ตอนที่ 179 Interlude to The Fight

The Conquerors Path | เส้นทางผู้พิชิต

วันใหม่ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อแสงแดดส่องลงมายังแผ่นดิน สามารถเห็นกลุ่มนักเรียนเดินผ่านถนนของสถาบันบาบิโลนได้ แต่ครั้งนี้มีความแตกต่างจากปกติอยู่ นักเรียนที่ปกติเดินโดยไม่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจง แต่ตอนนี้คุณสามารถเห็นได้ว่าพวกเขากำลังรีบวิ่งไปยังทิศทางเดียวกันอยู่

นักเรียนหลายประเภทกำลังไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่หรือรุ่นน้องต่างก็มุ่งไปในทิศทางเดียวกัน พวกเขาทั้งหมดมุ่งสู่สนามประลอง 

เมื่อเห็นทั้งหมดนี้แล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะเดาะลิ้นอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

“ชิ พวกเขาคงใจร้อนที่ได้เห็นฉันสู้แน่ๆ”

“ใครจะไปโทษพวกเขาได้หล่ะคะ พวกเขายังไม่เห็นความสามารถทั้งหมดของคุณนี่คะ ดังนั้นทุกคนเลยสงสัยกัน”

ทันทีที่ผมพูดจบ คลาร่าที่อยู่ข้างๆ ผมก็ตอบรับคำพูดของผม 

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมก็ทำได้แค่เห็นด้วย แม้ว่าผมจะเอาชนะซาเวียร์ได้ แต่คำกล่าวต่อสาธารณชนก็คือผมได้รับพลังของทหารที่ตายไปแล้ว เรื่องของลูกธนูที่ได้รับพรจากเทพเจ้ามังกรนั้นถูกปกปิดไม่ให้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ มันคงไม่ดีแน่ถ้าโลกรู้เรื่องอาวุธที่สามารถปล่อยพลังที่คล้ายกับเทพมังกรได้

พระเจ้าคงรู้ว่ามีไอ้พวกโง่ไม่รักชีวิตที่ต้องการก่อความวุ่นวายอยู่ทุกที่ เมื่อนึกถึงเรื่องแย่ๆ ที่ตัวเองต้องเจอ มันก็ทำให้ร่างกายของผมสั่นเทาขึ้นมา ผมส่ายหัวเพื่อกำจัดความทรงจำเหล่านั้นออกไปก่อนจะหันกลับมาสนใจคลาร่า

“แล้วโซเนียเป็นยังไงบ้าง?”

“ไปได้ด้วยดีค่ะ เธอไร้เดียงสามาก มันเลยค่อนข้างง่ายที่จะสนิทกับเธอ ถ้าคุณต้องการ เราสามารถเริ่มส่วนที่ 2 ในวันพรุ่งนี้ได้เลยค่ะ”

“โอ้…เยี่ยมเลย”

เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ ผมก็ยิ้มขณะที่ลูบหัวเธอ 

คลาร่ายิ้มอย่างมีความสุขเมื่อได้รับคำชมจากผม แม้ว่าผมจะทำเหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็ยังน่าประทับใจที่คลาร่าสามารถเข้าถึงสถานการณ์ดังกล่าวได้ด้วยตัวเอง ดูเหมือนว่าเธอจะมีพรสวรรค์ในการชักใยและการแสดง 

สายตาของผมมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นว่าไม่มีใครอยู่ที่นี้ ผมก็เอนตัวไปหาคลาร่าก่อนจะจับก้นของเธอและนวดมันอย่างดีขณะที่ผมพูดใส่หูเธอ

“เด็กดี ฉันจะให้รางวัลเธอทีหลังนะ”

“อืมมม~~ค่ะ”

คลาร่าพูดออกมาด้วยอาการหน้าแดง 

พอเห็นแล้วทำเอาผมอยากจะทำอะไรสักอย่างที่นี่เลย แต่ตอนนี้มันอันตรายเกินไป ผมบีบก้นเธออีกครั้งก่อนจะออกจากห้องไปภายใต้ท่าทางผิดหวังของคลาร่า 

ผมพูดยิ้มๆ

“หวังว่าฉันจะโชคดีนะ”

ผมเดินออกจากห้องเมื่อเริ่มได้ยินกรรมการประกาศชื่อตัวเอง ห้องที่ผมอยู่เมื่อกี้คือห้องรอ ผมเดินอย่างเงียบๆ ผ่านทางเดินยาวจนกระทั้งได้ยินเสียงคุยกันดังมาจากข้างนอก ไม่นานนักก็มีลำแสงกระทบผมขณะที่เดินออกจากเส้นทางที่เหมือนอุโมงค์

และทันทีที่ผมเดินออกมาก็พบกับนักเรียนหลายพันคนนั่งเรียงแถวขณะที่พวกเขาตั้งหน้าตั้งตารอการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น บางคนกำลังส่งเสียงเรียกชื่อของเจ้าชาย ในขณะที่บางคนกำลังสนับสนุนใครก็ไม่รู้ ที่น่าสนใจคือผมเองก็มีกลุ่มผู้สนับสนุนด้วย แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงก็ตาม

และผู้ชายส่วนใหญ่ก็ดูเหมือนจะต่อต้านผมด้วย เนื่องจากผมเป็นที่นิยมมากในหมู่สาวๆ หลังจากที่ผมได้เข้ามาในสถาบัน ผมก็ได้พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดของการเป็นผู้ชายที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในสถาบัน การแสดงของผมที่การล่าเซธนั้นสร้างความประทับใจให้กับหลายๆ คน แถมเพลงที่ผมเล่นก็ยังฮิตสุดๆ ท่ามกลางเพลงอื่นๆ อีกมากมาย

ผมเคยได้รับการติดต่อจากคนบางกลุ่มที่ต้องการใช้บทกวีของผมอีกด้วย ดูเหมือนว่าบทกวีที่ผมแต่งขึ้นเกี่ยวกับกองทัพจะได้รับความนิยมจากทหารหลายคน บวกกับข้อเท็จจริงที่ว่าครอบครัวของผมเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในกองทัพ ผมจึงพุ่งขึ้นสู่การเป็นคนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกองทัพในทันที

จำนวนคำสารภาพรักที่ผมได้รับในแต่ละวันนั้นสูงจนน่าตกใจ นอกจากนี้ผมเคยได้ยินจากเกรซว่าตัวเองได้รับจดหมายหมั้นและจดหมายขอแต่งงานมากมายจากตระกูลขุนนางต่างๆ อีกด้วย 

ผมยังจำใบหน้าหึงหวงและไม่พอใจของเกรซได้อยู่เลยในตอนที่เธอปฏิเสธจดหมายทั้งหมดเพราะมันค่อนข้างตลกดี 

และตอนนี้ผมกำลังมองไปยังนักเรียน 3 คนที่อยู่ข้างหน้าด้วยความงุนงง

พวกเขาทุกคนมีอายุเท่ากับเอลด้าคืออายุ 16 ปี คนตรงกลางมีผมสีน้ำตาลทองที่ดูเหมือนคลุมศีรษะเหมือนแผงคอ เขาสูงตามอายุ มีดวงตาสีเหลืองเหมือนเผ่าแมวและมีหางสิงโตขนาดใหญ่อยู่บนตัว กลับมาพร้อมกับหูสิงโตที่ซ่อนด้วยขนของเขา

อีกคนหนึ่งมีผมและตาสีน้ำตาลพร้อมกับใบหน้าที่หล่อเหลา มีเรเปียร์ห้อยอยู่ข้างๆ เขาเป็นมนุษย์เจ้าชายแห่งอาณาจักรทิลลาเบเฮม อาณาจักรที่เน้นความเร็วและการจบคู่ต่อสู้อย่างรวดเร็ว พวกเขาเป็นอาณาจักรระดับกลาง

อีกคนหนึ่งเป็นชายรูปงามที่มีผมสีฟ้าและดวงตาสีเขียว ร่างกายของเขาดูผอมเพรียวมากกว่าคนอื่น ประด้วยดวงตาที่สงบและครุ่นคิด แต่ตรงกันข้ามกับขนาดร่างกายของเขากลับมีขวานขนาดใหญ่ห้อยอยู่บนหลังของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะให้ความรู้สึกเย็นสดชื่น เขาเป็นเจ้าชายแห่งอาณาจักรฟาซิคที่อยู่ใกล้กับทะเล

“ออสติน…ในฐานะผู้ท้าทายให้เธอมีสิทธิ์เลือกว่าต้องการต่อสู้กับใคร?”

ผมผงกศีรษะตามคำพูดของผู้ตัดสินก่อนที่จะพูด

“ผมต้องการที่จะท้าทาย….”

ขณะที่ผมพูดอยู่ สายตาของผมก็เคลื่อนไปมาระหว่างทั้ง 3 คน เมื่อคำพูดของผมยาวขึ้น ทุกคนต่างก็มองดูพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อดูว่าผมจะเลือกสู้กับใคร และในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ยินคำตอบของผม

“ทั้ง 3 คน”

“!!!”

ทุกคนเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำตอบของผม ทุกคนต่างตกตะลึงเมื่อมองมาที่ผม แล้วใครจะโทษพวกเขาได้หล่ะ? ทั้ง 3 คนที่อยู่ข้างหน้าผมไม่ใช่นักเรียนทั่วไป พวกเขาเป็นอัจฉริยะที่สามารถต่อสู้ข้ามระดับของตัวเองได้ และผมก็พึ่งท้าทายพวกเขาทั้ง 3 คน ไม่มีอะไรมากไปกว่าความหยิ่งยโสต่อหน้าต่อตาพวกเขา

“เธอแน่ใจนะ?”

ผู้ตัดสินถามผมด้วยสีหน้าสงบนิ่งซึ่งผมก็พยักหน้าตอบกลับไป ผมเห็นว่าทั้ง 3 คนมีความโกรธจากคำพูดของผม แต่พวกเขาไม่พูดหรือตะโกนอะไรออกมาเลย สายตาของพวกเขาจับจ้องมาที่ผม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ประเมินผมต่ำไป

‘ก็ดี’

ตอนนี้เมื่อผมเอาชนะพวกเขาได้ จะได้ไม่ต้องมีใครมาบ่นว่าการต่อสู้นั้นไม่ยุติธรรม

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต