วู่หยานได้หมกตัวอยู่ในห้องฮินางิคุตลอดช่วงเช้า โดยมีผ้าห่มคลุมตัวทั้งสองคนไว้ เสียงหอบหายใจอย่างหนักของฮินางิคุดังออกมาจากข้างในห้องไม่หยุด ดังขึ้นถึงขนาดที่ว่าต่อให้อยู่ไกลออกไปก็ยังสามารถได้ยินเสียงเธอชัด……
ณ ห้องโถง อิคารอสกับแอสเทรียย่อมได้ยินเสียงนี้เช่นกัน แอสเทรียได้ก้มหน้าก้มตากินอาหารอย่างตะกละตะกลาม แต่ถ้าคุณลองสังเกตุดูดีๆจะพบว่าแก้มเธอนั้นแดงแจ๋เลยล่ะ…..
แอสเทรียไม่เหมือนอิคารอสที่เด่นด้านการคิดคำนวณและการต่อสู้ แต่มีระบบควบคุมอารมณ์ความรู้สึกต่ำ เทียบกันแล้วถึงเธอจะไม่แด่นด้านการคำนวณ แต่ด้านอารมณ์ความรู้สึกเธอโดดเด่นสุดๆ!
ดังนั้น วู่หยานกับฮินางิคุกำลังทำอะไรกันอยู่ บางทีอิคารอสอาจจะไม่รู้ แต่แอสเทรียไม่มีทางที่จะไม่รู้!
แน่นอนว่า อิคารอสในตอนนี้ย่อมไม่เหมือนเมื่อก่อน…….
แอสเทรียเบิกตากว้างมองอิคารอสที่นั่งอยู่ตรงหน้าตนด้วยความประหลาดใจสุดๆ ถึงขนาดอ้าปากค้างยังกับเห็นผีกลางวันแสกๆเลย เป็นสีหน้าที่เวอร์วังมาก
ตอนนี้อิคารอสตรงหน้าเธอมีแก้มและผิวที่ขึ้นสีชมพูสดใส ดวงตาเองก็เปียกชื้น เธอกำลังก้มหน้าก้มตากินอาหารไม่หยุด เหมือนที่แอสเทรียทำเมื่อกี้เลย……
ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแชร์ระบบตรวจสอบมาจากวู่หยาน ทำให้แอสเทรียสามารถมองเห็นสถานะของอิคารอสได้ เธอต้องสงสัยแน่นอนว่าคนตรงหน้าไม่ใช่รุ่นพี่ของตน…….
ท้ายที่สุด เสียงในห้องก็หยุดจนได้ ทำให้อิคารอสกับแอสเทรียโล่งอก เหตุผลที่โล่งอกนั้นสำหรับแอสเทรียเธอรู้ดีแก่ใจ แต่กับอิคารอสเธอไม่รู้ หลักฐานคือใบหน้าสันสนที่เธฮกำลังทำอยู่นี่ไงล่ะ
พักหนึ่ง วู่หยานก็เดินออกมาจากห้องฮินางิคุด้วยท่าทางปกติกับเสื้อผ้าที่เรียบร้อย ถ้าไม่ใช่เพราะใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อนั่นล่ะก็ พวกเธอคงคิดว่าตัวต้นเหตุที่ทำในห้องนั้นไม่ใช่เขา……
“มาสเตอร์!” อิคารอสกับแอสเทรียเห็นวู่หยาน ใบหน้าก็ขึ้นสีพร้อมกัน ก่อนจะส่งเสียงเรียกไปครั้งนึง ทำให้วู่หยานมีสีหน้าอึดอัด
ทำเป็นกระแอ่มไอสองสามครั้ง จากนั้นเข้าไปนั่งกับพวกเธอ แล้วพูดสวัสดีหน้าตาเฉยราวกับไม่มีอะไรเกิด นี่ทำให้คนที่เห็นต้องถอนหายใจกับหนังหน้าที่หนาเป็นกำแพงของเขา……..
อิคารอสมองวู่หยานด้วยใบหน้าแดงๆ เมื่อวู่หยานเห็นเข้าก็เกิดความรู้สึกอยากเข้าไปเล็มเลียเธออีกครั้งอย่างอดไม่ได้ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ตระหนักเลยว่าตัวเองส่งผลต่อผู้คนรอบข้างยังไง อิคารอสมีสีหน้าลังเลอยู่ชั่วครู ก่อนที่ในที่สุดเธอก็รวบรวมความกล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมาได้ ท่ามกล่างสายตาอยากรู้อยากเห็นของวู่หยานกับแอสเทรีย
“มาสเตอร์…..ถ้า…ถ้ามาสเตอร์ต้องการทำสิ่งที่มีความสุขนั่นล่ะก็…อิคารอส…อิคารอส…เองก็สามารถทำได้…”
“พรูด! แค่ก แค่ก……”
วู่หยานกับแอสเทรียพ่นข้าวที่กำลังกินอยู่ออกมาจนหมด จากนั้นพร้อมใจกันเอามือปิดปากแล้วไอออกมาอย่างแรง
“มาสเตอร์….” อิคารอสจ้องมองอย่างไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี วู่หยานยกมือบอกเป็นนัยว่าไม่เป็นไรก่อนจะเอามือมาเช็ดปากตัวเองขณะที่มีสีหน้าผสมกันระหว่างอึ้งกับสนใจแบบสุดๆ เขาจึงถามเธอไปว่า
“อิคารอส เธอไปเรียนไอ้คำพูดนี่มาจากไหนกันน่ะ?”
ได้ยินแบบนี้ อิคารอสก็ก้มหน้าแล้วเอามือชายกระโปรงตัวเองด้วยท่าทางเหนียมอาย “ไม่….ไม่มีใครสอนค่ะ อิคารอสอยากพูดเอง….”
“เธออยากพูดเอง?” วู่หยานกับแอสเทรียอึ้งไป
อิคารอสพยักหน้าแล้วมองวู่หยานด้วยสายตาที่เปร่งประกายต่างไปจากเดิม “เพราะว่ามาสเตอร์ดูมีความสุขมาก ดังนั้น…..”
ได้ยินแบบนี้ วู่หยานก็เงียบไป ก่อนจะยกมือไปวางที่หัวอิคารอส แล้วพูดอย่างช้าๆว่า “อิคารอส เรื่องนี้ถ้าเธอไม่เต็มใจ….”
“ไม่ค่ะ!” วู่หยานยังพูดไม่ทันจบก็โดนอิคารอสขัดขึ้นมา ทำให้เขาตกใจ เห็นสีหน้าตกใจของมาสเตอร์ตน อิคารอสก็หันไปมองทางอื่นแล้วพูดว่า
“เห็นมาสเตอร์มีความสุข อิคารอส….เองก็มีความสุขเหมือนกัน……”
มองดูอิคารอส ทันใดนั้นวู่หยานก็หัวเราะออกมาขณะที่ในใจด่าตัวเองว่าไอ้โง่ ตูลืมไปได้ยังไงวะ หัวใจของอิคารอสในตอนนี้ไม่เหมือนตัวเธอในอนิเมะแล้ว ที่คิดแต่จะทำให้มาสเตอร์มีความสุขอย่างเดียวน่ะ
วู่หยานลูบหัวเธอแล้วมองตรงเข้าไปในนัยน์ตาสีมรกตของเธอ จากนั้นพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “เห็นอิคารอสมีความสุข ฉันเองก็มีความสุขมากๆเหมือนกันนะ……”
“ถ้างั้น….” อิคารอสมองวู่หยานด้วยสายตาคาดหวัง ทำเขาอึดอัดจึงทำได้แค่พูดตัดบทไปว่า “เอ่อ…วันหลัง…ไว้เราค่อยมาพูดเรื่องนี้กันวันหลังดีไหม?”
อิคารอสพยักหน้าหงึกๆอย่างแข็งขัน จากนั้นกลับไปกินข้าวต่อ ตัดสินจากตะเกียบที่เคลื่อนไหวไปมาดูมีชีวิตชีวาของเธอแล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะมีความสุขมาก……
วู่หยานหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ เขาเองก็เฝ้ารอโอกาสที่จะได้ทำกับอิคารอสอย่างคาดหวังเช่นกัน เพราะยังไงซะเขาก็ชอบเธอมาก มาตั้งแต่ต้นอยู่แล้วน่ะนะ……..
ทันใดนั้น ใกล้กันแอสเทรียก็ได้โยนช้อนส้อมในมือทิ้ง แล้วกระโดดมาตรงหน้าวู่หยานจากนั้นตะโกนเสียงดังว่า “มาสเตอร์!แอสเทรียเองก็สามารถทำให้มาสเตอร์มีความสุขสุดๆได้เหมือนกันนะ!”
ริมฝีปากวู่หยานบิดเบี้ยว มองดูแอสเทรียที่กำลังมีสีหน้าช็อคกับคำพูดที่ตัวเองพ่นออกมาเมื่อกี้ ทำเขาพูดไม่ออก……
ยัยโง่นี่…..
“มาสเตอร์! ฉะ-ฉัน…..”ตระหนักได้ว่าตัวเองพูดเรื่องน่าอายสุดๆออกไป แอสเทรียอ้าปากพะงาบๆไม่หยุดแล้วกลายเป็นพูดติดอ่างไป เมื่อไม่สามารถนึกคำพูดออกมาได้ นัยน์ตาเธอก็เริ่มหมุนวน บนหัวเองก็เริ่มมีควันลอยออกมา
วู่หยานมองดูหัวแอสเทรียที่ส่ายไปมาด้วยความพูดไม่ออก เขายื่นมือออกไปอย่างหน่ายใจจากนั้นลูบหัวเธอ ภายใต้สายตาเอียงอายของแอสเทรีย วู่หยานก็ส่ายหน้าด้วยรอยยิ้ม
“ได้สิ ฉันเข้าใจแล้ว ถ้าฉันอยากได้ช่วงเวลาแห่ง‘ความสุข’ ล่ะก็ฉันจะไปหาเธอทันที…..”
“เอ๊ะ?” แอสเทรียอุทานออกมา ก่อนที่จะกระโดดถอยออกมา แล้วชี้หน้าวู่หยานด้วยใบหน้าแดงก่ำจากนั้นตระโกนว่า “มาสเตอร์….เจ้าโง่! ฉันไม่ได้อยากทำเรื่องลามกกับนายซักหน่อย! ไม่ได้คาดหวังด้วย! เจ้าโง่!โง่ที่สุดเลย!””
สีหน้าวู่หยานเปลี่ยนไปมาก่อนที่สุดท้ายจะกลายเป็นสีหน้า囧 ขณะที่มองแอสเทรียด่าตัวเองว่าโง่ไม่หยุด เขาก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาที่โดนยัยโง่ด่าว่าโง่……
โดยไม่รอให้วู่หยานได้คิดอะไรมากกว่านี้ ทันใดนั้นกำปั้นเรียบเนียนดูนุ่มนวลก็ได้ทุบเข้ามาที่หัวเขาอย่างแรง ทำให้วู่หยานร่วงลงไปนอนกับพื้นโต๊ะทันที แน่นอนว่าคางเขาได้กระแทกกับโต๊ะ ทำวู่หยานร้องออกมาด้วยความเจ็บ
ฮินางิคุกำหมัดแน่นด้วยใบหน้าที่ยังคงเป็นสีแดง ไม่พูดเกินจริงเลยถ้าจะบอกว่าสีหน้าเขินอายของเธอตอนนี้มีเสน่ห์มากถึงขนาดสามารถทำให้ผู้คนสติหลุดจนก่ออาชญากรรมได้
“นายนี่มัน ทั้งที่ตอนนี้ยังกลางวันแสกๆแต่นายกลับ….กลับ…..”ฮินางิคุหลับตาแน่นด้วยความอายอย่างถึงที่สุด จากนั้นเธอก็ส่งกำปั้นเข้าไปอีกหนึ่งดอก แต่คราวนี้วู่หยานรับได้
วู่หยานส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม จากนั้นถอนหายใจ “นี่เธอคิดจะฆ่าสามีของตัวเองหรอไง….”
ฮินางิคุมองวู่หยานด้วยความโกรฑ “ก็ดีสิ! ถ้านี่ทำให้นายตายได้!!”
ยกมือเกาหัว แล้วพูดพึมพำเสียงเบา “ช่วยไม่ได้นี่น่า ก็คนมันโดนยั่วอ่ะ หรือว่าเธออยากให้ฉันทำให้อิคารอสลุกออกจากเตียงไม่ได้ทั้งที่เป็นตอนกลางวันแบบนี้……”
“นายพูดว่าอะไรนะ….” สายตาอันตรายของฮินางิคุจ้องมาที่ใบหน้าวู่หยาน หมัดเธอกำแน่นจนเกิดเสียงแกรกๆ เห็นได้ขัดว่าฮินางิคุโกรธมากที่เขาเข้ามาปลุกปล้ำเธอโดยไม่ถามอะไรเธอสักคำ……
“มะ-ไม่มีอะไรจ้า….” วู่หยานหัวเราะแห้งๆ แล้วรีบโบกมือกับส่ายหัวเป็นพัลวัน
มองค้อนใส่เขาไปอีกครั้ง ผลคือเธอได้รับรอยยิ้มของวู่หยานตอบกลับมา ทำให้ฮินางิคุหน้าแดง เมื่อเธอหันไปเห็นอิคารอสกับแอสเทรียที่แก้มแดงเล็กน้อย เธอก็กลายเป็นกระอักกระอ่วน
โอเคน่า เสียงฉันมันไม่ได้ดังถึงขนาดนั้นซักหน่อย พวกเธอไม่ได้ยินหรอก ใช่แล้ว ไม่ได้ยิน……
หลังจากพูดปลอบใจตัวเองอย่างน่าสงสารเสร็จ ฮินางิคุก็เข้าไปนั่งที่โต๊ะ ทว่าทันใดนั้น ดวงตาอิคารอสก็เปร่งกระกายไปด้วยข้อมูลที่ไหลเข้ามา
“มาสเตอร์! ศัตรูปรากฏตัวค่ะ!”สีหน้าอิคารอสกลับไปเป็นเรียบเฉยไร้อารมณ์เหมือนเดิม จากนั้นพูดกับวู่หยาน
ได้ยินเธอบอก สีหน้าวู่หยานก็แข็งค้างก่อนที่รอยยิ้มจะฉายขึ้นมาบนใบหน้าเขา
“…ในที่สุดก็มาแล้วสินะ….”