ตอนที่ 143 ขอโทษก็แล้วกันนะที่เกิดมา

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 143 ขอโทษก็แล้วกันนะที่เกิดมา

แผนกประพันธ์เพลงชั้นสองของสตาร์ไลท์มิวสิก

ทุกคนอ่านข้อความที่ผู้จัดการส่งเข้ามาในกลุ่ม หัวคิ้วก็ขมวดมุ่นเสียยิ่งกว่าเดิม

ถูกผู้ว่าจ้างกดขี่ข่มเหงให้เรียกท่านพ่อน่ะหรือ พวกเรายอมแล้วละ

ก็ได้เงินไม่ใช่หรือ

ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหน!

แต่ผู้จัดการเอาอะไรมาบอกให้พวกเราเรียกตัวแทนหลินว่าท่านพ่อ!

แค่มาจากสำนักงานใหญ่?

แค่ตำแหน่งเทียบเท่ากับกรรมการผู้จัดการ เท่ากับเป็นบอสของบริษัทย่อย?

ไม่ยอมซะหรอก!

ไม่มีใครยินยอม

เพราะในดินแดนอันมีนามว่าฉีโจวแห่งนี้ ท่านพ่อผู้ว่าจ้างยิ่งใหญ่ค้ำฟ้ามากเกินพอแล้ว!

นี่เป็นทัศนคติของกลุ่มคนที่สมองทำงานหนัก

ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้คิดมาก กลับสวมหูฟังเรียบร้อย พร้อมกับเปิดฟังเพลงยุทธจักรยิ้มเย้ย

ขณะเดียวกันนั้นเอง

กู้ตงก็กลับไปยังห้องทำงาน เปิดฟังเพลงนี้

ผ่านไปหลายนาที

กู้ตงก็ถอดหูฟังออกด้วยการเคลื่อนไหวราวเครื่องจักรกล ในใจปั่นป่วนไปหมด

เมื่อก้มหน้าอ่านในกลุ่มที่เธอเพิ่งลากเมื่อครู่

ในกลุ่มไม่มีใครพูดอะไร

เมื่อเปิดดูอีกครั้ง ใน ‘กลุ่มปลอม’ ซึ่งมีหลินเยวียนอยู่นั้น ข้อความกลับเพิ่มเป็น 99+

‘@ตัวแทนหลิน สุดยอดไปเลย!’

‘โอ๊วววววว ตัวแทนหลินโหดเกินไปแล้ว!’

‘ตัวแทนหลิน ได้โปรดรับฉันเป็นแฟนคลับด้วยค่ะ!’

‘เมื่อกี้ในแผนกเราเหมือนจะมีคนพูดว่าเพลงที่ตัวแทนหลินเขียนออกมาในเวลาอันสั้นต้องใช้การไม่ได้แน่ ผมในฐานะหัวหน้าแผนกประพันธ์เพลง ตอนนั้นก็เลยตอบโต้เขาไปด้วยความโกรธ ตัวแทนหลินคุณเป็นคนทำดนตรีจากมาตุภูมิแห่งดนตรี ไหนเลยจะมีใครกล้าคลางแคลง ผลสุดท้ายเจ้านั่นฟังเพลงจบแล้วก็ยอมแพ้ราบคาบ แถมถูกผมอบรมไปยกนึงด้วย’

‘หัวหน้าลองดูว่ามีเศษอะไรหล่นหรือเปล่าคะ’

‘มีคนกล้าตั้งแง่กับตัวแทนหลินด้วยเรอะ เบื่อโลกแล้วสินะ ใครไม่รู้บ้างว่าที่ตัวแทนหลินถูกส่งมาที่บริษัทเราก็เพื่อกอบกู้โลก พวกนายปฏิบัติต่อฮีโร่แบบนี้ได้ยังไงกัน’

‘…’

กู้ตงอ่านข้อความในกลุ่ม ก็เลือดเดือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที แทบอยากทุบหลังคนพวกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

ยังมีความละอายกันอยู่ไหมหา!

อีกอย่าง ออเดอร์นี้ยังไม่ได้ปิดดีลเลยนะ!

เจ้าพวกขี้ประจบ พวกชอบยกยอปอปั้นแบบนี้ ทำให้บริษัทขายหน้าจริงเชียว!

เธอทนไม่ไหวแล้ว จึงพิมพ์ลงไปด้วยโทสะพลุ่งพล่าน

‘ก่อนหน้านี้คนที่คลางแคลงตัวแทนหลิน รู้ตัวเองดีนะคะ ไปเขียนเรียงความสำนึกผิดสามพันตัวอักษรมาให้ฉันอ่าน ตัวแทนหลินเป็นหัวหน้าที่ยอดเยี่ยม พวกคุญต้องสำนึกไว้ว่าต้องเก็บแต้มบุญสักแปดชาติได้กว่าจะโชคดีขนาดนี้!’

ก่อนหน้านี้คนเปิดประเด็นก็คือคุณไม่ใช่หรือไง

ในที่สุดก็มีคนเขียนในอีกกลุ่มหนึ่ง

‘พวกนายนี่ใช้ไม่ได้เลย’

‘เสี่ยวกู้ตง ก่อนหน้าที่เธอเองก็ไม่เชื่อ’

‘แล้วก็หัวหน้า คุณน่ะนำทีมบอกก่อนเลยว่าตัวแทนหลินทำออเดอร์นี้ไม่ได้หรอก ผมจำได้ว่าหัวหน้ายังพูดอีกว่าถ้าออเดอร์นี้สำเร็จจะกินคีย์บอร์ด’

‘จะกินยังไงล่ะ จะให้จิ้มซอสถั่วลิสงหรือซอสเนื้อวัว? ตุ๋นน้ำแดงหรือนึ่งดีล่ะ?’

‘ก็พอกันนั่นแหละ ใครจะไปคิดล่ะว่านักแต่งเพลงมือทองของฉินโจวจะโหดขนาดนี้’

‘แม่เจ้าโว้ย ฉันเพิ่งเห็นกับตาก็วันนี้แหละว่าเทพเจ้าที่แท้จริงคืออะไร’

‘ไม่ใช่นักแต่งเพลงมือทองของฉินโจวโหดหรอก นายไปสุ่มเลือกมือทองจากฉินโจวมาสักคน ก็ใช่ว่าเขาจะทำออเดอร์เสร็จได้ในเวลาสั้นๆ ขนาดนนี้ พวกเราเจอเทพตัวจริงแล้ว’

‘ฉันคิดว่างานนี้จะต้องถึงมืออาจารย์หยางซะอีก’

‘ก่อนหน้านี้ที่อาจารย์หยางจงหมิงอยู่ฉีโจว พวกเราก็แทบจะไม่ได้ขอร้องให้เขาช่วยเลย ฝีมือเด็ดขาดมั่นคง ปิดได้ทุกดีล แต่ก็ไม่ได้เร็วขนาดนี้ใช่มั้ยล่ะ’

‘…’

คนกลุ่มนี้ตกตะลึงเข้าจริงๆ แล้ว!

ที่บอกว่าเพลงยุทธจักรยิ้มเย้ยดีหนักหนา เพลงนี้คุณภาพไม่เลวก็จริง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นทำให้ทุกคนต้องยกย่องสรรเสริญ

ความน่ากลัวที่แท้จริงก็คือ…

ความเร็วในการสร้างสรรค์บทเพลงนี้ผิดมนุษย์มนาไปแล้ว!

ถึงขั้นที่มีคนสงสัยว่านี่เป็นเพลงที่ตัวแทนหลินแต่งเสร็จขณะนั่งทำธุระส่วนตัวที่ชักโครก

เอาเถอะ

แน่นอนละว่านี่เป็นการคาดเดาที่เกินจริง ทุกคนก็แค่ตกตะลึงพรึงเพริด

ตัวแทนหลินเป็นนักแต่งเพลงมือทองจากมาตุภูมิแห่งดนตรี เขียนเพลงมาตรฐานระดับนี้ได้ไม่ได้น่าประหลาดใจเลย

ถึงอย่างไรสถานะนักแต่งเพลงมือทองของอีกฝ่ายก็เป็นของจริงแท้แน่นอน

ถ้าบอกว่าตัวแทนหลินใช้เวลาเขียนสองเดือน หรือแม้แต่เดือนเดียว จากนั้นก็ทำเพลงนี้จนเสร็จ ทุกคนก็ไม่มีทางนึกสงสัย

แต่นี่ตัวแทนหลินเพิ่งจะได้รับออเดอร์ไปแค่กี่ชั่วโมงกัน

ตั้งแต่เขาเลิกงาน จนกระทั่งเขาบอกในกลุ่มว่าทำเพลงเสร็จแล้ว เพิ่งจะผ่านไปเท่าไหร่กัน

ในเวลาสั้นๆ เพียงแค่นี้ ก็ทำเพลงระดับนี้เสร็จ?

นี่มันบ้าไปแล้ว!

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเขายังแต่งเนื้อเพลงเองด้วย!

หนำซ้ำเนื้อเพลงยังเขียนได้ประณีตถึงขนาดนี้!

เมื่อเทียบกับตัวแทนหลินแแล้ว ในใจของนักแต่งเพลงแผนกประพันธ์เพลงของสตาร์ไลท์มิวสิกก็เกิดความรู้สึกหนึ่ง

ขอโทษก็แล้วกันนะที่เกิดมา

ขณะนั้น กู้เฉียงอวิ้นก็ปรากฏตัวขึ้นในกลุ่ม พร้อมทั้งเมนชันทุกคน ‘ยังไม่ต้องรีบขอโทษ ฉันเพิ่งส่งเพลงยุทธจักรยิ้มเย้ยไปให้ผู้ว่าจ้าง ตอนนี้ออเดอร์ของเกมแนวกำลังภายในน่าจะใกล้ปิดดีลแล้ว ภารกิจเร่งด่วนของเราในตอนนี้คือรีบหาออเดอร์ใหม่!’

อย่างที่บอกไป

บริษัทที่มีชื่อเสียงจะมีผู้ว่าจ้างออกตัวมาเจรจาร่วมงานด้วย แต่บริษัทกระจอกงอกง่อยอย่างสตาร์ไลท์มิวสิกจะต้องไปหาออเดอร์ด้วยตนเอง

งานของแผนกประพันธ์เพลง นอกจากรับผิดชอบการประพันธ์เพลง ขณะเดียวกันก็ยังต้องรับบทเป็นเซลส์ด้วย

ไม่ใช่แค่พวกเขา

แม้แต่กู้ตงและผู้จัดการกู้เฉียงอวิ้นก็ต้องออกไปหาออเดอร์ด้วยเช่นกัน

เพราะสตาร์ไลท์มิวสิกกำลังเผชิญกับอุปสรรคสองประการ

อุปสรรคประการแรก: ความสามารถของนักประพันธ์เพลงมีจำกัด อัตราความสำเร็จของออเดอร์ต่ำ

อุปสรรคประการที่สอง: อัตราของออเดอร์ที่บริษัทได้รับก็ต่ำเช่นเดียวกัน

เมื่อผู้ว่าจ้างที่มีชื่อเสียงเห็นประวัติผลงานของสตาร์ไลท์มิวสิก ก็ขมวดคิ้วกันทุกราย

ฉะนั้นยามเจรจาออเดอร์ ทุกคนจึงต้องเอ่ยถึงสำนักงานใหญ่ เพื่อโน้มน้าวผู้ว่าจ้าง

เมื่อก่อนลูกไม้นี้มีประสิทธิภาพมาก

แต่ในตอนนี้ชื่อสำนักงานใหญ่ใช้การไม่ค่อยได้แล้ว

ถึงอย่างไรสตาร์ไลท์มิวสิกก็เป็นเพียงบริษัทย่อย คุณสมบัติเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ก็ถูกในวงการนำไปพิจารณาด้วย

ด้วยเหตุผลนี้เอง

บริษัทจึงถึงขั้นรับออเดอร์ย่อยๆ จากบุคคลทั่วไปเป็นครั้งคราว เพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของบริษัทไว้

ออเดอร์ย่อยเหล่านี้มักจะมีมูลค่าเพียงไม่กี่หมื่นหยวน

แต่สำหรับแผนกประพันธ์เพลงแล้ว ยุงแม้จะเล็กแต่ก็ยังเป็นเนื้อ ทุกคนมีความสามารถพื้นฐานในสายอาชีพ ออเดอร์ยิบย่อยทำนองนี้โดยทั่วไปมักปิดดีลได้

‘จริงสิ’

กู้ตงเอ่ยเตือน ‘ถ้าทุกคนเจอปัญหาตอนดีลออเดอร์ ไม่ต้องอ้างถึงสำนักงานใหญ่แล้ว ลูกไม้เช่นนี้ใช้ไม่ได้ผลแล้ว ตอนนี้บอกไปแบบนี้เลย ว่าสำนักงานใหญ่บริษัทเราส่งนักแต่งเพลงมือทองท่านหนึ่ง แต่ฉันมีเงื่อนไขหนึ่งต้องบอกทุกคนก่อน ห้ามรับออเดอร์ที่กดราคาต่ำให้ตัวแทนหลินเด็ดขาด!’

ตอนที่พูดคุยกันช่วงกลางวัน กู้ตงก็ค้นพบแล้วว่า

ตัวแทนหลินไม่พอใจกับราคาของออเดอร์

คิดไปคิดมาก็เข้าใจได้ เขาเป็นนักแต่งเพลงมือทอง ราคาของออเดอร์ที่รับในฉินโจวเมื่อก่อนต้องสูงลิบอย่างแน่นอน

ตอนนี้โยกย้ายมาอยู่บริษัทย่อย ต้องมาทำออเดอร์ราคาหลักแสน ย่อมต้องไม่ชอบใจอยู่แล้ว

‘งั้นต้องถามว่าตัวแทนหลินชอบสไตล์ไหน’

นักประพันธ์เพลงทุกคนมีแนวทางที่ตนถนัด

นักประพันธ์เพลงบางคนเชี่ยวชาญเพลงร็อก ส่วนบางคนก็เชี่ยวชาญเพลงบัลลาดเปี่ยมอารมณ์

ตอนนี้ทุกคนกำลังสงสัยว่าแนวที่ตัวแทนหลินถนัดน่าจะออกไปทางโบราณ ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่อลังการ?

ไม่อย่างนั้นทำไมถึงเขียนเพลงยุทธจักรยิ้มเย้ยออกมาได้ง่ายดายถึงขนาดนั้นล่ะ

ต้องเป็นเพราะชำนาญมากจนมองออเดอร์ปราดเดียวก็เขียนออกมาได้ทั้งเพลงเลยสินะ

กู้ตงขบคิด ก่อนจะเมนชันหลินเยวียนไปในกลุ่มแช็ตเก่า ‘บริษัทเตรียมจะรับออเดอร์ใหม่ ตัวแทนหลินถนัดดนตรีสไตล์ไหนแบบไหนเหรอคะ’

ทุกคนเปิดกลุ่มใหญ่ สงสัยใคร่รู้ในคำตอบของหลินเยวียน

ในจินตนาการของทุกคน เทพเจ้าอย่างหลินเยวียนคงจะตอบมาว่าหลายแนว อย่างเช่นร็อก บัลลาด ฮิปฮอป ฯลฯ เพื่อแสดงความเชี่ยวชาญในสไตล์ที่หลากหลายเยี่ยงเทพเจ้า ยังไงซะเพลงปลายักษ์ก็ยอดเยี่ยมเหลือเกิน แต่เพลงนี้ไม่ใช่เพลงโบราณแนวจอมยุทธ์กำลังภายใน เรื่องนี้ทำให้เห็นได้ชัดว่าแนวเพลงที่ตัวแทนหลินถนัดน่าจะมีหลายประเภท และนั่นสอดคล้องกับสถานะเทพเจ้ามือทองของหลินเยวียนมาก

แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว สิบวินาทีให้หลัง

หลินเยวียนก็มาตอบสี่คำสั้นๆ สี่คำนั้นก็คือ

‘แบบที่แพงครับ’

……………………………………………..