บทที่ 142 การหายไปของโหลวเย่ว

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 142 การหายไปของโหลวเย่ว

จากนั้น!

หลานเยาเยาก็เอาน้ำมาขันหนึ่ง และเอายาน้ำชนิดพิเศษหยดใส่น้ำไปหยดหนึ่ง แล้วนำกระดาษขาวใบนั้นใส่ลงไป

ไม่นานนัก กระดาษขาวก็เริ่มมีคล้ายๆน้ำหมึกสีดำปรากฏขึ้น แต่ทว่ามันไม่ใช่หมึกสีดำ แต่กลับเป็นสีแดง

และสีนั่นยิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้น้ำในขันนั่นกลายเป็นสีแดงไปหมด

เมื่อนางหยิบกระดาษขาวแผ่นนั้นขึ้นมา ตัวหนังสือเลือดที่ดูนากลัวนั้นก็ปรากฏต่อหน้านาง

บนจดหมายเลือดนั้นเป็นลายมือของท่านแม่ ดูจากร่องรอยที่ปรากฏ ในขณะนั้นท่านแม่กำลังตกอยู่ในอันตรายแน่นอน

จดหมายเลือดเขียนไว้ว่า ท่านแม่โดนยาพิษประหลาด รู้ว่าตัวเองมีเวลาเหลืออีกไม่นาน ดังนั้นจึงได้เขียนคำสั่งเสียบนกระดาษแผ่นนี้

เดิมที……

เหตุไฟไหม้ที่เผาผลาญราชวงศ์เก่าไม่ใช่เพราะเพลิงธรรมชาติ แต่เป็นคนทำให้เกิดเพลิงไหม้ทำให้ราชวงศ์เก่าถูกกลืนด้วยกองเพลิงเป็นเถ้าถ่านในชั่วคืนเดียว

และพวกเชื้อพระวงศ์พยายามปกป้องให้องค์ชายอยู่รอดด้วยชีวิต ก็ถูกนักฆ่ายิงจวนตามฆ่ามาตลอด และท่านแม่ก็เป็นหนึ่งในนั้น

แต่เมื่อองค์ชายผู้นั้นตกอยู่ในมือของนาง นางไม่เพียงแต่ไม่ฆ่าเขา แต่กลับปกป้องเขาอย่างลับๆมาเป็นเวลาหลายเดือน

จนกระทั่งคนนอกแผ่นดินใหญ่ นั่นก็คืออดีตราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่าเป็นคนพาเขาไป นางถึงได้กลับมาอยู่ที่จวนแม่ทัพ

และยังมีสารจากนกพิราบถึงผู้ปกครองยิงจวน ในจดหมายกล่าวว่า องค์ชายคนโตตกหน้าผาตาย ซากศพถูกสัตว์ป่ากัดกิน ยิงจวนจึงได้หยุดตามฆ่า

คำทำนายของราชครูใหญ่!

องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าคนนั้น เท้าเหยียบเจ็ดดาว เป็นผู้ที่ฟ้ากำหนดชะตาชีวิต อนาคตความอยู่รอดของแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ขึ้นอยู่ที่ความคิดเพียงชั่วครู่ของเขาเท่านั้น

เรื่องนี้ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง คำทำนายของราชครูเยี่ยมยอดขนาดนั้นเชียวหรือ?

หลังจากที่อ่านจดหมายเลือด ในใจของนางก็เริ่มสับสน

ทำเช่นไรดี?

แม้ว่าท่านแม่จะเคยช่วยชีวิตองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า ทั้งยังได้คอยปกป้องเขามาตลอดเป็นระยะเวลาหลายเดือน แต่ท่านแม่กลับเป็นคนของยิงจวน ดูจากที่ผู้ปกครองของยิงจวนเชื่อถือในตัวท่านแม่ ถือว่าตำแหน่งของท่านแม่ในยิงจวนนั้นไม่ได้ต่ำต้อย

หากว่านางพบกับองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า และมอบสิ่งที่ตาเฒ่าเย่นให้ไว้แก่องค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า เขาจะสังหารท่านแม่เนื่องด้วยนางเป็นคนของยิงจวนหรือไม่?

ทั้งยังล้างแค้นคนที่อยู่ใกล้ตัวนาง?

ยิ่งไปกว่านั้น!

อดีตราชครูใหญ่แห่งราชวงศ์เก่าชื่อเสียงศักดิ์ศรีโด่งดังมาก คำทำนายของเขาเป็นสิ่งที่น่าเชื่อถือ สิ่งที่เชื่อถือไม่ได้นั้นไม่มีเลย

ดังนั้นความอยู่รอดของแผ่นดินอันกว้างใหญ่นี้ ตกอยู่ในความคิดเพียงชั่ววูบขององค์ชายแห่งราชวงศ์เก่า ก็แสดงว่าองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าผู้นี้ต้องมีบทบาทที่เก่งกาจมากผู้หนึ่ง

ดังนั้นนางจึงต้องคำนึงถึงตัวเองด้วย!

ตอนนี้ นางต้องหาองค์ชายแห่งราชวงศ์เก่าผู้นี้ให้เจอ ดูว่าเขามีนิสัยใจคอเช่นไร แล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะมอบสิ่งของที่ตาเฒ่าเย่นให้ไว้ให้แก่เขาหรือไม่

อืม!

งั้นก็เอาแบบนี้ละกัน

หลังจากเอาจดหมายเลือดเก็บไว้ในระบบ หลานเยาเยาก็หากระดาษมาใหม่อีกแผ่นหนึ่ง ทำให้สภาพกระดาษดูเหมือนผ่านมานานแล้ว ให้คล้ายคลึงจดหมายเลือดของท่านแม่

จากนั้นก็เลียนแบบลายมือของท่านแม่ เขียนจดหมายเลือดขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งฉบับ แล้วก็เคลือบด้วยยาน้ำ หลังจากที่ตัวอักษรเลือดค่อยๆเลือนหายไปแล้ว ก็เก็บมันไว้ในกล่อง และเก็บกล่องไว้ในกล่องเครื่องสำอางไม้อีกที

หลังจากทำทั้งหมดเสร็จสิ้น!

หลานเยาเยาที่ไม่ได้กินแม้แต่อาหารเช้า มุ่งตรงไปที่ลานของพระราชธิดาจาวหยาง

เครื่องมือทางการแพทย์ชั้นที่4และยาสมุนไพรเปิดใช้แล้ว ตอนนี้นางสามารถขจัดพิษกู่ในร่างกายของโหลวเย่วได้ทั้งหมด เช่นนี้แล้วนางก็สามารถใช้ชีวิตแบบคนปกติทั่วไปได้แล้ว

แต่เมื่อถึงลานหนวนซิน กลับพบว่าโหลวเย่วไม่ได้อยู่ที่นั่น!

สาวใช้ข้างกายนางบอกว่า หลังจากที่นางออกไปเมื่อวาน ก็ไม่ได้กลับมา

“โหลวเย่วบอกหรือไม่ว่าจะไปไหน?”

“เรียนพระชายา พระราชธิดารับสั่งเพียงว่าจะไปเดินเล่นที่ตลาดกลางคืน แล้วจะรีบกลับมา แต่ถึงตอนนี้พระราชธิดาก็ยังไม่เสด็จกลับมา หม่อมฉันเป็นกังวลมากเลยเจ้าค่ะ” สีหน้าสาวใช้ข้างกายโหลวเย่วแสดงออกถึงความกังวลใจ

“ท่านอ๋องรู้แล้วหรือยัง?”

“เมื่อฟ้าสาง หม่อมฉันได้รีบไปบอกองครักษ์ลับจื่อซีแล้ว ท่านอ๋องน่าจะรู้แล้วเจ้าค่ะ” เรื่องใหญ่ขนาดนี้ นางจะไม่รายงานได้เช่นไร

หากว่าพระราชธิดาเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ แม้ว่าท่านอ๋องจะไม่ลงโทษนาง นางก็จะต้องรับโทษประหารชีวิตอยู่ดี

ในใจของหลานเยาเยารู้สึกเป็นกังวล

ความกังวลใจของนางนั้น ตั้งแต่ตอนที่นางก้าวขาออกมาจากประตูใหญ่ของจวนอ๋องเย่ ก็รู้สึกได้แล้ว

คนแต่งตัวเหมือนขอทานคนหนึ่งยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้นาง

เมื่อเปิดกระดาษออกดู ดวงตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย

นางกำกระดาษแผ่นนั้นไว้ในกำมือแน่น จากนั้นก็ไปหาพ่อบ้านเหมย ให้พ่อบ้านเหมยเตรียมรถม้าให้นางหนึ่งคัน

นางจะเข้าวัง!

สำหรับเรื่องที่หลานเยาเยาเข้าวังอย่างกะทันหัน ทำให้พ่อบ้านเหมยรู้สึกงุนงง หลังจากส่งหลานเยาเยาออกไป เขากำลังจะก้าวเข้าประตู ก็พบกับคุณชายเหลียงเฉินที่กำลังจะมาถึง

“พระชายาจะไปไหน?” โม่เหลียงเฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“พระชายาจะไปพระราชวัง ไปเยี่ยมไทเฮา เพียงแต่ว่าท่าทีของนางดูรีบร้อน ราวกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น” พ่อบ้านเหมยพูดในสิ่งที่ตัวเองเป็นกังวลออกมา

คุณชายเหลียงเฉินเป็นทหารผู้ช่วยในกองบัญชาการที่ท่านอ๋องให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในสนามรบ หรือว่าในที่ประชุมพระราชสำนัก ท่านอ๋องก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนออกโรงเอง เขาสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้โดยง่ายดาย

ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจในตัวคุณชายเหลียงเฉินเป็นอย่างมาก

“พระราชธิดาจาวหยางอยู่ในจวนหรือไม่?”

“พระราชธิดาจาวหยางยังไม่ได้กลับตั้งแต่เมื่อคืนวาน ท่านอ๋องรับสั่งให้จื่อเฟิงและองครักษ์ลับอื่นๆออกไปตามหาแล้วขอรับ” พระชายาเข้าไปที่พระราชวัง จะข้องเกี่ยวกับเรื่องที่พระราชธิดาจาวหยางไม่ได้กลับมาหรือไม่?

“แล้วท่านอ๋องล่ะ?”

เขาเพิ่มมาจากห้องหนังสือของเย่แจ๋หยิ่ง ก็ไม่พบกับเงาของเขาเลย ดังนั้นจึงคิดว่ามันแปลก

โดยปกติแล้ว!

ในเวลานี้ หากเย่แจ๋หยิ่งไม่ได้ไปประชุมที่สำนักพระราชวังตอนเช้า ก็จะอยู่ที่ห้องหนังสือ

แต่ทว่า!

เรื่องการประชุมพระราชสำนักในตอนเช้า หากเย่แจ๋หยิ่งอารมณ์ดีก็จะไป หากอารมณ์ไม่ดีก็จะไม่ไป ดังนั้นปกติแล้วเขาจะไม่เข้าไป

กระนั้นแล้วตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่ห้องสมุด แสดงว่ามีเรื่องที่เขายังไม่รู้งั้นหรือ?

“ข้าก็กำลังอาบน้ำ!”

“อาบน้ำ?” มุมปากของคุณชายเหลียงเฉินกระตุก

เช้าตรู่ขนาดนั้นวิ่งไป

อาบน้ำ ข้าฟังไม่ผิดใช่หรือไม่?

เวลานี้!

พ่อบ้านเหมยเอามือปล้องหูและกระซิบข้างหูเขาเบาๆว่า : เมื่อคืนท่านอ๋องพักอยู่ในห้องพระชายาทั้งคืนขอรับ เมื่อเช้าตรู่ก็ไปอาบน้ำ เป็นเรื่องปกติขอรับ”

ฐานนะคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน พูดถึงตอนนี้ แววตาพ่อบ้านเหมยที่ดูกังวลก็เปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความปลื้มปีติ

“พวกเขาทั้งสองเรียบร้อยกันแล้วหรือ?” คุณชายเหลียงเฉินอดไม่ได้ที่จะสงสัย

ด้วยกลยุทธ์พวกนั้นที่เย่แจ๋หยิ่งใช้ในสนามรบ สองคนนั้นจะพัฒนาได้รวดเร็วขนาดนั้นเชียวหรือ?”

หรือว่า……หลานเยาเยาชอบแบบนั้น?

แต่ว่า เมื่อเห็นความสงสัยในดวงตาของพ่อบ้านเหมย เขาจึงถามต่อว่า: “ท่านยังมีรายละเอียดอื่นที่ยังไม่เล่าหรือไม่?”

“ท่านอ๋องอาบน้ำเย็นขอรับ!”

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้พ่อบ้านเหมยสงสัยมาก อาบน้ำเย็นในฤดูใบไม้ร่วงเนี๊ยนะหรือ? ท่านอ๋องชอบแช่น้ำพุร้อนมากนี่นา?

ใครจะรู้……

คุณชายเหลียงเฉินกลับหัวเราะฮ่าๆออกมาเสียงดัง

สรุปว่าเป็นดังที่เขาคาดไว้ เย่แจ๋หยิ่งที่อยู่ยงคงกระพันมาตลอดจะต้องรอคอยต่อไป

นี่มันเรียบร้อยอะไรกันเล่า!

นี่มันอาบน้ำเย็นเพื่อลดความลุ่มร้อนในร่างกายต่างหากล่ะ!

“เหอะเหอะเหอะ……” คิดไว้อยู่แล้ว คุณชายเหลียงเฉินกลับหัวเราะด้วยเสียงต่ำขึ้นมาอีกครั้ง

“นี่ เจ้าเด็กน้อย กล้าหัวเราะเยาะท่านอ๋อง ระวังท่านอ๋องจะเห็นเข้านะ!” เห็นคุณชายเหลียงเฉินหัวเราะเยาะเช่นนี้ พ่อบ้านเหมยก็รู้ได้ทันทีว่าคืออะไร จึงแสร้งทำเป็นตักเตือน

ก็มีเพียงเขาที่กล้าหัวเราะเยาะท่านอ๋อง

หากว่าเป็นผู้อื่น ไม่รู้ว่าต้องตายไปกี่ครั้งแล้ว