บทที่ 229 สามี…ดื่มอีกแก้ว
บทที่ 229 สามี…ดื่มอีกแก้ว
เมื่อไม่รู้ว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรต่อไป ฉู่เหินเลยตัดสินใจไล่พวกหล่อนออกไป เขารู้สึกว่าตัวเองน่าสงสารจริงๆ ตอนแรกก็โดนคนไล่ล่า ต่อมาก็โดนผู้หญิงพวกนี้ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวใส่ เขาไม่รู้จะพูดยังไงดีเลยจริงๆ
พี่สาว พวกเรามาถ่ายรูปหมู่กันเถอะ สาวอวบเดินมานั่งข้างๆฉู่เหินแล้วยื่นโทรศัพท์มาถ่ายรูป ถ่ายไปถ่ายมาเธอก็ยังไม่พอ กดถ่ายอีกสองสามแบบ
ผู้หญิงอีกหลายๆ คนในห้องเองก็รู้สึกว่าโอกาสนี้หายากยิ่ง จึงวิ่งไปที่เตียงแล้วรุมถ่ายรูปกับฉู่เหิน
ฉู่เหินรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดผู้หญิงบ้าเหล่านี้ก็ลองชุดเสร็จแล้ว หลังจากนั้นอยู่ๆ ใครก็ไม่รู้เดินเข้ามาพร้อมกล้อง แล้วแนะนำตัวกับทุกคนว่าเป็นช่างภาพฉู่เหินเองก็พยักหน้าให้ทีหนึ่ง
ช่างภาพที่เข้ามาเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ทว่าห้องมีขนาดเล็กมาก ทำให้กล้องไม่สามารถเก็บภาพได้ครบทุกคน หญิงสาวไม่มีทางเลือกนอกจากจะให้พวกเธอบางคนนั่งเบียดๆ กัน แต่ก็ยังถ่ายได้ไม่หมดอยู่ดี เพราะห้องเองก็ไม่ได้กว้างมากขนาดนั้น
เบียดเสียดจนไม่รู้ว่าใครเป็นใคร แป๊บ ๆเขาก็ชนสิ่งที่ไม่สมควรคนโน้นคนนี้ไปมา โชคดีที่ทุกคนไม่สนใจอะไรมาก หลังจากผ่านไปสามสี่นาทีแล้วก็ยังถ่ายไม่เสร็จ จนตอนนี้เหงื่อออกหัวฉู่เหินหมดแล้ว
อีกทั้งยัยอ้วนนั้นยังนั่งลงตรงหน้าขาของฉู่เหิน ทำให้ฉู่เหินยิ่งรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม เขาไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ตอนนี้ตัวเขาไม่เพียงแต่บาดเจ็บภายใน ภายนอกก็ยังบาดเจ็บหนักอีกด้วย เขาทำได้เพียงถอนหายใจและกักเก็บความเจ็บปวดเอาไว้
ครั้งนี้ฉู่เหินบาดเจ็บหนักไม่เบา ยังต้องมาถูกไล่ล่าอีกที่ไม่หมดสติจนป่านนี้ก็ถือว่าทำได้ไม่เลวแล้ว มาตอนนี้ถูกเสียงเจี๊ยวจ๊าวพวกเธอก่อกวนข้างหูไม่หยุด สิ่งที่เขาอยากทำตอนนี้ที่สุดก็คือการพักผ่อนอย่างสงบ
แต่จนบัดนี้เขาก็ยังไม่สามารถไล่พวกหล่อนออกไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องมาถ่ายรูปแต่งงานเขาจะไม่ทำก็ไม่ได้เป็นเรื่องทั่วไปที่ใครๆก็ทำกัน ถ้าเขาไม่ทำตามน้ำเกรงว่าจะโดนสงสัยได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกที่ไล่ล่าเขาก็กำลังสังเกตการณ์อยู่ไกลๆ จากข้างนอกนั่นอีก เมื่อเป็นแบบนี้ฉู่เหินจึงไม่กล้าแสดงพิรุธออกมา
ยังดีที่หลังจากเบียดเสียดอยู่ได้ไม่นาน ช่างกล้องก็สมกับเป็นมืออาชีพเธอสามารถถ่ายรูปเสร็จอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ในสายตาฉู่เหินมันเป็นการทำงานที่เชื่องช้าสุดๆ
แต่เดิมสถานการณ์อันเบียดเสียดนี้สมควรที่จะเสร็จสิ้นได้แล้ว ถ้าสาวอวบคนเดิมไม่หลับตาจนต้องถ่ายรูปอีกใหม่รอบ!
ฉู่เหินรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย เริ่มแรกก็คืออาการบาดเจ็บ ตอนนี้ก็กำลังถูกคนมาจับถ่ายรูปไปมา โดยเฉพาะหญิงสาวคนนั้น นั่งมาได้บนตัวเขาจะบ้าตายจริงๆ ถ้าเป็นตอนปกติเขาคงจะไม่เป็นไรแต่ตอนนี้ร่างกายเขาอ่อนแอมาก ทว่าตอนนี้ความรู้มันกลับต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ร่างกายก็ยังไม่ได้รับการรักษา ตอนนี้ก็ยังมาเพิ่มความทรมานให้เขาเข้าไปอีกเขารู้สึกเหมือนอาการจะหนักขึ้นยังไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อมองรอบๆตัวเอง พวกเธอก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เขาก็ได้แต่กัดฟันทำมันต่อไป
หญิงสาวเหล่านี้ไม่ได้คิดมากอะไร แล้วจะไปรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ฉู่เหินกำลังบาดเจ็บอยู่ เขาก็ยิ่งไม่อยากเอาความ ให้ยัยอ้วนคนนี้นั่งทับถ้าไม่ใช่เพราะเขาอดทนเอาไว้ เกรงว่าเขาคงเป็นลมหมดสติไปแล้ว
ยิ่งดึกก็ยิ่งสงบ แขกมากมายทยอยกันแยกย้ายกลับบ้าน เดิมทีฉู่เหินคิดว่าแขกทั้งหมดกลับกันหมดแล้ว ไอ้พวกที่ตามไล่ล่ามาก็คงกลับไปแล้วเหมือนกันละมั้ง แต่ที่เขาไม่คิดไม่ฝันก็คือ ตั้งแต่ต้นจนจบมีสายลับคอยสอดส่องอยู่ตลอดเวลา เขาเริ่มสัมผัสถึงอันตรายได้น้อยลงเพราะพวกที่ไล่ล่าเริ่มแยกย้ายกันกลับตามแขกไปส่วนหนึ่งด้วย
แม้จะรู้สึกเช่นนั้นแต่ฉู่เหินก็ไม่กล้าเสี่ยง จึงทำได้เพียงสวมบทเป็นเจ้าสาวต่อไป ฉู่เหินเกิดความรู้สึกว่าตัวเองควรจะได้รับรางวัลออสก้าแล้วหรือเปล่า เขาตีบทแตกขนาดนี้ ฉู่เหินคิดอย่างเลื่อมใสคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะมีพรสวรรค์ด้านนี้ด้วย!
หลังจากส่งแขกเสร็จแล้ว ชายวัณโรคเองก็หันกลับเข้ามาในบ้าน เดินไปก็ไอค๊อกแค๊กไปด้วย หัวสมองฉู่เหินคล้ายกับมีเส้นสีดำพาดผ่าน ยิ่งได้ฟังคำพูดของผู้ชายคนนี้ ฉู่เหินก็ยิ่งอยากด่าแม่มันออกมาดังๆ
“ภรรยารักพวกเราพักผ่อนเถอะ เข้าหอวันแรกเขามีค่ากว่าทองคำพันชั่ง เธอจะได้มีลูกให้ฉันไวๆไง!” ในตอนที่พูดนั้นชายที่ป่วยวัณโรคก็ถอดเสื้อผ้าไปด้วย เผยให้เห็นร่างที่ผอมบางราวคนใกล้ตาย ฉู่เหินมองมันด้วยสายตาที่เย็นชา
“เหอะ คิดว่าผีอย่างแกเป็นตัวอะไร เพิ่งเข้าห้องมาก็คิดแต่เรื่องลามก อ้อ ไม่สิแก มันลามกของแท้เลยละ!” หลังคิดถึงตรงนี้ฉู่เหินก็รู้สึกเจ็บปวด
“เฮ้ยๆ นี่มันเรื่องอะไรกัน ไม่ได้ๆ ยังก็ให้มันขึ้นเตียงไม่ได้ ไม่งั้นความลับต้องถูกเปิดโปงแน่!”
“สามี ไม่ต้องรีบร้อนหรอกค่ะ วันมงคลแบบนี้ทำไมไม่ดื่มเหล้ามงคลก่อนสักแก้วล่ะ มาให้ภรรยารินให้ดื่มนะคะ” พอพูดประโยคนี้จบฉู่เหินต้องอดทนกล้ำกลืนไม่ให้อ้วกพุ่งออกมาเสียก่อน ด้วยความลำบาก แต่ก็เขาก็ต้องอดทนเพื่อรักษาชีวิตน้อยๆ ของตัวเองเอาไว้
ตอนแรกที่ชายวัณโรคได้ยินดังนั้นก็เกิดลังเลสักพัก สุดท้ายเขาก็พยักหน้าแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเขาพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า อีกทั้งยังใช้มือที่ปิดปากไอเมื่อครู่ลูบไล้ไปมาที่หลังของฉู่เหิน จนฉู่เหินขนลุกจนเนื้อคนกลายเป็นเนื้อไก่ไปแล้ว
ฉู่เหินกัดฟันกรอดๆ พยายามไม่ให้พุ่งตัวไปต่อยแล้วตะโกนใส่หน้ามันว่า
“แกเห็นชัดๆว่าฉันเป็นผู้ชาย ยังกล้าแต๊ะอั๋งข้าอีกไอ้เวรนี้ แดกหมัดข้าหน่อยก็แล้วกัน!” แต่นี่เป็นแค่เสียงในใจของฉู่เหิน เขาไม่กล้าพูดออกไป ทั้งยังทำท่าเอียงอายอีกด้วย!
หลังจากรินเหล้าแก้วหนึ่งฉู่เหินก็ยื่นมือออกไป มองอีกฝ่ายดื่มจนหมดแก้ว ฉู่เหินรีบรินแล้วส่งไปให้อีกแก้วทันที
“มา ดื่มอีกแก้วสิ งานมงคลคู่ก็ต้องดื่มเลขคู่ไง!”
ชายวัณโรครับมาดื่มทั้งสองแก้วลงท้อง โดยไม่พูดอะไรมาก เดิมทีเขาก็ดื่มมาจากข้างนอกไปตั้งมากแล้ว พอดื่มเหล้าไปสองแก้ว ก็เริ่มรู้สึกมึนหัวด้วยความเมาเล็กน้อย แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ชายวัณโรคก็รับแก้วมาดื่มด้วยความเต็มใจยิ่ง!
“มาดื่มอีกแก้ว เหมือนกับอู่ซงแห่งจิงหยางกัง* เขาดื่มแค่ 18 แก้วก็เป็นวีรบุรุษได้แล้ว แต่ดูเหมือนสามีของฉันจะดื่มได้มากว่าวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ซะอีก 18 แก้วนับเป็นอะไรได้ 35 แก้วก็ไม่มีปัญหาหรอกเนอะ” ฉู่เหินยิ้มก่อนที่รินเหล้าให้อีกแก้ว
(*อู่ซงแห่งจิงหยางกัง นิทานปรัมปราของจีนมีเนื้อหาว่า ชายคนที่ชื่อ
อู่ซงตอนที่เขาเดินผ่านเมืองจิงหยางกัง บังเอิญไปเห็นเสือกำลังทำร้ายชาวบ้านจึงเข้าช่วยไปจนสามารถฆ่าเสือได้สำเร็จ)
หลังจากดื่มหมดไปอีกแก้ว ชายวัณโรคก็กลายเป็นคนเมาลิ้นไก่สั้นไปแล้ว แม้ว่ามึนหัว แต่สติของเขาก็ถือว่ายังค่อนข้างมีสติอยู่บ้าง
“ภรรยา ผมดื่มไม่ได้แล้ว เกรงว่าผมจะดื่มมันเยอะไปแล้ว ถ้าล่าช้ากว่านี้เราคงไม่ได้ทำเรื่องดีงามแน่คุณไม่เสียดายเหรอ? ผมไม่อยากปล่อยให้ภรรยาของผมต้องโดดเดี่ยวในห้องหอคนเดียวหรอกนะ”
พอฉู่เหินได้ยินคำว่าภรรยาสามคำนี้ เขาก็รู้สึกเหมือนลมเย็นยะเยือกพัดร่าง เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าผู้ชายที่ไม่มีอารยธรรมถึงได้พูดคำชวนอ้วกแบบนี้ เหมือนกับอีกาที่สวมรอยเป็นหงส์ อีกทั้งยังเป็นหงส์ปลอมอีกด้วย!
“ไม่ต้องห่วงนะคะ สามียังหนุ่มยังแน่น ดื่มอีกแก้วก็ไม่มีปัญหาแน่นอน!”
ฉู๋เหินส่งเหล้าไปให้แก้วแล้วแก้วเหล้า อีกฝ่ายคอแข็งจนหลังๆ ฉู่เหินชักท้อ ทว่าสุดท้ายอีกฝ่ายก็เมาหมดสติฟุบหัวลงกับโต๊ะ
เมื่อเห็นดังนั้นฉู่เหินก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก เดิมทีฉู่เหินจะไม่สนใจชายคนนี้แล้วไปนอนบนเตียง แต่ที่ทำให้เขาหงุดหงิดคือไอ้พวกที่ไล่ล่าเขาใช้พลังจิตมองสำรวจเขาอยู่นี่สิ ถ้าเขาไม่ทำอะไรบางอย่าง น่ากลัวว่าจะถูกอีกฝ่ายจับพิรุธได้
ด้วยความสิ้นหวังฉู่เหินไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องเอาชายวัณโรคไปนอนบนเตียง จากนั้นเมื่อพวกมันใช้พลังจิตมองเข้ามา ก็จะเห็นชายป่วยวัณโรคนอนเปลือยกายอยู่บนเตียง เป็นไปดั่งกลอุบาย!