171 บางอย่างที่เหมือนกับไดอารี่ที่บันทึกข้ามวัน
“เอาจริงดิ!?”
“ชู๊ว นี่ยังเป็นความลับสุดยอดอยู่”
ถ้ามีแค่ฉันที่เสียหายก็ไม่เป็นไร แต่ฉันไม่สามารถทำอะไรที่อาจสร้างความเสียหายให้บริษัทเซโดนีได้
“คิดว่าทุกอย่างจะชัดเจนมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน แต่จนกว่าจะถึงตอนนั้นให้เก็บเป็นความลับก่อน ไม่ใช่เรื่องดีเลยถ้าบริษัทเซโดนีโดนจับตามอง”
“โอะ โอ้ว……เข้าใจแล้ว ข้าจะไม่บอกใคร”
อุมุ แบบนั้นก็ดี
――ภาคเรียนที่หนึ่งของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่สามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
ปีนี้ฉันใส่ชุดนักเรียนใหม่เอี่ยมเพื่อให้ดูดีสำหรับปีการศึกษาใหม่ และหลังจากจบวันแรก ฉันก็กลับมาที่หอพัก
ที่นั่นเอง ที่ฉันถูกชาร์ลซุ่มโจมตีอีกครั้ง
ม๊า ฉันรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องมา ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ
เขามาเพื่อรับชิ้นส่วนเรือเดี่ยวที่ขอให้ฉันสั่งซื้อให้ก่อนวันหยุด ――「ถ้าหากข้าไปด้วย อาจโดนรู้จุดแข็งจุดอ่อนได้ ดังนั้นได้โปรดช่วยซื้อมาให้ที」เพราะเขาบอกแบบนั้น ฉันเลยยอมทำให้
ฉันกลับเข้าไปในห้อง หยิบกระเป๋าใส่ชิ้นส่วนสำหรับชาร์ล แล้วก็กลับออกมาอีกครั้ง และก็ยื่นกระเป๋าให้กับเขาที่รออยู่ที่ตรงหน้าประตูทางเข้า
ยังไงก็ตาม ราคานั้นอยู่ในงบประมาณที่ได้ยินจากชาร์ล ฉันคิดว่านี่จะต้องเป็นราคาที่ยุติธรรมสำหรับทั้งผู้ซื้อและผู้ขายแล้วล่ะนะ
เมื่อฉันถามถึงค่าใช้จ่าย ชาร์ลก็หยิบเหรียญบางส่วนออกจากกระเป๋าหนังเก็บเงิน จากนั้นก็ยื่นกระเป๋าหนังทั้งใบให้ฉัน นี่คือการชำระเงิน
ฉันหยิบกระเป๋าหนังมาใส่ในกระเป๋าเสื้อคลุมโดยไม่เช็ค
“โอ๊ย ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องตรวจสอบเงินที่อยู่ข้างในหรือไง?”
หืม?
“ไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่คิดว่าคนที่ทุ่มชีวิตเพื่อสร้างเรือเดี่ยวสำหรับวิงค์โร้ดจะงกพอที่จะโกงเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ หรอก”
ฉันได้รับแจ้งราคาของเรือเดี่ยวแล้ว และชิ้นส่วนของเรือก็ไม่ถูกเช่นกัน
แม้ว่าอาจจะมีโอกาสโกงเช่นกัน แต่ถ้าเขาเต็มใจที่จะทำลายความไว้วางใจเพื่อเงินไม่กี่เหรียญ แบบนั้นก็เอาสิ แค่จะไม่มีครั้งหน้าแล้วเท่านั้นเอง
“ว่าไปแล้ว ชาร์ล เรือเดี่ยวของคุณเป็นประเภทไหนกันคะ?”
“อะ? ไม่รู้เหรอ?”
“ใช่”
ถึงฉันจะพึ่งได้เรียนรู้เรื่องนี้เมื่อวันก่อน แต่ก็ถือว่ามีทุกอย่างอยู่ในหัว
“จริง ๆ แล้วบริษัทเซโดนีอาจจะเริ่มต้นทำธุรกิจวิงค์โร้ดอย่างจริงจังเร็ว ๆ นี้”
” ――เอาจริงดิ!?”
บางทีอาจเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อนจริง ๆ ดวงตาของชาร์ลจึงเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“――ชู๊ว นี่ยังเป็นความลับสุดยอดอยู่”
ที่นี่คือหน้าหอพัก และมีสายตาที่อยากรู้อยากเห็นของเด็กผู้หญิงสองสามคนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ มองมาอยู่ ฉันคิดว่าไม่น่ามีปัญหาหากคุยกันด้วยเสียงปกติ แต่ถ้าตะโกนดัง ๆ ต้องได้ยินอย่างแน่นอน
เมื่อฉันบอกให้เขาเก็บเป็นความลับจนถึงฤดูร้อน ชาร์ลก็พยักหน้าด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็น
“แต่จริง ๆ เรอะ? หมายถึง……”
“ค่ะ จากนี้ไปคุณอาจจะสามารถไปหาซื้อชิ้นส่วนวิงค์โร้ดได้ทั่วไปตามร้านของบริษัท”
“งั้นเหรอ……ถ้าเป็นอย่างงั้นจริงก็คงช่วยได้มากเลยน๊า”
ความนิยมของวิงค์โร้ดยังไม่แพร่หลายในอาณาจักรอาร์ตัวร์ ผู้ที่รู้จักมีแค่เฉพาะคนที่คลุกคลีในระดับหนึ่งเท่านั้น
ในสภาพเช่นนี้ การจัดหาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับวิงค์โร้ดจึงค่อนข้างยาก
หากคุณสั่งซื้อเรือเดี่ยวทั้งลำคงไม่มีปัญหา แต่หากคุณต้องการสั่งชิ้นส่วนเล็ก ๆ แต่ละชิ้นเพื่อสร้างขึ้นมาเองแยกกัน พ่อค้าในประเทศนี้นอกจากจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรือเดี่ยวนั้นแล้ว ค่าใช้จ่ายในการสั่งซื้อก็ยังมีมากกว่าผลประโยชน์ที่ได้รับ นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาจะไม่รับคำร้องขอสั่งซื้อในทันที
“แล้ว? เรือเดี่ยวของคุณเป็นประเภทไหน? ประเภทเสือดาว(บีสต์ไทป์)? หรือว่าประเภทงูฟ้า(สเน็คไทป์)?”
“โอะ โอ้ ของข้าเป็น……”
ชาร์ลหยุดไปก่อนจะพูดจบ และหัวเราะ
“ไปดูให้เห็นกับตาดีกว่า ยังไงก็ใกล้จะเสร็จในเร็ว ๆ นี้แล้วด้วย”
โอะ เอาอย่างงั้นเหรอ
วันนี้ยังมีเวลาว่างอยู่ ไปดูสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน
“――ริโนกิส ออกมาซะ ฉันจะไปดูเรือเดี่ยวสักหน่อย”
เธอแอบตามมาอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ทันทีที่ฉันหยิบของที่ชาร์ลขอออกจากห้อง แล้วเธอก็ซ่อนตัวอยู่ใกล้กับประตูทางเข้าออก และแอบดูมาตลอด ถ้าหากอยากจะซ่อนตัวล่ะก็ ควรกำจัดแม้แต่เจตนาฆ่าที่แผ่ลเบาที่สุดด้วยซะ ยังถือว่าด้อยฝีมือ
“เมดนั่นด้วย?”
“ต้องขอโทษด้วย แต่โดยพื้นฐานแล้ว ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้ทำอะไรตามลำพังน่ะ”
เมื่อฉันถามว่าเธอไปด้วยได้ไหม ชาร์ลก็ตอบว่า「อา」
“ยังไงเธอก็เป็นคนดังนินะ ถ้าอยู่คนเดียวคงโดนพวกน่ารำคาญเข้ามาตอแยจริงไหม?”
“ม๊า ก็ประมาณนั้นแหละค่ะ”
หลังจากที่มีประกาศจัดงานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับอาณาจักรไปแล้ว ตั้งแต่นั้นมา ซาโนวิลก็มักจะโผล่มาท้าสู้อยู่บ่อย ๆ ดังนั้นที่เขาพูดมาก็ไม่ผิดนัก
ม๊า ฉันก็ไม่ได้รังเกียจเรื่องวุ่นวายทำนองนั้นหรอก
เรือเดี่ยวไม่มีประเภทตายตัว
โดยปกติเรือเหาะจะมีตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ โดยรูปร่างจะคล้ายกัน แต่เรือเดี่ยวนั้นแตกต่างออกไป
ที่เห็นบ่อยที่สุดในอาร์ตัวร์คือ รูปแบบสำหรับคนเดียวที่มีพวงมาลัยอยู่ใกล้กับเบาะนั่งที่ดูเหมือนกับนั่งบนเก้าอี้ และส่วนใหญ่จะมีแท่นบรรทุกสินค้าที่ด้านหลัง
ส่วนที่เหลืออย่างในดินแดนลิสตัน ก็มีรูปแบบรถม้าที่สามารถรองรับคนได้หลายคนในคราวเดียว แต่ก็ควรจะถือว่าเป็นเรือเดียวเช่นกัน
เรือที่โจรสลัดอากาศขับนั้นก็ดูคล้ายกับเรือเดี่ยวสำหรับวิงค์โร้ด แต่สิ่งที่อยู่ภายในนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นั่นคือ อาณาเขตต่อต้านลม……ที่มีไว้เพื่อบินนอกเขตคุ้มครองของเกาะลอยฟ้าและเรือเหาะ แม้จะไม่มีความเร็วแต่ก็มีแรงม้าพอที่สามารถต้านลมแรงได้ รู้สึกว่าจะเป็นอะไรสักอย่างแบบนั้น
ดูเหมือนว่าที่แว็ง เดอ ครุชจะมีหลายประเภท และจะแบ่งคร่าว ๆ ตามจุดประสงค์การใช้งาน
และ เรือเดี่ยวสำหรับวิงค์โร้ด……ถูกเรียกว่าเรือแข่งขัน
นี่คือผลลัพธ์ของการแสวงหา「โมเดลการบินที่รวดเร็ว」อย่างสมบูรณ์แบบ รูปแบบการบินอย่างรวดเร็วจึงเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
วิศวกรเรือเหาะที่ยอดเยี่ยมของจักรวรรดิการบินแว็ง เดอ ครุชใช้ประสบการณ์และเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุดจนได้โมเดลมาตรฐานสี่ประเภท
ประเภทสัตว์เสือดาว(บีสต์ไทป์)
ประเภทงูฟ้า(สเน็คไทป์)
ประเภทนกลูกศร(เบิร์ดไทป์)
ประเภทหมูป่าเหล็ก(โบอาไทป์)
รูปร่างโดยพื้นฐานคือ ต้องสามารถนั่งคล่อมเหมือนม้าได้ แต่สามารถแยกความแตกต่างได้จากลักษณะภายนอก
สำหรับตอนนี้ นี่คือสิ่งที่อาจเรียกว่าเร็วที่สุดแล้ว บางประเภทก็แข่งกันในเรส บางประเภทก็ไม่
――ชาร์ลพาฉันไปที่ห้องหนึ่งในอาคารฝั่งชั้นมัธยม ดูเหมือนว่าเขาจะยืมห้องว่างมาใช้
ในตอนที่เขาใช้กุญแจเปิดปะตูออก กลิ่นน้ำมันก็โชยออกมา
เมื่อฉันเดินตามชาร์ลเข้าไปในห้อง ก็พบกับ เจ้านั่น……อะ ลำนั้นสินะ
เป็นเรือสีแดงที่ดูทรุดโทรมมาก สีลอกออกเป็นจุด ๆ และจอดอยู่บนพรมผ้าที่เปื้อนคราบน้ำมัน
ถึงการออกแบบจะแตกต่างออกไปบ้าง แต่ก็เป็นแบบเดียวกับที่ฉันเห็นในโกดังของบริษัทเซโดนีเมื่อวันก่อน เนื่องจากส่วนด้านหน้าที่โค้งมน จึงน่าจะเป็นบีสต์ไทป์รุ่นมาตรฐาน
“จากที่ข้าลองตรวจสอบดู ดูเหมือนว่าเจ้านี้จะเป็นเรือต้นแบบสำหรับวิงค์โร้ด แต่เกิดอุบัติเหตุขึ้นเลยถูกโยนทิ้งไป ข้าบังเอิญไปเจอที่ร้านขายของเก่าโดยบังเอิญ ข้าเลยไปขอร้องยืมเงินพ่อแม่มาซื้อมัน แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายปีในการซ่อมแซม เพราะมันยากมาก”
เห้
“คงจะผูกพันธ์มากสินะคะ”
“ก็อาจจะนะ”
สภาพดูแย่มาก แต่ดูแล้วก็ไม่มีส่วนไหนชำรุดหนัก มีแค่สีที่หลุดลอกเท่านั้น เห็นด้วยที่ว่าใกล้จะเสร็จในเร็จ ๆ นี้
“ก็รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยประถาม ยาวนานมากล่ะนะ……ไม่รู้เลยว่าข้าทุ่มเกินไปแล้วเท่าไหร่”
――อุมุ
“มาถ่ายกันเถอะ”
“เอ๊ะ?”
“นักเรียกที่ตั้งใจซ่อมเรือเดี่ยวสำหรับวิงค์โร้ดตั้งแต่สมัยประถม ฉันคิดว่าเป็นหัวข้อที่ไม่เลวเลย จากนี้ไปจนกว่าจะเสร็จ และขึ้นบินได้ มาตามถ่ายทำติดตามวันต่อวันกันเถอะ เป็นบางอย่างที่เหมือนกับไดอารี่ไงล่ะ”
ก็เหมือนกับการถ่ายทำนิทานภาพเล่าเรื่องของช่องดินแดนซิลเวอร์ ที่กว่าจะออกอากาศได้ก็ต้องมีการถ่ายทำและตัดต่อหลายวัน ทำเป็นภาพสะท้อนเรื่องยาว
ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องกับภาพสะท้อนแนวนี้มากนัก เนื่องจากไม่สามารถถ่ายทำให้จบภายในหนึ่งวันได้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้รับทำโดยไม่คาดคิด
“ไม่ไหวหรอกเรื่องนั้น ถ่ายทำที่ว่าต้องเอาไปออกอากาศบนเมจิกวิชั่นใช่ไหมล่ะ? ตั้งแต่แรกแล้วก็ไม่มีใครอยากโชว์ไดอารี่ของตัวเองให้คนอื่นเห็นอยู่แล้วว”
“คุณเข้าร่วมสถานีกึ่งออกอากาศเพราะอยากเผยแพร่วิงค์โร้ดจริงไหม? นี่ถือว่าเป็นโอกาสอันดีเลยไม่ใช่เหรอคะ”
“เรื่องนั้น……..ม๊า ก็จริง…….”
“ยังไงก็ตาม คุณควรคุยกับแวกนัสก็ดีนะคะ ถ้าคิดว่าทำได้ ฉันแน่ใจว่าเขาพร้อมที่จะถ่ายทำ”
ผู้อำนวยการประจำสถานีซึ่งได้เลื่อนขึ้นชั้นมัธยมปลายปีที่หนึ่งในปีนี้ แม้ว่าจะยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่การรับรู้กลิ่นของเขาก็ไม่ได้แย่เลย ถ้ารู้สึกว่าน่าสนใจก็ควรจะไปต่อ