ตอนที่ 174 การคำนวณโลลิก่อนรอบคัดเลือกหมี ส่วนหลัง

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

174 สลับฉาก การคำนวณผลประโยชน์ก่อนรอบคัดเลือก ส่วนหลัง

 

บริษัทเซโดนี

บริษัทบราวน์

สหภาพนักผจญภัย

 

คาดกันว่าบริษัทเซโดนีกำลังสนับสนุนนักผจญภัยริโนะซึ่งเป็นตัวเต็งผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์ลำดับสูงสุด

ถึงแม้ว่าจะแตกต่างออกไปจากความจริงก็ตาม

 

ม๊า เนื่องจากเขาอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อดูแลริโนะซึ่งทำเงินได้มากมาย แม้ว่าเขาจะอ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน แน่นอนว่าว่างเปล่ามาก

ไม่ว่าคำพูดของมาร์จูจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ก็ตาม ทุกคนที่นี่ก็ต้องการทำลายอำนาจที่เพิ่มขึ้นของบริษัทเซโดนี

 

เลนนี่บราวน์ ประธานบริษัทบราวน์ได้เรียกตัวกิกซารัส ลูกครึ่งยักษ์ นักผจญภัยชั้นหนึ่งมาเพื่อไม่ให้บริษัทเซโดนีสามารถผงาดขึ้นได้อีกต่อไป

 

คุคุริจิฟ・อีฟ ผู้นำสหภาพนักผจญภัย ด้วยความภาคภูมิใจและความเคารพต่อกิลด์นักผจญภัย และความไม่พอใจส่วนตัวเล็กน้อย เขาจึงเรียกนักผจญภัยที่แข็งแกร่งที่สุดที่เขารู้จักนามว่า 「ซีออน ความเร็วเสียง」มา

โดยปกติแล้ว วัสดุดิบจากสัตว์อสูร และหินเวทมนตร์ราคาสูงที่ริโนะล่าได้ ควรจะถูกแลกเปลี่ยนทำธุรกรรมผ่านกิลด์นักผจญภัย ในเรื่องนั้น คุคุริจีฟมีความรู้สึกบางอย่างต่อบริษัทเซโดนี

กล่าวสั้น ๆ คือ ความแค้น

 

และ――

 

 

 

――「อ้า มาอีกคนแล้วค่ะ!」

 

 

คิคิเนียซึ่งอยู่ในแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ กำลังค้นหาผู้เข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ และดูเหมือนว่าจะเจอคนที่ต้องการแล้ว

 

ทุกคนที่กำลังเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรส ไวน์ และการสนทนาที่ค่อนข้างไม่ระมัดระวังในร้านอาหารระดับไฮเอนด์ต่างก็หันหน้าไปสนใจ

 

 

――「ผู้ครองฉายา『ปีศาจดาบ』! ชื่อของเขาคือ อาสึมะ・ฮิโนกิ นักดาบผู้ยิ่งใหญ่ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้สร้างชื่อเสียงไว้ไม่น้อยรวมถึงที่อาร์ตัวร์อีกด้วย! ว้าว ตัวจริง! ขอโทษนะค๊า ไม่ทราบว่าจะขอคุยด้วยได้ไหมคะ!?」

 

 

เขาสวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งและมีผมยาวสีดำที่ถูกมัดอย่างยุ่งเหยิง เป็นชายร่างผอมมีหนวดเคราพกดาบคาตานะไว้ที่เอว

 

 

――「หืม? …….อ้า เจ้าต้องการอะไร?」

 

――「ไม่ทราบว่าจะกรุณาพูดด้วยสักเล็กน้อยได้ไหมคะ!」

 

――「ข้าไม่ว่าอะไร ถามมาสิ เด็กน้อย」

 

 

ปีศาจดาบ อาสึมะ・ฮิโนกิ มีหน้าตาบูดบึ้ง แต่ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร เขายอมตอบคำถามง่าย ๆ ของผู้สัมภาษณ์ด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ

 

“เริ่มแข็งแกร่งขึ้นแล้วสินะ ไอ้สารเลว”

 

คุคุจิริฟกำลังมองไปที่แผ่นคริสตัลเวทมนตร์อย่างจริงจัง เนื่องจากงานของเขาทำให้มีโอกาสได้พบกับปีศาจดาบหลายครั้ง เขารู้สึกว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น

 

ใช่ เขาจำได้อย่างแม่นยำ ทันทีหลังจากการประกาศจัดงานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับอาณาจักรอย่างเป็นทาง เขาก็มาขอรับเงินจำนวนหนึ่ง และหายตัวไปในอากาศหลังประกาศว่า「ข้าจะไปฝึก」

นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเขาในรอบหนึ่งปีนับตั้งแต่การจากกันครั้งนั้น

 

“โอ้ว ดูมีฝีมือขึ้นนิดหน่อย”

 

คนที่พูดอย่างภาคภูมิใจคือฮัดแวร์・เบอร์กาเนอร์ หัวหน้าสหภาพช่างตีเหล็ก แม้ว่าเขาจะแก่แล้ว แต่เขาก็ยังคงเป็นช่างตีเหล็กที่มีทักษะ

 

ปีศาจดาบอาสึมะ・ฮิโนกินั่นเองก็ได้รับการสนับสนุนจากสหภาพช่างตีเหล็ก

ในประเทศนี้มีช่างตีเหล็กเพียงไม่กี่คนที่สามารถดูแลดาบคาตานะได้ เนื่องจากความสัมพันธ์นั้น เขาจึงถูกขอให้กลายเป็นม้าศึกของสหภาพช่างตีเหล็ก แลกกับการที่เขาจะได้รับกาดูแลจนกว่าจะถึงการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ และเขาก็ตอบตกลง

 

――แน่นอนว่าเป้าหมายคือการคุกคามนักผจญภัยริโนะ และบริษัทเซโดนี

 

จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้สนใจริโนะเลย

ยังไงก็ตาม บริษัทเซโดนีก็ได้เริ่มต้นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับวิงค์โร้ด นั่นคือจุดเริ่มต้น

 

พวกเขากำลังเตรียมตัวโดยมองไปที่อนาคตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ในลักษณะที่เป็นชัยชนะของสหภาพช่างตีเหล็ก

 

ฮัดแวร์คาดการณ์ว่าวิงค์โร้ดจะได้รับความนิยมมากขึ้นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ด้วยพลังอันเต็มเปี่ยมของสหภาพช่างตีเหล็ก พวกเขาจึงพยายามฝึกอบรมนักต่อเรือเหาะที่เชี่ยวชาญเรือแข่งขันสำหรับวิงค์โร้ด

นักต่อเรือของอาร์ตัวร์ที่สามารถสร้างได้ทั้งเรือ และชิ้นส่วนได้ด้วยตัวเอง

 

การสร้างเรือในประเทศนั้นถูกกว่าและหาซื้อได้ง่ายกว่าการสั่งต่อเรือจาก แว็ง เดอ ครุช และพวกเขามีความทะเยอทะยานที่ว่าสักวันหนึ่งจะสร้างเรือแข่งขันที่สามารถกลายเป็นคู่แข่งกับจักรวรรดิการบินได้

 

――ความทะเยอทะยานนั้นสูญเปล่า เพราะสิ่งที่ไม่สามารถเข้าใจที่ปรากฎบนเมจิกวิชั่นอย่างคาดไม่ถึง

 

แทนที่จะเป็นในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ความนิยมของวิงค์โร้ดกลับพุ่งสูงขึ้นในช่วงหนึ่งฤดูกาล

สหภาพช่างตีเหล็กพลาดขึ้นเรือเที่ยวนี้ไปโดยสิ้นเชิง

 

ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่พวกเขากำลังจะเริ่มเตรียมต้นการเตรียมพร้อมอย่างร้อนร้น มีเพียงบริษัทเซโดนีเท่านั้นที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของสถานการณ์ได้

ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์และผลกำไรทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับวิงค์โร้ดจึงไหลไปที่บริษัทเซโดนี

 

เลวร้ายที่สุด

สหภาพช่างตีเหล็กควรจะเป็นคนคุมก้าวกระโดดครั้งใหญ่เกี่ยวกับโครงการของวิงค์โร้ด แต่พวกเขาก็พลาดท่า และตกขบวนไปในที่สุดอย่างคาดไม่ถึง ไม่เพียงแค่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเท่านั้น พวกเขายังไม่สามารถแม้แต่จะข้ามเส้นสตาร์ทได้

 

แม้จะยังมองไปยังอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่ก่อนอื่น พวกเขาจะใช้เวลาสองสามปีเหล่านั้นเพื่อชดเชยเวลาที่เสียไป ดังนั้นจะทำให้ดีที่สุด

 

――ทว่า พวกเขาก็ยังอยากแก้แค้นบริษัทเซโดนี แม้ว่าจะทำเงินได้มากมายจากความสัมพันธ์ของพวกเขากับริโนะ แต่ก็ยังคิดที่จะดูดผลกำไรของทุกสิ่งไปอีกงั้นรึ

 

ยิ่งไปกว่า ไม่รู้ว่าพวกเขาไปหามาได้จากไหน แต่จู่ ๆ ก็สามารถจ้างวิศวกรเรือเหาะจำนวนมากมาได้ เห็นได้ชัดว่ามีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อมุ่งสู่ธุรกิจวิงค์โร้ด

 

บางทีพวกเขากำลังพยายามต่อสู้กับสหภาพช่างตีเหล็ก ไม่สิ คิดว่าพวกเขากำลังพยายามยึดครองสหภาพมากกว่า

 

เขามีทั้งข้อสงสัย และเหตุผลหลายประการ แต่สำหรับตอนนี้ เขาได้เตรียมปีศาจดาบมาเพื่อบดขยี้ทำลายริโนะ จุดประสงค์ก็เพื่อหยุดบริษัทเซโดนี

 

ที่เลวร้ายสุดมีแค่ริโนะ

เขาหวังจะสามารถเอาชนะริโนะได้ จากนั้นก็ล้มมม้าศึกของคู่แข่งคนอื่น ๆ และคว้าแชมป์มาได้ อยากให้ช่วยแพร่กระจายชื่อเสียงของสหภาพช่างตีเหล็ก

 

นั่นคือสิ่งที่ฮัดแวร์ปรารถนา โดยมีความคิดมืดมนมากมายวนเวียนอยู่ในใจ

 

 

 

ผู้คนหลายสิบคนที่นี่เป็นผู้ประสบความสำเร็จไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

และแต่ละคนก็มีม้าศึกเป็นของตนเอง

 

พี่น้องเคดนักล่าเงินรางวัลผู้มีชื่อเสียงในด้านทักษะของเขา พี่น้องเผ่าเสือคลั่งที่หายาก

เรสตราเป็นนักผจญภัยที่เชี่ยวชาญด้านการยิงธนูและเวทมนตร์ และได้สร้างวิธีการต่อสู้ที่ไม่เหมือนใครโดยการหลอมรวมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกัน

แกนดอล์ฟ นักสู้ผู้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้ช่วยอาจารย์ของสำนักทลายสวรรค์ ประจำสถาบันการศึกษาอาร์ตัวร์ได้ในวัยยี่สิบกลาง ๆ 

 

อาวาน นักล่าเงินรางวัลถูกคว่ำบาตรจากสำนักดาบอัลฟอน เนื่องจากพฤติกรรมที่ไม่ดีของเขา แต่มีข่าวลือว่าที่เขาถูกไล่ออกจริง ๆ เป็นเพราะว่าเขาแข็งแกร่งเกินไป

อู๋หลง โอเฟย อาจารย์ผู้ฝึกสอนวิชาขาแกร่ง อะโดร่า ประจำสาขาอาณาจักรอาร์ตัวร์

น่าเสียดาบที่เบกเกอร์ นักผจญภัยที่รู้จักกันในนาม「ดาบแดงชดช้อย」ที่แม้ว่าจะลงทะเบียนเป็นผู้เข้าร่วม แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีใครพบเห็นเขาตั้งแต่ที่ออกจากอาร์ตัวร์ไป

 

ไม่เคยมีมาก่อนที่ผู้คนชั้นยอด ฉาวโฉ่ และทรงพลังมารวมตัวกันในที่เดียว

แม้แต่เหล่าพ่อค้าและชายชราที่ยุ่งอยู่กับการคำนวณและคิดว่าผู้เข้าร่วมไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าม้าแข่ง ฉากนี้ก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกเร้าร้อนขึ้นเล็กน้อย

 

 

 

ในขณะเดียวกัน.

เพลิดเพลินกับอาหารและเครื่องดื่มในขณะที่พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้และสิ่งนั้น และเล่นต่อสู้กันด้วยวาจาจิกกัด

 

“จะว่าไปแล้ว ใครคือม้าศึกของคัฟส์ซังกัน?”

 

เป็นครั้งแรกที่คำพูดของใครบางคนมุ่งเป้าไปที่ชายผู้นี้

 

ด้วยการมัดผมอย่างเรียบร้อยและสวมชุดสูท คัฟส์・แจ็คส์เป็นชายที่ให้ความรู้สึกจริงจังและอันตรายเมื่อมองแวบแรก

เขาเป็นผู้ชายรูปร่างผอมบางในวัยสี่สิบกลาง ๆ โดยมีแผลเป็นขนาดใหญ่ที่แก้มซ้าย

 

――คัฟส์มีหน้าที่ดูแลโลกใต้ดินที่นี่ในเมืองหลวงของอาร์ตัวร์ และไม่มีใครรู้ขนาดธุรกิจหรือทรัพย์สินทั้งหมดของเขาแน่ชัด

 

ทว่า เนื่องจากธรรมชาติของธุรกิจของพวกเขา ผู้คนที่นี่จึงต้องติดต่อกับโลกใต้ดินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และบางครั้งก็เข้าไปพัวพันกับปัญหาไม่ว่าพวกเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม

……สรุปก็คือ เป็นคนที่มีความสัมพันธ์กันอย่างตื้นเขิน และคอยจัดการเรื่องยุ่งยากต่าง ๆ ให้

 

คุณไม่สามารถเป็นมิตรมากเกินไป แต่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายก็แยกกันไม่ออก

 

คัฟส์ ในขณะที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนด้วยความคลุมเครือ เขาก็เช็ดปากช้า ๆ แล้วพูด

 

“ผมกำลังจ้างชายนิรนาม ดังนั้นไม่มีการให้สัมภาษณ์”

 

“โอ้ หมายถึงเด็กคนโปรดที่ว่าสินะ”

 

“ไม่เชิง จริง ๆ แล้วมีคนอื่นที่ผมต้องการ แต่ไม่ว่ายังไงก็หาตัวไม่เจอ เพราะเหตุนั้นจึงขอให้เขาเข้ามาแทนที่”

 

――รอเดี๋ยวก่อน

 

ทุกคนในห้องนี้ต่างได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เขาพึ่งพูดไป

 

มีใครบางคนที่ชายผู้ควบคุมโลกใต้ดินคนนี้หาไม่เจองั้นเรอะ?

 

“อยากรู้เกี่ยวเด็กคนโปรดที่ว่านั้นขึ้นมาเลย ใครกัน? นักผจญภัย?”

 

คุคุริจิฟ หัวหน้าสหภาพนักผจญภัยที่ถูกบังคับให้ถามเพราะเรื่องงานของเขา โน้มตัวไปข้างหน้าแล้วถาม คัฟส์ตอบกลับด้วยการหัวเราะ

 

“――ไม่ เขาเป็นเด็ก ตอนนั้นคงอายุสักหกหรือเจ็ดขวบ เป็นเด็กตัวเล็ก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ไม่กี่ปีก่อนเขาสามารถทุบตีปีศาจดาบ อาสึมะได้ฝ่ายเดียว”

 

“”ห๊ะ………?””

 

คัฟส์ที่กำลังพูดอย่างจริงจังมากจนไม่สามารถคิดว่าเป็นแค่เรื่องตลก――จู่ ๆ ก็หันไปมองทางมาร์จู・เซโดนี ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่แสดงปฏิกิริยาใด ๆ

 

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเด็กผู้หญิงผมสีดำ รู้จักไหมครับ? เซโดนีซัง”

 

“ฟุๆๆๆ”

 

มาร์จูยิ้ม

แต่สายตาของเขาไม่ยิ้มตาม

 

“ก็มีที่คิดไว้อยู่ แต่ทางเราคงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าได้”

 

คัฟส์หัวเราะ

ไม่มีใครเห็นอารมณ์ใด ๆ ในดวงตาที่หรี่ลงของเขา

 

“ไม่เป็นไร ที่คุณไม่พูดถึง ผมเข้าใจขอบเขตดี”

 

“ก็เดาว่าแบบนั้น ไม่มีทางที่คุณจะไม่รู้ตัว ――ให้ผมบอกไว้สักนิดก็แล้วกันว่า อย่าไปแตะต้องจะดีกว่า หากคุณเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นศัตรู ก็เท่ากับจบสิ้น”

 

“ผมเข้าใจดีว่านั่นอันตรายยิ่งกว่าความโกรธเกรี้ยวของมังกร คุณทำได้ดีในเรื่องนั้น ผลลัพธ์ก็คือตอนนี้”

 

“……ใช่ผมโชคดี โชคดีจริง ๆ”

 

รอยยิ้มที่ไม่เกรงกลัวของมาร์จูกลายเป็นรอยยิ้มเบี้ยว เมื่อเขานึกถึงความผิดพลาดที่ทำลงไปเมื่อพบกันครั้งแรก

 

หากเขาล้มเหลวในตอนนั้น บางคนที่นี่คงจะประสบความสำเร็จแทนเขาอย่างแน่นอน

และบางทีอาจจะเป็นคัฟส์ผู้นี้ก็เป็นได้

 

 

 

 

 

 

“เน๊ ริโนกิส”

 

“คะ?”

 

เนียซึ่งกำลังดื่มชาอยู่บนเรือเหาะที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเกาะลอยฟ้าใกล้กับเมืองหลวง ามองไปที่ผู้เข้าร่วมทีละคนซึ่งสะท้อนอยู่บนแผ่นคริสตัลเวทมนตร์ และพูดอย่างเบื่อหน่าย

 

“ทุกคนดูอ่อนแอ ฉันเดาว่าเธอคงได้แชมป์แล้วล่ะ”

 

“ไม่หรอกค่ะ ยังมีปีศาจดาบอะไรสักอย่าง ดิฉัน ที่เคยตัดแขนของดิฉันมาก่อน”

 

“นั่นเป็นเรื่องกี่ปีกันแล้ว?”

 

“ดิฉันไม่มีวันลืมหรอกนะคะ เรื่องที่คุณหนูแอบหนีไปลานประลองใต้ดินนั่น”

 

“……หางานให้ตัวเองซะแล้วสิ”

 

เด็กที่ได้รับการกล่าวขานว่า 「อันตรายยิ่งกว่าความโกรธเกรี้ยวของมังกร」 และลูกศิษย์หมายเลขหนึ่งของเธอกำลังมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานคัดเลือก ช้ากว่าผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ครึ่งวัน