ตอนที่ 2

Hell mode

บทที่ 2 เกิดใหม่

อบอุ่น เคนอิจิรู้ว่าตัวเองหมดสติไป ก่อนจะมารู้ตัวอีกทีว่าตัวเองอยู่ในของเหลวอุ่นๆ ที่เหมือนกับบ่อน้ำอุ่น

(เอ๊ะ? ลมหายใจ!?)

เคนอิจิรู้สึกสับสนเมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในของเหลวอะไรสักอย่าง แต่ไม่มีแรง ไม่สามารถขยับร่างกายได้

(แย่แล้ว ตายแล้วงั้นเหรอ? หือ? ไม่หายใจก็ไม่เป็นไรนี่น่า? อยู่สภาพไหนกันเนี่ย?)

ภายในน้ำอุ่นๆ มองอะไรไม่เห็น ถึงไม่หายใจก็ไม่เป็นไร แถมยังรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก

เคนอิจิเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา เลยรู้ถึงความวุ่นวายในโลกแห่งความเป็นจริง ความเหนื่อยล้านั้นกำลังได้รับการเยียวยา

ไม่คิดอะไร และรอให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ

และตอนที่ผ่านไปได้ 10 วัน

จู่ๆเคนอิจิก็รู้สึกไม่สบายใจ ไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ไม่สบายใจจนขนลุกชัน

(โอ๊ะ? หรือว่า? นี่มัน? อะ อึดอัด)

รับรู้ได้เลยว่าทั่วร่างตั้งแต่ศีรษะโดนบีบรัดอย่างรุนแรง

ยังไม่มีแรงเหมือนเดิม ตาเองก็มองไม่เห็น หูก็ไม่ได้ยิน มีแค่สติอย่างเดียว

ตอนที่คิดว่าทั่วร่างหลุดพ้นจากการโดนบีบรัดแล้ว ก็กลับเข้าไปในน้ำอุ่นอีกที

(ละ ลมหายใจมัน อึกๆๆ)

ทั้งที่จนถึงตอนนี้ไม่ต้องหายใจก็ได้ แต่จู่ๆตัวเองกลับต้องการอ๊อกซิเจนขึ้นมา ในระหว่างที่ทรมานเพราะหายใจไม่ได้ ตรงบริเวณก้นก็มีแรงกระแทกเข้ามา แรงกระแทกหลายต่อหลายครั้งดูเหมือนจะโดนตีก้นอยู่

(อึ้ก! เจ็บนะเนี่ย!! ทำอะไรเนี่ย !!!)

“อุแว้ อุแว้!!!”

“โอ้ หายใจแล้ว! เทเรเซียพยายามได้ดีมาก!!”

“อ้า คุณคะ…”

ได้ยินเสียงเป็นครั้งแรก เหมือนจะเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ตายังมองอะไรไม่ค่อยเห็น หูเองก็ยังฟังไม่ค่อยได้ อาจจะด้วยทางเดินหายใจเพิ่งถูกใช้งานใหม่ๆ หรือเปล่า ทำให้ต้องการสูดลมหายใจเอาอ๊อกซิเจน

ดูเหมือนรอบๆจะมีคนอยู่ 2-3 คน แต่ไม่รู้ว่ามีจำนวนกี่คนกันแน่ที่รายล้อมอยู่

พอออกมาจากน้ำร้อน ก็ถูกห่อด้วยผ้าอะไรสากๆ หลังจากนั้นสักพักก็สงบขึ้น

(นี่มัน การเกิดใหม่อย่างไม่ต้องสงสัย ขอบคุณมากจริงๆ ว่าแต่ทำไมถึงเริ่มตั้งแต่แรกเกิดอย่างนี้เนี่ย อย่างน้อยอยากจะให้เริ่มที่ 5 ขวบทีเถอะ!)

ผ่านไปแล้ว 6 เดือน เคนอิจิสังเกตรอบๆพร้อมกับให้เวลาผ่านไปวันๆ ตอนนี้ตากับหูใช้งานได้ดีกว่าตอนเกิดใหม่แล้วด้วย

ในที่สุดก็คลานได้สักที ได้รับวิธีการเคลื่อนที่ในระยะห่างไม่ไกลแล้ว

“อเลน จะหลับหรือยัง?”

“แอ้”

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาพอจะรู้แล้ว ยามาดะ เคนอิจิมีชื่อว่าอเลน

ถึงจะไม่มีเพศให้เลือก แต่เหมือนจะเกิดมาเป็นผู้ชายได้อย่างปลอดภัย

ผู้หญิงที่อุ้มอยู่คือแม่ของอเลนเทเรเซียหญิงสาวอายุ 10 ปลายๆแต่ยังไม่ถึง 20 ปี หญิงสาวผู้งดงามทีดวงตาสีเขียว กับผมสีน้ำตาลยาวผูกรวบไว้ถึงกลางหลัง

เธอวางอย่างอ่อนโยนบนเตียงเล็กที่ทำรั้วไม้อย่างเรียบง่ายๆ ก่อนจะเอาผ้านวมป่านที่เนื้อสัมผัสสากๆมาคลุมจนถึงหัวไหล่

“ เทเรเซียกลับมาแล้ว”

ตอนนี้เลยเที่ยงไปแล้ว ผู้ชายรูปร่างบึกบึนเข้ามาจากห้องพื้นดิน ตามร่างกายมีเหงื่อและเศษดินติดตามตัว

ชายคนนี้เป็นพ่อของอเลนชื่อว่าโรดัน มีผมสีน้ำตาลเช่นเดียวกับเทเรเซีย โครงหน้าดูดิบเถื่อน ร่างกายใหญ่โตมีกล้ามเนื้อ อายุน่าจะประมาณ 20 ปี

ตามปกติเทเรเซียมักเรียกผู้ชายว่าคุณ ทำให้ลำบากมากกว่าจะได้รู้ชื่อของพ่อ

เทเรเซียมอบมันฝรั่งนึ่ง 2 หัวให้กับโรดัน

“หือ? เรเทเซียกินแล้วงั้นเหรอ?”

“เอ๊ะ?”

เทเรเซียแสดงอาการตกใจ โรดันเลยคืน 1 หัวให้กับเทเรเซีย นี่เป็นสิ่งที่ได้ยินบ่อยๆในช่วง 6 เดือนนี้

“ไม่ได้นะ ถ้าไม่กินให้เต็มที่เดี๋ยวจะไม่มีน้ำนม การลดหย่อนภาษีมีถึงปีหน้า จนกว่าจะถึงตอนนั้นต้องเลี้ยงลูกให้เติบโตนะ”

“ขอบคุณนะคะ”

(หมู่บ้านนี้ไม่มีชื่องั้นเหรอ)

หมู่บ้านนี้ดูเหมือนท่านเจ้าเมืองจะให้เป็นหมู่บ้านบุกเบิกใหม่ เพราะว่าเป็นการรวมตัวกันที่ของคนที่อายุไม่ค่อยเยอะ ทำให้การพูดคุยของครอบครัวได้ยินเรื่องพวกนี้อยู่บ่อยๆ เช่น บ้านใกล้ๆมีเด็กคลอดบ้าง หรือภายในหมู่บ้านมีเด็กเกิดใหม่บ้าง

(ดูเหมือนลูกของพวกเขาจะมีแค่ฉันคนเดียว)

บ้านนี้ประกอบไปด้วย พ่อโรดัน, แม่เทเรเซีย, และฉันเท่านั้น

หมู่บ้านบุกเบิกจะได้รับระบบภาษีที่ค่อนข้างเป็นมิตร ดังนั้นจึงคิดว่าทั้งโรดันและเทเรเซียเลยออกมายืนด้วยลำแข้งของตัวเองยังหมู่บ้านนี้

โรดันเคี้ยวมันฝรั่ง ก่อนจะใช้แก้วไม้ตักน้ำจากตุ่มมาดื่มราวกับจะออกไปอีก ซึ่งก่อนออกไปเทเรเซียก็เข้ามาจูบที่แก้ม ยังหวานแหววอยู่พลันคิดว่าอีกไม่นานคงได้น้องชายหรือน้องสาว

(ถึงการใช้ชีวิตของทาสมันไม่สบาย แต่ชีวิตมันก็อย่างนี้แหละ)

อเลนในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นคนเลือกทาสด้วยตัวเอง ดังนั้นเลยไม่มีความไม่พอใจในสภาพเช่นนี้ แม่ที่งดงาม กับพ่อที่เป็นห่วงครอบครัว ถ้าจะมีความไม่พอใจสักอย่างแล้วละก็

(เปิดสเตตัส)

ยื่นมือไปในอากาศราวกับต้องการอะไรสักอย่าง พร้อมกับร่ายอยู่ในใจ

แต่ไม่มีอะไรออกมา เลยหดมือที่ยื่นไปในอากาศ

(ฉันเป็นนักอัญเชิญแล้วสินะ หรือว่ายังเด็กไปเลยยังอัญเชิญไม่ได้ ยังตรวจสอบสเตตัสอะไรไม่ได้ด้วย นี่เพราะเฮลโหมดด้วยหรือเปล่านะ ไม่มีอะไรที่ทำได้เลย)

อเลนเป็นทารกอายุ 6 เดือน ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น ทั้งที่น่าจะเกิดมาเป็นนักอัญเชิญแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้น

(จะว่าไปในแนวทางอย่างนี้ พระเอกที่กลับชาติมาเกิดเป็นทารกน่าจะรู้ถึงพลังเวทที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย และรู้ถึงพลังเวทที่ยิ่งใหญ่ระหว่างที่เป็นทารกอยู่หรอก แต่กลับไม่รู้สึกถึงอะไรอย่างนั้นในร่างกายเลย)

ระหว่างที่ไม่ได้คำตอบความง่วงก็เข้าถาโถม เพราะร่างกายเป็นของทารก พอกินอิ่มเลยฉี่ราดจนร้องไห้ออกมา แล้วก็เขาสู่สภาพหลับลึก

หลังจากนั้น 6 เดือน ผ่านมาแล้ว 1 ปีตั้งแต่กลับมาเกิดใหม่

ฤดูในตอนนี้น่าจะเป็นช่วยต้นฤดูใบไม้ร่วง ทำให้คิดว่าฉันน่าจะเกิดตอนฤดูใบไม้ผลิ

อาหารที่หรูหรากว่าทุกทีเรียงรายอยู่ อเลนเริ่มหย่านมแล้วทำให้กินอาหารนิ่มๆ อย่างถั่วต้มหรือมันฝรั่งนึ่งที่ถูกบด

“เพราะคุณจัดการเกรทบอร์ได้ ทำให้อาหารวันนี้หรูหราค่ะ”

“อืม วันนี้พยายามเพื่ออเลนเลยไง!”

“ป๊ะป๋ะ มาม้า ขอบคุณครับ”

ครอบครัวของอเลนเป็นเกษตรกร ข้างบ้านมีสวนปลูกมันฝรั่งกับข้าวสาลี เพราะยังโดนเทเรเซียอุ้มอยู่เลยน่าจะออกไปได้แค่ที่สวน นั่นคือสิ่งที่พอจะคาดเดาได้จากความรู้สึกที่พูดกัน

ในช่วง 1 ปีมานี้ พอจะรู้งานคร่าวๆได้ ในช่วง 9 เดือนจะทำเกี่ยวกับการเกษตรอย่างเดียว

ดูเหมือนพอจบการเก็บเกี่ยวช่วงฤดูใบไม้ร่วง จะทำการรวบรวมผู้ชายในหมู่บ้านแล้วออกไปล่างตรงป่าใกล้ๆหมู่บ้านๆ สำหรับพ่อที่บึกบึนคงสนุกกับการล่าอยู่

ยังจำได้แม่นเลย พ่อพูดอยู่บ่อยๆว่า ถ้าไม่ได้เกินมาเป็นทาสติดที่ดินคงเป็นนายพรานไปแล้ว ดูเหมือนจะมีการแบ่งเนื้อของเหยื่อส่วนหนึ่งให้กับคนที่เข้าร่วม ดูท่าทางคงพยายามกันอย่างมากเพื่อที่จะจัดการล้มเหยื่อ

(ถึงจะเป็นรสชาติของวัตถุดิบเพียวๆก็เถอะ)

อเลนกินอาหารที่แทบจะมีแต่รสของวัตถุดิบจนไม่รู้สึกถึงความเค็มของเกลืออย่างเอร็ดอร่อย ถึงจะมีผลไม้ด้วย แต่ก็เป็นผลของสิ่งที่คล้ายกับแอปเปิ้ลบดละเอียด ซึ่งมันก็อร่อยจริงๆ

หลังจากที่กินอาหารเสร็จ อเลนที่โดนพาไปเข้านอนได้คิดขึ้นมา

(นี่เองก็ไม่เลว ระหว่างนั้นเดี๋ยวคงเป็นนักอัญเชิญเองก็ได้)

ในระหว่างที่คิดอย่างนั้น ก็ค่อยๆชูมือข้างหนึ่งขึ้นฟ้า และพึมพำคำพูดที่เคยพูดไปแล้วหลายสิบครั้ง

วู้ม

ทันใดนั้นหนังสือสีดำก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าอเลน สิ่งนั้นลอยอยู่กลางอากาศห่างจากมือเล็กน้อย