บทที่ 177 ตัวต่อตัวกับหัวหน้าหน่วย

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 177 ตัวต่อตัวกับหัวหน้าหน่วย

บทที่ 177 ตัวต่อตัวกับหัวหน้าหน่วย

ลูกธนูของอู๋ฝานรวดเร็วและดุดัน พุ่งปักเข้าใส่ศีรษะหนึ่งในกลุ่มคนที่ห้อตะบึงมุ่งหน้าเข้าหา จนสุดท้ายร่างร่วงหล่นล้มลง

มือของอู๋ฝานไม่ได้หยุดลงเท่านี้ ลูกธนูดอกแล้วดอกเล่าถูกยิงออกไป พุ่งเข้าใส่กลุ่มคนจากโลกอสูร เพียงระยะเวลาสั้น ๆ สี่คนถูกยิงร่วงล้มลงกับพื้นโดยฝีมือของชายหนุ่ม

วิชาธนูระดับกลางของอู๋ฝาน ได้แสดงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมออกมาก็ในช่วงเวลานี้

ทว่าความดุร้ายของกลุ่มคนจากโลกอสูรนั้นเกินกว่าที่อู๋ฝานคาดคิดเอาไว้มาก นอกจากคนแรกที่ถูกยิงเข้าใส่ศีรษะจนตกตายในครั้งเดียวแล้ว คนที่เหลือก็เพียงแค่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น และแม้จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็ยังไม่ยอมหยุด มุ่งตรงเข้าหาชายหนุ่มและคณะโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมองด้านหลัง

เมื่อทราบว่าลูกธนูสามารถใช้ได้ผลกับคนจากโลกอสูร พวกหนิวเอ้อก็เริ่มมีแรงใจขึ้นมา

แท้จริงแล้วคนของโลกอสูรก็เป็นเช่นนี้เอง เหมือนพวกเขาที่ถูกลูกธนูยิงเข้าใส่ก็ตายได้ ไม่ใช่น่าสะพรึงกลัวดังเช่นตำนานเล่าขาน

ขณะนี้กลุ่มคนจากโลกอสูรกำลังมุ่งตรงเข้าหาอู๋ฝานเพื่อเผชิญหน้า เสี่ยวลิ่วและหวังปิงพลันเร่งดึงเชือกกับดักตั้งขึ้น ทำให้สัตว์พาหนะทั้งสองติดกับดักล้มลงกับพื้น ทั้งสัตว์พาหนะทั้งคนกระจัดกระจายแยกออกจากกัน

“ฆ่า!” อู๋ฝานตะโกนเสียงดัง พร้อมชักกระบี่ยาวออกมาไว้ในมือ ฟาดฟันอย่างรวดเร็วและดุดัน ทว่าก็ยังมีสัตว์พาหนะอีกส่วนที่ยังพุ่งเข้าหาตัวเขา แม้ว่าจะมีคนขึ้นขี่ แต่ทั้งหมดต่างถูกอู๋ฝานฟันร่วงหล่นลงกับพื้นในคราวเดียว

ในตอนนี้พละกำลังอันน่าสะพรึงกลัวของชายหนุ่มได้แสดงออกมาอย่างเต็มที่!

อู๋ฝานสังหารหนึ่งคนด้วยหนึ่งกระบี่ ทว่าสมาชิกหน่วยของเขาไม่ได้แข็งแกร่งระดับเดียวกัน แม้ว่าพวกเขาจะรวมตัวกันตามคำสั่งการของชายหนุ่ม แต่ก็ยังเสียเปรียบต่อหน้าการเข้าปะทะอันรวดเร็วของกองทหารม้า สองคนในหน่วยล้มลง ร่างนอนทอดกับพื้น และไม่ทราบว่าเป็นหรือตาย

“ตาย!”

หนิวเอ้อเหวี่ยงมีดยักษ์ในมืออย่างดุดัน สับเข้าใส่ทหารม้าคนหนึ่ง กระแทกจนร่างอีกฝ่ายร่วงหล่นจากสัตว์พาหนะ พละกำลังแข็งแกร่งที่แสดงออกมา แม้ไม่เท่าอู๋ฝาน แต่หากเปรียบกับคนอื่นแล้ว ก็ถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่าจนยากจะเทียบได้

หลี่ว์ปินยังคงอยู่ในอาการสงบ เขาไม่ได้เผชิญหน้าโดยตรงกับศัตรู แต่หลบเลี่ยงอีกฝ่ายไปด้านข้าง ถัดจากนั้นจึงย่อตัวลง ฟันใส่ขาม้าด้วยกระบี่ในมือ ทำให้ร่างบนหลังม้ากระเด็นลิ่ว ร่วงหล่นกับพื้นอย่างรุนแรง พร้อมกับหลี่ว์ปินที่พุ่งเข้าสยบศัตรูโดยไม่รีรอ

ทว่าคนจากโลกอสูรค่อนข้างแข็งแกร่ง ในหน่วยของอู๋ฝาน มีเพียงเขา หนิวเอ้อ และหลี่ว์ปินที่สามารถครองความเหนือกว่าได้ ส่วนคนอื่นที่เหลือเมื่อเผชิญหน้ากับคนของโลกอสูร ต่างต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่อาจได้เปรียบ

นับเป็นโชคดีที่พละกำลังของอู๋ฝานไม่ใช่เลวร้าย แม้ว่าเขาไม่ทราบกระบวนท่ามากมายนัก จึงทำได้เพียงสับและฟันออกไป ทว่าความแข็งแกร่งและความว่องไว ทำให้เขาได้เปรียบในระหว่างการต่อสู้ หลังสังหารได้คนหนึ่ง ชายหนุ่มก็เร่งรุดเข้าสนับสนุนเพื่อนร่วมหน่วยใกล้เคียงโดยทันที

ด้วยศักยภาพของอู๋ฝานสามารถดึงดูดความสนใจจากหัวหน้าหน่วยทหารม้าของโลกอสูรได้ อีกฝ่ายมีร่างสูงใหญ่เต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง เขาเป็นหนึ่งในคนที่เล่นงานเพื่อนร่วมหน่วยของชายหนุ่มจนล้มลงกลางอากาศ ขณะนี้ได้เห็นศักยภาพอันยอดเยี่ยมของอู๋ฝาน จึงเปลี่ยนทิศทางม้าพุ่งตรงเข้าหาอย่างไม่รีรอ

“เหอะ!”

อีกฝ่ายบุกเข้าหาอู๋ฝานจากทางด้านข้าง ในฉับพลันนั้นเอง ขณะนั่งบนหลังม้าก็ดึงสายบังเหียนจนขาทั้งสองข้างขึ้น เขายกร่างขึ้นคร่อมยืน พร้อมกับหอกยาวสองเมตรในมือที่พยายามจะทิ่มแทงใส่อู๋ฝาน ปลายหอกคมกล้าส่องประกายเจิดจ้า พุ่งผ่านอากาศ เป้าหมายคือหน้าอกของอู๋ฝาน

อู๋ฝานแตกตื่นตกใจ ตวัดกระบี่ยาวในมือออกไปต้านรับไว้

“เคร้ง!”

หอกและกระบี่ยาวปะทะกัน ทำให้เกิดประกายไฟปะทุลุกพรึ่บ! อู๋ฝานพบว่ากระบี่ยาวศิลาดำในมือ ถึงกับเกิดรูเล็ก ๆ เพิ่มขึ้นมาให้เห็นจุดหนึ่ง! เป็นการบ่งบอกถึงพละกำลังและความแหลมคมของอาวุธอีกฝ่าย

ทว่าพละกำลังของอู๋ฝานก็ไม่อาจดูเบา แม้ถูกบุกทะยานเข้าหา ก็สามารถสะท้อนกลับการโจมตีกลับออกไปได้ จนทำให้ม้าของอีกฝ่ายถอยร่นกลับไปหลายก้าว ท้ายที่สุดก็ประคองตัวบนหลังม้าต่อไม่ไหว จึงร่วงหล่นล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง

ทว่าคล้ายร่างของอีกฝ่ายไร้น้ำหนัก ขณะม้าล้มลง ตัวคนกลับกระโดดหลบหลีกลงจากหลังม้า ทันทีที่หลังเท้าสัมผัสกับพื้น ปลายหอกก็สั่นสะท้าน เสมือนกำลังรวบรวมแรงจากทั้งกาย พร้อมปล่อยจิตสังหารแผ่ฟุ้ง มุ่งตรงเข้าหาอู๋ฝานหมายทิ่มแทงสังหารให้สิ้น

“จังหวะดี!” อู๋ฝานอุทานตอบรับ แทนที่จะถอยหลบ เขากลับรุดหน้า กระบี่ยาวศิลาดำในมือสั่นแผ่วเบา ทว่าเป็นการสั่นที่รวดเร็วจนทำให้เกิดร่างเงากระบี่ คล้ายมีกระบี่ยาวพร้อมโจมตีหลายสิบเล่มปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน หมายประหัตประหารหอกที่พุ่งตรงเข้ามา

“ตึง ตึง ตึง!”

เสียงปะทะอันรุนแรงดังขึ้นต่อเนื่อง คนทั้งสองแลกเปลี่ยนกระบวนท่าการโจมตีกันอย่างรวดเร็ว อู๋ฝานดูเป็นฝ่ายเสียเปรียบและเหนื่อยล้าเพราะเคลื่อนไหวได้อย่างจำกัด ทว่าเขาก็ยังมีพละกำลังมากพอที่จะสามารถสั่นคลอนการโจมตีของคู่ต่อสู้ได้ในทุกครั้ง ดังนั้นคู่ต่อสู้จึงไม่อาจช่วงชิงความเหนือกว่าใดได้ทั้งสิ้น

ศึกดำเนินไปอย่างน่าชวนให้วิตกกังวล ใจของอู๋ฝานเองก็ร้อนรนไม่ต่างกัน

ลำพังตัวชายหนุ่มเองก็ไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไร แต่ไม่ใช่กับคนในหน่วยของเขาที่กำลังประสบกับอันตราย ทั้งยังมีอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ กระทั่งหนิวเอ้อเองก็ยังถูกมีดแทงเข้าที่แขน แม้อาการไม่สาหัส แต่มันก็ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง

หากคิดเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นในหน่วย ก็จำเป็นต้องจัดการคู่ต่อสู้ตรงหน้าให้เร็วที่สุด หาไม่แล้วฝ่ายพวกเขาเองนี่แหละที่จะตกอยู่ในอันตรายอย่างสาหัส

คิดได้ดังนั้น มือของอู๋ฝานก็ขยับเคลื่อนไหวเล็กน้อย คล้ายลงมือเชื่องช้าลงจังหวะหนึ่ง ทันใดนั้นอีกฝ่ายที่กำลังต่อสู้กับอู๋ฝานก็เผยสายตาเป็นประกายเจิดจ้าออกมา หอกในมือพยายามทิ่มแทงใส่หน้าอกของชายหนุ่ม เพื่อหมายสังหารให้สิ้นเรื่องราวในการลงมือเพียงครั้งเดียว!

อีกฝ่ายมั่นใจว่าการลงมือในครั้งนี้จะสามารถสังหารอู๋ฝานได้ เนื่องด้วยที่ระยะทางเช่นนี้ เป็นไปไม่ได้ที่ชายหนุ่มจะสามารถหลบเลี่ยงได้อย่างสมบูรณ์

ขณะที่อู๋ฝานกำลังจะถูกเล่นงาน เขาเคลื่อนย้ายร่างเล็กน้อย ทำให้ตำแหน่งที่หอกทิ่มแทงไม่ใช่หน้าอก แต่เป็นบริเวณใกล้เคียง ตอนนั้นเองชายหนุ่มก็ใช้ทักษะดูดซับความเสียหายจากชุดเกราะใจกระจ่าง!

[ดูดซับความเสียหาย เมื่อถูกโจมตีลดความเสียหายลงได้ครึ่งหนึ่ง สามารถใช้งานได้หนึ่งครั้งในระยะเวลาหนึ่งชั่วโมง จำนวนครั้งการใช้งานไม่สามารถสะสมได้]

มันคือทักษะอันน่าเกรงขามที่อู๋ฝานไม่เคยใช้มาก่อนเลยสักครั้ง ทว่าครั้งนี้เขาใช้งานมันออกมาแล้ว

“ฟึ่บ!”

แม้อู๋ฝานสวมใส่ชุดเกราะใจกระจ่างและเสื้อหนูขนทอง หอกของอีกฝ่ายก็ยังแทงทะลุชุดเกราะของเขา สร้างอาการบาดเจ็บแก่ร่างกาย แต่แม้ไม่ต้องใช้ทักษะเสริมใด หอกนี้ก็ยากที่จะแทงทะลุร่างกายของอู๋ฝาน มันเข้าก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แม้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทว่ากลับเป็นความเจ็บปวดที่แทบทำอู๋ฝานสิ้นสติ แต่เขาทราบดีว่าเวลานี้ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ ดังนั้นจึงกล้ำกลืนฝืนความเจ็บปวด กระชับกระบี่ยาวศิลาดำในมือแน่น พร้อมฟาดฟันเข้าใส่หน้าอกของคู่ต่อสู้

เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่คิดว่าอู๋ฝานจะใช้กลยุทธ์เสี่ยงชีวิตแลกชีวิต เขาคิดว่าการแทงของตนเองจะสามารถทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บสาหัสในคราวเดียวได้แล้ว ไม่ได้คาดเผื่อว่าชายหนุ่มจะทำการตอบโต้เช่นนี้

“ฟึ่บ!”

ภายใต้พละกำลังอันแข็งแกร่งของอู๋ฝาน กระบี่ยาวศิลาดำในมือสามารถทะลวงเข้าใส่หัวใจของศัตรูได้อย่างง่ายดาย