ตอนที่ 62 เหมือนถูกฆ่าอีกครั้ง

ด้วยความสามรถและฐานะแบบ หลินฟ่าน เป็นใคร ๆ ก็คงมีความอิจฉาอยู่ในใจบ้างเป็นธรรมดา

ไม่เว้นแม้แต่ อาจารย์ เทียนเจิ้ง ที่เป็นผู้ที่นับถือ ของคนทั้งวงการบันเทิง

แม้ว่า เทียนเจิ้ง จะอิจฉาตำแหน่งของ ของหลินฟ่าน มาก แต่ก็ต้องยอมรับเพราะความสามารถที่น่าทึ่งของ หลินฟ่าน

ประธานหลี่ แสวงหาอะไรบางอย่างจาก หลินฟ่าน เพราะคุณค่าของ หลินฟ่าน และอีกอย่างก็เพราะเซี่ยหว่านชิว

ถ้าเขาไม่สามารถชนะใจ หลินฟ่าน จะเกิดอะไรขึ้นถ้า หลินฟ่าน พาตัว เซี่ยหว่านชิว ออกไปจากบริษัท เยิ่นหัว กรุ๊ป

เทียนเจิ้ง รู้สึก อิ่มเอมใจมากขึ้น

ความสามารถอย่าง หลินฟ่าน ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใดไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ใน บริษัท ใดก็สามารถแสดงคุณค่าของตัวเอง และพัฒนาตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์ทั้งหมดได้ ด้วยสถานะภาพของ หลินฟ่าน ประกอบกับการเติบโตและการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นของประเทศบางทีวันหนึ่งภาพยนตร์ บล็อกบัสเตอร์ของประเทศจะสามารถชนกับ ฮอลลีวูด ได้สบายๆ

สำหรับเรื่องที่ หลินฟ่าน เซ็นสัญญา กับข้อเสนอเก้าล้านนั้น เทียนเจิ้ง อิจฉาได้แค่ในใจเท่านั้น เพราะฐานะของ หลินฟ่าน นั้นเหมาะสมแล้วสำหรับข้อเสนอเช่นนี้

โลกของคนรวยแตกต่างจากคนธรรมดาเช่นเขา

หลังจากพูดคุยกันสักพัก หลินฟ่าน ก็ออกจากที่นี่ด้วยความพึงพอใจ

ร่วมงานเลี้ยงกับข้อตกลงสัญญาเก้าล้าน

นับตั้งแต่เซ็นสัญญา หลินฟ่าน และ ประธานหลี่ ได้พูดคุยกันอย่างมีความสุขมากขึ้น

ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์และร่วมมือกันอย่างเป็นทางการอยู่แล้วและสถานะยังคงเท่าเทียมกัน เมื่ออยู่ใน บริษัท

ประธานหลี่ ต้องการเอาชนะใจ หลินฟ่าน และในขณะเดียวกัน หลินฟ่าน ก็ยังหาเงินได้เพิ่มขึ้นอีก และในอนาคต เซี่ยหว่านชิว ก็สามารถพบปะกันอย่างเปิดเผย

ความเหินห่างระหว่าง หลินฟ่าน และประธานหลี่ ก็น้อยลงเช่นกัน การพูดคุยกับคนฉลาดเป็นเรื่องง่ายและทั้งสองฝ่ายก็ได้สิ่งที่ต้องการและพึงพอใจทั้งคู่

แน่นอนว่าเมื่อ หลินฟ่าน รับเงินไปเขาก็จะต้องดูแลเกี่ยวกับงานของ บริษัท และช่วยเหลือนักเขียนบทของ บริษัท บ้างตามความเหมาะสม

เวลาผ่านไปรวดเร็วจนกระทั่งถึง สามทุ่ม

หลินฟ่าน เพิ่งคิดได้ว่าวันนี้เขาไม่ได้ลงชื่อเข้าใช้ระบบเฉิ่นห่าวเลย

“ติ๊ง!!! ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ ในการลงชื่อ รับลอตเตอรี่จำนวนสองใบได้สำเร็จ”

“หมายเหตุ: ตั๋วลอตเตอรีสามารถจับสลากได้รางวัล… รถยนต์หรู วิลล่า เงินสด เกาะส่วนตัวเฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ ” เสียงของระบบดังขึ้น

“???” หลินฟ่าน รู้สึกงงเล็กน้อย.

[[” เมื่อประกาศผลแล้ว ผู้ใช้ถึงจะรู้ได้ว่าท่านจะได้รับรางวันใด” ]] เสียงทึมๆของระบบผ่านเข้ามาในความคิดของ หลินฟ่าน

ถ้าได้เงินสด วิลล่า เฮลิคอปเตอร์ ฯลฯ คงจะดีมาก

……..

” ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้ สำหรับการจับฉลากที่ประสบความสำเร็จและท่านได้รับ โคคา-โคล่า หนึ่งขวด” ระบบแจ้งผลลอตเตอรี่ใบที่1

หลินฟ่าน อึ้ง นั่งนิ่ง มองไปที่ โคคา-โคล่า ในมือ เขาเปิดขวดและจิบด้วยความรู้สึกว่างเปล่า

เขาได้รับรางวัลลอตเตอรี่ในระบบและเขาไม่เคยจับสลากได้รางวัลแบบนี้เลย

ตั๋วลอตเตอรี่เงินสดที่เขาจับสลากได้ สูงสุดคือ 100,000 และการจับสลากต่ำสุดคือ โคล่าหนึ่งขวด

เป็นตั๋วลอตเตอรีที่สามารถลุ้นได้ตั้งแต่ของระดับทองเฮลิคอปเตอร์ วิลล่า รถหรู เงินสด

แต่ผลรางวัลของที่ หลินฟ่าน ได้รับคือ โคคา-โคล่า หนึ่งขวด แค่หนึ่งขวดจริงๆ หลินฟ่าน ยังไม่เชื่อว่าระบบจะให้เพียงแค่โคล่า หนึ่งขวด

“ติ้ง!!! ขอแสดงความยินดีกับผู้ใช้สำหรับการจับฉลากที่ประสบความสำเร็จและท่านได้รับ 500,000,000 … เหรียญทอง ดีเอ็นเอฟ” ระบบแจ้งผลลอตเตอรี่ใบที่2

“เหรียญทอง ดีเอ็นเอฟ เหรอ เอาไปทำอะไรล่ะ …. เห้อ!!อย่างน้อยโค้กก็ยังดื่มได้”

“เหรียญทอง ดีเอ็นเอฟ ” หลินฟ่าน อดไม่ได้ที่จะขำ

หลินฟ่าน ไม่เชื่อในลอตเตอรี่นี้อีกต่อไป

เมื่อมองไปที่โคคา – โคล่าขวดนี้ และ 500 ล้านเหรียญทอง ดิเอ็นเอฟ หลินฟ่าน ก็ถอนหายใจ

“เพื่อให้ได้เงินเป็นจำนวนมากยังไงต้องทำงานหนักสินะ”

ตอนนี้เป็นเวลา 21.20 น. หลินฟ่าน มองไปที่เวลาและคิดถึงเรื่องสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งได้

เซี่ยหว่านชิว คงกำลังรอเขาอยู่ที่ บริษัท

เขาต้องรีบไปรับ เซี่ยหว่านชิว กลับบ้าน

แต่ตอนนี้ใช้เวลาไปแล้วยี่สิบนาทีสำหรับ โคคา – โคล่าและเหรียญ ดีเอ็นเอฟ

หลินฟ่าน นั่งอยู่ใน เคอนิกเสกก์ วัน เหยียบคันเร่งและขับไปบนถนนของ เมจิกซิตี้ ด้วยความเร็ว

…เยิ่นหัว กรุ๊ป

ศิลปินหลายคนยังคงทำงานเช่นเดียวกับ เซี่ยหว่านชิว

บริษัท กำลังทำงานล่วงเวลาศึกษาบทที่เขียนโดย หลินฟ่าน อยู่อย่างเคร่งเครียด

และ เซี่ยหว่านชิว กำลังนั่งอ่านบทอยู่ในห้องทำงานและ ซูเสี่ยวหยู ก็กลับบ้านไปก่อนแล้ว

ผู้จัดการ ของ เซี่ยหว่านชิว หยางชิง อยู่ใน บริษัท ด้วยตลอด

ซู่หยาง ขับรถสปอร์ต มายบัคซ์ 62เอส ไปที่ด้านล่างของ บริษัท

ตั้งแต่เมื่อ หลินฟ่าน ขับโรลส์-รอยซ์ คัลลิแนน มาที่ บริษัทครั้งนั้นที่มารับ เซี่ยหว่านชิว และซูเสี่ยวหยู อีกไม่กี่วันที่ผ่านมา ซู่หยาง ก็ซื้อ รถสปอร์ต มายบัคซ์ 62เอส เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนยากจนและก็สามารถซื้อรถสปอร์ตได้เช่นกัน

แม้ว่าจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป แต่ ซู่หยาง ก็ไม่สามารถจะเสียภาพลักษณ์ได้ ซู่หยาง คิดอย่างรอบคอบในใจของเขาแล้ว

ซู่หยาง คิดถึงปัญหานี้ตั้งแต่ หลินฟ่าน ปรากฏตัวที่ประตู บริษัท ในรถ โรลส์-รอยซ์คัลลิแนน ครั้งนั้น

ไม่ใช่แค่ หลินฟ่าน ที่สามารถขับรถหรูแบบนั้นได้

โรลส์ – รอยซ์คัลลิแนนของ หลินฟ่าน เห็นได้ชัดว่ายังไม่แพงเท่า มายบัคซ์ 62เอส ของซู่หยาง

ซู่หยาง มีความสุขเล็กน้อยในใจตอนนี้รถของเขาเหนือกว่าของ หลินฟ่าน ได้ตลอดเวลาและเมื่อเขาเจอ หลินฟ่าน ในครั้งต่อไปเขาจะมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

เซี่ยหว่านชิว ยังคงทำงานในช่วงดึกของวันนี้นี้และ ซู่หยาง ก็ต้องการไปส่ง เซี่ยหว่านชิว กลับบ้านอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นไม่นาน เซี่ยหว่านชิว และ หยางชิง ต่างก็เดินไปที่ประตู บริษัท

“อ้าว! คุณซู่หยาง ยังไม่กลับเหรอคะ” หยางชิงกล่าวทักทาย

“ใช่ครับ” ซู่หยาง พยักหน้าตอบและยืนพิงที่รถ มายบัคซ์ 62เอส ด้วยสีหน้าสงบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอารมณ์แห่งความสำเร็จ

ซู่หยาง ก้าวไปข้างหน้าช้าๆและโชว์นาฬิกา โรเลกซ์ ของเขาโดยเหมือนไม่ได้ตั้งใจโชว์ หากผู้ชายต้องการเอาชนะคู่ต่อสู้ของหัวใจ รถ และนาฬิกา อาจจะพอช่วยได้มากขึ้น

ซู่หยาง เดินไปที่ด้านข้างของ เซี่ยหว่านชิว แสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยน “หว่านชิว หยางชิง ผมจะไปส่งพวกคุณที่บ้านเอง”

นี่เป็นวิธีที่ถูกต้องที่จะไปส่ง เซี่ยหว่านชิว นั่นคือต้องมี หยางชิง ไปด้วย เซี่ยหว่านชิว ถึงจะยอมไปกับเขา

“ขอบคุณค่ะ คุณซู่หยาง” หยางชิง พูดพร้อมกับมองไปที่ ซู่หยาง ด้วยความดีใจ

ซู่หยาง เป็นดาราชายหมายเลขหนึ่งของ บริษัท ใครๆก็อยากจะได้ใกล้ชิดเป็นธรรดา

เซี่ยหว่านชิว ยิ้มอย่างสุภาพและกล่าวว่า “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันจะมีคนมารับแล้ว”

ดวงตาของ ซู่หยาง สว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ บางทีอาจเป็น หลินฟ่าน ที่จะมารับ เซี่ยหว่านชิว กลับบ้าน

รถสปอร์ตคันละ 10 ล้าน ของเขาก็ยังไม่เพียงพอที่จะฆ่า โรลส์ – รอยซ์คัลลิแนน ของ หลินฟ่าน ได้อย่างนั้นหรือ ซู่หยาง ได้แต่คิดอยู่ในใจ

ซู่หยาง มีความคาดหวังเล็กน้อยในใจแม้ว่า เซี่ยหว่านชิง จะปฏิเสธเขา แต่เขาก็แค่อยากให้ หลินฟ่าน เห็นว่าเขาต้องการแข่งขันด้วยความมุ่งมั่นเพื่อ เซี่ยหว่านชิว และเขาจะไม่ยอมแพ้

“หว่านชิว จะไม่ลองนั่งรถใหม่ ของผมหน่อยเหรอ ” ซู่หยาง พูดอีกครั้ง

“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ” เซี่ยหว่านชิว ยิ้มเบา ๆ ดวงตาที่สวยงามของเธอมองไปหน้าบริษัท และก็มีความโกรธเล็กน้อยในใจของเธอ

ทำไม หลินฟ่าน ไม่มารับเธอเสียที

เธอไม่รู้ว่าจะปฏิเสธ ซู่หยาง อย่างไรแล้วถ้า หลินฟ่าน ไม่มารับเธอ

และในขณะนี้ …รถสปอร์ตคันเท่ห์ก็เลี้ยวเข้ามุมมาพอดี ไฟต่ำของรถสปอร์ตสว่างวาบขึ้นด้วยแสงไฟระยิบระยับราวกับดวงดาวที่ส่องแสงในคืนที่มืดมิด

รถสปอร์ตจอดอยู่ที่ประตู บริษัท เคียงข้างกับรถของ ซู่หยาง

และรถสปอร์ตคันนี้เป็นรถสปอร์ตรุ่นลิมิเต็ดระดับโลกที่ราคามากกว่า 100 ล้านหยวน เป็นเรื่องยากที่รถสปอร์ตรุ่นอื่นจะเหนือกว่า

หลินฟ่าน เดินลงจากประตูรถและเดินไปยืนอยู่ ตรงหน้า เซี่ยหว่านชิว

“ฉันมารับเธอกลับบ้าน” หลินฟ่าน ยิ้มและมองไปที่ เซี่ยหว่านชิว

เซี่ยหว่านชิว ยิ้มอย่าโล่งใจ และพยักหน้าเบา ๆ “ไปกันเลยนะ”

หลินฟ่าน เปิดประตูรถให้ เซี่ยหว่านชิว เข้าไปนั่ง เขาทำราวกับว่าเธอคือสมบัติของเขา

ซู่หยาง ที่อยู่ด้านข้างตกตะลึงอีกแล้ว เขา มองไปที่ มายบัคซ์ 62เอสคันละ 10 ล้าน ของเขาและจากนั้นมองไปที่ เคอนิกเสกก์ วัน ของ หลินฟ่าน

เขารู้สึกเหมือนถูก หลินฟ่าน ฆ่าเป็นครั้งที่ 2

ทำไมวันนี้ หลินฟ่าน ถึงขับ เคอร์นิกเสกก์ วัน มา นี่มันคือรถสปอร์ตมูลค่าหลายร้อยล้านมันแพงกว่า มายบัคซ์ 62เอส ของเขาถึงสิบเท่า!

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ซู่หยาง ก็อดไม่ได้ที่จะซ่อนนาฬิกา โรเลกซ์ ของเขาไว้อย่างเงียบ ๆ

หลินฟ่าน สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของ ซู่หยาง

“คุณซู่หยาง สวัสดีครับ” หลินฟ่าน กล่าวทักทาย ซู่หยาง

“โอ้ ..ครับ… สวัสดีครับ” ซู่หยาง ยิ้มแห้ง ๆ

“อืม..คือว่ารถของฉันไม่มีพื้นที่พอสำหรับคุณหยางชิง ยังไงได้โปรดส่งเธอกลับบ้านด้วยนะครับ” หลินฟ่าน กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ซู่หยาง มองไปที่ หยางชิง ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความคาดหวังและทำได้เพียงพยักหน้าด้วยเขารู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจแต่แสร้งทำเป็นว่าไม่เป็นไร

“ไอ้บ้า หลินฟ่าน … ทำไมโลกนี้ต้องมีนาย” ซู่หยาง บ่นเบาๆขณะหันกลับไปที่รถของเขา

“คุณซู่หยาง ขับรถดีๆนะครับ ผมจะไปส่ง หว่านชิว กลับบ้านก่อน” หลินฟ่าน ยิ้มอย่างร่าเริงแล้วเข้าไปในรถ

“อ่อ ครับ… ” ซู่หยาง เฝ้าดู เซี่ยหว่านชิว ซึ่งนั่งอยู่ในรถของ หลินฟ่าน จากนั้นมองไปที่ หยางชิง ที่นั่งอยู่ในของเขา และก็เริ่มรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตของเขามืดลงอีกครั้ง

ก็ขับรถสปอร์ตเหมือนกัน …. แต่ทำไมช่องว่างมันใหญ่ขนาดนี้!