บทที่ 3 ก่อเรื่องแล้ว

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ณัฐณิชาดูเนื้อหาในคลิปวิดีโออย่างรวดเร็ว หลังจากเข้าประตูมา เธอก็โยนกระเป๋าสะพายลงบนเก้าอี้ที่หันมาทางเตียง และบันทึกเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนล้มลงบนเตียงด้วยกันได้พอดี

เนื้อหาตอนท้าย เธอไม่กล้าที่จะดู และไม่อยากส่งภาพเปลือยเปล่าของตัวเองออกไปเช่นกัน จึงตัดมาส่วนหนึ่ง แก้ไขให้เป็นเอกสารแนบของอีเมล์ และเขียนอีเมล์รวดเดียวสี่ห้าอัน ถึงได้ชูโทรศัพท์มือถือไปที่ด้านหน้าเขา

“คืนจี้ให้ฉัน ฉันจะลบคลิปวิดีโอทิ้ง มิเช่นนั้นก็จะส่งมันทั้งกรุ๊ปเดี๋ยวนี้เลย”

ชายหนุ่มมองเธอด้วยความสนใจ เธอถึงกับพกกล้องวงจรปิดติดตัว หรือว่าจะเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นที่คิดจะใช้ภาพส่วนตัวกับข่าวลือมาข่มขู่เขา หลังจากนั้นก็แต่งเข้าตระกูลทวีศักดิ์ทินโชติ?

ชายหนุ่มพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ “ตามใจคุณ”

ถึงอย่างไร ไม่ว่าเธอจะมีเป้าหมายอะไร เขาก็ไม่กลัวข่าวอื้อฉาวระดับล่างประเภทนี้

ณัฐณิชาถูกสายตาดูถูกกระตุ้นเข้าแล้ว คิดดูแล้วเธอก็เป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว มีอะไรที่ต้องกลัวอีก

ในเมื่อฝ่ายตรงข้ามรังแกกันขนาดนี้ ก็อย่าโทษว่าเธอไม่เกรงใจ ส่งก็ส่งสิ!

กดปุ่มส่ง ส่งสำเร็จ!

หลังจากนั้นเธอก็เหลือบมองธราเทพครู่หนึ่ง ก็พบว่าเขาถึงกับเริ่มจัดการงานที่อยู่ในมือด้วยท่าทางสงบนิ่งแล้ว!

เขาไม่กังวลจริงๆ? หรือว่าอีเมล์เหล่านั้นเป็นของปลอมกัน?

ในตอนที่เธอกำลังสงสัยไม่เข้าใจ ธราเทพก็เงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกับเธอว่า “ถ้าหากว่าคุณไม่มีธุระอื่น สามารถรออยู่ที่นี่ได้ ดูว่าเมื่อคลิปวิดีโอนี้ถูกปล่อยออกมาแล้ว จะเป็นคุณหรือผมที่เสียเปรียบ”

ณัฐณิชาจึงนั่งลงบนโซฟาหนังในห้องทำงานเขาทันที ถึงอย่างไรเธอก็ยังไม่ได้เอาจี้ของตัวเองตัวมา จึงไม่ได้วางแผนจะจากไป

ข่าววงในเช่นนี้ เป็นเหมือนก้อนหินก้อนหนึ่งที่ทำให้เกิดคลื่นเป็นวงกว้าง ภายในระยะเวลาสั้นๆเพียงแค่ห้านาที คลิปวิดีโอเกี่ยวกับธราเทพประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ปไปเปิดห้องกับผู้หญิงลึกลับคนหนึ่งก็ถูกแพร่ออกไปทั่วราวกับโรคระบาด

เธอหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูเงียบๆ อ่านข่าวอยู่ครู่หนึ่งก็มีความรู้สึกเวียนศีรษะตาลาย

เธอมองออกถึงฐานะทางสังคมที่สูงส่งของธราเทพ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูงส่งขนาดนี้

ประธานแกรนด์อิมพีเรียลกรุ๊ป คุณชายใหญ่ตระกูลทวีศักดิ์ทินโชติหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ชายหนุ่มที่ลึกลับและสูงศักดิ์มากที่สุดใน เมือง S เป็นครั้งแรกที่เปิดเผยข่าวอื้อฉาวเกี่ยวกับแฟนสาว

นรินทร์ที่เป็นผู้ช่วยมาที่ห้องทำงาน ถามธราเทพว่าจะจัดการข่าวอื้อฉาวนี้อย่างไร

ธราเทพเอ่ยประโยคหนึ่งโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ไม่ต้องสนใจ”

หลังจากผู้ช่วยจากไป ก็ผ่านไปอีกหลายนาที โทรศัพท์มือถือของณัฐณิชาก็เริ่มพบกับการถูกโจมตี

โทรศัพท์คุกคามและดูถูกต่างๆนาๆพากันทยอยโทรเข้ามา

ที่แท้ภายในระยะเวลาสั้นๆไม่กี่นาที ผู้ที่เป็นติ่งธราเทพก็สืบข้อมูลเกี่ยวกับณัฐณิชาได้หมดแล้ว ทั้งยังส่งคำข่มขู่ที่ถึงตายมาให้กับเธอว่า ถ้าหากไม่ไปจากธราเทพ ก็รอที่จะพบกับความตายเสียเถอะ!

หลังจากนั้นก็มองไปทางธราเทพ เขากลับมีท่าทางสงบนิ่งมองมาทางเธอ ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่น้อย…

จนกระทั่งตอนนี้ ณัฐณิชาถึงรู้สึกจากจิตใต้สำนึกได้ว่า คราวนี้เธอพบกับเรื่องไม่ดีเข้าเสียแล้ว

ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องตามหาพ่อแม่แท้ๆเลย เธอในตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่จนมุม เกรงว่าจะจาก เมือง S ไปอย่างมีชีวิตอยู่ก็ยังยาก

แต่เธอเห็นธราเทพที่สงบนิ่งขนาดนั้น ก็คาดเดาว่าในเมื่อเขากล้าให้เธอส่งออกไป จะต้องมีความสามารถในการปิดข่าวนี้อย่างแน่นอน

ภายใต้สถานการณ์ที่จนปัญญา ณัฐณิชาจึงทำได้เพียงแค่ก้มหัวชั่วคราว เธอเดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกว่า “ฉันไม่ต้องการจี้แล้ว รบกวนคุณช่วยลบข่าวด้วย”

ธราเทพยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “แม้ว่าผมจะลบข่าวนั้นไป คนที่ข่มขู่คุณพวกนั้น ก็ยังคงไปคิดบัญชีกับคุณอยู่ดี อีกทั้งชื่อเสียงของคุณก็เสียหายจนถึงที่สุดแล้ว”

นี่มันเป็นการคิดจะทำร้ายผู้อื่น แต่ผลร้ายนั้นกลับย้อนมาหาตัวเองจริงๆ ณัฐณิชารู้สึกเสียใจในภายหลังอย่างสุดซึ้งแล้วจริงๆ

รายงานข่าวที่อยู่ตรงหน้านี้ หากเอ่ยอ้อมๆ ก็พูดว่าเธอเป็น “แฟนสาวในข่าวอื้อฉาว” แต่ถ้าไม่อ้อมค้อม ก็จะอธิบายได้ว่าเธอเป็นสาวนั่งดริ้ง

อีกทั้งรูปของเธอก็ยังถูกขยายให้ใหญ่ก่อนส่งออกมา เมื่อเป็นแบบนี้ เธอจะมีหน้าไปพบกับคุณพ่อคุณแม่ผู้ให้กำเนิดเธอได้อย่างไรกัน?!

“คุณจะต้องมีวิธีทำให้ข่าวอื้อฉาวนี้เงียบอย่างแน่นอน พูดมาเถอะว่า คุณต้องการให้ฉันทำอะไรกันแน่ถึงจะยอมลงมือ”

ธราเทพวางปากกาเซ็นชื่อในมือลง จ้องเธอพลางเอ่ยว่า “ไม่สู้พวกเรามาทำการแลกเปลี่ยนกันสักครั้ง คุณทำตามเงื่อนไขของผม ผมก็จะคืนความบริสุทธิ์ให้คุณ ทั้งยังรับประกันความปลอดภัยให้คุณหลังจากนี้ด้วย”

ณัฐณิชาลอบกัดฟัน เจ้าหมอนี่มีเจตนาอื่นจริงๆด้วย!

“คุณพูดมาก่อนว่า วิธีการแลกเปลี่ยนเป็นแบบไหน”