ตอนที่ 104 จักระทั้ง 7

“ตำแหน่งของจักระทั้ง 7 นั้นอยู่ที่เหนือศีรษะ ระหว่างคิ้ว ลำคอ หัวใจ สะดือ บริเวณท้องน้อย และบริเวณอวัยวะเพศ และดวงวิญญาณทั้ง 7 นั้นก็สอดคล้องกับจักระทั้ง 7 “

“จักระบริเวณอวัยวะเพศนั้นคือพื้นฐานแห่งชีวิต มันเป็นรากฐานแห่งสวรรค์และโลก เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังมากมายและมีหน้าที่ในการสรรสร้างสิ่งต่างๆ ยิ่งเจ้าสะสมพลังในจักระตำแหน่งนี้มากเท่าใดหลังจากยกระดับขึ้นก็จะได้ผลประโยชน์มากเท่านั้น บางคนยังบ่มเพาะแค่จักระตำแหน่งนี้เท่านั้น แต่วิธีนี้ไม่แนะนำให้ทำตาม เมื่อเริ่มบ่มเพาะแล้วก็ต้องเดินต่อไปข้างหน้าทีละก้าว ไม่มีทางลัดใดๆในหนทางแห่งนี้ จงจำไว้ให้ดีว่าทุกย่างก้าวต้องระมัดระวังให้มากที่สุด! “

“จักระบริเวณท้องน้อยนั้น ถือเป็นจุดที่สำคัญที่สุดของทั้งร่างกาย …”

เมื่อได้ฟังเสียงในหัวของเขาต่อไปเรื่อยๆมู่อี้ก็รู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง

ท่านปู่นั้นทำทุกอย่างเพื่อเขามาโดยตลอดโดยที่เขาไม่ได้รู้ตัวเลย ไม่ใช่ว่าท่านปู่ไม่ได้บอกแนวทางในการก้าวเข้าสู่ขั้นที่ 2 ของการฝึกฝนจิตใจให้กับเขาแต่เป็นเพราะว่าพลังของเขาที่น้อยเกินไปจึงไม่อาจรับรู้ถึงมันได้

และครั้งนี้เส้นทางที่เขากำลังก้าวเดินต่อไปนั้นต้องเป็นไปอย่างมั่นคงแน่นอนและมู่อี้ไม่เคยเข้าใจเจตนาดีของท่านปู่มาก่อนจนกระทั่งวันนี้

คำอธิบายในใจของเขายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆและมู่อี้ก็เหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับจิตใจของเขาในตอนนี้ เขาเริ่มพยายามระงับพลังที่กำลังพุ่งสูงขึ้นต่อไปเรื่อยๆและพยายามควบคุมพลังที่ได้รับมาใหม่ในตอนนี้

เงาดำเห็นว่าลมหายใจของมู่อี้เริ่มสงบนิ่งมากขึ้นเรื่อยๆและพร้อมที่จะลืมตาขึ้นมาได้ตลอดเวลา มันก็รีบหนีออกไปจากที่นี่ทันทีโดยไม่ลังเล เพราะมันรู้ดีว่ามันคงทำอะไรมู่อี้ในตอนนี้ไม่ได้แน่นอน ถ้าหากยังเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อไปและมู่อี้ตื่นขึ้นมานั่นคือเวลาตายของมันอย่างแน่นอน

ทันทีที่เงาดำหนีออกไปนั้น ก็มีอีกร่างหนึ่งที่กำลังตรงเข้ามาที่นี่นั่นคือ เนี่ยนหนิวเอ้อร์

หลังจากตัดสินใจอยู่นานในที่สุดเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็เลือกที่จะเข้ามาช่วยเหลือมู่อี้ หลังจากดวงวิญญาณของมารดาได้สลายไปแล้วเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็เหลือเพียงมู่อี้เท่านั้นในชีวิตของนาง ในใจของนางนั้นมู่อี้คือสิ่งที่สำคัญมากที่สุด สำคัญยิ่งกว่าตัวนางเองเสียอีก

โชคดีที่นางมาที่นี่ถูกเวลาไม่อย่างนั้นแล้วนางคงต้องปะทะกับเงาดำนั้นอย่างแน่นอน แม้ว่าเงาดำนั้นจะได้รับบาดเจ็บหนักแต่เนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็คงไม่อาจเอาชนะมันได้

ในตอนที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์มาถึงที่นี่นางก็ไม่ได้พบเจอกับศัตรูและเห็นเพียงมู่อี้ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เท่านั้น ร่างกายของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงจนนางไม่กล้าเข้าไปใกล้ในตอนนี้

โชคดีที่หลังจากเฝ้าดูอยู่นานเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็พบว่ามู่อี้ไม่ได้เป็นอันตรายใดๆนางจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที แต่เมื่อได้เห็นร่องรอยการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่นี่นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย

ท้ายที่สุดสายตาของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็จับจ้องไปที่ยักษ์ตนนั้นที่ยังคงนอนอยู่บนพื้น

ยักษ์ตนนี้คงไม่ใช่สิ่งที่สามารถรับมือได้ง่ายๆแน่นอน ถ้าหากไม่ใช่เพราะว่ามู่อี้ใช้ยันต์สายฟ้าโจมตีออกไปอย่างกะทันหันถึง 3 แผ่น น่ากลัวว่าเขาก็อาจพ่ายแพ้ต่อยักษ์ตนนี้ได้ พลังป้องกันของมันนั้นถือว่าไม่ธรรมดาเพียงแต่ว่าตะเกียงทองแดงของมู่อี้ได้เข้าไปทำร้ายดวงวิญญาณของมันจึงทำให้ยักษ์ตนนี้พ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้แสดงพลังของมันออกมาเลย

และมันยังส่งผลไปถึงชายที่เป็นผู้ควบคุมมันด้วยเช่นกัน

แม้ว่ายักษ์ตนนี้จะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแต่มันก็ไม่ได้ตายไปในทันที นั่นแสดงให้เห็นว่ามันมีพลังชีวิตมากเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆเงาดำนั่นคงไม่อยากทิ้งยักษ์ตนนี้เอาไว้ที่นี่และรีบหนีไปอย่างแน่นอน

หลังจากได้เห็นยักษ์ตนนี้ ไม่รู้ว่าทำไมเนี่ยนหนิวเอ้อร์นางถึงมีความรู้สึกที่ดีต่อมัน แม้ว่านางจะรู้ดีว่ามันคือศัตรูของมู่อี้ แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งนางก็ค่อยๆเข้าไปใกล้ยักษ์ตนนี้และตรวจสอบสภาพของมันด้วยความระมัดระวัง

บางทีอาจเป็นเพราะว่ามันรับรู้ได้ว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์กำลังเข้ามาใกล้ ยักษ์ตนนี้จึงลืมตาขึ้นมาและจ้องมองมาที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์

เนี่ยนหนิวเอ้อร์รู้สึกตกตะลึงขึ้นมาทันทีและร่างเล็กๆของนางก็รีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นนางก็จ้องมองมาที่ยักษ์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาตื่นตระหนก

เพียงแต่ว่ายักษ์ตนนี้ไม่อาจทำอะไรได้ แม้แต่ยืนขึ้นมามันยังทำไม่ได้เลย ดังนั้นมันจึงทำได้เพียงจ้องมองมาที่เนี่ยนหนิวเอ้อร์เท่านั้น

หลังจากได้เห็นว่ายักษ์ตนนี้ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อีกเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา แต่นางก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้มันอีกและจ้องมองมู่อี้สลับกับยักษ์ตนนี้ไปมาเท่านั้น นางกำลังรอให้มู่อี้ฟื้นขึ้นมา

” 6 เท่า!”

ในที่สุดพลังแห่งจิตใจของเขาก็หยุดเพิ่มขึ้นแล้วและมู่อี้จะรับรู้ได้ทันที พลังแห่งจิตใจของเขาเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ถึง 6 เท่า นี่เป็นผลมาจากการที่เขาพยายามหยุดยั้งไม่ให้มันเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้ไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะไปหยุดที่ตรงไหน

แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ศีรษะและพลังแห่งจิตใจที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาลก็ยากที่เขาจะควบคุมได้

สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายนั้นมันทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดไปเล็กน้อย แม้ว่ามู่อี้จะรู้สึกราวกับว่าเขาได้เกิดใหม่ขึ้นมาอีกครั้งและทั่วร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลังที่ระเบิดออกมา แต่เขาก็ยังไม่อาจระบุได้ว่าพลังที่เพิ่มขึ้นมานั้นมากเพียงใดจนกว่าจะได้ทดสอบดู

ในส่วนลึกที่สุดของร่างกายของเขานั้นจักระบริเวณอวัยวะเพศก็มีแสงที่ส่องประกายออกมาและมู่อี้ยังรู้สึกได้จางๆว่ามีประตูที่อยู่เหนือตำแหน่งจักระบริเวณนี้และถ้าหากเขาต้องการเขาก็สามารถทำลายประตูเพื่อยกระดับต่อไปได้ทันที

ถ้าหากไม่มีคำพูดของท่านปู่ก่อนหน้านี้มู่อี้คงทำแบบนั้นไปแล้ว เพราะในตอนที่เจี่ยเหรินทำลายประตูบานนี้เขายังสามารถทำลายประตูต่อไปได้อีกถึง 3 บาน มู่อี้คิดว่าตนเองไม่ได้ด้อยไปกว่าเจี่ยเหรินเลยบางทีเขาอาจจะทำได้มากกว่านั้น

แต่คำพูดของท่านปู่ก็ย้ำเตือนอยู่ในจิตใจของเขา คนหนึ่งคือศัตรู อีกคนหนึ่งคือคนที่ใกล้ชิดกับเขามากที่สุด เช่นนั้นเขาต้องคิดอีกหรอว่าเขาควรจะเชื่อใคร?

แม้ว่าคำพูดของท่านปู่อาจจะเป็นสิ่งที่ผิดแต่เขาก็คิดว่ามันไม่ได้มีผลเสียอะไรเลย เพราะจากที่ท่านปู่ได้พูดเอาไว้หนทางแห่งการบ่มเพาะนั้นไม่มีทางลัดใดๆ ถ้าหากจะบอกว่ามันคือทางลัดนั่นหมายความว่าจะต้องละเลยการสร้างรากฐานที่สำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งไปแน่นอน

ในที่สุดมู่อี้ก็ลืมตาขึ้นมาและเห็นเนี่ยนหนิวเอ้อร์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ

เมื่อเห็นว่ามู่อี้ตื่นขึ้นมาแล้ว เนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็อยากกระโดดเข้าไปกอดมู่อี้ แต่เมื่อเข้าไปใกล้นางก็ต้องหยุดนิ่งทันที

แม้ว่ามู่อี้ตื่นขึ้นมาแล้ว แต่พลังแห่งสายเลือดของเขาก็ยังพุ่งพล่านอยู่ภายในร่างกายเมื่อดวงวิญญาณเข้ามาใกล้ย่อมรับรู้ได้ถึงความกดดันจากพลังนั้น

หลังจากมู่อี้เห็นว่าเนี่ยนหนิวเอ้อร์หยุดนิ่งไปอย่างกะทันหัน เขาก็รู้ได้ทันทีว่าทำไมเนี่ยนหนิวเอ้อร์ถึงมาอยู่ที่นี่ ดูจากสายตาของเนี่ยนหนิวเอ้อร์ก็พยายามหลบตาเขาอยู่ในตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าการที่เขาต้องบาดเจ็บและนางไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้เลยมันทำให้นางรู้สึกเศร้าใจ

“เจ้าไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม?” มู่อี้คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามขึ้นมา ก่อนหน้านั้นเขาโดนเงาดำโจมตีอยู่สักพักและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น อีกฝ่ายน่าจะหนีไปแล้วเมื่อเห็นว่าไม่สามารถยึดร่างกายของเขาได้

และหนิวเอ้อร์ในตอนนี้ก็ดูเหมือนไม่ได้ผ่านการต่อสู้มาเลย ดังนั้นเขาจึงถามนางเช่นนี้

“ไม่มี ตอนที่หนิวเอ้อร์มาถึงที่นี่ก็เห็นว่าพี่ชายยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นแล้ว” เนี่ยนหนิวเอ้อร์ตอบกลับมาอย่างเชื่อฟังเมื่อนางเห็นว่ามู่อี้ไม่ได้ดุด่านางในเรื่องนี้ สีหน้าของนางก็แสดงความโล่งใจออกมาทันที

“พี่ชายยกระดับขึ้นสู่ระดับความยากขั้นที่ 2 แล้วหรอ?” เนี่ยนหนิวเอ้อร์ถามต่อ ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นมู่อี้ก็อธิบายเรื่องการฝึกฝนจิตใจให้นางฟังอย่างละเอียด แม้ว่ามันอาจจะช่วยอะไรนางไม่ได้แต่อย่างน้อยก็เป็นความรู้ให้กับนางได้ ดังนั้นเนี่ยนหนิวเอ้อร์จึงสามารถเข้าใจระดับพลังของมู่อี้ได้ในตอนนี้

“ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น” มู่อี้ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม