“นี่มันจะโหดร้ายมากเกินไปแล้ว” ปาจรีย์โกรธจนร่างสั่นเทา “ไม่ได้ วารุณี ไม่สั่งสอนเธอบ้าง ฉันคงทนต่อไปไม่ได้แน่ ไป เราไปหาเธอตอนนี้กัน”
“ปาจรีย์ อย่าเพิ่งวู่วาม ”วารุณีดึงแขนเสื้อเธอเอาไว้ “ตอนนี้อยู่ในช่วงประมูล หากเราไปหาเธอตอนนี้ เราอาจจะถูกผู้จัดขึ้นบัญชีดำได้ มันจะได้ไม่คุ้มเสียเอารอการประมูลเสร็จแล้วเราค่อยมาว่ากันนะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปาจรีย์ก็เย็นลง เก็บเท้าที่ก้าวออกไปเมื่อครู่กลับเข้าที่ “ที่เธอพูดมันก็ถูก งั้นเรากลับไปที่ห้องโถงกัน ”
“อืม”วารุณีพยักหน้า
ทั้งสองคนช่วยกันพยุงกันกลับไปยังห้องโถง
พิชญาจับจ้องไปที่ทางเข้าของประตูห้องโถงอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าวารุณีถูกพยุงร่างกลับเข้ามา ในใจก็พึงพอใจ จากนั้นก็ขุ่นเคืองขึ้นมาอีกครั้ง
ที่พึงพอใจเพราะวารุณีเสียท่าให้ และที่ขุ่นเคืองก็เพราะวารุณีเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่ถอดใจ ยังอยู่ร่วมงานประมูลต่อ
และคนที่เห็นวารุณีได้รับบาดเจ็บ ก็คือนัทธีที่อยู่ในห้องรับรองบริเวณชั้นสอง
นัทธีที่จ้องมองไปที่เท้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง จึงได้ตามตัวมารุตมา“ นายไปหาคนที่รับผิดชอบงานนี้ ให้เขาไปถามทีว่าเท้าของวารุณีเป็นอะไร ”
มารุตก็มองไปที่วารุณีด้วยเช่นกัน พยักหน้ารับ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ ”
เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องรับรองไป
แต่ผ่านไปไม่นาน เขาก็กลับมา “ สอบถามมาแล้วครับ คุณวารุณีลื่นล้มหน้าประตูห้องน้ำครับ”
นัทธีขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้ ตอนเดินกำลังทำอะไรอยู่กัน ?
“นายไปซื้อรองเท้าส้นเตี้ยมาคู่หนึ่ง แล้วหาคนเอาไปให้เธอ จากนั้นก็ตามหมอมาดูอาการให้เธอด้วย” นัทธีขมวดคิ้วแน่น สั่งงานออกไปเสียงเข้ม
มารุตตอบรับคำอีกครั้ง “ครับ”
ไม่นาน เจ้าหน้าที่งานประมูลก็นำกล่องรองเท้ากล่องหนึ่งมาให้กับวารุณี “คุณผู้หญิง ทางเราได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับคุณ เราได้ซื้อรองเท้าส้นเตี้ยมาให้คุณโดยเฉพาะ โปรดรับเอาไว้ด้วยครับ”
“โอ้แม่เจ้า นี่งานบริการของพวกคุณดีขนาดนี้เลยเหรอ?” ปาจรีย์ประหลาดใจจนอ้าปากค้าง
วารุณีก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ยื่นมือไปรับกล่องรองเท้านั้นมา “ต้องขอบคุณมากค่ะ”
“คุณเกรงใจไปแล้ว คุณเป็นแขก นี่เป็นสิ่งที่เราพึงกระทำ อีกอย่าง ทางเรายังมีห้องพยาบาลด้วย คุณผู้หญิงสามารถไปตรวจอาการบาดเจ็บได้ฟรีครับ ”
“มีหมอด้วย เยี่ยมไปเลย วารุณี ” ดวงตาของปาจรีย์เป็นประกายแล้วตีไปที่วารุณีเบาๆ
วารุณีรู้ว่าเธอจะพูดอะไร ในใจก็รู้สึกอบอุ่น แล้วส่ายหัว “ไม่รีบค่ะ รองานประมูลจบก่อนแล้วฉันค่อยไป”
“ไม่มีปัญหาครับ หมออยู่ตลอด คุณผู้หญิงไปได้ตลอดเวลาครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
หลังจากที่พูดจบ พนักงานก็ยิ้มให้เธอ แล้วจากไป
ปาจรีย์แย่งกล่องมาแล้วเปิดออกดู ข้างในเป็นรองเท้าพื้นนุ่มสีขาว แบบเรียบง่าย แต่ดูแล้วก็สวยอยู่ไม่น้อย และเข้ากับเสื้อผ้าที่วารุณีสวมใส่มาก
ปาจรีย์มองดูรองเท้าแล้วพูดขึ้นว่า “ผู้จัดงานนี้ก็ช่างดีจริงๆนะ ใจกว้างด้วย ไม่เพียงซื้อแบรนด์หรูมาให้ ยังคำนึงไปถึงชุดที่เธอสวมใส่อีกด้วย หนำซ้ำก็ยังมีหน่วยรักษาพยาบาลอีก จิ๊ๆ บริการแบบนี้ ช่างเยี่ยมจริงๆ ”
“พอแล้ว งานประมูลจะเริ่มขึ้นแล้ว เอารองเท้ามาให้ฉันเร็วๆ”วารุณีใช้แขนดันไปที่เธอ
ปาจรีย์วางกล่องรองเท้าไปบนตักของวารุณี “อะนี่”
วารุณียกยิ้ม และโน้มตัวลงเปลี่ยนรองเท้าส้นสูงออก
ในตอนนี้เอง การประมูลก็ได้เข้าสู่จุดเดือด บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายกับสตูดิโอต่างก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด
ปาจรีย์ก็ร่วมประมูลอยู่หลายครั้ง แต่เพราะศักยภาพของสตูดิโอที่มีไม่เพียงพอ อีกทั้งยังเป็นสตูดิโอที่เพิ่งเปิดใหม่ ไม่นานการประมูลก็ถูกตัดหน้าไป สูญเสียโอกาสในการประมูลไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าผลที่ออกมา ปาจรีย์จะรู้สึกผิดหวังมาก แต่เธอก็ยอมรับได้ เพราะคิดว่าผลที่ออกมาก็เป็นตามที่คาดไว้แต่แรกแล้ว
พิชญาไม่รู้ว่าวารุณีไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชนะการประมูลได้ เมื่อเห็นNewbornสตูดิโอถูกคัดชื่อออก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดีใจมากแค่ไหน ยังหันหลังกลับไปมอง อยากเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของวารุณี
แต่ก็ต้องผิดหวังที่ไม่ได้เห็น แต่พิชญากลับเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของวารุณี ทันใดนั้นในใจก็อยู่ไม่สุขทันที
มันเกิดอะไรขึ้น ประมูลงานก็ไม่ได้ ทำไมเธอถึงยังหัวเราะออกมาได้ ?
พิชญาไม่เข้าใจ
วารุณีสังเกตเห็นพิชญาจ้องมองมา เธอก็มองจ้องกลับไปที่พิชญาเช่นกันแล้วพูดกับปาจรีย์ที่อยู่ข้างๆว่า “เขากำลังมองมาที่เรา”
“ใคร?”ปาจรีย์ตอบสนองไม่ทันในชั่วขณะ
วารุณีถอนหายใจ “พิชญาไง”
“ไหนอยู่ไหน?”ปาจรีย์ยกมือป้องตาแล้วมองไปรอบๆ
ริมฝีปากแดงของวารุณีก็ขยับ “แถวที่เจ็ด ขวามือคนที่สอง”
“อ้อ ฉันเห็นแล้ว”ปาจรีย์เห็นพิชญาแล้ว ยิ้มเยาะส่งไปให้ก่อน จากนั้นก็ทำมือเป็นมีด แล้วลากผ่านไปที่คอ สีหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
พิชญาถึงกับตกใจ รีบหันศีรษะกลับทันที พร้อมหัวใจที่เต้นโครมคราม
ปาจรีย์หัวเราะชอบใจ “เห็นหรือยัง เขาตกใจกลัวจนหันกลับไปเลย ”
วารุณีโค้งมุมปากขึ้น “เห็นแล้ว ทำได้ดี ”
“แน่นอน”ปาจรีย์ส่งเสียงหึหึอย่างพอใจ
นัทธีที่อยู่บนชั้นสองเห็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
มารุตที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง “ท่านประธาน หัวเราะอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร ผลการประมูลจะออกมาหรือยัง ?”นัทธีวางแก้วเหล้าในมือลงแล้วหันกลับมา
มารุตมองดูนาฬิกา “ได้เวลาแล้ว กำลังจะประกาศผลแล้วครับ”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นี้ พิธีกรที่ชั้นหนึ่ง ก็หยิบไมโครโฟนแล้วเดินไปที่แท่นโพเดียม เริ่มประกาศผลการประมูล“ ขอแสดงความยินดีกับคุณจรณ์ที่อยู่ห้องรับรองบนชั้นสองด้วยนะครับ ที่ชัยชนะการประมูลในครั้งนี้ คว้างานโครงการแฟชั่นโชว์ในฤดูหนาวนี้ไปได้!”
เมื่อผู้คนที่อยู่ด้านล่างได้ยินคำพูดประโยคนี้ ต่างก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังบริเวณชั้นสอง และอยากจะรู้ว่าคุณจรณ์คนนี้เป็นใครกัน
แต่ประตูและหน้าต่างของห้องรับรองบนชั้นสองนั้นถูกปิดไว้อย่างมิดชิด และทุกคนต่างก็มองไม่เห็นอะไรเลย
“วารุณี เธอเคยได้ยินชื่อคุณจรณ์อะไรนี้ที่จังหวัดจันทร์มาก่อนหรือเปล่า ?”ปาจรีย์กระซิบถามไปที่ข้างๆหูของวารุณี
วารุณีส่ายหัว “ตอนนี้ไม่เคย แต่เมื่อก่อนเคยได้ยินมาบ้าง ”
“เมื่อก่อน?”ปาจรีย์กะพริบตาด้วยความสงสัย
วารุณีนวดคลึงไปที่ข้อเท้า “เมื่อก่อนจังหวัดจันทร์มีตระกูลนาคชำนาน แต่เป็นตระกูลของปัญญาชนนะ ตระกูลนาคชำนานมีลูกสาวคนหนึ่ง แต่งเข้าบ้านตระกูลไชยรัตน์ แล้วให้กำเนิดประธานนัทธี แต่หลังจากที่แม่ของประธานนัทธีเสียชีวิต ทุกอย่างของตระกูลนาคชำนานก็ถูกรวมเข้ากับตระกูลไชยรัตน์ จากนั้นตระกูลนาคชำนานก็ไม่เคยปรากฏชื่อในจังหวัดจันทร์อีกเลย ”
“งั้นตามที่เล่ามา คุณจรณ์คนนี้ ก็มาจากต่างเมืองนะสิ ” ปาจรีย์มือลูบคางแล้วคาดเดาไปต่างๆนานา
วารุณียักไหล่อย่างไม่ได้สนใจ “พอแล้ว ช่างเขาว่าเขาจะมาจากที่ไหน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เราไปกันเถอะ ”
“ไป ไปคิดบัญชีกับแม่พิชญาตัวดีกัน” ปาจรีย์ประคองร่างของวารุณีให้ลุกขึ้น
ทั้งสองเพิ่งจะเดินพ้นจากเก้าอี้แถวแรกไปได้ ชายคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดบอดี้การ์ดก็เดินเข้ามา รั้งพวกเธอเอาไว้ “ไม่ทราบว่าทั้งสองคนนี้เป็นตัวแทนของNewborn สตูดิโอใช่ไหมครับ ?”
“คุณเป็นใคร?”ปาจรีย์รั้งร่างของวารุณีให้มาอยู่ทางด้านหลัง แล้วมองไปที่อีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง
ชายคนนั้นตอบกลับด้วยสีหน้านิ่ง “ ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณจรณ์ คุณจรณ์ให้ผมมาเรียนเชิญคุณทั้งสองครับ ”
“เชิญเรา?”ปาจรีย์กับวารุณีต่างมองหน้ากัน
วารุณีขมวดคิ้วแล้วถามไปว่า “ มีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่าคะ ?”
“พูดคุยเรื่องงานประมูลครับ เรียนเชิญคุณทั้งสองด้วยครับ ”ชายคนนั้นพูดจบ ก็ทำท่าทางเชิญ เห็นชัดว่าคงปฏิเสธไม่ได้
ปาจรีย์มองไปที่วารุณีอย่างวิตกกังวล “วารุณี เราจะทำยังไงกัน จะไปดีหรือไม่ไปดี ?”
วารุณีหลับตาสงบนิ่งอยู่ชั่วครู่ “ไปสิ ท่าทางของเขาแบบนี้เราปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ”
“แล้วถ้าหากคุณจรณ์อะไรนั้น คิดจะทำมิดีมิร้ายอะไรกับพวกเราจะทำยังไง?”ปาจรีย์โอบกอดมาที่ตัวเอง
วารุณีหัวเราะออกมา “ไม่หรอก ที่นี่เป็นสถานที่ราชการ หากเขาคิดจะทำมิดีมิร้ายเรา คงไม่ลงมือในสถานที่แบบนี้หรอก”
“เออจริง งั้นไปกันเถอะ” เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ปาจรีย์ที่เป็นกังวล ก็เบาใจขึ้นมา จากนั้นก็ประคองร่างเธอ เดินตามบอดี้การ์ดขึ้นไปที่ชั้นสอง
หลังจากที่เข้ามายังภายในห้องรับรอง วารุณีมองไปที่โซฟา มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ รูปร่างหน้าตาธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไร ราศีรอบตัวก็ไม่เปล่งประกายออร่าเท่าไร และที่สำคัญคือ ชุดสูทที่สวมใส่ก็ไม่ได้ดูหรูหราอะไร เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร จะเป็นคุณจรณ์ที่ชนะงานประมูลคนนั้นเหรอ?