“ตอนนี้ก็ยังไม่สนุกเหรอ?”

ผมถามเสียงดัง หลังจากที่ผมแต่งตัวสะอาดเรียบร้อย แต่ไม่มีคำตอบกลับมา ผมมองไปที่โอลิเวียที่ยุ่งเหยิง เธอนอนแผ่หลาอยู่บนโต๊ะขณะที่แขนห้อยอยู่ข้างตัวพร้อมกับร่างกายของเธอที่ยังคงสั่นไม่หยุด ดวงตาของเธอเหลือกขึ้นไปด้านบนในขณะที่เธอเป็นลมและมีน้ำลายไหลออกจากปากที่เปิดอยู่

ช่างเป็นภาพที่ไม่น่าพิศมัยของเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคนหนึ่งเลยจริงๆ ไม่หมดเพียงเท่านั้น ใต้โต๊ะที่เธอนอนได้มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่เติบโตขึ้นมาอีกด้วย แม้ในขณะที่ไม่ได้สติร่างกายของเธอก็ยังคงสั่นอยู่ในขณะที่น้ำบางส่วนยังคงหยดลงมาที่ทางเข้าด้านล่างของเธอ ซึ่งภาพนั้นดูไม่สวยงามเลย เมื่อไม่เห็นการตอบสนองจากโอลิเวีย ผมแค่ยักไหล่ขณะที่เปิดใช้งานตราเพื่อออกจากห้องไปพร้อมกับแสงสีขาวอย่างกะทันหัน

ตอนนี้ไม่ใช่เวลาเล่นบทคู่รัก ผมมีแผนสำหรับเรื่องนั้นอยู่แล้ว ผมทำให้ร่างกายของเธอได้รับความปราบปลื้มไปแล้ว อีกไม่กี่ครั้งเธอก็จะขาดมันไปไม่ได้และเมื่อถึงเวลานั้น ‘การฝึก’ ที่แท้จริงของเธอจะเริ่มขึ้น 

ตอนนี้ผมกำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องสมุด

เมื่อผมไปถึงที่นั่นก็เห็นผู้หญิงผมสีน้ำตาลธรรมดาคนหนึ่งที่คุ้นเคยกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะหัวมุม ผมยิ้มและโบกมือให้เธอ

‘ให้ตายเหอะ’

ผมคิดในขณะที่มุ่งหน้าไปหาเธอเพื่อเริ่มการโต้วาทีกัน เรื่องมันยาว เอาสั้นๆ ก็คือเราพูดคุยและโต้เถียงกันไปได้ด้วยดีตลอด 2 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากที่เราสัญญากันว่าจะมาเจอกันพรุ่งนี้ ผมก็เดินตรงออกจากห้องสมุดไปพร้อมกับหัวที่ยุ่งเหยิง

‘เวรเอ้ย! น่าเบื่อชะมัด! ถ้าไม่ใช่เพราะชีวิตฉันแขวนอยู่บนเส้นด้าย ฉันคงพูดแค่ว่า ‘Fuxk’ ก่อนจะจากไปแล้ว’

ผมมีเหตุผลที่คิดแบบนี้อยู่ ผมหมายความว่าคุณจะสนุกกับการพูดถึงเรื่องไร้สาระที่เขียนโดยคนเลวเมื่อหลายปีก่อนได้งันเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะการแสดงของผมดีขึ้นหล่ะก็ ผมคงจะหลับไปแล้วแน่ๆ

‘เห้อออ…ฉันแค่หวังว่าจะผ่านมันไปได้นะ…..’

ผมได้แต่คร่ำครวญกับตัวเองขณะที่เดินไปตามท้องถนน แต่แล้วผมก็พบบางสิ่งที่แปลกประหลาด มันค่อนข้าง…เงียบเกินไป ผมหันกลับไปมองรอบๆ ตัวก่อนจะพบว่ารอบข้างไม่มีใครอยู่เลย ไม่มีผู้คน, ไม่มีเสียง, ไม่มีอะไรเลย 

เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็ระมัดระวังตัวขึ้นมาในทันทีพร้อมกับมานารอบตัวผมที่เริ่มไหลเวียน

ขณะที่ผมพร้อมสำหรับการต่อสู้แล้ว ก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวต่อหน้าผม เมื่อเห็นเธอผมก็ถอนหายใจในใจ แต่ผมไม่ได้แสดงปฏิกิริยาโล่งอกใดๆ ภายนอกผมยังคงพร้อมสำหรับการต่อสู้อยู่ ดวงตาของผมคมขึ้นเมื่อจ้องมองไปที่สาวสวยตรงหน้า

หญิงสาวตรงหน้าผมมีผมสีเทาขี้เถ้าที่ไว้ผมบ็อบตัดกับรูม่านตาสีทองที่มีรอยกรีด เธอสวมชุดสีเหลืองที่คลุมร่างกายของเธอ ร่างกายของเธอผอมเพรียว ค่อนข้างสูงในขณะที่เธอยืนอยู่ มีพลังอำนาจเหนือมังกรจากร่างของเธอ ใบหน้าของเธอสวย ดูทอมบอยนิดๆ เธอมีหน้าอกที่ใหญ่โตและบั้นท้ายที่สวยงาม

“เธอเป็นใครกัน?”

ผมถามเสียงดังขณะมองเธอ 

เมื่อได้ยินคำถามของผม แววตาของเธอก็ฉายแววผิดหวังในดวงตาของเธอ แต่เธอก็สะบัดมันออกอย่างรวดเร็วเมื่อเธอถามคำถาม

“นายไม่รู้จักฉันเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำถามของเธอ ผมก็มองไปที่สการ์เล็ตอย่างลึกซึ้งเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายผมก็ส่ายหัวขณะพูด

“ไม่เลย ผมแน่ใจว่าไม่เคยเห็นเธอมาก่อน อีกอย่างคือผมไม่มีทางที่จะผู้หญิงที่สวยอย่างเธอได้หรอกนะ”

“สว-สวยเหรอ?”

สการ์เล็ตหน้าแดงเมื่อได้ยินคำพูดของผม เธอยิ้มอย่างมีความสุขและซ่อนใบหน้าของเธอไว้ในอ้อมแขนอย่างเขินอาย 

เมื่อเห็นพฤติกรรมของเธอ สีหน้าของผมเต็มไปด้วย ‘ความสับสน’ สการ์เล็ตทำหน้ามุ่ยทันทีเมื่อเห็นท่าทางของผม 

ว้าว ผมมึนงงกับท่าทางของเธออยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าผมจะไม่ได้คุยกับเธอแบบตัวต่อตัว แต่ผมก็ยังคอยติดตามเธอในบางครั้งอยู่

จากที่ผมรวบรวมข้อมูลมา เธอเป็นผู้หญิงหน้านิ่งที่ไม่ยอมยิ้มให้ใคร เธอเย็นชากับคนอื่นเสมอ คนเดียวที่เธอปฏิบัติด้วยแบบเท่าเทียมกันก็คือเซเลสทีเนีย สำหรับคนอื่นเธอจะไม่แม้แต่จะเหลือบมอง, เคร่งครัดและมีสมาธิ ดังนั้นการได้เห็นด้านนี้ทำให้หลายคนต้องอ้าปากค้างในฉากนี้

ความจริงผมคาดหวังว่าสการ์เล็ตจะติดต่อหาผมมาเร็วกว่านี้ ดังนั้นผมจึงสับสนนิดหน่อยที่เธอติดต่อมาช้าขนาดนี้และด้วยวิธีการแบบนี้ ในตอนนั้นที่ผมไม่รู้ก็คือสการ์เล็ตต้องการจะติดต่อผมเร็วกว่านี้มาก แต่เธอก็ขี้อายเกินไป

จริงสิ! เธออายที่จะติดต่อกับผม อันที่จริงเธอคอยจับตาดูผมอยู่หลายครั้งและหลายครั้งที่เธอใกล้จะเข้ามาหาผมด้วยซ้ำ แต่เธอก็ล้มเลิกไป เธอกลัวสิ่งที่ผมจะพูดและปฏิกิริยาของผมที่มีต่อเธอมากเกินไป แต่ตอนนี้ในที่สุดเธอก็ก้าวเข้ามาและทันทีที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าผมและได้ยินคำพูดของผม หัวใจของเธอก็เริ่มเต้นด้วยความสุข

“ฮึ่มมม! นายแน่ใจเหรอว่าไม่เคยเจอฉันมาก่อน?”

เมื่อได้ยินคำถามของเธอ ใบหน้าของผมดู ‘จริงจัง’ ขึ้นมาขณะที่มองเธอ ‘อย่างลึกซึ้ง’ สายตาของผมก็ละจากผมของเธอและมองไปที่ใบหน้าของเธอ ในที่สุดดวงตาของผมก็เบิกกว้างเมื่อผมมองเธอด้วยความไม่เชื่อในขณะที่ชี้นิ้วไปที่เธอพร้อมกับพูด

“ดะ-เดี๋ยวก่อนนะ อย่าบอกนะว่าเธอเป็นน้องสาวของเคน(ชื่อปลอมที่สการ์เล็ตเคยบอกออสติน)!?”

“ไม่ใช่! ฉันนี่แหละเคน ตาซื่อบื้อ!”

สการ์เล็ตตะโกน! เธอไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ ว่าผมจะซื่อบื้อขนาดนี้ 

เมื่อได้ยินคำตอบของสการ์เล็ต ผมก็อ้าปากค้างด้วยความ ‘ประหลาดใจ’ ก่อนจะขยี้ตาขณะที่มองไปที่สการ์เล็ตด้วยมือที่สั่นเทาขณะที่ผมพูด

“ธ-เธอคือค-เคนเหรอ?”

“ไม่ใช่! เจ้าบื้อนี่! ชื่อจริงของฉันในตอนนั้นคือสการ์เล็ต ฉันก็แค่แกล้งทำเป็นเด็กผู้ชายเท่านั้นเอง!”

สการ์เล็ตส่ายหัวขณะที่เธอมองมาที่ผมราวกับว่าผมเป็นคนซื่อบื้อ สายตาของผมเต็มไปด้วยความไม่เชื่อในขณะที่ผมเอาแต่มองสการ์เล็ต ราวกับว่าโลกของผมกำลังพังทลาย 

ผมยืนงุนงงอยู่ครู่หนึ่งโดยปล่อยให้ ‘ความจริง’ จมลงไป ในเวลานี้สการ์เล็ตยังคงเงียบ ขณะที่เธอยังคงมองมาที่ผมด้วยความกังวล

เธอกังวลจริงๆ ว่าผมจะโกรธเธอที่ปิดบังตัวตนมาตลอดในขณะที่ผมเรียกเธอว่าเพื่อน เวลาผ่านไปหลายวินาทีก่อนที่ผมจะหลุดจาก ‘ความงุนงง’ และทันใดนั้นเองที่ผมพุ่งเข้าหาเธอด้วยความเร็วเต็มพิกัดจนมาถึงหน้าเธอในพริบตา

สการ์เล็ตรู้สึกประหลาดใจกับการกระทำที่กะทันหันของผม แม้ว่าเธอจะหลบได้ แต่เธอก็ไม่ได้ทำอะไรและปล่อยให้ผมเข้าไปใกล้เธอ ผมเอื้อมมือไปใกล้เธอก่อนจะขยับตัวด้วยความเร็วสูงขณะที่ดึงเธอเข้ามากอด 

ร่างกายของสการ์เล็ตแข็งขึ้นทันทีที่ผมดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด

ทันทีที่เธอหลุดออกจากความงุนงง เธอก็พบกับกลิ่นและอ้อมกอดอันอบอุ่นของผม ขณะที่เธอซุกอยู่ในอ้อมกอดของผม เธอก็รู้สึกได้ว่าแก้มของตัวเองดีระเรื่อขึ้น ในขณะที่ความรู้สึกอบอุ่นอบอวลไปทั่วร่างกายของเธอขณะที่ผมกอดเธอ มือของผมกอดเธอไว้แน่นในขณะที่ผมโอบเธอไว้ในอ้้อมแขนของตัวเอง

ไม่นานใบหน้าของเธอก็แดงกล่ำ ร่างกายของเธอร้อนขึ้น เธอสะอื้นไห้เล็กน้อยในขณะที่ผมลูบหลังเธอ

“ขอ-ขอบคุณพระเจ้าที่เธอปลอดภัย ผ-ผมขอโทษ ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าเธอจะได้รับเลือกจากโลกประวัติศาสตร์ ผมดีใจมากที่เธอไม่เป็นไร”

เมื่อได้ยินคำกล่าวขอโทษของผม สการ์เล็ตก็อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะยิ้มออกมา ความอบอุ่นท่วมท้นเต็มหัวใจและร่างกายของเธอเมื่อรู้ว่าตัวเองคิดไม่ผิด เธอเลือกไม่ผิด ขณะเดียวกันก็รู้สึกถึงอารมณ์มากมายที่เติมเต็มเธอ สการ์เล็ตยกมือขึ้นลูบหลังผม

“ไม่เป็นไร ฉันไม่เคยโทษนายหรอก แต่นายกลับทำทุกอย่างเพื่อฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงมาไม่ถึงจุดที่อยู่ตอนนี้ ขอบคุณนะ”

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ร่างกายของผม ‘สั่น’ ดวงตาของผมเต็มไปด้วย ‘น้ำตา’ เล็กน้อยขณะมองเธอ ผู้ซึ่งยิ้มและเช็ดมันออกให้ เธอส่งรอยยิ้มที่งดงามที่สุดให้กับผมขณะที่เธอพูด

“ใช่ จริงสิออสติน การได้พบนายและเป็นเพื่อนกับนายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของฉันเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมก็ยิ้มด้วยความโล่งใจขณะที่พูด

“เข้าใจแล้ว….ขอบคุณนะ”

ผมดึงเธอเข้ามากอด เราอยู่แบบนี้กันสักพักเพื่อดื่มด่ำกับความอบอุ่นของกันและกัน

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต