เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต13……
วู่หยานกำลังยืนมองกาคุโอที่กำลังโดนจับกุมขึ้นรถเพื่อพาไปที่สถานีตำรวจอยู่ โดยข้างๆมี มิโคโตะและซาเต็น ด้านหลังก็มี อิคารอส กับ แอสเทรีย……..
คุโรโกะกับอุยฮารุดูกำลังพูดคุยอะไรบางอย่างกับพวกแอนตี้สกิล ฮินางิคุก็เช่น แต่ดูท่าแล้วฝั่งฮินางิคุจะเข้มข้มกว่าทางคุโรโกะ พวกแอนตี้สกิลที่ได้ยินอะไรบางอย่างจากฮินางิคุก็กลายเป็นตื่นตระหนกกัน
วู่หยานทำเพียงแค่มองโดยไม่พูดอะไร เพราะถึงยังไงเขาก็พอจะเดาได้ไม่มากก็น้อยล่ะนะถึงทำแค่มองก็เถอะ ดังนั้นเขาจึงไม่ให้ความสนใจ พูดให้ถูกคือไม่มีอารมณ์สนใจ ในเวลานี้ในหัวเขามีแต่ความรู้สึกปลงๆ
ตอนแรกก็คิดนะว่า ไอ้สมองนี่จะปลดผนึกคริสตัลลึกลับได้เลย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าพอเขาคิดจะลองหาวิธีปลดผนึก จู่ๆระบบก็ดันส่งเสียงออกมาบอกว่า
คอนโทรแบรนด์เป็นแค่หนึ่งในชิ้นส่วนที่ใช้ปลดผนึกคริสตัลลึกลับ!
หรือพูดง่ายๆ ตูดันดีใจเสียเปล่าล่ะ……..
วู่หยานถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจปล่อยมันไป ตอนนี้เป้าหมายหลักของเขาก็คือช่วยพวกซิสเตอร์ คริสตัลลึกลับหลังจากจบเรื่องนี้ค่อยศึกษามันดูอีกที
เวลานี้เอง คุโรโกะกับอุยฮารุก็เดินกลับมา แล้วไปคุยกับมิโคโตะ ส่วนทางฮินิคุก็ดูเหมือนเธอจะตัดสินใจทำบางอย่างภายใต้สีหน้าจนปัญญาของพวกแอนตี้สกิล
เมื่อฮินางิคุเดินกลับมา ตัวเธอก็ได้ถอดอุปกรณ์ของแอนตี้สกิลออกไปหมดแล้ว เหลือแต่ชุดเดรสสีเหลืองบวกเสื้อโค้ทเล็กๆสีขาว ส่วนทางแอนตี้สกิลก็จากไปเช่นกัน
“เป็นไงเรียบร้อยดีไหม?” มองดูฮินางิคุ วู่หยานพูดด้วยรอยยิ้ม ในตอนนี้พื้นที่แถวนี้ก็เหลือเพียงแค่กลุ่มพวกเขาเท่านั้น
ฮินางิคุพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง เธอหันไปมองมิโคโตะจากนั้นหันกลับไปมองวู่หยาน “แล้วต่อไปเราจะไปทำอะไรกันเหรอ?”
วู่หยานจับคำไบ้จากคำพูดเธอได้ทันที เธอกำลังถามอ้อมๆว่าจะทำยังไงเรื่องช่วยน้องสาวมิโคโตะ
“เอาเป็นว่ากลับไปค่อยคุยกันอีกที!”
ได้ยินแบบนี้ ฮินางิคุก็ถามด้วยความสงสัย “ไปไหน?”
วู่หยานตอบกลับมาทันทีทันใดว่า
“แน่นอนว่าต้องเป็นที่บ้านฉันสิ!!”
“บ้านนาย?” ฮินางิคุอึ้งไป ก่อนที่หน้าจะกลายเป็นสีแดง “คะ…ใคร…ใครจะไปบ้านนายกัน ฉัน……ฉันจะไปบ้านมิโคโตะ!”
จากนั้น ฮินางิคุก็เข้าไปจับมิโคโตะทันที ราวกับว่ามิโคโตะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอ แต่ช่างน่าสงสารเสียจริงที่คราวนี้ มิโคโตะได้ทรยศความหวังเธออย่างไม่ลังเล!
“เอ่อ คือ…..คือว่านะที่ที่ฉันอยู่เป็นหอพักนักเรียนน่ะ เพราะงั้นคนนอกจึงเข้ามาไม่ได้……” มิโคโตะกลั้นใจตอบกลับไป ถึงแม้เธอจะไม่อยากพูดแบบนี้ก็เถอะ และนี่ทำให้ฮินางิคุช็อคไปเลย
“เอาละๆ กลับบ้านกันเถอะ!!!” วู่หยานคว้ามือฮินางิคุไว้ทันที จากนั้นเดินจูงเธอออกไป มันช่วยไม่ได้ถ้าเขาไม่รีบฉวยโอกาศก่อน ฮินางิคุคงได้ไปอยู่กับอุยฮารุไม่ก็ซาเต็นแหงๆ……
“ดะ-เดียวก่อน!……” ฮินางิคุพูดด้วยความลนลาน เธอตระหนักดีว่าถ้าไปอาศัยอยู่บ้านวู่หยาน ตัวเองจะต้องเจอกับอะไร แต่น่าเสียดายที่ต้องพูดว่า ตอนนี้เธอหมดโอกาสหนีแล้ว วันนี้มันไม่ใช่วันโชคดีของเธอ………
อุยฮารุกับซาเต็นจ้องมองฮินางิคุที่โดนลากไปด้วยสีหน้าว่างเปล่า ทว่าใกล้กันคุโรโกะกำลังมีท่าทีดีใจราวกับตนค้นพบทวีปใหม่ เธอรีบหันไปตะโกนใส่มิโคโตะทันที “คุณพี่! ดูสิคะดู!! ไอ้ขยะเปียกนั่นมันเผยสันดานที่แท้จริงออกมาแล้วนะค่ะ!!!!”
มิโคโตะหัวเราะแห้งๆ เธอจะพูดอะไรได้ล่ะ? ทำได้แค่พับเก็บความอิจฉาเล็กๆนี่เข้าไป จากนั้นส่ายหัวแล้วพาพวกคุโรโกะเดินตามไป………
……….
เมืองแห่งการศึกษา โรงเรียนเขต10……
ในเวลานี้ที่บ้านของวู่หยาน อิคารอส แอสเทรีย ฮินางิคุ และตัววู่หยานกำลังล้อมวงเหยือกๆนึงด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งข้างในเหยือกนั้นมีของเหลวสีทองอยู่
ส่วนมิโคโตะและพวกเพื่อนๆเธอก็ได้พากันกลับที่อยู่ของตัวเองไปกันหมดแล้ว พวกเธอไม่สามารถมาร่วมกับพวกเขาได้เพราะนักเรียนไม่ได้รับอนุญาตให้ออกมาเพ่นพ่านข้างนอกยามค่ำคืน ดังนั้นพวกเธอจึงทำได้แค่กลับหอไป
วู่หยานส่ายหน้าด้วยความกังวล แล้วไล่สายตามอง ฮินางิคุ อิคารอส และ แอสเทรีย จากนั้นฝืนยิ้ม “จริงๆ ฉันทำเองคนเดียวก็ได้นะ……”
ฮินางิคุหรี่ตามองวู่หยาน มองเสียจนเขาต้องเป็นฝ่ายหันหน้าหนีด้วยความกระอักกระอ่วน เธอจึงทำเสียงขึ้นจมูกดังเฮอะด้วยความเย็นชา “เลิกกับยังกับว่าฉันเป็นเด็กได้แล้ว……”
วู่หยานตบมุขในใจ ‘เธอนั้นแหละเด็ก! อายุแค่15แท้ๆกับพี่ชายคนนี้ที่อายุ20แล้ว มองยังไงเธอก็เด็ก!’
ขณะที่ตบมุขก็ดูเหมือนว่าเจ้าหยานจะลืมไปแล้วว่า ตัวเองได้จับกด ‘เด็ก’ ที่อยู่ตรงหน้าตนไปแล้ว……
แต่ไม่ว่าวู่หยานจะตบมุขก็ดีจะว่าเธอเป็นเด็กก็ช่าง ฮินางิคุก็ไม่คิดจะทิ้งวู่หยานไว้คนเดียว ใกล้กันอิคารอสกับแอสเทรียก็มีสีหน้าแบบเดียวกัน นี่ทำให้เขารู้แล้วพวกเธอไม่คิดหลบหนีแน่ๆ………
“อ่า!โถ่! ไม่สนแล้วโว้ย!! อย่ามาเสียใจทีหลังล่ะกัน!!!” วู่หยานก้มหน้าลงด้วยความปลง จากนั้นลูบแหวนมิติตัวเองโดยไม่สนใจสีหน้าแห่งชัยชนะของแอสเทรียกับฮินางิคุ
เมื่อเขาเอาอะไรบางอย่างออกมาจากแหวน ฮินางิคุกับแอสเทรียก็เอามือปิดปากทันทีด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อ
“เลวที่สุด! อภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!!” ฮินางิคุกัดฟันกรอด ในแววตาเอ่อล้นไปด้วยความโกรธ ส่วนอิคารอสกับแอสเทรียก็มองสิ่งที่วู่หยานเอาออกมาวางไว้ที่พื้นแล้วเงียบไป
….ขา….แขน…..เครื่องใน…..ส่วนหัว…..
เลือด…..เลือด….และเลือด…..
นี่คือสิ่งที่วู่หยานเอาออกมา!
แม้ว่าจะเคยเห็นมาหลายต่อหลายครั้ง แต่วู่หยานก็ไม่อาจฝืนทนมองมันนานๆได้อยู่ดี โดยเฉพาะที่ส่วนหัวที่มีหน้าเหมือนกับมิโคโตะทุกอย่าง ในใจวู่หยานเกิดอารมณ์ความรู้สึกอันซับซ้อนขึ้นยามที่มองมัน
ในเวลานี้ ถึงแม้จะรู้ว่าหลังจากนี้แอคเซลาเรเตอร์จะกลับตัวกลับใจเปลี่ยนจากดำเป็นขาวก็เถอะ ในใจวู่หยานก็อดไม่ได้ที่จะเกิดอารมณ์โกรธขึ้นละลอกแล้วละลอกเล่า ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะฆ่าแอคเซลาเรเตอร์ให้ตายไปจริงๆ!
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นวู่หยานจับชิ้นส่วนของน้องสาวมิซากะมาวางต่อกัน เมื่อทำเสร็จเขาก็เอื้อมมือไปหยิบน้ำยาฟื้นสภาพแล้วหยดมันลงไปที่ตัวเธอ!
ของเหลวสีทองราวกับน้ำธรรมดาๆ มันซึมเข้าไปในตัวเธอ จากนั้นภายใต้สายตาจองทั้งสี่คน มันก็ค่อยๆหลอมรวมเข้ากับร่างกายน้องสาวมิซากะ!
เมื่อน้ำหยาดสุดท้ายหลอมรวมเข้าไปข้างใน ตัวน้องสาวมิซากะก็ปกคลุมไปแสง!
เวลานี้ที่พื้น มีเพียงแต่เสียงอะไรบิดๆเบี้ยวๆดังแกรกๆขึ้นมาไม่หยุด ชิ้นส่วนต่างๆของเธอได้กลับมาเชื่อมติดกัน ผ่านไปชั่วครู่ เมื่อแสงหายไป ใบหน้าและร่างกายที่คุ้นเคยก็ปรากฏออกมา!
“เย้! สำเร็จแล้ว!!” แอสเทรียร้องออกมาด้วยความสุข วู่หยานกับฮินางิคุหันมามองหน้ากันจากนั้นฉีกยิ้ม ในเวลาเดียวกันหัวใจที่หนักอึ้งก็ผ่อนคลายลง
‘โชคดีจริงๆ! ที่มันได้ผล!!’
น้องสาวมิซากะที่กำลังนอนแผ่ไปกับพื้นได้หันหน้ามองซ้ายมองขวา ด้วยใบหน้าที่เหมือนกับมิโคโตะมีเพียงแค่ดวงตาที่สงบนิ่งราวพื้นน้ำ
“ที่ไหนคือที่ไหนกันคะ? ไม่ใช่ว่ามิซากะตายแล้ว? มิซากะกำลังมองไปรอบด้านด้วยความสับสนค่ะ ในเวลาเดียวกันก็กำลังคิดว่าที่นี่คือสวรรค์หรือนรกกันนะ…….”
เธอพูดคำพูดพวกนี้ด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก และเสียงโมโนโทนที่ไร้ชีวิตชีวาแบบสุดๆล่ะ!
แม้แต่วู่หยาน เวลานี้เองก็กลายเป็นพูดไม่ออก ฮินางิคุกับแอสเทรียหันมามองกันด้วยสีหน้าเหรอหรา แล้วหันไปมองคุณน้องสาวอีกครั้งโดยไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดี…..
มิซากะคนน้องลุกขึ้นมานั่ง แล้วมองพวกวู่หยาน จากนั้นเอียงหัวพูดว่า “พวกคุณเองก็เป็นคนตายเหมือนกับมิซากะงั้นเหรอคะ? มิซากะพูดขึ้นขณะที่กำลังรู้สึกโชคดีที่ถึงแม้ว่าจะตายไปแล้วแต่ตัวเองก็ยังไม่โดดเดี่ยวค่ะ”
“…………”
วู่หยาน ฮินางิคุ แอสเทรีย และ อิคารอส พูดไม่ออก……..
หลังจากผ่านการอธิบายอย่างคร่าวๆ มิซากะคนน้องก็รู้แล้วว่าตัวเองยังไม่ตาย และผู้คนตรงหน้าเป็นคนชุบชีวิตเธอขึ้นมา!
มิซากะคนน้องเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะถามขึ้นมาว่า
“ทำไมพวกคุณถึงต้องช่วยมิซากะด้วยคะ? ร่างกายของมิซากะเป็นแค่สิ่งของที่ยืมมา หัวใจก็เป็นของปลอม มิซากะมีราคาค่างวดแค่180,000เยน ในสต็อคเองก็ยังมีเก็บไว้ไม่ต่ำกว่า10,000คน ยิ่งกว่านั้นเพียงแค่กดปุ่มก็สามารถผลิตออกมาได้แล้ว……”
วู่หยานหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัวเธอ ขณะที่มิซากะคนน้องไม่รู้ว่าควรจะตอบสนองยังไง วู่หยานก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนออกมาแล้วพูดว่า
“เธอน่ะ จงอยู่ต่อไปเพื่อ โอเน่ซามะ(ท่านพี่) ของเธอเถอะนะ……”