สิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามที่เอ็ดเวิร์ดคาดการณ์ไว้ หลังจากการตายของแส้ดำ ศัตรูคนอื่น ๆ ก็หมดกำลังใจจะต่อสู้ เมื่อผู้เล่นได้รับชัยชนะ พวกเขาก็มีอยู่สองทางเลือก คือยอมจำนน หรือไม่ก็ตาย

เมื่อมองไปที่แถวของเชลยศึก เอ็ดเวิร์ดก็รู้สึกหงุดหงิด แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับคนพวกนี้ดี

ในที่สุดวีลาก็ได้เสนอวิธีแก้ปัญหาให้เขา “เดิมทีลอร์ดแองโกร่ากำลังวางแผนที่จะสร้างคุกใต้ดินเพิ่มในเมือง เราส่งนักโทษเหล่านี้ไปใช้แรงงานที่นั่นได้”

เมื่อผู้เล่นทุบโครงกระดูกตัวสุดท้ายที่ธูปหอมเรียกมา พวกเขาก็ได้รับประกาศจากระบบพร้อมกัน

[ติ้ง กิจกรรม: ผู้พิทักษ์มนุษย์กบ-ดับไฟแห่งสงคราม เสร็จสมบูรณ์!]

[ต้องขอบคุณความพยายามอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของท่าน พลังแห่งความมืดของ ‘ชุมนุมลับดวงตา’ ที่ฝังรากลึกอยู่ในจักรวรรดิวัลลาจึงได้ถูกหยุดลงที่นี่ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีใครกล้ายุ่งกับเมืองไร้ชื่ออีกต่อไป! ขอแสดงความยินดีกับความกล้าหาญของท่าน ที่ช่วยเผ่ามนุษย์กบและกำจัดความชั่วร้าย!]

[รางวัลเควส: ปาร์ตี้บาร์บีคิวจะจัดขึ้นในหมู่บ้านมนุษย์กบคืนนี้ ท่านสามารถไปเที่ยวผ่อนคลายที่นั่นได้]

[เหรียญเกมและค่าประสบการณ์ จะถูกแจกจ่ายโดยตรงให้กับผู้เล่นที่เกี่ยวข้องในภายหลัง]

[คะแนนค่าหัวจะถูกคำนวณและส่งมอบในไม่ช้า โปรดทราบว่าคะแนนจะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นไอเทมได้เฉพาะช่วงระยะเวลากิจกรรมเท่านั้น (7วัน)]

[ระบบจะปิดปรับปรุงเพื่ออัพเกรดชั่วคราว ซึ่งในระหว่างนี้ อาจมีฟังก์ชันบางอย่าง (เช่นระบบเควส) ที่ไม่สามารถใช้งานได้ แต่ความสามารถและทักษะของผู้เล่นจะยังคงทำงานได้ตามปกติ โปรดให้ความสนใจกับรายละเอียด ขอบคุณ]

ครู่ต่อมาเมื่อค่าประสบการณ์ถูกส่งมอบ มันก็ได้ทำให้ผู้เล่นส่วนใหญ่เลเวลอัพ ผู้เล่นต่างก็เพลิดเพลินไปกับชัยชนะที่ยากลำบากและอยู่ในบรรยากาศที่ร่าเริง

ในขณะที่ผู้เล่นคุยกันว่าจะไปสังสรรค์กันที่ไหนดี ก็มีบางคนกลับไปที่เมืองไร้ชื่อ แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะอยู่เข้าร่วมปาร์ตี้บาร์บีคิวในวันนี้

พวกเขาเดินไปด้วยกันเป็นกลุ่ม 2-3 คน หัวเราะและคุยกันขณะเดินกลับไปยังหมู่บ้านมนุษย์กบ

มนุษย์กบรู้สึกชื่นชอบคนเหล่านี้เป็นอย่างมากที่พวกเขาช่วยกำจัดผู้รุกราน มีเพียงหัวหน้าหมู่บ้าน คล็อกกาโตว์ และคนอื่น ๆ อีก 2-3 คนเท่านั้นที่สามารถพูดภาษาชูโมเนียนได้ แต่ทุกครั้งที่สบตากัน แม้มนุษย์กบคนอื่น ๆ จะพูดไม่ได้ พวกเขาก็จะแลกเปลี่ยนคำว่า ‘ฮาคุน่า มาคล็อกคล็อก!’ ที่อบอุ่น หรือ ‘รัว!’ นั่นคือคำทักทายอย่างเป็นทางการในขณะนี้

ผู้เล่นหลายคนที่เข้าร่วมกิจกรรมเคยได้ยินเกี่ยวกับกลอุบายที่เอลีน่าใช้หลอกมนุษย์กบ พวกเขาจึงไม่แปลกใจ และพยายามสื่อสารกันข้ามอุปสรรคทางภาษา

กิจกรรมในครั้งนี้เอ็ดเวิร์ดเก็บเกี่ยวได้ค่อนข้างดี เขาติดตามทุกคนไปยังหมู่บ้านมนุษย์กบเพื่อจัดปาร์ตี้บาร์บีคิว ระหว่างนั้นเขาก็สังเกตเห็นเอลีน่าที่เดินตามเขามาด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

“เอลีน่า มีอะไรเหรอ?” เธอเป็นผู้รอดชีวิตที่อายุน้อยที่สุดจากหมู่บ้านเคนนิงตัน เอ็ดเวิร์ดจึงอดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงเธอ

“พี่เอ็ดเวิร์ด…พี่คิดว่าเทพเจ้าแห่งเกมมีปัญหาอะไรรึเปล่า?” เอลีน่าขมวดคิ้วอย่างกังวล

“เจ้ากำลังพูดถึงการปิดปรับปรุงงั้นรึ? ไม่นะ ข้าว่ามันน่าจะเป็นเรื่องปกติ” เอ็ดเวิร์ดกอดอก “เรากำลังพูดถึงตัวตนที่มีอำนาจเหนือทุกอย่าง พระองค์จะมีปัญหากับอะไร? เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว”

เอลีน่าพยักหน้าเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้เชื่อเอ็ดเวิร์ดเต็มร้อย เธอกอดเกมไบเบิลที่เธอใช้เป็นค้อนดาวตกไว้แนบอก และสวดอ้อนวอนอย่างเงียบ ๆ

แม้ว่ามันจะเป็นเพียงศรัทธาเล็กน้อย แต่เธอก็มีความสุขถ้าศรัทธาของเธอสามารถช่วยเทพเจ้าของเธอได้

ในช่วงเวลาที่ซีเว่ยได้รับศรัทธาที่จริงใจนี้ ร่างลูกบอลเรืองแสงของเขาก็นอนย้วยอยู่บนพื้นเหมือนสไลม์

เขาประเมินตัวเองสูงเกินไป หลังจากที่เขากินเทพกระดูกเน่าไปแล้ว เขาก็รีบวิ่งไปกินเทพที่มีอิทธิพลแตกต่างกันอีกองค์ ความอาหารไม่ย่อยนี้ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่ทุกข์ระทม

มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันก็รู้สึกไม่สบายอย่างมาก มันเหมือนกับตอนที่เขากินมากเกินไปโดยไม่ระวัง เลยต้องมารับกรรมทุกข์ทรมานจากอาการอาหารไม่ย่อยและท้องผูก

ซีเว่ยสาบานได้ว่าร่างกลม ๆ ของเขาพองใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย…

“พลังแห่งศรัทธา…จากเอลีน่าเหรอ? ไม่มีความปรารถนาส่วนตัวหรือความปรารถนาใด ๆ ติดอยู่ เธอเพียงแค่ศรัทธาในตัวฉัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันบริสุทธิ์มาก”

ซีเว่ยตกใจกับพลังศรัทธาของเธอ เธอเป็นนักบุญที่ดี เขาเลือกได้ดี

หลังจากที่เขาได้ดูดซับพลังงานศรัทธาที่บริสุทธิ์ที่สุดแล้ว เขาก็รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย

มันอาจเป็นเพียงจินตนาการของเขา เพราะสำหรับสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์ พลังศรัทธาจำนวนนี้ไม่ได้มีค่าอะไรเลย มันยังไม่พอให้ติดซอกฟันด้วยซ้ำ แม้ศรัทธาคุณภาพสูงนั้นจะยิ่งใหญ่ แต่เมื่อเทียบกับส่วนที่ต้องใช้ในการสร้างอวตารของเทพเจ้าแล้ว มันก็เหมือนน้ำ 1 หยดในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่

ซีเว่ยรู้เรื่องนี้ดีกว่าใคร ๆ แต่เขาก็ยังพยายามทำให้ตัวเองมีกำลังใจและกระตุ้นตัวเอง ตอนนี้มีพลังที่แตกต่างกันมากอยู่ในตัวเขา เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ทำให้เขาไม่สบาย เขาเลยตัดสินใจจะดูดซึมเจ้าแห่งน้ำให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

“ไม่มีทาง” เขาปลอบใจตัวเอง รูปร่างของเขาขยายออกจนเกือบจะเป็นลูกรักบี้แล้ว “โลกนี้ไม่ใช่โลกที่ฉันจะเติบโตอย่างสะดวกสบายและแข็งแกร่งได้ในเวลาอันสั้น”

เขาจดจำใบมีดแฝดที่ห้อยอยู่เหนือหัวเขาได้ อันหนึ่งมาจากเทพธิดาสมุทรและอีกอันจากเทพกะโหลก ซีเว่ยหาเรื่องเอง แม้ว่าเขาจะทำไปเพื่อประโยชน์ของสาวกเขา เพื่อที่เขาจะมีพลังพอที่จะป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมที่เคยเกิดขึ้นกับเทียร์ร่า เขาเลยไม่สามารถหยุดการแสวงหาพลังที่จะทำให้เขาเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้

เมื่อมองลงมาจากอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ เขาก็เห็นผู้เล่นกำลังรับประทานอาหารและร้องเพลงอย่างร่าเริงในหมู่บ้านมนุษย์กบ ซีเว่ยจึงยิ้มให้กับตัวเองอย่างพึงใจ เขาพูดเบา ๆ ว่า “ฉันจะไม่หยุด ตราบใดที่พวกนายยังก้าวต่อไป ฉันจะไปรอพวกนายอยู่ข้างหน้า พวกนายก็จะไม่หยุดเหมือนกันใช่ไหม”

แม้ว่าเขาจะพูดแบบนี้ แต่จริง ๆ แล้วเขายังทำอะไรไม่ได้มาก ขณะนี้ความสามารถของเขามีจำกัด และเขาก็ยังย่อยพลังไม่เสร็จ มันแย่มากที่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่มียาช่วยย่อย หากยังเป็นแบบนี้ เขาจะต้องใช้เวลานานในการย่อยเจ้าแห่งน้ำ

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็คงต้องแย่งดาบและหาวิธีบีบพลังศรัทธาจากผู้ศรัทธาของฉันให้มากขึ้น ตอนนี้ตัวตนและบุคลิกหลักของเจ้าแห่งน้ำได้ถูกทำลายไปแล้ว ดังนั้นอย่างน้อยฉันก็น่าจะจัดการได้ แต่ความเร็วของ Windows 98 น่าจะตามไม่ทัน”

ด้วยความคิดนี้ ซีเว่ยจึงได้เปลี่ยนพลังศรัทธาเป็นพลังงานศักดิ์สิทธิ์ และเทลงใน PC ของเขา เดิมทีเขาสร้างคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ขึ้นมาจากพลังงานศักดิ์สิทธิ์ของเขา เพื่อช่วยเขาประมวลผล จัดการข้อมูล เควส และเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้เล่น แต่ตอนนี้มันล้าหลังไปแล้ว มันเลยถึงเวลาที่ต้องอัปเกรดและเพิ่มความเร็วให้เหมาะสม

หลังจากใส่เวทมนตร์มหัศจรรย์ลงไปเล็กน้อย PC โฉมใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น

“ตื่นขึ้นมา Windows XP!”

—————————-