ตอนที่ 182 การพบกันใหม่ที่โลกภายใน

นิยามแห่งราตรี (Night’s Nomenclature )

ตอนที่ 182 – การพบกันใหม่ที่โลกภายใน

ชายกลางคนเกลี้ยกล่อมอย่างหนักแน่นจริงใจว่า “พวกเธอเด็กวัยรุ่นไม่รู้หนักเบา กิจกรรมเดินขบวนจะต้องรายงาน ถึงเวลา ID ประจำตัวของพวกเธอทุกคนล้วนถูกจดบันทึก อยากจะหางานในองค์กรกลุ่มการเงินก็ยากแล้ว”

นักเรียนชายคนหนึ่งยิ้มเอ่ยว่า “คุณลุง พวกเราก็ไม่ได้วางแผนจะเข้าทำงานที่กลุ่มการเงินครับ เงินทุนมาถึงบนโลกนี้พร้อมกับเลือดสกปรก พวกเราต้องต่อต้านมัน!”

ชายกลางคนร้องเฮ้อ แต่ไม่พูดอะไรอีก

เวลานี้ นักเรียนสี่คนเดินมาหาชิ่งเฉิน ส่วนเขาก้มหน้า ท่าทางไม่แยแสสนใจเลย

“เพื่อนนักเรียน นายก็ดู ๆ ใบปลิวเถอะ” นักเรียนชายกล่าว

ชิ่งเฉินส่ายหน้า “ไม่ต้อง ขอบคุณ”

คำพูดเพิ่งเปล่งออกมา เด็กสาวผมเงินที่อยู่ข้างบ้านคนนั้นก็เบียดเข้ามา เธอกล่าวกับนักเรียนพวกนั้นว่า “ฉันอยู่ม.ปลายที่หนึ่งเขต 6 ฉันอยากเข้าร่วมกิจกรรมของพวกนาย ลงชื่อที่ไหนเหรอ?”

นักเรียนชายเห็นมีคนตอบรับก็หยิบแท็บเล็ตออกมาอย่างตื่นเต้นทันทีแล้วเอ่ยว่า “แจ้งรหัสนักเรียนกับชื่อให้ฉันมาก็พอ กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้จัดเฉพาะเขตที่ 6 ของเรา แม้แต่เขตที่ 4 เขตที่ 5 ล้วนมีคนจัดงาน ถึงเวลาทุกคนจะรวมตัวที่จตุรัสอวิ๋นซ่าง จากนั้นเดินขบวนไปสามเขตบนด้วยกัน! แถมพวกเรามีสปอนเซอร์ด้วยนะ การเดินขบวนครั้งนี้จะมีอาหารเช้า, อาหารเที่ยง, อาหารเย็นแจกฟรี”

“กำหนดการเดินขบวนของพวกนายได้รับการอนุมัติแล้วรึยัง?” เด็กสาวผมเงินถาม

“แน่นอน” นักเรียนชายเอ่ยอย่างกระตือรือร้น “เริ่ม 7 โมงเช้า ยุติ 4 ทุ่ม นี่เป็นเวลาเดินขบวนตามกฎหมาย แต่ว่าเพื่อนนักเรียนห้ามพกอาวุธมานะ อันนี้ไม่อนุญาต”

“อืม ฉันเข้าใจ นายจดรหัสนักเรียนกับชื่อของฉันหน่อย ฉันชื่อเจิ้งอี้ รหัสนักเรียนคือ 192……” เด็กสาวผมเงินกล่าว

นักเรียนชายสี่คนรีบเร่งไปยังโบกี้ถัดไปอย่างตื่นเต้นดีใจ แจกใบปลิวอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เจิ้งอี้แอบมองสำรวจชิ่งเฉินผ่านช่องว่างระหว่างผู้โดยสารในขบวนรถอย่างลับ ๆ ล่อ ๆ

รถรางเบามาถึง “สถานีมัธยมปลายที่หนึ่ง” เจิ้งอี้หันหลังลงจากรถ แต่ทว่าเวลานี้จู่ ๆ เธอค้นพบว่าเด็กหนุ่มคนนั้นก็ตามอยู่ข้างหลังเธอ

เดี๋ยวนะ นี่เป็นเพื่อนนักเรียนของโรงเรียนพวกเขาเหรอ ทำไมตนเองไม่เคยเห็นเลย?

“เพื่อนนักเรียน ขอถามหน่อยว่าห้องกิจการศึกษาไปยังไงเหรอ?” ชิ่งเฉินมองไปทางเจิ้งอี้แล้วถาม

เด็กสาวผมเงินเจิ้งอี้คิดในใจว่าห้องกิจการศึกษายังไม่อยู่ว่าอยู่ไหน ดูท่าจะมาเป็นครั้งแรก

หรือว่าเป็นนักเรียนย้ายเข้า?

เธอคิดแล้วกล่าวว่า “ห้องกิจการศึกษาหาไม่ค่อยง่าย ฉันพานายไปนะ”

ชิ่งเฉินยิ้ม “งั้นขอบใจนะ”

คนสองคนเดินเคียงข้างกันอยู่ในโรงเรียน ขณะนี้ในโรงเรียนคึกคักขึ้นมาแล้ว

เจิ้งอี้จู่ ๆ ถามว่า “ตอนเช้าบนรถรางเบานายไม่คิดจะเข้าร่วมการเดินขบวนอย่างสิ้นเชิงเลย ฉันอยากถามหน่อยว่าเพราะอะไรเหรอ? หรือว่านายไม่มีความไม่พอใจต่อสถานการณ์การศึกษาในปัจจุบัน……ฉันแค่ถามเล่น ๆ นะ”

“เปล่าหรอก แค่ไม่ชอบสถานที่ที่ผู้คนเยอะเกินไปน่ะ” ชิ่งเฉินกล่าวอย่างสงบนิ่ง

เจิ้งอี้พยักหน้าไม่พูดอะไรอีก

5 นาทีต่อมา เธอกล่าวกับชิ่งเฉินว่า “ข้างหน้าก็คือห้องกิจการศึกษา เพื่อนนักเรียนนายไปเองเถอะนะ ฉันจะกลับห้องเรียนแล้ว”

“ขอบใจ”

……

……

เจิ้งอี้เดินตัดผ่านโรงเรียนอันเขียวชอุ่มเพียงลำพัง เดินไปยังห้องเรียนของตนเอง

ในสหพันธรัฐปัจจุบันนี้ นอกจากสามเขตบนของเมืองทุกเมือง ดูเหมือนว่ามีเพียงโรงเรียนรัฐที่ยังสามารถรักษาพื้นที่อิสระเอาไว้ได้ ไม่ต้องพลุกพล่านเหมือนสถานที่อื่นในเมือง

ว่ากันว่านี่เป็นเป็นผลลัพธ์ของหลังจากการเดินขบวน เป็นสิ่งที่แย่งชิงมาได้หลังจากหนังสือพิมพ์ที่ชื่อว่าสำนักข่าวซีวั่ง* แห่งหนึ่งพาเหล่านักเรียนเดินขบวนท่ามกลางแรงกดดัน

เจิ้งอี้นั่งลงเงียบ ๆ หลังจากเข้าห้อง เธอใส่หูฟังเริ่มเตรียมบทเรียนของวันนี้

ตอนที่เตรียมบทเรียน เธอเลื่อนสายตาไปทางซ้ายเป็นครั้งคราว ติดหน้าต่างด้านนั้นมีเด็กสาวผู้สงบนิ่งคนหนึ่งนั่งอยู่ สูงโปร่งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่บ้าง

นั่นเป็นเด็กสาวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโรงเรียน สวย เรียนเก่ง รูปร่างก็ดี แล้วยังความสามารถรอบด้าน

เด็กสาวอย่างนี้ทำอะไรในโรงเรียนล้วนได้รับความสนใจ ว่ากันว่าการเดินขบวนนักเรียนอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตี

ช่างทำให้คนอิจฉาจริง ๆ

ในขณะนี้เอง ผู้อำนวยการชั้นปีจู่ ๆ มาที่ห้อง……ข้างหลังยังตามมาด้วยเพื่อนบ้านใหม่ของเธอ

ผู้อำนวยการชั้นปีเดินมาที่โพเดี้ยมกล่าวว่า “นักเรียน คนนี้เป็นเพื่อนนักเรียนใหม่ของม.ปลายปีสองห้อง 3 ของพวกคุณ ทุกคนต้อนรับหน่อย”

เจิ้งอี้ตะลึง เธอคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเพื่อนบ้านใหม่คนนี้ถึงกับจะเป็นเพื่อนนักเรียนร่วมห้องเรียนของตนเอง!

แต่สิ่งที่ยิ่งทำให้เธอประหลาดใจคือ ตอนที่เพื่อนนักเรียนใหม่คนนี้เดินเข้าห้องเรียน เจิ้งอี้จู่ ๆ ค้นพบจากหางตาว่าเพื่อนนักเรียนหญิงที่เธอชื่นชมคนนั้นจู่ ๆ นั่งตัวตรงขึ้นมา

เด็กสาวผมเงินหันศีรษะไปมอง ค้นพบด้วยความประหลาดใจว่าในสีหน้าของเพื่อนนักเรียนหญิงคนนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจและไม่เข้าใจ

เธอมองไปทางนักเรียนย้ายเข้าคนนั้นอีกรอบ สายตาของอีกฝ่ายก็ตรึงแน่นที่ร่างของเพื่อนนักเรียนหญิงคนนั้น

สองคนนี้รู้จักกัน

เจิ้งอี้ทำการตัดสินในใจ

“สวัสดีทุกคน ฉันชื่อชิ่งเฉิน ทุกคนโปรดช่วยดูแลเยอะ ๆ นะ” ชิ่งเฉินพูดจบก็จับจ้องเพื่อนนักเรียนหญิงคนนั้นใต้โพเดี้ยมต่อไป……

พูดตามสัตย์ ความประหลาดใจในใจเขาไม่น้อยกว่าผู้ใดเลย

เพราะว่าเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า ตนเองจะถึงกับได้พบยางยางเร็วขนาดนี้ในโลกภายใน!

ณ ชั่วขณะหนึ่ง ชิ่งเฉินถึงขนาดนึกว่านี่เป็นสิ่งที่หลี่ซูถงจงใจจัดแจง แต่ท่านอาจารย์คนนั้นไม่รู้ตัวตนของยางยางชัด ๆ ดังนั้นนี่เป็นความบังเอิญอย่างแท้จริง

ที่โลกภายนอก ยางยางเป็นนักเรียนย้ายเข้า

ที่โลกภายใน นักเรียนย้ายเข้ากลับกลายเป็นเขา

ความรู้สึกชนิดนี้มหัศจรรย์เกินไปแล้ว

สายตาของชิ่งเฉินกวาดผ่านเจิ้งอี้อีกที เขาคิดไม่ถึงด้วยว่าเพื่อนบ้านคนนี้ก็จะอยู่ในชั้นเรียน

“เอาล่ะ นักเรียนชิ่งเฉินหาที่นั่งเอาเองเถอะ” ผู้อำนวยการชั้นปีเอ่ยอย่างใจดี “หลังเพื่อนนักเรียนใหม่มาถึง ทุกคนช่วยให้เขาทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมมาก ๆ นะ!”

เจิ้งอี้กล้าสาบานว่าเธอไม่เคยเห็นผู้อำนวยการชั้นปีที่ใจดีเป็นมิตรอย่างนี้เลย แถมนักเรียนย้ายเข้ามาแล้วควรจะเป็นครูประจำชั้นพาเข้าห้องเรียนสิ ทำไมเป็นผู้อำนวยการชั้นปีพามาด้วยตัวเองล่ะ

ณ ขณะนี้ ชิ่งเฉินเดินช้า ๆ ไปนั่งตรงที่ว่างข้างกายยางยาง ถามอย่างไม่แยแสสนใจว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอน่าจะเป็นเด็กสาวชาวป่าที่ไร้ญาติขาดมิตรนะ?”

ยางยางกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า “ตามที่ฉันรู้มา นายก็ควรจะเป็นนักล่าชาวป่าที่ร่อนเร่ไร้ถิ่นฐานนะ?”

คนสองคนมองหน้ากันต่างฝ่ายต่างยิ้มพิลึกพิลั่นทีหนึ่ง ทุกคนล้วนทราบชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้พูดความจริง ตัวตนของแต่ละฝ่ายกลายเป็นปริศนาอีกครั้ง!

ตามคาดเลย หลังจากเหตุการณ์ทะลุมิติ ระหว่างนักท่องเวลาไม่มีวาจาจริงแล้ว!

พูดตามหลักเหตุผล นี่น่าจะเป็นฉากตายทางสังคมขนาดใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่ปัญหาคือแต่ละฝ่ายล้วนถูกเปิดโปงคำโกหก จึงหักลบกัน ใครก็ว่าใครไม่ได้

ยางยางกล่าวราวกับไร้เรื่องราวว่า “นายย้ายมาจากโรงเรียนไหนล่ะ?”

ชิ่งเฉินกล่าวว่าหนังยิ้มเนื้อไม่ยิ้มว่า “เดาสิ?”

ยางยางจู่ ๆ กล่าวว่า “นายอาศัยอยู่ที่เขตที่หก งั้นก็น่าจะได้ยินเรื่องกิจกรรมเดินขบวนสุดสัปดาห์นี้แล้วปะ”

“อืม” ชิ่งเฉินกล่าว “บนรถรางเบาเห็นมีนักเรียนแจกใบปลิว”

“กิจกรรมเดินขบวนนี้ฉันเป็นตัวตั้งตัวตี ยังไงนายก็มาเข้าร่วมนะ?” ยางยางเชิญชวน

ชิ่งเฉินคิดในใจว่าตามคาด……

มิน่าตอนที่นักเรียนพวกนั้นแนะนำข้อเรียกร้องของพวกเขา ความรู้สึกคุ้นเคยถึงได้รุนแรงขนาดนั้น

ตัวอย่างเช่นโรงเรียนรับผิดชอบหน้าที่ทำการสอนอีกครั้ง อย่าผลักไสเวลาของนักเรียนไปยังสังคม

ตัวอย่างเช่นป้องกันการขยายทุนอย่างไร้ระเบียบในด้านการศึกษา

ตัวอย่างเช่นกวดขันห้ามครูผู้สอนตั้งสถาบันกวดวิชานอกโรงเรียนแล้วเอาเนื้อหาที่ควรจะสอนในห้องเรียนไปสอนนอกคาบ

โธ่เอ๊ย นี่ก็คือสิ่งที่ยางยางลอกมาจากโลกภายนอก!

“ฉันไม่เข้าร่วม” ชิ่งเฉินกล่าวกับใบหน้าไร้อารมณ์ “ฉันอยากรู้นิดหน่อยว่าเธอไม่กลัวว่าตัวเองเปิดเผยมากเกินไปแล้วจะดึงดูดความสนใจของคนอื่นเหรอ”

ยางยางมองชิ่งเฉินแวบหนึ่ง “นายยังระแวดระวังเหมือนเดิมเลยนะ……จริงสิ นายอยู่ที่ไหนล่ะ ฉันจะดูว่าอยู่ใกล้บ้านฉันรึเปล่า”

เวลานี้ เด็กสาวผมเงินเจิ้งอี้ที่อยู่ไม่ไกลลอบสังเกตเพื่อนนักเรียนสองคนนี้

เธอเห็นสีหน้าที่อีกฝ่ายสนทนากัน จู่ ๆ รู้สึกว่าพวกเขาไม่น่าจะแค่รู้จักกัน

……………………………………….

*สำนักข่าวซีวั่ง ซีวั่งแปลว่าความหวัง ตอนแรกคิดจะแปลเป็นโฮปมีเดียด้วยค่ะ นี่น่าจะมีตัวตนตั้งแต่นิยายภาคแรกเลยมั้ง มีบทอยู่บ้าง ขอบอกว่าในตัวละครที่ออกมาแล้วมีคนของซีวั่งด้วยแหละค่ะ แต่ขออุบว่าเป็นใครนะ ^^