ตอนที่ 158 ก่อนอื่น บดขยี้กล่องดวงใจทีมหมีล่วงหน้า

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

158 ก่อนอื่น บดขยี้ทีมล่วงหน้า

 

หลังจากตัดสินใจได้แล้ว พวกเราก็มีการประชุมสั้น ๆ

 

ก่อนอื่น ลูกเรือบางส่วนถูกขอให้ยืนใกล้กับท่าปล่อยตัวสำหรับให้ปล่อยเรือเดี่ยว(เรือเหาะขนาดเล็กพิเศษสำหรับหนึ่งหรือสองคน)ออกไป

เรือลำนี้มีรูปร่างเหมือนปลา ดังนั้นจึงไม่มีสิ่งที่เหมือนกับดาดฟ้า ทำให้ไม่มีที่ที่โจรสลัดอากาศจะสามารถเข้ามาได้ นอกจากจะต้องใช้เรือเดี่ยวเท่านั้น

 

พวกเราไม่ต้องการให้เรือถูกทำลายหากมีการพยายามบุกเข้ามา ดังนั้นจึงเลือกที่จะเปิดประตูเอาไว้ และทำเป็นเหมือนยินดีต้อนรับเมื่อพวกเขามาถึง

 

――และพวกเราก็จะได้ขี่เรือเดี่ยวที่เตรียมไว้สำหรับบุกไปขึ้นเรือศัตรูได้ในทันที

 

จนกว่าจะถึงจุดนั้น พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากลูกเรือ และจากนั้นก็จะเป็นงานของพวกเรา

 

 

 

ฉันกลับมาที่ห้องของตัวเองพร้อมกับเหล่าลูกศิษย์เพื่อประชุมกันก่อน

จากนี้ไป ฉันไม่สามารถให้ริโนกิสรับผิดชอบได้ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจลงมือเอง

 

ยังไงก็ตาม ฉันไม่มีเวลาคุยรายละเอียด

 

“ศัตรูมีเรือสามลำ ดังนั้นพวกเราจะต้องแบ่งออกเป็นสามกลุ่ม และโจมตีพร้อมกัน”

 

อย่างแรก พวกเราไม่สามารถเอาชนะทีละลำได้ หากยังมีเรือรอดแม้แต่ลำเดียว มีความเป็นไปได้ที่จะถูกยิงด้วยปืนใหญ๋

ดังนั้นพวกเราจึงต้องเข้าโจมตีในเวลาเดียวกัน และสร้างสถานการณ์ที่เรือทั้งสามลำจะไม่สามารถยิงปืนใหญ่ในเวลาเดียวกันได้

 

“ก่อนอื่นมีคนที่เตรียมใจยังไม่พร้อมไหม?”

 

เป็นคำถามโง่ ๆ สำหรับลูกศิษย์ของฉันที่เต็มไปด้วยแรงจูงใจ แต่ฉันก็ถามเผื่อไว้

แน่นอนว่าไม่มีใครพูดอะไรเลย

 

“ดีมาก ถ้างั้นก็แบ่งเป็นสามกลุ่ม ……ถึงจะพูดแบบนั้น ก็คงไม่จำเป็นต้องบอกรายละเอียดล่ะนะ”

 

ก่อนอื่น ฉันอยู่คนเดียว

ริโนกิสกับแกนดอล์ฟ

อันเซลกับเฟรซา

 

ตัดสินใจแบ่งตามนี้แล้วกัน

 

“ฉันจะอยู่กับลิลลี่”

 

“แน่น่อนว่าเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาว่างที่จะยอมรับความเห็นแก่ตัวได้”

 

“……งั้นเหรอค่ะ”

 

ริโนกิสที่พูดต้องการมากับฉัน แต่ก็ยอมถอยกลับอย่างรวดเร็ว เธอน่าจะรู้ว่าจะถูกปฏิเสธตั้งแต่ก่อนที่จะพูดซะอีก

 

“ถึงจะได้ฟังจากกับตันและทอร์กมาสั้น ๆ ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ขอทบทวนแผนกันอีกสักรอบ

 

สำหรับตอนนี้ พวกเราจะเข้าควบคุมเรือเดี่ยวที่กำลังมุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

เมื่อควบคุมได้แล้วให้ส่งสัญญาณ และออกไปโจมตีจากเรือลำนี้

เมื่อสามารถควบคุมเรือทั้งสามลำได้แล้ว ให้สัญญาณให้พวกเขาไปรับ

 

จะใช้วิธีไหนในการเข้าควบคุมก็ได้ตามอิสระ ยังไงก็ตาม อย่าฆ่าพวกโจรให้มากเกินไป แผนก็ประมาณนั้น”

 

ฉันไม่ได้มีปัญหากับการฆ่าใครสักคนโดยไม่ตั้งใจ หรือในเหตุการณ์ที่ช่วยไม่ได้ ฉันจะไม่ผูกมัดไม่ให้ฆ่า หมายถึงหากตกอยู่ในอันตรายก็ต้องฆ่า อยากเป็นฝ่ายฆ่ามากกว่าถูกฆ่า ……ฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ฆ่าใคร แต่เมื่อช่วยไม่ได้ก็คือช่วยไม่ได้

 

“นอกจากนี้ ถึงจะคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่ถ้าหากเกิดหมดสติไปในภาวะใกล้ตาย ตราบใดที่ไม่ตายในทันที ฉันจะทำอไรบางอย่างให้เอง”

 

พวกเขาสามารถใช้「คิ」ได้แม้จะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะแพ้ให้กับคนพวกนั้นได้

ทว่า เราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในการต่อสู้จริง ฉันเลยพูดเผื่อไว้สักหน่อย

 

“เพราะมีเวลาไม่มากแล้ว แค่นี้ก่อน ――ได้เวลาไปกันแล้ว”

 

 

 

หลังจากประชุมเสร็จ พวกเราก็มุ่งหน้าไปยังทางออก และถึงเวลาอันสมควรที่จะเปิดประตู

 

กัปตัน พวกลูกเรือ และทอร์กต่างก็วิตกกังวล

 

――ก็รู้สึกแย่ที่ทำให้พวกเขากังวลมาก แต่ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ฉันอยากรู้ว่าเป็นโจรแบบไหน อยากรู้ว่าแข็งแกร่งแค่ไหน หวังว่าจะแข็งแกร่งกันมาก ๆ น๊า ฉันอยากจะสนุกจนหยุดไม่อยู่

 

ลมแรงพัดผ่านช่องประตูที่เปิดอยู่ และมีเรือเดี่ยวสีเขียวที่ค่อนข้างทรุดโทรมหกลำบินเข้ามา สองคนต่อลำ ชายเปลือกอกทั้งหมดสิบสองคนก้าวเข้ามาโดยไม่ลังเล

 

ก่อนอื่นตรวจสอบอาวุธ

พวกเขาทั้งหมดแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ส่วนใหญ่ถือดาบและมีดสั้น

 

……ที่ฉันสงสัยก็คือท่อโลหะเล็ก ๆ นั่น คือกระบอกปืนใช่ไหม? มีรูปร่างที่ดูเหมือนสามารถส่งอะไรบางอย่างลอยออกได้ แต่ฉันไม่เคยเห็นของจริงมาก่อน

 

“――ฮ่าๆๆๆ!ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักเพื่อต้อนรับพวกเรา!”

 

ขณะที่ฉันกำลังสังเกตการณ์อยู่นั้น สุดท้ายก็มีเรืออีกลำเข้ามาด้วย

 

เขาเป็นผู้ชายที่สวมเสื้อคลุมยาวสีดำปักด้วยด้ายสีทองอย่างหรูหรา แตกต่างจากเรือเดี่ยวโทรม ๆ และโจรติดอาวุธเบาในเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งอย่างสิ้นเชิง เขาลงจากเรือด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข ก่อนปรบมือเสียงดัง และเดินอย่างมั่นใจ

 

ดูจากรูปร่างหน้าตาของเขาแล้ว นั่นต้องเป็นกัปตันแน่ ๆ

ฉันคิดว่าต้องเป็นชายแก่ขี้เหร่และมีหนวดเคราเต็มตัว แต่เขากลับกลายเป็นไก่อ่อนที่ดูฉลาดแทน

 

เดาว่าอายุประมาณสามสิบปี หนวดเคราถูกตัดแต่ง ผมจัดทรงแข็ง ――เขาโค้งคำนับหนึ่งครั้งต่อหน้ากัปตันของทางนี้ด้วยท่าทางเกินจริง หมวกไตรคอร์นถูกห้อยไว้ที่เอว ดูฉูดฉาดในหลาย ๆ ความหมาย แต่ก็ไม่คิดว่าจะแย่ได้ขนาดนั้น ฉันรู้สึกโกรธต่อท่าทางของผู้บุกรุก

 

มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างเขากับลูกเรือ แต่เขาเป็นเหมือนกัปตันโจรสลัดอากาศที่มีสไตล์

 

“พวกขาคือโจรสลัดอากาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใจโลก กลุ่มโจรสลัดอากาศฉลามหัวค้อนดำ(แฮมเมอร์เฮด) เป็นโจรสลัดอากาศที่จริงจังและร่าเริง พวกเรามักจะทำงานหนักในธุรกิจด้วยมารยาทที่ดีและมีน้ำใจ”

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเคยได้ยินชื่อเขา แต่ฉันสงสัยว่าพวกเขาเป็นโจรสลัดอากาศที่มีชื่อเสียงหรือเปล่า หากมีชื่อเสียง ก็น่าจะสามารถคาดหวังเรื่องเงินได้

 

“สองข้อ? ไม่ต้องทำธุรกรรมชวนง่วง? เป็นเรือที่ดีเลยนี่?”

 

อืม ฉันดีใจที่เขาพูดเข้าประเด็นเร็ว

 

ก็กะแล้วว่าต้องการเรือลำนี้สินะ ก็เป็นแบบนั้นสินะ หากไม่แสดงความโลภออกมาที่นี่ ก็คงไม่มาเป็นโจรสลัดอากาศแต่แรก

ตอนนี้ฉันรู้แล้ว่าต้องทำอะไร ไม่มีความจำเป็นต้องรออีกต่อไปแล้ว

 

” ――”

 

ฉันส่งสัญญาณให้กับเหล่าลูกศิษย์ที่ยืนสงบนิ่งอยู่หน้าฉันในจุดที่ไม่สะดุดตาว่า ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดนี้ ฉันจะเป็นเพียงคนเดียวที่เคลื่อนไหว

 

ฉันรีบเดินเลียบไปตามกำแพง มุ่งหน้าตรงไปยังทางออกที่เปิดทิ้งไว้ ซ่อนตัวอยู่ใต้เงาของเรือเดี่ยวที่พวกนั้นใช้ขึ้นมา และตอบสอบสถานการณ์จากด้านหลังอีกครั้ง

 

ยังไม่มีใครรู้ตัว ดีล่ะ

 

” ――คำขอของพวกคุณคืออะไร?”

 

” ――โอ้ยโอ้ย อย่าให้ข้าต้องพูดทุกอย่างน้า เข้าใจดีไม่ใช่เรอะ?”

 

ในสถานที่ที่มีเพียงความเงียบไม่ได้ยินสิ่งใดมีเพียงเสียงของกัปตันและโจรสลัดอากาศที่กำลังเจรจาต่อรองเท่านั้น ฉันเป็นคนเดียวที่เคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ

 

เริ่งจากด้านหนึ่ง ฉันยิงใส่โจรคนละนัด

ก่อนที่คนแรกจะหมดสติ สติของคนที่สองแลสามก็ถูกตัดออกโดยไร้ปรานี เหมือนนกนางแอ่นที่ตัดผ่านผิวน้ำ ฉันเก็บเกี่ยวจิตสำนึกโดยไม่หยุดพัก

 

……ก็เป็นเรื่องแค่นี้เอง

 

คนสิบสองคนถูกโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อฉันหยุดเคลื่อนไหว――คนแรกก็ล้มลงกับพื้นจากนั้นก็ทีละคน

 

“อะ……อะระระ?”

 

พวกโจรที่ล้มลงพื้นส่งเสียงดังจนทำให้กัปตันโจรสลัดอากาศหันกลับมามอง……ฉันเบิกตากว้าง

 

――เร็ว

 

ฉันไม่คิดว่าเขาจะสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ทันที

เมื่อมองย้อนกลับมาเห็นว่าลูกน้องล้มลงจนหมด และมีเพียงฉันคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงกลางของพวกเขา

 

กัปตันเคลื่อนไหวในทันที

เมื่อมองออกไป เขาสามารถตั้งท่าได้เร็วกว่าพวกลูกศิษย์อีก เขาดึงท่อโลหะที่ห้อยอยู่กับเอวออกมา และชี้ปลายหลุมมาทางฉัน

 

คลิก ฉันคิดว่าเหมือนมือของเขาสว่างวาบขึ้นมา――

 

ตู้ม

 

ด้วยเสียงอันหนักหน่วง มีบางสิ่งสีดำบินมาหาฉันด้วยความเร็วที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้

 

 

 

“คุณหนู!!”

 

“ชิโชว!!”

 

“ลิลลี่!!”

 

“แก!!”

 

――อืม

 

“เป็นอาวุธที่น่าสนใจดีน๊า”

 

ฉันสังเกตวัตถุสีดำในมือของฉัน――ฟุมุ เป็นแค่ลูกบอลโลหะกลม ๆ ที่ยิงออกมาด้วยแรงของอะไรสักอย่างหรือเปล่าน่ะ

 

“สิ่งที่เรียกว่าปืนใหญ่ขนาดเล็กนั้นสมเหตุสมผลดีเลย”

 

เป็นอาวุธที่ดูสมเหตุสมผลกับชื่อ กระสุนที่มีพลังสังหารสูงซึ่งแม้แต่เด็กที่อ่อนแอก็สามารถใช้ได้ ในแง่ของอานุภาพก็แรงพอที่จะหักกระดูกได้ง่าย ๆ และอาจจะเจาะเข้าไปในเนื้อได้ด้วย

 

“ฮะ……ดะ ได้ยังไงกัน……?”

 

ก็อย่างที่เห็น

 

กัปตันที่ยิงฉัน พวกริโนกิสที่ตะโกนเรียกฉัน อันเซลที่กำลังจะโจมตีกัปตัน และพวกลูกเรือต่างมองด้วยความตกตะลึง

 

แต่ก็อย่างที่เห็น

 

――เป็นอาวุธที่น่าสนใจ แต่ถ้ายิงจากด้านหน้า ก็ไม่มีทางโดนได้หรอก ก็ทรงพลังพอที่จะพูดว่า「เจ็บ」ได้อยู่ ฉันจะไม่พูดว่าเป็นอาวุธที่มีข้อบกพร่อง แต่ก็ต้องการบอกว่ามีหลายอย่างที่สามารถปรับปรุงได้

 

“นี่ คืนให้”

 

ป๊อก

 

“โอ้โก๊ว!?”

 

ฉันยิงกลับไปด้วยการดีดนิ้ว และกระสุนโลหะก็จมลงไปในท้องของกัปตัน

 

――อย่างแรกสุดเลย กระสุนนิ้วของฉันมีพลังมากกว่า

 

 

 

หลังจากเอาชนะทีมโจรสลัดล่วงหน้าได้ด้วยวิธีนี้ พวกเราก็ก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไปอย่างรวดเร็ว