็นค่อนข้างจะเหมาะสมกว่านะครับ ใครเขาเอาตู้แช่แข็งไว้ในบ้านกัน ตู้แช่แข็งนี้ปกติแล้วร้านค้าเล็กๆ จะซื้อไปเพื่อขายไอศกรีมหรือว่าเบียร์เย็นน้ำอัดลมเย็นกันน่ะครับ”

หลินม่ายเห็นพนักงานขายเข้าใจความสัมพันธ์ของเธอกับเฉินเฟิงผิดไป ก็ทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย

เธอพูดเสียงชัดแจ๋ว “ไม่ได้ซื้อไปแต่งเรือนหอค่ะ ฉันจะซื้อไปทำธุรกิจ”

พนักงานขายยิ้มเก้อเขินเล็กน้อย

หลินม่ายพิจารณาถึงประสิทธิภาพของตู้เย็นแบ่งเป็นสองอย่างคือการแช่เย็นและการแช่แข็ง ประสิทธิภาพในการแช่เย็นรักษาความสดใหม่นี้เดิมทีเธอก็ไม่ได้ใช้อยู่แล้ว เธอต้องการแค่การแช่แข็ง

ด้วยเหตุนี้สุดท้ายเธอจึงซื้อตู้แช่แข็งมา เพื่อนำมาใช้แช่วัตถุดิบประเภทเนื้อสัตว์

อีกทั้งยังสามารถใช้ตู้แช่แข็งขายไอศกรีม ทำน้ำแข็ง และใช้แช่น้ำอัดลมกับเบียร์ได้ด้วย

เฉินเฟิงมีพละกำลังมาก เขาแบกตู้แช่แข็งไปขึ้นรถสามล้อของหลินม่ายด้วยตัวคนเดียว ก่อนถามด้วยรอยยิ้ม “ต้องการให้ฉันช่วยส่งสินค้าถึงบ้านด้วยไหม?”

หลินม่ายรีบร้อนปฏิเสธ พร้อมยัดเงินยี่สิบหยวนใส่มือของเขา ให้เขาเอาไปซื้อน้ำอัดลมดื่มสักขวด วันนี้ลำบากเขามามากแล้ว

เธอพูดด้วยความเกรงใจจบ ก็ออกแรงขี่รถสามล้อจากไปทันที

เฉินเฟิงถือธนบัตรที่หลินม่ายให้มาสองใบนั้นเอาไว้ จ้องมองแผ่นหลังที่ไกลออกไปของเธออย่างอ้างว้าง

………………………………………………………………………………………………………………………….

(1)เสียวเฉ่า คืออาหารประเภทผัดที่ใช้กำลังไฟไม่แรงมาก มีรสชาติเผ็ดร้อน มักผัดเนื้อสัตว์กับพริกและผักจำพวกขึ้นฉ่าย ต้นหอม หรือต้นกระเทียม

สารจากผู้แปล

เรือมาพร้อมกันสามลำเลย แต่เรือพี่หมอดูเหมือนจะแซงหน้าลำอื่นแล้วนะคะ

ไหหม่า(海馬)