ขณะที่ผู้เล่นกำลังเตรียมรับมือชุมนุมลับดวงตาที่ชายฝั่งทะเล ห่างออกไปร้อยไมล์ในเมืองแลงคาสเตอร์ ก็ได้มีคลื่นใต้น้ำ*เกิดขึ้น

(คลื่นใต้น้ำ เหตุการณ์วุ่นวายภายใน แต่ภายนอกดูเสมือนสงบเรียบร้อย)

ถนนแบล็คเฟอร์เรท ย่านตะวันตกเฉียงใต้ของเมือง ติดกับกำแพงเมืองชั้นนอก มอบแวบแรกที่นี่ไม่มีอะไรให้น่าสนใจเลย

แต่ผู้รู้ก็สามารถบอกได้ทันทีว่า นี่คือที่ที่คุณจะได้พบตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองแลงคาสเตอร์ บ้านเลขที่ 58 ‘เดอะโกลเด้นโรส’ เป็นชื่อที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ผู้จัดการอัลแวนเค่นซึ่งเป็นเจ้าของตลาดมืด เขาเป็นผู้มีอิทธิพลและมีเพื่อนมากมาย เพื่อนของเขามักจะจัดหาของเถื่อนจากทุกมุมโลกมาไว้ที่นี่

ว่ากันว่า ‘เดอะโกลเด้นโรส’ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถซื้อได้ทุกอย่างหากมีเงิน

แต่มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่า อัลแวนเค่นเป็นสาวกของ ‘โซธอส’ เทพเจ้าแห่งสมุนไพรและยาพิษ แต่เดิมเขาเป็นแค่พ่อค้าที่ขายโพชั่นราคาถูกกว่าที่ศาสนจักรขาย

เทพเจ้าแห่งสมุนไพรและยาพิษ เป็นเทพภายใต้เทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ ที่มีศักดิ์เทียบเท่ากับเทพกะโหลก เขามีพลังมากกว่าเทพใหม่อย่างซีเว่ยมาก

แต่เทพเจ้าแห่งการเล่นแร่แปรธาตุกับเทพเจ้าแห่งสมุนไพรและยาพิษ ไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทะเลาะวิวาทของเทพเจ้าองค์อื่น ๆ เลย เพราะตราบใดที่ยังมีคนรวบรวมสมุนไพร ปรุงยา และยาพิษ พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวว่าตนจะสลายหายไป ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเอาตัวเองเป็นใหญ่ และสั่งให้ผู้ศรัทธาปฏิบัติตามนิสัยของเขา

แต่แค่เพราะเทพเจ้าเป็นปลาเค็ม*นั่นไม่ได้แปลว่าจะสาวกของเขาจะเป็นปลาเค็มไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นผู้จัดการอัลแวนเค่นคนนี้

(ปลาเค็ม 咸鱼 ในภาษาจีนมีความหมายแฝง หมายถึง คนไร้ความสามารถ ขี้แพ้ ขาดความฝัน ใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมาย)

เขาใช้ประโยชน์จากเพื่อนร่วมศาสนา 2-3 คน ทำให้เขาได้รับตำแหน่งที่สูงมากในศาสนจักรได้อย่างง่ายดาย และเขาก็ได้เข้าควบคุมการดำเนินงานทั้งหมดของศาสนจักร เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจและเส้นสายของเขาเอง

หากธุรกิจยังคงดำเนินไปอย่างราบรื่น เขาก็อาจจะกลายเป็นมหาเศรษฐีระดับทวีป

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่โลกที่คุณจะสามารถพิชิตได้ด้วยธุรกิจเพียงอย่างเดียว วิธีการที่เขาดำเนินธุรกิจมักจะขัดแย้งกับผลประโยชน์ของหลาย ๆ ฝ่าย ครั้งหนึ่งเขาเคยสะดุดเข้ากับผู้มีพลังอันไร้ขีดจำกัด ที่ชอบการกระทำมากกว่าคำพูด และความอดทนเป็นศูนย์…อัลแวนเค่นไม่มีโอกาสได้ขอโทษก่อนที่เขาจะถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ เขาวิ่งหนีหางจุกตูดมาที่เมืองแลงคาสเตอร์ และได้แต่อาศัยอยู่ในเงาของตลาดมืดมาจวบจนปัจจุบัน

โชคดีที่ช่วงปีแรก ๆ ของการทำงานหนักไม่ได้สูญเปล่า ด้วยเส้นสายจากศาสนจักรของเทพเจ้าแห่งสมุนไพรและยาพิษที่เขามี และเพื่อนที่ซื่อสัตย์จำนวนมาก ทำให้เขาสามารถจัดหาวัสดุได้ในราคาถูก อัลแวนเค่นจึงสามารถทำผลงานได้ดีและได้รับกำไรมหาศาลทุกวัน ในบรรดาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สินค้าขายดีของเขาคือ ‘โพชั่นชีวิต’ ที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และ ‘โพชั่นพลัง’ ที่สามารถทำให้จิตใจสดชื่นและมีพลัง

แต่ถึงกระนั้น ธุรกิจของเขาก็ชะลอตัวลงใน 2 วันที่ผ่านมา

เมื่อเห็นห่านทองคำของเขาท้องผูก เขาก็ไม่สามารถอยู่เฉยได้ เขาได้มอบหมายให้มือดีที่สุดในแลงแคสเตอร์ ค้นหาต้นตอที่แท้จริงของปัญหานี้

สองวันผ่านไปในพริบตา อัลแวนเค่นที่กำลังงีบหลับในร้าน จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงกระดิ่งดังที่ประตูหน้าร้าน

พอเขาเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นชายหนุ่มร่างผอมแห้ง ในเสื้อคลุมหนังสีดำตัวหนาและหมวกขนสัตว์เดินเข้ามาในร้าน

ดวงตาของอัลแวนเค่นสว่างขึ้น “แลงค์ เจ้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนั้นได้แล้วหรือ”

เด็กหนุ่มปัดเศษหิมะออกจากแขนเสื้อและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “แน่นอน ไม่งั้นข้าจะมาหาท่านทำไม”

สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจังขณะที่เขานั่งลงต่อหน้าอัลแวนเค่น และอธิบายภาพรวมของสถานการณ์ “จากการตรวจสอบของข้า จู่ ๆ ก็มีโพชั่นใหม่ 2 ตัวโผล่ขึ้นมาในตลาด มันมีผลคล้ายกับสินค้าขายดีของท่าน แต่ราคาถูกกว่า นั่นคือสาเหตุที่ท่านสูญเสียลูกค้าไปอย่างกระทันหัน”

ชายหนุ่มหยิบขวดเล็ก ๆ สองขวดจากในเสื้อโค้ทออกมา ขวดหนึ่งเต็มไปด้วยของเหลวสีแดง อีกขวดเป็นสีน้ำเงิน และหากมองใกล้ ๆ จะเห็นฟองอากาศพุดขึ้นมาเล็กน้อย

“นี่คือโพชั่น 2 ตัวนั้น” เด็กหนุ่มที่ชื่อแลงค์พูดว่า “โพชั่นสีแดงชื่อว่า ‘โพชั่นรักษาแบบใช้ครั้งเดียว’ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ‘โคคา-โคล่า’ เช่นเดียวกับโพชั่นชีวิต มันสามารถใช้รักษาอาการบาดเจ็บได้ระดับหนึ่ง และผลของมันจะปรากฏในไม่กี่วินาที และไม่มีผลต่อคำสาป โรคร้าย และพิษ

“โพชั่นสีน้ำเงินชื่อว่า ‘โพชั่นฟื้นฟูจิตขนาดเล็กแบบใช้ครั้งเดียว’ หรือ ‘เป๊บซี่-โคล่า’ มันคล้ายกับโพชั่นพลัง มันไม่มีผลกับคนทั่วไป แต่มันเป็นที่ต้องการอย่างมากในหมู่ผู้วิเศษ”

“ข้าไม่เห็นความเชื่อมโยงระหว่างชื่อเต็มของมันกับชื่อเล่นเลย…” อัลแวนเค่นพึมพำ

“ข้าได้ยินคนที่ขายโพชั่นพวกนี้อธิบายสั้น ๆ ว่า ‘เขาเรียกกันมาแบบนั้น’ อันนี้ข้าก็เลยไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเหมือนกัน”

“หึ เคล็ดลับราคาถูก”

แม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น แต่ในใจอัลแวนเค่นก็คิดว่า ไม่แปลกใจเลยที่โบสถ์สีขาวอันสว่างไสว ที่เป็นผู้จัดจำหน่ายโพชั่นระดับสูง ดูเหมือนจะไม่ตอบสนองต่อเรื่องนี้ ด้วยข้อจำกัดของโพชั่นเหล่านี้ ทำให้พวกมันด้อยกว่าโพชั่นของพวกเขา จึงไม่เป็นภัยคุกคามต่อการค้าโพชั่นระดับสูง ไม่แปลกใจเลยที่โพชั่นสีน้ำเงินจะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้วิเศษ แม้แต่โพชั่นพลังของเขาเองก็ไม่เคยเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป มีเพียงผู้วิเศษเท่านั้นที่เต็มใจจ่ายเงินเพื่อมัน

อัลแวนเค่นวางโพชั่นไว้ที่เคาน์เตอร์ จากนั้นเขาก็นำแว่นตาข้างเดียวของเขาออกมาเพื่อดูมันใกล้ ๆ

ในฐานะผู้ศรัทธาระดับสูงที่ห่างจากการเป็นอัครมุขนายกของเทพเจ้าแห่งสมุนไพรและยาพิษเพียงก้าวเดียว เขามีความสามารถในการแยกแยะส่วนผสมของโพชั่นได้ และเวทมนตร์ที่สลักอยู่ในแว่นตาข้างเดียวของเขาก็มหัศจรรย์มาก

น่าแปลกที่ไม่ว่าเขาจะใช้เทคนิคการวิเคราะห์แบบใดกับโพชั่น 2 ตัวนี้ ผลลัพธ์ทั้งหมดที่เขาได้ก็ชวนให้สับสนมาก

ส่วนผสมของโพชั่นสีแดงคือ ‘หญ้าโอสถ, น้ำผึ้ง , น้ำ’ ส่วนผสมของโพชั่นสีน้ำเงินคือ ‘ดอกมานา, น้ำผึ้ง , น้ำ’

อัลแวนเค่นคุ้นเคยกับหญ้าโอสถและดอกมานา หญ้าโอสถเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการทำให้เลือดแข็งตัวและบรรเทาอาการปวด มันเป็นสมุนไพรชนิดแรกที่ทุกคนรู้จัก ถูกใช้ในยารักษาโรคเกือบทุกชนิด ดอกมานามีลักษณะคล้ายกับใบมินต์ ซึ่งให้ความสดชื่นและสงบ มีประโยชน์ในการทำสมาธิ

ไม่ต้องพูดถึงน้ำผึ้งกับน้ำ

มันก็แค่น้ำเชื่อมในสมุนไพร มันไม่สามารถสร้างผลกระทบที่มีศักยภาพเช่นนี้ได้

“แต่ละขวดขายราคาเท่าไหร่” เขาถามขณะที่ถอดแว่นตาออก

“ทั้งสองขวดราคาขวดล่ะ 150 ริออน” แลงค์ตอบ

“ถูกกว่าไม่มาก” อัลแวนเค่นพึมพำ “มันเป็นที่นิยมได้ยังไง?”

เมื่อพิจารณาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วไป หากสินค้า 2 ชิ้นนี้มีราคาและคุณภาพเท่ากันในเชิงประมาณ คนส่วนใหญ่จะยึดติดกับสิ่งที่คุ้นเคย มันไม่น่ามาแทนที่โพชั่นของเขาในตลาดได้ง่าย ๆ แบบนี้

“อืม…” เด็กหนุ่มดูลังเลขณะที่เขากระซิบว่า “ข้าได้ยินมาว่ามันอร่อยมาก”

“อร่อย?”

อัลแวนเค่นขมวดคิ้ว เขาเปิดขวดสีน้ำเงิน ก่อนอื่นเขายกมันขึ้นมาดมอย่างระมัดระวัง แต่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ ด้วยความกล้าที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจึงดื่มมันอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปล่อยเสียงเรออันยาวนานและทรงพลังออกมา

นอกเหนือจากผลทั่วไปของโพชั่นแล้ว สีหน้าของอัลแวนเค่นยังมีความสุขมาก

ผ่านไปสักพัก ใบหน้าของเขาก็บูดบึ้งอีกครั้ง

รสชาติกับความรู้สึกที่ได้รับตอนดื่มนั้นยอดเยี่ยมมาก และผลของมันก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าโพชั่นของเขายอดขายลดลงในชั่วข้ามคืนได้ยังไง ที่แย่ไปกว่านั้นคือ มันคงยากที่เขาจะคัดลอกโพชั่นสูตรนี้ รสชาติสามารถใช้สมุนไพรหลายชนิดเพื่อปรับปรุงได้ แต่ผลของความสดชื่นและฟองที่ระเบิดในปากขณะดื่มนี่เกิดขึ้นได้ยังไง? แม้ว่าเขาจะสามารถคัดลอกได้ แต่ต้นทุนการผลิตก็ต้องสูงขึ้นอย่างแน่นอน

เมื่อเขาคิดว่าคู่แข่งรายนี้ขายสินค้าเหล่านี้ได้อย่างไรในราคาที่ต่ำกว่าสินค้าของเขา…ถ้าเขาขึ้นราคาเพียงเพื่อให้มันมีรสชาติที่ดีขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นจะเป็นการขุดหลุมฝังศพตัวเอง

แต่เขาก็จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!

คิดแล้ว อัลแวนเค่นก็กวักมือเรียกเด็กหนุ่มเข้ามาใกล้ ๆ “ข้ามีงานใหม่ให้เจ้าทำ…”