บทที่ 127.1 ล้อมวง (1)

สามีข้าคือขุนนางใหญ่

จวนติ้งอันโหวตั้งอยู่ห่างจากกั๋วจื่อเจียนไม่ไกลนัก ใช้เวลานิดเดียวก็ถึงแล้ว

กู้เจียวที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จก็ได้ยินเสียงเคาะประตู พอเปิดมาก็ตกใจที่เห็นแม่นางเหยา

นางหัวเราะเบาๆ พลางเอ่ยถาม “คงไม่ได้รบกวนเจ้าใช่ไหม”

กู้เจียส่ายหัว “ไม่ได้รบกวน ข้าตื่นแล้ว”

แม่นางเหยาหัวเราะ ถามต่อ “ยังไม่ได้ทานอะไรเลยสิใช่ไหม ข้าเอาซาลาเปากับหมั่นโถวมาฝาก”

ที่จวนตอนนี้กำลังง่วนกับงานเลี้ยงของกู้จิ่นอวี้ แม่นางเหยาแวะซื้อขนมให้ระหว่างทางที่มา ซึ่งเป็นร้านชื่อดังของเมืองหลวง

“เข้ามาสิ” กู้เจียวพาแม่นางเหยาเข้ามาข้างใน

เซียวลิ่วหลังเองก็ตื่นแล้วเช่นกัน จากนั้นก็ออกไปตักน้ำที่บ่อ

เมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ที่ชนบท แม่นางเหยาได้เจอกับเซียวลิ่วหลังอยู่บ้าง และนางก็รู้สึกชอบเด็กหนุ่มคนนี้ ต่างกับท่านโหวกู้โดยสิ้นเชิง

เซียวลิ่วหลังเป็นเด็กหนุ่มหน้าตาดี

และนี่คือจุดสำคัญ

แถมยังเรียนหนังสือเก่ง คล่องแคล่วว่องไว

แม่นางเหยาเคยกังวลเรื่องที่พวกเขาออกเรือนแต่ยังไม่ได้เข้าห้องหอด้วยกัน แต่พอได้พบหน้ากันและรู้จักพวกเขาแล้ว จึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเข้าขากันได้ดีเลยทีเดียว

“ฮูหยินกู้” เซียวลิ่วหลังเอ่ยทักทายแม่นางเหยา

เขาเรียกตามที่กู้เจียวเอ่ยเรียกนาง

ซึ่งแม่นางเหยาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรว่าพวกเขาจะต้องเรียกตนว่าอย่างไร จากนั้นนางก็ยื่นกล่องขนมให้พวกเขา

กู้เจียวที่กำลังจะเข้าไปตุ๋นข้าวต้มในครัว ก็ถูกแม่นางเหยาห้ามไว้เสียก่อน

ปกติแม่นางเหยาไม่เคยมีความห้ามว่ากู้เจียวต้องทำอะไร แต่วันนี้เป็นโอกาสพิเศษ เป็นวันเกิดของกู้เจียวและกู้เหยี่ยน เลยไม่อยากให้กู้เจียวทำงานหนัก

แม่นางเหยาเป็นฮูหยินที่คุ้นเคยกับงานในครัวเป็นอย่างดี และเป็นคนมีฝีมือในการทำขนม วันนี้ แม่นางเหยาจึงอาสาเข้าครัวตุ๋นข้าวต้มให้ และทำกับข้าวเพิ่มอีกสองสามอย่าง

ส่วนแม่นมฝางก็ถูกแม่นางเหยาวานให้ไปซื้อวัตถุดิบ

นี่เป็นครั้งแรกที่แม่นางเหยาฉลองวันเกิดให้ลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง ก่อนหน้านี้แม่นางเหยาจึงซุ่มฝึกฝีมือทำอาหารอยู่นานเพื่อวันนี้

แม่นางเหยาถือว่าเป็นแขกคนสำคัญและได้รับการต้อนรับอย่างดีจากสมาชิกในบ้านทุกคน แม้แต่คนที่มีนิสัยประหลาดอย่างหญิงชราเองก็ชอบแม่นางเหยาเพราะนางเป็นคนทำขนมอร่อย ทุกคนจึงดีใจมากเวลาแม่นางเหยามาเยี่ยม

หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จ กู้เหยี่ยนรู้สึกว่าง เลยเดินออกไปเด็ดฝักข้าวโพดเสียหน่อย แต่ดันเจอกับจิ้งคงน้อยที่เข้ามาห้ามไว้

จิ้งคงคว้าฝักข้าวโพดขึ้น แล้วทำมือห้ามใส่กู้เหยี่ยน “หยุดเถอะ วันนี้เป็นวันเกิดของเจ้านะ”

และวันนี้ข้าจะไม่ต่อปากต่อคำกับเจ้าด้วย เว้นไว้วันนึง!

กับข้าวของแม่นางเหยาเสร็จเป็นที่เรียบร้อย วางเรียงบนโต๊ะอย่างสวยงาม อาหารที่นางทำ นอกจากจะอิงตามความชอบของกู้เจียวและกู้เหยี่ยนแล้ว นางยังคำนึงถึงความชอบของสมาชิกทุกคนด้วย

กู้เสี่ยวซุ่นทำตาลุกวาวราวกับจะไม่แบ่งให้ใครกิน เขาประทับใจเสียจนออกมาเป็นคำพูดไม่ได้!

นี่อย่างกับฉลองปีใหม่เลย

ทำไมถึงมีอาหารมากมายหลายชนิดขนาดนี้เนี่ย

“ขาหมูตุ๋นถั่วเหลือง!” กู้เสี่ยวซุ่นเริ่มน้ำลายสอ นี่เป็นอาหารจานโปรดของเขา น่องขาหมูที่ถูกเคี่ยวตุ๋นอย่างดีมีความเงาวับเล่นกับแสง พอใช้ตะเกียบคีบเข้าไปยังรู้สึกได้ถึงกับเด้งของเนื้อ กู้เสี่ยวซุ่นได้แต่คิดว่า เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว

ขาหมูที่ถูกทำไปต้มพะโล้ก่อน จากนั้นก็นำมาตุ๋นโดยใช้กระทะผัด ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มเด้ง ละลายในปาก

ช่วงนี้เซียวลิ่วหลังเริ่มชอบทานเนื้อปลา แม่นางเหยาเลยทำซุปใสเนื้อปลาให้

ส่วนหญิงชรานั้นชอบกินรสหวาน ก็เลยทำขนมแป้งสือปาคลุกน้ำตาลแดงให้ทาน

อีกทั้งแม่นางเหยายังทำอาหารมังสวิรัติให้จิ้งคงด้วย และไม่ลืมที่จะใส่แยกไว้ในถ้วยใบน้อยของจิ้งคง

นางสืบข้อมูลมาจากกู้เหยี่ยน ทั้งยังจำรายละเอียดทุกอย่างได้แม่น และลงมือเตรียมอาหารให้พวกเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ

และนี่เองก็เป็นจุดที่ทุกคนในบ้านต่างก็ชื่นชมแม่นางเหยา เพราะนางเป็นคนอ่อนโยน และใส่ใจคนรอบข้างเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ แม่นางเหยายังทำบะหมี่อายุยืนไว้ให้พวกเขาทั้งคู่ด้วย

บะหมี่อายุยืนฝีมือแม่นางเหยาไม่ได้มีความซับซ้อนอย่างใด แค่ใส่เส้น ผักโรย และน้ำมันงา

แม้จะเป็นบะหมี่ที่ดูง่ายๆ แต่พอกินเข้าไป กู้เจียวกลับรับรู้ได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้หัวใจพองโต ตามมาด้วยความรู้สึกแสบจมูก

ที่ตลกกว่านั้นก็คือ กู้เจียวเริ่มไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้เป็นของนางเอง หรือของกู้เหยี่ยนกันแน่

พอกินข้าวเสร็จ ก็ถึงเวลาเปิดของขวัญ

จิ้งคงเป็นคนเริ่มมอบของขวัญให้ก่อนอย่างอดใจไม่ไหว

เป็นเรือนน้อยๆ ที่ทำจากดินเผา จิ้งคงปั้นให้พวกเขาคนละอัน จิ้งคงปั้นเองกับมือ จากนั้นก็วานให้พี่เขยตัวแสบช่วยเอาเข้าเตาเผาให้

จิ้งคงจำได้ว่าเขาไม่ได้ปั้นเรือนน้อยให้ออกมาน่าตาแบบนี้ ไม่รู้ทำไมพอเอาเข้าเตาเผาแล้วมันถึงได้เปลี่ยนรูปไปได้

ความจริงก็คือ เซียวลิ่วหลังทนเห็นไม่ได้กับเรือนน้อยสภาพบูดเบี้ยวของจิ้งคง เขาจึงช่วยปั้นให้ใหม่เพื่อให้มันมีรูปทรงที่ดีขึ้น!

เรือนน้อยๆ สามารถเปิดประตูได้ ในเรือนมีตุ๊กตาไม้ที่ขอให้กู้เสี่ยวซุ่นช่วยแกะสลักให้

เรือนน้อยของกู้เหยี่ยนมีตุ๊กตาไม้ที่แกะสลักเป็นหน้าของกู้เหยี่ยน ส่วนเรือนของกู้เจียวนั้น

กู้เหยี่ยนเปิดดูเรือนน้อยของกู้เจียว ก็ร้องเสียงหลงใส่จิ้งคง “ไฉนมีเจ้าอยู่ในเรือนน้อยของพี่สาวข้าล่ะ”

จิ้งคงคิดในใจ โดนจับได้แล้วสิ!

ใช่แล้วล่ะ เณรน้อยจอมเจ้าเล่ห์อย่างจิ้งคงแอบให้กู้เสี่ยวซุ่นช่วยแกะสลักตุ๊กตาไม้ที่เป็นหน้าตัวเอง แล้วใส่ไว้ในเรือนน้อยของกู้เจียว!

อย่างนี้ เขาก็จะได้อยู่กับเจียวเจียวของเขาตลอดไป!

กู้เหยี่ยนไม่พอใจ เลยให้จิ้งคงหยิบตุ๊กตาไม้ของตัวเองออกมา

แต่จิ้งคงไม่ยอม

แถมยังทำท่ายืนกราน “นี่เป็นของขวัญของเจียวเจียว เจ้าอย่าได้บังอาจมาทำลายของขวัญของนางเป็นอันขาด!”

ก็ได้ ไม่ทำลายก็ได้ งั้นข้าเอาตัวข้าเข้าไปเองก็ได้!

สุดท้าย ตุ๊กตาไม้กู้เจียว กู้เหยี่ยน และจิ้งคงก็อยู่ในเรือนน้อยของกู้เจียว…

ของขวัญจากกู้เสี่ยวซุ่น เป็นคัมภีร์พุทธสองเล่มที่เขาตั้งใจแกะสลักให้

เพื่อเป็นการตอบแทนที่เสี่ยวซุ่นช่วยแกะสลัก จิ้งคงจึงคว้าลูกกระวาน ไม้เคาะ อีกทั้งยังสวมชุดนักบวชพร้อมสรรพ ราวกับว่าคัมภีร์ไม้แกะสลักอันนี้เป็นของจริง

หรือจะว่าอีกอย่างก็คือ คัมภีร์ไม้อันนี้ได้รับการปลุกเสกมาแล้ว!

กู้เจียวพลิกดูคัมภีร์แกะสลักด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

กู้เสี่ยวซุ่นเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายมาตลอด แต่ก็เพราะเหตุนี้เอง เขามักจะถูกลืมได้ง่าย

กู้เจียวคาดไม่ถึงเลยว่า ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน กู้เสี่ยวซุ่นจะรู้คำศัพท์ได้เยอะขนาดนี้ แถมยังเป็นศัพท์หายากด้วย

“เจ้าอ่านคำศัพท์พวกนี้ออกหมดเลยรึ” กู้เจียวเอ่ยถาม

“อืม อ่านออกสิ” กู้เสี่ยวซุ่นพยักหน้า

เพราะพี่เขยเคยบอกว่า ต่อไปหากมีคนมาขอให้เขาแกะสลักอะไรให้ ถ้าอ่านไม่ออก จะมีปัญญาไปทำให้ได้อย่างไร

แม้ว่าจะยากเย็นแค่ไหน เขาก็เรียนรู้คำศัพท์จนจำได้ขึ้นใจ แถมยังรู้ความหมายอีกด้วย

กู้เสี่ยวซุ่นเห็นสีหน้าไม่อยากจะเชื่อของกู้เจียว เลยพลันทำท่าเกาหัว พลางเอ่ยถาม “หรือว่าเจ้าไม่ชอบ”

“ชอบสิ ชอบมากเลยล่ะ” กู้เจียวหันมายิ้มให้

ส่วนกู้เหยี่ยนมอบสายข้อมือให้กู้เจียวเป็นของขวัญ

เขาใช้เงินที่แลกมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขาซื้อให้นาง

หลังจากที่เขาออกมาจากจวนโหวถาวรแล้ว ท่านโหวกู้ก็ตัดท่อน้ำเลี้ยงของเขาโดยปริยาย กู้เจียวให้เงินค่าขนมกับเขาทุกเดือน แต่กระนั้น เขาก็รู้สึกว่าไม่ถูกต้องที่เขาใช้เงินกู้เจียวซื้อของขวัญให้

เขาจึงตัดสินใจว่าจะทำงานหาเงินเอง!