“ทุกคนต้องแบกรับผลที่ตามมาจากความโง่เขลาและความประมาทของแก แกจะไม่เพียงแต่จะแส่หาเรื่องใส่ตัวเองเท่านั้น แต่ยังลากเพื่อนร่วมชั้นไปด้วย!”

ซุนเหว่ยบรรยายด้วยท่าทางที่เยือกเย็นว่า “ฉันจะฝึกพวกเขาให้ดี และแน่นอนฉันจะมอบประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนให้พวกเขาด้วย!”

“ชอบที่จะพล่ามไปเรื่อยสินะ” เหย่หลิงเฉินตอบอย่างสงบในขณะที่จ้องมองที่ซุนเหว่ย

“ในเมื่อแกไม่อยากใช้ชีวิตต่อไปแล้ว ฉันก็จะสงเคราะห์แกเอง!” ซุนเหว่ยเยาะเย้ย ‘จนถึงตอนนี้ยังไงแล้วฉันก็ยังได้เปรียบอยู่!‘ เขาคิดกับตัวเอง

เมื่อจบประโยค เขากระโดดขึ้นไปในอากาศโดยยกขาขึ้น จากข้างบน เขาเล็งตรงไปที่คางของเหย่หลิงเฉิน

ลูกเตะที่ลอยอยู่ในอากาศนั้นเร็วมากจนเกิดเสียงของลมที่พัดมา

ฝูงชนมองเห็นเพียงเงาแวบ ๆ ตามมาด้วยเสียงที่ดังก้องในหูของพวกเขา

มันเร็วและแรงเกินไป!

คนทั่วไปคงฟันหักไปหมดแล้ว ความเสียหายจากการถูกกระทบกระแทกนั้นต้องรุนแรงแน่

วินาทีต่อมา เหย่หลิงเฉินก็เคลื่อนไหวเช่นกัน!

การเคลื่อนไหวของเขาคล้ายกับซุนเหว่ย เขายกขาขึ้น!

ปัง!!!!

ขาทั้งสองข้างกระทบกัน เสียงกระดูกหักอันน่ากลัวดังลั่น ทำให้คนดูขนลุกขนลุก

ซุนเหว่ยคร่ำครวญ ขาของเขางอทันทีและคุกเข่าลงกับพื้น!

หัวใจของเขาเต้นแรง กระดูกขาของเขาหัก ขาของเขาพิการ!

ทั้งสนามตกอยู่ในความเงียบสงัด!

‘น่ะ.. นี่มัน…’

หลายคนพูดติดอ่างแต่พูดไม่ออก

ดวงตาของซุนเฉาแทบจะหลุดออกจากเบ้า ปากของเขาเปิดกว้างด้วยความช็อก

พี่ชายของเขาล้มลง!

เหลือเชื่อ เหลือเชื่อ!

วินาทีที่แล้วเขายังคงแสดงความมั่นใจราวกับว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา แต่ไม่กี่วินาทีถัดมาเขากลับล้มลง เขายืนไม่ได้ด้วยซ้ำ!

ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงทำให้ทุกคนตกใจ ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง ความคิดเต็มไปด้วยความว่างเปล่า

“ไม่! ไม่! เป็นไปไม่ได้!” ซุนเฉาเห่าเสียงดัง ในความคิดของเขา พี่ชายของเขาเป็นเหมือนพระเจ้า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ชายของเขาจะจัดการมันได้อย่างง่ายดาย เมื่อพูดถึงการต่อสู้เขาก็ไร้พ่าย!

ดวงตาของซุนเฉาแดงก่ำ สติของเขาแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ในขณะนั้นความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับความเป็นจริงทุกอย่างก็พังทลาย ความเชื่อของเขาก็พังทลายลงด้วยเช่นกัน!

หัวใจของเขาเกือบจะระเบิด

พี่ชายระดับพระเจ้าของเขาแพ้ได้อย่างไร? ทั้งหมดนั่นเป็นการกระทำจากนักศึกษามหาวิทยาลัยในการโจมตีครั้งเดียวเท่านั้น!

เหอหยวนลงมาจากเวทีหลักอย่างลับ ๆ ใบหน้าของเขาซีดเผือด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวเมื่อมองไปที่เหย่หลิงเฉิน

‘นักศึกษาคนนี้นี่มันอะไรกัน? นี่คือสัตว์ประหลาดในร่างมนุษย์!’

ซุนเหว่ยจ้องไปที่เหย่หลิงเฉิน ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงที่ไม่สามารถปกปิดเจตนาที่จะฆ่าได้อีกต่อไป

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสยดสยอง “ไอ้สวะ แกกล้าลองดีกับฉัน เชื่อฉันเถอะว่าแกจะตายอย่างทุกข์ทรมานแน่!”

“คนชั่วจะต้องพบกับความตาย!” เหย่หลิงเฉินยังคงนิ่งเฉย “เตะนี้สำหรับอาจารย์โจว!”

ปั้ง!

เขายกขาขึ้นแล้วเตะไปทางด้านข้างของซุนเหว่ย!

ซุนเหว่ยคุกเข่าต่อหน้าเหย่หลิงเฉิน ลูกเตะนั้นกระทบไหล่เขาอย่างรุนแรง!

ในทันที ซุนเหว่ยก็กระเด็นออกไปเหมือนกับที่เขาส่งโจวฮุ่ยให้กระเด็นออกด้วยเตะของเขา

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่อยู่กลางอากาศ ใบหน้าของซุนเหว่ยกลับกลายเป็นน้ำแข็ง ราวกับมีดจ้องเขม็งติดกับเหย่หลิงเฉิน

มืออีกข้างของเขาก็เอื้อมไปข้างหลังทันที!

มันเป็นปืน!

หลุมดำที่ปลายปืนทำให้เกิดขนลุกทั่วร่างกายของเหย่หลิงเฉิน

ร่างกายของเขางอไปด้านข้างและพลิกตัวไปด้านข้างอย่างไม่ลังเล!

**ขโมยมาจาก ThaiNovel / My Novel **

FB : June6 Translate นิยายแปลไทย

ปั้ง!!!

เสียงที่ชัดเจนดังกว่าฟ้าร้องทำให้ทุกคนหูอื้อ รูกระสุนได้ประทับอยู่ที่กำแพงบนเวทีหลัก

วินาทีถัดมา เสียงร้องสยองขวัญก็ดังขึ้นจากทั้งสนาม

ซุนเหว่ยยิงพลาด เขาเตรียมที่จะมองหาเป้าหมายและจัดการอีกครั้ง!

อย่างไรก็ตาม เงาสีดำเหยียบลงบนเสาหลักของเวทีหลักอย่างแรงและบินตรงมาที่เขาราวกับก้อนหินที่กางปีกออกกว้าง

เหย่หลิงเฉินเข้าใจว่าเขาต้องไม่วิ่งเมื่อเผชิญหน้ากับปืน แต่เขาต้องปิดระยะห่างแทน เมื่อนั้นเขาจึงจะมีโอกาสรอดชีวิต

ไม่ว่าคนจะวิ่งได้เร็วแค่ไหน แต่คงมิอาจเทียบกับกระสุนปืนได้

ขณะที่ร่างของเขาอยู่กลางอากาศเหย่หลิงเฉินก็พุ่งเข้าใส่ราวกับสายฟ้าและคว้ามือของซุนเหว่ยที่ถือปืน ยกเท้าของเขาพุ่งตรงไปที่ท้องของซุนเหว่ย

ปั้ง!!

ทั้งสองร่วงลงมาที่พื้นพร้อมกัน

เหย่หลิงเฉินเหล่มองซุนเหว่ย และถือปืนชี้ไปที่หัวซุนเหว่ยโดยตรง

ในสนาม เสียงหอบ เสียงร้องไห้ และการเต้นของหัวใจต่าง ๆ ปะปนกันไป บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด

“ยิงสิวะ”

เลือดไหลออกจากมุมปากของซุนเหว่ย แต่เขาก็ยังหัวเราะอย่างไม่สนใจ

เมื่อเห็นเหย่หลิงเฉินเงียบไป เสียงหัวเราะของเขาก็ดังขึ้น “ฮ่าฮ่าฮ่า แกกล้าเหนี่ยวไกไหม?”

“ไอ้หมาโง่ แกจะต้องตาย! แกไม่เพียงแต่ทำร้ายนักศิลปะการต่อสู้เท่านั้น แต่แกยังขโมยปืนเพื่อตอบโต้ด้วย แกทำสำเร็จแล้ว!” ซุนเหว่ยมองเย้ยหลิงเฉินอย่างเย้ยหยัน “สมาคมนักรบไม่ปล่อยแกไปแน่! รอการลงโทษที่จะมาถึงได้เลย!”

บรื้นนนนน!

ในขณะนั้นได้ยินเสียงเครื่องยนต์ก็ดังเข้ามาใกล้ ๆ รถจี๊ปขนาดใหญ่พุ่งเข้ามา

ชายสามคนลงมาจากรถ สองคนเป็นนักศิลปะการต่อสู้ธรรมดา

อีกคนยืนอยู่ตรงกลาง หน้าอกของเขามีตราเป็นประกายระยิบระยับ สามดาวเขียว นักรบชั้นสูง!

“ฮ่าฮ่าฮ่า นักรบระดับสูงมาแล้ว! ไอ้กากเดน แกตายแน่!” ซุนเหว่ยนึกภาพชะตากรรมอันน่าสะพรึงกลัวที่รอเหย่หลิงเฉินรออยู่ “หลังจากที่สมาคมนักรบจับแก ฉันจะเป็นคนควบคุมแกเอง แกไม่รอดแน่!”

ซุนเฉาเดินกะเผลกและเริ่มเขียนรายการความผิดของเหย่หลิงเฉิน!

“เหย่ ใจเย็น ๆ ก่อนนะ เราจะเป็นพยานให้กับนายเอง เราเชื่อว่าในสมาคมนักรบไอ้สองคนนั้นเป็นแค่แกะดำชั่ว ๆ!”

“ใช่เหย่ ฉันจะเป็นพยานให้กับนายด้วย!”

“เหย่ ถ้านายถูกใส่ร้าย ฉันจะพาทั้งชั้นเรียนและทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้องไปยื่นอุทธรณ์ให้นาย!”

“สมาคมนักรบเป็นเพียงองค์กรที่ฝึกนักศิลปะการต่อสู้ ฉันไม่เชื่อว่าพวกเขาจะทำอะไรได้ตามใจชอบ!”

นักศึกษาที่อยู่รอบ ๆ เหย่หลิงเฉินพูดออกมาอย่างหนักแน่น

นักรบชั้นสูงคนนั้นได้ยินคำพูดของซุนเฉา แล้วรีบเดินไปโดยไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ ในทางกลับกันเมื่อเขาเห็นเหย่หลิงเฉินรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เย็นชาของเขา

“น้องชายเหย่! ฉันไม่ยักรู้ว่าเป็นนาย!”

หลิงอ่าวเดินไปข้างหน้าและตบที่ไหล่ของเหย่หลิงเฉินพร้อมรอยยิ้ม

“น้อง..น้องเหย่?!”

ซุนเฉาและซุนเหว่ยต่างใจหาย ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือด

พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน มองเห็นความขมขื่นในดวงตาของกันและกัน

‘ไอ้งั่งนั่นรู้จักกับคนในสมาคมนักรบ? แถมเป็นนักรบชั้นสูงด้วย?!’

เหย่หลิงเฉินยิ้มออกมาและยื่นปืนในมือให้หลิงอ่าว “พี่ใหญ่หลิง”

หลิงอ่าวได้รับปืนแล้วทำหน้าบึ้งใส่ซุนเฉาและซุนเหว่ย “น้องเหย่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

“ท่านนักศิลปะการต่อสู้ ผมสามารถเป็นพยานให้ได้ครับ! โปรดอย่ากล่าวหาเหย่หลิงเฉินอย่างผิด ๆ !”

“ท่านนักศิลปะการต่อสู้ ฉันเป็นตัวแทนของเด็กผู้หญิงในคลาสที่หก เขาทำไปเพื่อรายงานความประพฤติผู้สอนของเราค่ะ!”

ในขณะนั้นความเลือดร้อนของเยาวชนก็แสดงออกอย่างเต็มที่ ใบหน้าของพวกเขาแดงก่ำขณะเล่าเรื่องราวทั้งหมด

การกระทำของซุนเฉาและซุนเหว่ยทำให้เกิดบาดแผลในใจพวกเขา ในขณะนั้นในที่สุดมันก็ระเบิดออกมา

ตั้งแต่ต้นจนจบหลิงอ่าวยืนตัวตรงเป็นกระดาน

ภายใต้แสงแดดที่แผดเผาเขาฟังอย่างเงียบ ๆ ดวงตาของเขากวาดมองไปที่ใบหน้าประหม่าของนักเรียนที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล

เขายืนฟังอยู่เป็นชั่วโมงกว่า

ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง!