ตอนที่ 115

The simple life of the emperor

หลังจากที่เห็นเทียนหลางทำลายอำพันปีศาจไป คนจากสำนักวาติกันก็ถึงกับตกตะลึงโดยเฉพาะผู้หญิงผมทองนั้นเธอดูท่าทางจะโกรธเทียนหลางไม่น้อยเลย เธอเดินเข้ามาหาเทียนหลางพร้อมกับถามเขาด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวว่า

”นี่นายทำลายมันงั้นเหรอ !?”
เทียนหลางได้ยินคำถามก็ตอบกลับไปอย่างสบายๆว่า
”เธอก็เห็นแล้ว”
ทันทีที่ได้ยินคำตอบของเทียนหลางเธอก็ดูโมโหหนักยิ่งกว่าเดิม เธอรีบเข้ามาจับเขาพร้อมกับเขย่าก่อนจะโวยวายใส่เทียนหลางทันที
”นายทำแบบนี้ได้ยังไง นายรู้ไหมว่าสิ่งนั้นมันสำคัญกับทางเรามากขนาดไหน !?”
เทียนหลางที่กำลังโดยเขย่าอยู่นั้นก็เกาหัวตัวเองเบาๆก่อนจะตอบกลับไปว่า
”ฉันไม่รู้และฉันก็ไม่สนด้วย แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอควรจะสนใจนะ”
เมื่อเธอได้ยินคำพูดของเทียนหลางเธอก็ชะงักเล็กน้อยก่อนจะถามออกไปด้วยความสงสัย
”สิ่งที่ฉันควรสนใจ ?”
เทียนหลางพยักหน้าพร้อมกับอธิบายเพื่อคลายความสงสัยให้กับเธอ
”อีกไม่นานหน่วยเก็บกวาดของจีนก็จะมาถึงแล้ว ฉะนั้นเธอควรไปจากที่นี้ซะแล้วอีกอย่างสิ่งที่ต้องการตอนนี้ก็กลายเป็นผงไปแล้วเธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี้อีกต่อไป”
เทียนหลางคลายมือของเธอออกจากเบาๆก่อนจะพูดต่อว่า
”หรือถ้าหากเธอยังคงดึงดันจะอยู่ที่นี้ ฉันก็คงจะต้องฆ่าพวกเธอซะ”
เมื่อทันทีที่เธอได้ยินคำขู่ของเทียนหลางเธอก็ชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะพูดกับเทียนหลางว่า
”นี่นายกล้าขู่ฉันงั้นเหรอ ? วาติกันของเราเป็นหนึ่งในองค์กรลับระดับโลกการที่นายกล้ามาขู่พวกเรานั้น นายคิดเหรอว่าจะรับผลที่ตามมาได้ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินคำพูดของเธอก็ส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า
”เธอคิดองค์กรนั่นจะปกป้องเธอได้ในตอนนี้งั้นเหรอ ดูรอบตัวเธอสินะมีแค่ทหารไม่กี่หยิบมือกับนักวิจัยอีกไม่กี่คนแถมเธอยังมาอยู่กลางดินแดนน้ำแข็งอันห่างไกลอีกหากเธอและคณะมาตายที่นี้ใครจะไปรู้ หรือต่อให้รู้แล้วพวกเขาจะรู้งั้นเหรอว่าใครเป็นคนทำ ?”
เมื่อเทียนหลางกล่าวจบเขาก็ยิ้มออกมาเล็กน้อยคำพูดและท่าทีใจเย็นของเทียนหลางสร้างความตกตะลึงให้กับฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างมาก และแน่นอนว่าพวกเขานั้นล้วนเห็นด้วยกับอีกฝ่ายพวกเขาจากบ้านมาไกลเพื่อมายังที่ขั้วโลกเหนือแห่งนี้ พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรลับหากพวกเขาหายไปใครเล่าจะรู้เดิมทีตัวตนของพวกเขาก็ถูกปิดเป็นความลับอยู่แล้วฉะนั้นการหายไปของพวกเขานั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
ทางด้านหญิงสาวก็มองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป ในตอนแรกเธอคิดว่าเทียนหลางจะเป็นเพียงแค่หน่วยรบพิเศษธรรมดาแต่จากที่เธอมองดูท่าทีและคำพูดของอีกฝ่ายนั้นแสดงให้เห็นว่าเทียนหลางนั้นเป็นคนที่ผ่านสมรภูมิมากมาย
ทั้งท่าทีที่ใจเย็น คำพูดที่เด็ด และแววตาที่เงียบสงบจนน่าหวาดกลัวทำให้เธอต้องเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับเทียนหลางไป
ทางด้านเทียนหลางเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายลังเลเขาก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า
”สิ่งที่เธอต้องการก็ไม่มีอยู่อีกแล้ว เธอจะดึงดันอยู่ที่นี้ไปอีกทำไม ? มันคุ้มงั้นเหรอที่จะเอาชีวิตลูกน้องของเธอมาเสี่ยงกับเศษผงนั่น ?”
ทางด้านหญิงสาวเมื่อได้ยินคำพูดเตือนสติของเทียนหลาง เธอก็เริ่มที่จะคิดได้ในตอนแรกเธอสติแตกเพราะสิ่งที่เทียนหลางทำเพราะเธอเสียเวลาตามหาอำพันปีศาจนั่นอยู่หลายเดือนลงทุนลงแรงทุกอย่างที่เธอมีเพื่อค้นหามันจนเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอก็ได้รู้ว่าอำพันปีศาจถูกเก็บไว้ที่ศูนย์วิจัยแห่งนี้
และเมื่อเธอรู้ว่าศูนย์วิจัยแห่งนี้อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลจีนเธอจึงลงทุนติดต่อเพื่อขอนำอำพันปีศาจกลับไปศึกษาและวิจัยภายใต้การดูแลของวาติกัน
แน่นอนว่าทางรัฐบาลจีนนั้นยอมรับข้อตกลงไม่อย่างงั้นเธอคงจะไม่มาอยู่ตรงนี้ แต่เมื่อเธอมาถึงกลับได้เห็นเด็กหนุ่มทำลายสิ่งที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อมันลงกับมือจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เธอจะโกรธเทียนหลาง
เธอคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะปล่อยมือจากเทียนหลางและพูดขึ้น
”คราวนี้ฉันจะยอมกลับไปก่อน แต่อย่าคิดว่าวาติกันจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปง่ายๆนะ”
เมื่อเทียนหลางได้ยินเขาก็ทำได้เพียงแต่ยักไหล่เท่านั้น จากนั้นกลุ่มของคนจากวาติกันก็พากันกลับไปเหลือเพียงเทียนหลางเท่านั้นที่ยังอยู่บริเวณนี้
เทียนหลางถอนหายใจออกมาก่อนจะนำเก้าอี้ออกมาจากแหวนมิติและนั่งลงอย่างใจเย็นพอรอคอยหน่วยเก็บกวาดมาถึงพร้อมกับคิดเกี่ยวกับองค์กรที่เรียกตัวเองว่าวาติกัน
แม้เขาจะไม่รู้ว่าคนพวกนี้มาจากไหนและอยู่ที่ใด แต่เขาก็พอจะรู้ว่าคนเหล่านี้นั้นมีอำนาจมากพอตัวเพราะการที่พวกเขาสามารถมาถึงที่นี้ได้นั้นแปลว่าพวกเขามีข้อมูลของศูนย์วิจัยแห่งนี้อยู่ในกำมืออยู่แล้วนั่นแปลว่าพวกเขามีอำนาจมากพอที่จะเจรจากับรัฐบาลจีน
แม้ตัวเทียนหลางจะอยู่เหนือกฏพวกนี้แต่ก็ใช่ว่าเขานั้นจะสามารถทำอะไรได้ตามใจทั้งหมด เพราะบางอย่างเขาก็จำเป็นจะต้องพึ่งพาคนมีอำนาจในรัฐบาล อย่างเช่นตัวของเลขาไป๋ และนายพลหลิน
และสิ่งที่เทียนหลางสนใจมากที่สุดในองค์กรวาติกันคือพวกเขานั้นรู้ถึงการมีอยู่ของอำพันปีศาจซึ่งโดยปกติแล้วคนเหล่านี้มักไม่น่าจะรู้เรื่องของมัน
เทียนหลางรู้สึกแปลกๆเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้ทั้งเรื่องของอสูรโบราณก่อนหน้านี้ และอำพันปีศาจมันทำให้เขาคิดว่าโลกใบนี้ได้กำลังซ่อนอะไรอยู่อีกมันอาจจะเป็นขุมทรัพย์ หรืออาจจะเป็นหายนะไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนมันก็มีน้ำหนักพอที่จะทำให้เขาและเฟิงหยวนเคลื่อนไหว และแน่นอนว่าเมื่อทั้งคู่เคลื่อนไหวมันย่อมมีผลที่จะตามมาอย่างแน่นอน
เมื่อเทียนหลางคิดได้ดังนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงอนาคตอันใกล้นี้…