ตอนที่ 160 ปรุงยากำลังภายใน
หยวนเหยี่ยตาไว มองเห็นจุดดำๆ บนท้องฟ้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“กลับมาแล้ว กลับมากันแล้ว พวกเขากลับมาแล้ว!”
คนที่อยู่ตรงลานบ้านพากันเงยหน้ามองไป
ไม่นานพวกมู่เถาเยาก็มาอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ทุกคนรีบเข้าไปรุมล้อม
เป่ยซีจับมู่เถาเยามาดูซ้ายดูขวา เมื่อไม่พบความผิดปกติถึงได้ถามขึ้น “เสี่ยวเยาเยา ทำไมครั้งนี้กลับมาช้าขนาดนี้ล่ะจ๊ะ”
“พวกเราเก็บผลไม้มาเยอะมาก ผลใจเขียวเล็กเกินไป เก็บลำบาก ก็เลยใช้เวลามากหน่อยค่ะ ถึงได้กลับมาช้า”
พวกอาจารย์เล็กย่อมไม่มีทางพูดบิดเบือนจากเธอ
“ไม่เป็นไรก็ดีจ้ะ”
“ไม่มีทางเป็นอะไรหรอกค่ะ”
“จ้ะ”
ทุกคนช่วยพวกเขาเอาตะกร้าลงมา
มู่เถาเยาล้วงผลใจเขียวออกมาจากถุงผ้าของตัวเองแล้วยื่นให้เป่ยซีกับอาจารย์แม่เล็ก
“พวกเราเก็บผลชนิดนี้ถึงได้กลับมาช้า อาจารย์แม่เล็ก แม่คะ ผลชนิดนี้เอามาทำยาได้หรือจะกินสดก็ได้ค่ะ”
เป่ยซีกับอาจารย์แม่เล็กต่างเด็ดใส่ปาก
ถังถัง อาจารย์เล็ก และผู้อาวุโสก็ยื่นถุงผ้าให้ทุกคน เพื่อให้พวกเขาหยิบชิมกันเอง
พวกผู้ใหญ่แค่เด็ดออกมาชิมไม่กี่ผล แต่พวกเด็กๆ กลับชอบกินทุกอย่าง
ซังเฟยกับถังเซิ่นอวี๋ และยังมีซย่าโหวข่ายเกอ ต่างกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
“อร่อยจังเลยฮะ”
ซย่าโหวข่ายเกอที่เพิ่งอายุสามขวบจับมือมู่เถาเยาพลางเงยหน้าพูดด้วยเสียงแบบเด็กน้อย
มู่เถาเยาลูบศีรษะของเขา “ข่ายเกอก็มาด้วยเหรอ พวกพี่ชายล่ะ”
ซย่าโหวข่ายเกอเป็นเหลนคนเล็กของอาจารย์เล็ก ยังมีซย่าโหวจิ่งเหยาเหลนคนโตวัยหกขวบ และซย่าโหวมู่เหยาเหลนคนรองวัยสี่ขวบ
“พี่ใหญ่ไปเล่นกับพี่จิ่นแล้ว พี่รองไม่ได้มา”
พี่จิ่นก็คือมู่ซือจิ่น
ถึงแม้เด็กสองคนนี้จะเจอกันไม่บ่อย แต่พวกเขาก็เป็นเพื่อนที่สนิทกัน
“คุณปู่กับคุณย่าไม่ได้มาเหรอ แล้วใครพาหนูกับพี่ชายมา”
“พ่อแม่ฮะ”
มู่เถาเยามองไปรอบๆ ไม่เจอสองสามีภรรยาที่เป็นหลานของอาจารย์ใหญ่เธอ
อาจารย์แม่เล็กยิ้มพลางอธิบายให้มู่เถาเยาฟัง “เสี่ยวเยาเยาจ๊ะ ซูอวี่ จื่อหนิง แล้วก็เหลียงจีไปช่วยทำกับข้าวในครัวแล้วจ้ะ”
“อ่อ งั้นศิษย์พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้ของหนู รวมถึงพวกศิษย์หลานคนอื่นๆ ไม่ได้มาด้วยกันเหรอคะ”
“เปล่าจ้ะ ศิษย์พี่ใหญ่ของหนูกับซูหัน เหวินจยา พามู่เหยากลับบ้านแม่พี่สะใภ้หนูไปแล้ว ลุงใหญ่ของหนูตอนนี้ไม่สบาย”
ซย่าโหวซูหันเป็นลูกชายคนรองของซย่าโหวเจี๋ยเฟย เหวินจยาเป็นภรรยาของเขา ส่วนซย่าโหวมู่เหยาก็เป็นลูกชายของพวกเขา
อาจารย์เล็กกับอาจารย์แม่เล็กมีลูกชายหนึ่งคน หลานชายสองคน เหลนสามคน ไม่มีลูกสาว ไม่มีหลานสาว และไม่มีเหลนผู้หญิง
มู่เถาเยา “ป่วยเป็นอะไรคะ ต้องให้หนูไปช่วยดูไหม”
อาจารย์แม่เล็กส่ายมือ “ไม่ต้องจ้ะ ซูหันบอกว่าอาการไม่หนัก หมอทั่วไปก็รักษาหายได้จ้ะ”
“ค่ะ”
เวลานี้ซย่าโหวซูอวี่ ซูจื่อหนิง เหลียงจี และพวกผู้หญิงผู้ชายคนอื่นๆ ได้ออกจากห้องครัวมาตะโกนเรียกกินข้าว ก็เห็นพวกมู่เถาเยาตรงลานบ้านทันที
“อาจารย์อาเล็ก”
“เสี่ยวเยาเยา”
ทุกคนเรียกเป็นเสียงเดียวกัน
มู่เถาเยายิ้มบางทักทายทุกคน
ซูจื่อหนิงมองสำรวจสาวน้อยตรงหน้า ใบหน้ามีรอยยิ้ม ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อาจารย์อาเล็ก ดูเหมือนจะผอมลง”
“…จื่อหนิง ฉันไม่ได้ผอมลง แถมยังอ้วนขึ้น” สูงขึ้นมาสองเซนติเมตร ตอนนี้หนึ่งร้อยเจ็ดสิบสองแล้ว
“งั้นเหรอ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนผอมลงจากคราวก่อนเลยล่ะ ที่รักคิดเหมือนกันไหมคะ”
ซย่าโหวซูอวี่รีบพยักหน้า “ใช่ ผอมลงนะ”
มู่เถาเยา “…ฉันไม่ได้ผอมลง แต่สูงขึ้น”
มีความผอมอยู่อย่างที่เรียกว่า ผู้ใหญ่คิดว่าผอมลง
แต่ซูอวี่กับจื่อหนิงลำดับอาวุโสเด็กกว่าเธอหนึ่งรุ่น แม้อายุของซูอวี่จะมากกว่าเธอหนึ่งเท่าก็ตาม
อาจารย์แม่เล็กยิ้มพลางพูด “เสี่ยวเยาเยาพูดถูก เธอตัวสูงขึ้น”
หยวนเหยี่ยพูดอย่างอารมณ์ดี “นี่ก็ทุ่มกว่าแล้ว พวกเรากินข้าวเย็นก่อนค่อยว่ากันดีกว่านะ”
ลูกศิษย์คนเล็กของเขาเพิ่งจะอายุสิบแปด ร่างกายกำลังเติบโต ตอนนี้คงหิวแย่แล้ว!
“ใช่ๆ กับข้าวเสร็จแล้ว เสี่ยวเยาเยา ฉันกับซูอวี่ทำอาหารจานเด็ดไว้ให้เลยนะ”
“ขอบคุณนะจื่อหนิง ซูอวี่”
“ครอบครัวเดียวกันจะเกรงใจทำไม”
“อืม”
พวกผู้ใหญ่เดินนำเข้าไปในบ้าน
เหลียงจีพูดเตือน “จิ่งเหยายังไม่กลับมา”
อาจารย์แม่เล็ก “เหลียงจี จิ่งเหยาคงกินข้าวที่บ้านซือจิ่น เดี๋ยวเล่นจนสองทุ่มกว่าก็กลับมาเองแหละ”
ในหมู่บ้านปลอดภัยมาก เด็กเล็กวิ่งจากหัวหมู่บ้านไปท้ายหมู่บ้านก็ไม่ต้องกลัว
ไปเล่นที่ไหนจนถึงเวลากินข้าวแล้วกินข้าวบ้านนั้นก็เป็นเรื่องปกติ
พอนั่งเสร็จตี้อู๋เปียนก็มีสีหน้าไม่พอใจ
เขาไม่มีโอกาสได้คุยกับซาลาเปาน้อยเลย!
คนเยอะก็ไม่สะดวกแบบนี้!
“ตี้อู๋เปียนเป็นอะไรไป”
“อ๋อ ปะ เปล่า”
นี่ความรู้สึกของเขารุนแรงถึงขั้นซาลาเปาน้อยรับรู้ได้เลยเหรอ
ตี้อู๋เปียนอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
“กลุ่มเยาวชนมาถึงหรือยัง ทำไมไม่เห็นเลย”
“เพิ่งมาถึงไม่นาน ฉันให้เยี่ยอิ่งจัดให้เด็กสิบคนนั้นพักอยู่ใกล้ๆ ด้วยกันแล้ว พวกเขาจะได้สะดวกดูแลกันและกัน พรุ่งนี้ค่อยให้พวกเขามาพบเธอ น้องชายคนหนึ่งของฉันพาพวกเขามา หลานชายของย่าฉันเอง”
“ได้ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้ ไม่ต้องเกรงใจ”
“อืม”
หลังจากกินอาหารเย็นเสร็จ มู่เถาเยากับถังถังก็ไปจัดการพวกสมุนไพรที่ห้องปรุงยาข้างๆ
ตี้อู๋เปียนเซ้าซี้ขอตามไปด้วย
หยวนเหยี่ยกับผู้อาวุโสตระกูลถังก็รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก
“เสี่ยวเยาเยา สมุนไพรบางชนิดที่ใช้ทำยากำลังภายในอาจารย์ไม่เคยเห็นมาก่อน เอ็งไปรู้มาจากไหน”
“ในตำราโบราณค่ะ เอามาจากบ้านของตี้อู๋เปียน”
ตี้อู๋เปียน “ฉันจำได้ว่าเป็นสูตรในตำราแพทย์ของลู่จือฉิน ใช่หรือเปล่า”
“อืม”
สีหน้าของหยวนเหยี่ยเต็มไปด้วยความสงสัย “ลู่จือฉินเหรอ หมอหญิงเดินเท้าที่เข้าโซนในคนนั้นน่ะเหรอ เธอเขียนตำราแพทย์เหรอ ทำไมฉันไม่เคยอ่านผลงานของเธอมาก่อนล่ะ”
บนโลกนี้ยังมีหมอชื่อดังที่เขาไม่รู้จักด้วยเหรอ
นี่เขาล้าหลังแล้วหรือเปล่า
ยอดฝีมือที่ถ่อมตัวในหมู่ชาวบ้านมันต้องมีบ้างล่ะ แต่หมอชื่อดังที่เขียนหนังสือไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้!
ตี้อู๋เปียนอธิบาย “ปู่หยวนครับ ไม่ใช่ลู่จือฉินที่ปู่หยวนคิด แต่เป็นลู่ที่แปลว่ากวาง ฉินที่เป็นพืชชนิดหนึ่งครับ”
ปู่ทวดถัง “ออกเสียงลู่จือฉินเหมือนกัน บังเอิญจริงๆ”
“ซาลาเปาน้อย เธอเคยพิสูจน์สูตรยาในตำราแพทย์แล้วเหรอ”
“อืม ขาดแค่ยากำลังภายในนี่ล่ะ แต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นของจริง”
มันเป็นสิ่งที่เธอเขียนไว้เมื่อชาติที่แล้ว จะไม่ใช่ของจริงได้ยังไง!
มู่เถาเยาจัดการพวกสมุนไพรพลางบรรยายสรรพคุณให้ทุกคนฟังอย่างละเอียดว่าช่วยอะไรได้บ้างในยากำลังภายใน
พวกเขาอยู่ในห้องปรุงยาสองชั่วโมงกว่าจนกระทั่งทำยากำลังภายในออกมาได้สำเร็จ
หยวนเหยี่ยจับขึ้นมาดมหนึ่งเม็ดแล้วเอาเข้าปากชิม
“เอ๊ะ รสชาติแปลกๆ ขมปนหวาน ไม่เหมือนยาสมุนไพรทั่วไป”
“ค่ะ มันเป็นรสชาติของสมุนไพรเสริมกำลังวังชากับผลใจเขียวผสมผสานกัน”
ถังถังกับปู่ทวดถังก็กินกันคนละเม็ด
ร่างกายของพวกเขามีกำลังภายในอยู่แล้ว ต่อให้กินยากำลังภายในเข้าไปอีกก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่ในฐานะที่เข้าใจวิชาการแพทย์ก็ย่อมอยากทดสอบยาแต่ละชนิด
ปู่ทวดถัง “พอเข้าร่างกายก็มีกำลังเพิ่มขึ้นทันที เร็วมาก! เสี่ยวเยาเยา ของสิ่งนี้จัดได้ว่าเป็นสิ่งที่ประเมินราคาไม่ได้เลยนะ!”
ถ้าส่งไปให้กองทัพในปริมาณมาก…จินตนาการได้เลยว่ามันจะเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของประเทศ!
แต่การผลิตจำนวนมากก็ออกจะเพ้อเจ้อไปหน่อย
โซนภายในของป่าเซียนโหยวไม่ใช่ว่าใครก็เข้าไปเก็บสมุนไพรได้
จะให้เสี่ยวเยาเยาทำงานนี้ไปตลอดก็ไม่ได้
“เสี่ยวเยาเยา สมุนไพรที่ใช้ทำยากำลังภายในเราปลูกเองได้ไหม”
“บางอย่างไม่ได้ค่ะ ดูเหมือนพวกมันธรรมดา แต่กลับมีเงื่อนไขทางสภาพแวดล้อมที่สูงมาก ทั้งอากาศ อุณหภูมิ สภาพดิน…แม้แต่รอบๆ ต้องเป็นพืชชนิดไหนขึ้นด้วยก็มีกำหนดนะคะ”
ปู่ทวดถังล้มเลิกความตั้งใจในทันที
หยวนเหยี่ย “เสี่ยวเยาเยา กลับไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้อาจารย์จะปรุงยาถอนพิษเอง”
เดิมทีทักษะด้านยาพิษของเขาก็ไม่ธรรมดา แถมหลายวันมานี้ยังได้แลกเปลี่ยนความรู้กับปรมาจารย์ด้านพิษ ตอนนี้ก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว
ปรุงยาถอนพิษเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
“ค่ะ ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว ปู่ทวดถัง อาจารย์ใหญ่ ตี้อู๋เปียนก็ควรพักผ่อนได้แล้วนะคะ”
เธอเดาว่าทุกคนก็คงรอพวกเธอกลับไปแล้วถึงแยกย้ายไปพักผ่อนเหมือนกัน ดึกกว่านี้ไม่ได้แล้ว