บทที่ 172 คำสาบาน

รถส่วนตัวของหนีซีโย่วยังอยู่ข้างนอก 

เดิมทีหนีหย่าจูนเรียนเชิญเธอเข้ามากินอาหารเที่ยง เธอเคยคิดมาก่อนว่าอาจจะเป็นหลิงเล่อยากจะเจอเธอล่ะ 

แต่ว่า หนีหย่าจูนเคยรับปากเธอไว้ก่อน แต่ว่าตัวหลิงเล่ไม่อยู่ นี่ทำให้เธอเข้าใจว่าน่าจะมีกล้องวงจรปิด ดังนั้นรักทะนุถนอมจิตใจของลูกที่อยากจะเจอมารดา ก็เลยรับปากแล้ว

คิดไม่ถึง วันนี้เข้ามาก็เห็นสภาพแบบนี้

ตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์จะกินข้าวด้วยแล้ว นึกถึงเด็กที่อยู่ข้างบนยังนอนหลับสนิทอยู่คนนั้นหนีซีโย่วหมุนตัว จ้องไปยังหลิงเล่ “จดจำคำพูดที่ฉันพูดกับแกไว้ อยากจะให้เธออยู่โดยตลอดก็ลุกขึ้นมา บอกความจริงว่าเป็นอะไรที่เกี่ยวกับขาของแกให้กับเธออย่างเปิดเผย! เอาความหยิ่งในศักดิ์ศรีที่สมควรตายสิ่งนั้นของแก บีบให้แตกสลายโดยสิ้นเชิง!”

หลิงเล่เห็นเธอจะไป โดยจิตใต้สำนึกมือทั้งคู่จับรถเข็นไว้อย่างแน่น!

หนีหย่าจูนก็รีบลุกขึ้นมาพูดว่า “คุณป้า! ตกลงกันแล้วจะมากินข้าวกันล่ะ!”

“ไม่กินแล้ว!”

โมโหจนอิ่มแล้ว!

นึกถึงลักษณะน้อยที่น่าสงสารนั้นของมู่เทียนซิง หนีซีโย่วมีความวู่วามอย่างหนึ่งที่อยากจะห่อเธอพาไปส่งกลับคืนให้กับตระกูลมู่จริงๆ!

แต่ว่า!

เธอก็คงยังไม่สามารถทำร้ายใจของลูกชายได้!

“ฉันเคยรับปากคุณหนูมู่แล้ว ถ้าหากว่าหลังจากเธอตื่นแล้วยังอยากจะกลับบ้าน ฉันก็จะไปส่งเธอด้วยตนเองเสี่ยวเล่ฉันเตือนสติแกอย่างจริงจัง สัตย์ซื่อจริงใจ เปิดเผย ดีต่อเธอหน่อย! คุณหญิงเยว่หยาที่เป็นขั้นหนึ่งระดับสูงพูดแล้วไม่กลับคำ แกจับฉวยโอกาสเอง!”

หนีซีโย่วยกเท้าเดินก้าวใหญ่ไปยังหน้าประตู!

ครั้งนี้ไป ยิ่งไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่แล้ว!

ท่าทีที่ย่างก้าวเบาๆ ไม่ได้เหยียบอยู่บนพื้น แต่เหยียบอยู่บนหัวใจของแม่และลูก!

หลิงเล่จ้องมองภาพด้านหลังของเธอ เพียงรู้สึกเจ็บใจจนใกล้จะฉีกขาดแล้ว!

เขาสามารถใช้วิธีมัด มัดมู่เทียนซิงไว้อยู่ข้างกายตนเอง เนื่องเพราะเธอคือผู้หญิงของเขา!

แต่ว่าเขาไม่สามารถมัดหนีซีโย่วอยู่ข้างกายได้ เนื่องเพราะเธอคือคุณหญิงเยว่หยาของทั้งประเทศหนิง! เวลาสั้นๆ หนึ่งถึงสอง ชั่วโมง ผู้หญิงทั้งสองที่รักที่สุด ใกล้จะกดขี่หัวใจของเขาจนหายใจ ไม่ได้แล้ว!

อดไม่ได้ยกมือจับหัวใจไว้อย่างแรง เขาจ้องมองภาพด้านหลังของหนีซีโย่ว ในที่สุดก็อดไม่ได้ร้องตะโกนว่า “ผมยังจะได้เจอท่านอีกเมื่อไหร่หรือ?”

ในห้องโถงใหญ่โหรงเหรงวังเวง มีแต่เสียงที่แหลมเศร้ารันทดของหลิงเล่ล่องลอยอยู่ตลอด 

เงากายของหนีซีโย่วหยุดชะงัก อยากจะเอ่ยปาก ในสมองกลับ มีบทสนทนาแบบนี้ผ่านเข้ามาอย่างรวดเร็วอีก——

“ผมจะให้คุณสาบาน สาบานอย่างร้ายแรง! ในชาตินี้เอ่ยปากแก้ต่างเพื่อความบริสุทธิ์ของตนเองไม่ได้! แต่งงานเป็นภรรยาของโล่เจปู้ไม่ได้! เจอกับลูกของคุณไม่ได้! มิฉะนั้น คนที่คุณใกล้ชิดที่สุดรักที่สุดทั้งหมดในบนโลกนี้ล้วนต้องถูกสายฟ้าทั้งห้าฟาด ตายโดยร่างกายไม่สมบูรณ์!”

“ฉันหนีซีโย่วสาบานต่อฟ้า ในชาตินี้เอ่ยปากแก้ต่างเพื่อความบริสุทธิ์ของตนเองไม่ได้! แต่งงานเป็นภรรยาของโล่เจปู้ไม่ได้! เจอกับลูกของฉันไม่ได้! มิฉะนั้น คนที่ฉันใกล้ชิดที่สุดรักที่สุดทั้งหมดในโลกนี้ล้วนต้องถูกสายฟ้าทั้งห้าฟาด ตายโดยร่างกายไม่สมบูรณ์!”

กำกำปั้นอย่างแน่น คำพูดมากมายติดอยู่ที่ปาก แต่ว่าเธอไม่สามารถเอ่ยปากได้!

เพิ่มความเร็วในการย่างก้าวไม่ได้จ้องมองหลิงเล่อีกสักครั้ง ก็ไม่ได้ตอบกลับเขาอีกเช่นกัน อึดใจเดียวเธอพุ่งถึงหน้าประตูเพียงแค่อยากจะรีบหนีออกจากสถานที่นี้!

เธอใกล้จะกลั้นไม่ไหวแล้ว ให้พวกเด็กๆเห็นความคับขันลำบากของเธอไม่ได้!

แต่ว่า วินาทีถัดมา เธอกลับหมุนตัวกลับอย่างฉับพลันในทันทีโมโหตะโกนร้องกับพวกเขาคำหนึ่งว่า “เปิดประตูที่สมควรตายนี้ออกให้ฉัน”

ประตูของคฤหาสน์จื่อเวย ทำให้ผู้หญิงปวดหัวเหลือเกินจริงๆ ครั้งก่อนมู่เทียนซิงก็ถูกมันขวางไว้เช่นกัน จากนั้นตั้งใจฝึกแล้วฝึกอีกกับจั๋วซี จึงจะเป็น

หลังจากร้องตะโกนเสร็จ ไม่มีคนขยับ

หลิงเล่ก็จ้องมองเธออย่างเงียบๆเช่นนี้ หนีหย่าจูนก็จ้องมองเธออย่างเงียบๆเช่นกัน 

โม่หลินไม่เคยเห็นลักษณะที่ยั้งสติไม่อยู่เสียกิริยาเช่นนี้ของคุณหญิงเยว่หยามาก่อน ตกใจจนไม่กล้าเข้าไปเล็กน้อย แต่กลับกังวลถึงอารมณ์ของเธอ “คุณหญิงหรือ? ท่านยังดีอยู่ไหม?”

หนีซีโย่วกลั้นไม่ไหวแล้ว 

เธอหมุนตัวไป หันหน้าไปประตูใหญ่ หันหลังไปยังพวกเขา กายก็ค่อยๆนั่งยองๆลงทีละนิดทีละหน่อยเช่นนี้ 

กระเป๋าถือแบบผู้หญิงสีขาวก็ไหลตกอยู่บนพื้นเช่นนี้ 

“ฮือ ฮือ~ฮือ ฮือ ฮือ~”

เธอนั่งยองๆลงโดยสิ้นเชิงแล้ว มือหนึ่งจับหัวใจไว้ มือหนึ่งปิดปากไว้

ในห้องโถงใหญ่เงียบสนิทมาก หนีหย่าจูนกับหลิงเล่ ก็ล้วนใช้วิธีที่ล้อมรอบซ้ายขวาค่อยๆเข้าใกล้ไปยังเธอ!

เธอร้อนใจจนมือหนึ่งทุบประตูหนึ่งทีอย่างรุนแรง “ปล่อยฉันออกไป!”

ตอนที่เธออยากจะทุบครั้งที่สอง มือใหญ่ข้างหนึ่งจับมือเล็กของเธอไว้อย่างแน่น 

เงยหน้าขึ้นด้วยน้ำตาไหล กลับเห็นหลิงเล่กำลังจ้องมองตนเองด้วยความห่วงใยเต็มใบหน้า “ถ้าท่านอยากจะกลับไปผมจะช่วยท่านเปิดประตูถ้าหากวันหลังไม่มีโอกาสที่จะเจอกันอีก ผมก็ไม่บีบบังคับเช่นกัน แต่ว่า ท่านอย่าทำเรื่องที่ทำร้ายตนเอง ผมจะอยู่ดีๆอย่างแน่นอน ท่านก็ต้องอยู่ดีๆเช่นกัน” 

เสียงของเขาแหบเล็กน้อย ดูเหมือนจะร้องไห้แล้ว 

อยู่ดีๆยิ้มแล้วยิ้มอีกกับเธอ ดูเหมือนกำลังบอกกับเธอว่า อย่าเสียใจ ต้องมีความสุข

หลิงเล่ยกมือหมุนหนึ่งทีอยู่บนล็อกอิเล็กทรอนิกส์ สแกนรอยนิ้วมือของเขา ไม่นานตัวล็อกก็ปลดล็อกแล้ว

เขาก้มตัวลง หยิบกระเป๋าถือสีขาวของเธอจากพื้นอย่างมีความลำบากเล็กน้อย ปัดฝุ่นที่อยู่ข้างบนปัดแล้วปัดอีก ทนความเจ็บปวดใจไว้ ส่งให้เธอ

นี่คือยี่สิบหกปีที่ผ่านมา ครั้งแรกที่แม่ลูกทั้งสองเข้าใกล้ที่สุด!

ตาของหนีซีโย่วแทบจะติดอยู่ที่แก้มของหลิงเล่ โยกย้ายไม่ออกแม้แต่น้อย!

หลิงเล่ก็ใช้สายตาที่ใกล้จะโลภจ้องมองเธอเช่นกัน

ที่ที่ไกลครึ่งเมตร หนีหย่าจูนยืนอยู่ข้างกายของเขาทั้งสอง กลัดกลุ้มจนอยากจะร้องไห้ “คุณป้า ผมส่งท่านออกไป”

หลิงเล่ไม่ได้จ้องมองภาพด้านหลังที่จากไปของเธออีก 

เขามีการรับไม่ไหวต่อภาพที่ถูกมารดาโยนทิ้งครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้เล็กน้อย!

ดังนั้น ก่อนที่เธอจะจากไป เขาหมุนตัวออกไปก่อน ไปยังโซฟาข้างโน้นไม่มองเธออีกเลย 

หนีซีโย่วแทบจะพุ่งออกไป เธอกลัวว่าตนเองจะสายกว่านี้อีก ก็จะไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว

หนีหย่าจูนวิ่งตามไปปลอบโยน เขารู้ว่าคุณป้าหลังจากกลับไปในรถส่วนตัว จะต้องร้องไห้ฟูมฟายหนึ่งรอบอย่างแน่นอน!

แต่ ก็อยู่หลังจากพวกเขาออกจากคฤหาสน์ หลิงเล่กลับเลื่อนรถเข็นไปยังจุดที่อยู่หน้าลิฟต์เพียงลำพัง หยุดอยู่ที่นั่นหันหน้าไปยังคนทั้งหลาย จับศีรษะไว้ ร้องไห้หนักอย่างรุนแรงหนึ่งรอบ!

—— 

มู่เทียนซิงนอนหลับไปอย่างเลอะๆเลือนๆ ในฝันยังไออยู่ ร่างกายไม่สบายมาก

สมองเลอะๆเลือนๆมาโดยตลอด ในที่สุดตอนที่เธอลืมตา กลับรู้สึกบนท้องฟ้ามืดสลัวมาก เหมือนเป็นเวลาพลบค่ำ 

ร่างกายขยับแล้วขยับอีกเล็กน้อย กลับพบเห็นว่า บนเอวมีแขนข้างหนึ่งขวางอยู่ ถึงขนาดล็อกเธอไว้อย่างแน่น!

โดยจิตใต้สำนึกความโมโหขึ้นจากใจ เธอจับแขนข้างนั้นไว้อย่างรุนแรงก็จะสะบัดออก กลับได้ยินผู้ชายที่อยู่ข้างหลังซุกหน้าอยู่บนหลังของเธอ ฮือ ฮือ อ่า อ่า สะอึกสะอื้นขึ้นมา “อย่าขยับ! ฮือ ฮือ~แม่ผมไปแล้ว ที่รัก แม่ของผมไปแล้ว~! ผมไม่รู้ว่าในชาตินี้ยังจะได้เจอเธออีกหรือไม่ ฮือ ฮือ~”

อยู่ดีๆมือน้อยของมู่เทียนซิงแข็งทื่อแล้ว

เหมือนกับถูกจี้จุดแล้ว ในใจคือแค้นเขาอยู่ กลับไม่สามารถผลักเขาออกในเวลานี้!

เธอโมโหอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดว่า “ฉันไม่อยากเห็นคุณแม้แต่น้อย! หลิงเล่ ฉันกล่าวเตือนคุณ คุณห่างไกลกับฉันหน่อยดีที่สุด!”

หลิงเล่ไม่ได้พูด เพียงแค่กอดเธอยิ่งแน่นกว่านี้อีก ก็อยู่ในพริบตาเดียวนี้มู่เทียนซิงรู้สึกตื่นตระหนก หลังของตนเองดูเหมือนเปียกไปหมดเลย!

ผู้ชายคนนี้ นี่คือติดอยู่บนหลังของเธอร้องไห้นานขนาดไหนแล้ว?

“คุณ…….”

“ฮือ ฮือ~ แม่ของผมไปแล้ว ที่รัก แม่ของผม เธอไปแล้ว!”