มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่136 ไป๋หงกวง

เมื่อคนอื่นเห็นฉากนี้ พวกเขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวและถอนหายใจ ในสายตาของพวกเขา มู่เซิ่งช่างไม่รู้ผิดชอบชั่วดีเอาซะเลย ทั้งๆที่ไม่รู้จักถังเสี่ยวเยว่ด้วยซ้ำ แต่กลับอยากทะเยอทะยานติดต่อกับเธอให้ได้ ถังเสี่ยวเยว่เป็นใครพวกเขาไม่รู้จักหรอ?คราวนี้ดีเลย ไม่เพียงแค่ถูกกระทืบ ยังต้องถูกไล่ออกจากงานด้วย

แต่ในสายตาของผู้คน กลับไม่มีความสงสารเมตตาปรานีแม้แต่น้อย ไอ้หมอนี่มีวันนี้ได้ มันเป็นเรื่องที่เขาสมควรเจอ!

มู่เซิ่งบิดตัวไปมา ขยับคอเล็กน้อย ก็สามารถหลบหมัดของไป๋เสี่ยวเสียนได้ หลังจากนั้นก็ถีบเข้าไปที่ท้องน้อยของไป๋เสี่ยวเสียน

การถีบครั้งนี้ไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่ก็เพียงพอทำให้ไป๋เสี่ยวเสียน ใช้สองมือของเขากุมท้องไว้ได้ แล้วร้อวโอดครวญอยู่กับพื้น เสียงดังตุ๊บกับพื้นหนึ่งครั้ง

“เชี้ยเอ้ย แกกล้าลงมือทำร้ายคนอื่น!”

ไป๋เสี่ยวเสียนมองไปที่มู่เซิ่งอย่างโกรธเกรี้ยว ตั้งแต่เล็กจนโต มีแค่เขาที่รังแกคนอื่น แต่ตอนนี้เขากลับถูกไอ้คนไม่เอาถ่านทำร้าย?

เขายกมือถือขึ้นมาอย่างสั่นๆ แล้วโทรศัพท์ออกไป“พ่อครับ มีคนทำร้ายผม อยู่ที่ชั้นบนสุด!”

จางฮุยมองดูอย่างตื่นเต้น แม้แต่ผู้นำของตระกูลไป๋ก็มาด้วย ชะตากรรมของมู่เซิ่ง คงต้องน่าเวทนาแน่นอน สิ่งนี่คือเรื่องที่เขาอยากเห็นมากที่สุด เขาจะทำให้ไอ้เศษสวะนี่รู้ให้ได้ว่า เศษสวะ ยังไงก็เป็นเศษสวะอยู่วันยังค่ำ

เขาทำเป็นเข้าไปพยุงไป๋เสี่ยวเสียนด้วยความเป็นห่วง แล้วถามไถ่ว่า“ไป๋เสี่ยวเสียน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ตอนนี้ไป๋เสี่ยวเสียนถูกความโกรธเข้าครอบงำไปหมดแล้ว เขาชี้ด่ากราดไปที่มู่เซิ่ง“แกซวยแน่ ตอนนี้พ่อฉันกำลังขึ้นลิฟต์มาที่นี่ แกคอยดูเถอะ!”

รปภ.พวกนั้นคิดไม่ถึงว่า มู่เซิ่งจะกล้าลงมือทำร้ายไป๋เสี่ยวเสียน ถึงแม้ว่าไป๋เสี่ยวเสียนจะลงมือก่อน แต่เรื่องมันวุ่นวายมาจนถึงตอนนี้ ถ้าถูกข้างบนรู้เข้า คงเล่นงานเขาเละแน่?

รปภ.หลายคนถึงกับกรูกันเข้าไป ล้อมมู่เซิ่งไว้ตรงกลาง เตรียมจะลงมือ จัดการกับมู่เซิ่ง

“ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”ในเวลานี้เอง ลิฟต์ก็เปิดออก เสียงมีพลังลอดเข้ามา

“ไป๋หงกวงมาแล้ว!”

“ผู้นำตระกูลไป๋ คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาร่วมงานสมนาครั้งนี้ด้วย”

“หงกวง ทำไมคุณมาไม่บอกผมสักคำเลยล่ะ คุณมาร่วมงานสมนาด้วยหรอเนี่ย?”

ผู้คนต่างพากันเข้าไปทักทายเขา คนที่อยู่ในงานไม่น้อยที่รู้จักกับไป๋หงกวง

ระหว่างที่ทักทายนั้น ไป๋หงกวงก็เดินมาถึงข้างหน้าของหัวหน้ารปภ. แล้วพูดอย่างเยือกเย็น“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“พ่อครับ เป็นเขา เขากล้าทำร้ายผม!”

ไป๋เสี่ยวเสียนแย่งพูดทันที แล้วพูดด้วยเสียงเหมือนจะขาดใจ

หัวหน้ารปภ.กับรปภ.ที่อยู่ด้านหลัง ต่างพากันก้มหน้า ไม่กล้าพูดอะไร

“เขา?”ไป๋หงกวงมองไปที่มู่เซิ่งแวบหนึ่ง จู่ๆก็ทำหน้าอึ้งๆ แทบจะฉี่ราดกางเกง

เชี้ยเอ้ย!

ไอ้หนุ่มคนนี้ เขารู้จักดี!

อาทิตย์ก่อน เขาเป็นคนเดินเข้าห้องทำงานของท่านหลง ในเวลานั้น สีหน้าของท่านหลง ความเคารพนับถือที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ภูมิหลังของมู่เซิ่งว่าเป็นใครมาจากไหน แต่ว่า แม้แต่คนที่ท่านหลงยังให้ความเคารพนับถือ เขาที่ยืนอยู่ต่อหน้าของไอ้หนุ่มคนนี้ ไม่มีค่าอะไรด้วยซ้ำ?

ตอนนั้นเขาเคยเห็นแผ่นหลังของมู่เซิ่ง ยังจำมันได้ดีอย่างชัดเจน เขาคือชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเสน่ห์!

“คุณผู้ชายท่านนี้ มายังไงครับ”

ไป๋หงกวงรีบอสดงสีหน้าประจบสอพลอทันที แล้วพูดอย่างเคารพนอบน้อม

การประฏิบัตินี้ ทำให้แขกที่อยู่ในงาน เสียงแตกฮือทันที

ไป๋หงกวงมาอย่างก้าวร้าว แต่สุดท้ายไม่เพียงแต่ไม่ตำหนิชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แต่กลับเข้ามาประจบสอพลอใส่เขา?

ลูกหลานคนรวยเหล่านั้น ต่างพากันเบิกตาโพลง ถึงแม้ว่าตระกูลไป๋จะเป็นตระกูลระดับสอง แต่ตระกูลไป๋ก็มีมานาน ไม่มีใครเคยเห็นไป๋หงกวงเกรงใจคนอื่นขนาดนี้มาก่อน

“นะ……นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”

“ไป๋หงกวง ทำไมถึงต้องนอบน้อมไอ้หมอนั่นขนาดนี้ด้วย”

“หรือพวกคุณไม่สังเกตหรอ ไป๋หงกวง เหมือนจะกลัวไอ้หนุ่มคนนี้มากเลยนะ”

ลูกหลานคนรวยต่างกันวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด พวกเขาอยู่ในเหตุการณ์ ส่วนใหญ่ตำแหน่งใหญ่โตกว่าไป๋หงกวง แต่กลับไม่มีใครสามารถทำให้ไป๋หงกวงก้มหัวทำความเคารพได้ หรือจะเป็นเพราะว่า ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เป็นคุณชายคนใดคนหนึ่งในตระกูลเศรษฐี?

พวกเขาต่างพากันคาดเดา

นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างระหว่างด้านบนและด้านล่าง ของตระกูลชั้นหนึ่ง ความแตกต่างระหว่างทั้งสอง ไม่น้อยไปกว่าความแตกต่างระหว่างสวรรค์และโลก

“ไอ้หนุ่มคนนี้ตกลงเป็นใครกันแน่?”

มีคนเริ่มสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของชายหนุ่มคนนี้

“พ่อครับ พ่อจะคุยแบบนี้กับมันทำไม?เขาเป็นแค่เศษสวะคนหนึ่งเองนะครับ”ไป๋เสี่ยวเสียนรู้สึกมึนงง เขาไม่เคยเห็นพ่อใช้น้ำเสียงต่ำต้อยแบบนี้มาก่อน

ไป๋หงกวงรู้สึกเพียงแค่ว่าขนลุกซู่ ไอ้ลูกกตัญญูคนนี้ กลัวว่าเขาจะตายไม่อนาถอย่างงั้นหรอ?เขาจึงตบไปที่หน้าของลูกชายทันที แล้วตะคอกด่าด้วยความโกรธ“ขอโทษคุณผู้ชายคนนี้เดี๋ยวนี้นะ!”

อย่าว่าแต่เขาเอ่ยปากเลย แค่ท่านหลงเอ่ยปาก ก็สามารถล้างโคตรของตระกูลไป๋ได้แล้ว ไป๋หงกวงจะไม่กลัวได้อย่างไร

“มีสิทธิ์อะไร”ไป๋เสี่ยวเสียนพูดอย่างไม่พอใจ“ฐานะของตระกูลไป๋เรา ทำไมจะต้องขอโทษมันด้วย เขามีสิทธิ์นั้นหรอ?”

ในเจียงหนาน เขาทำตัวอันธพาลจนเคยชิน ขอแค่ไม่ไปล่วงเกินพวกตระกูลชั้นหนึ่ง เขาก็จะสามารถทำตัวเป็นนักเลงแบบนี้ได้ต่อไป เป็นแค่เศษสวะของตระกูลเจียงคนหนึ่ง อิทธิพลของตระกูลเจียง เป็นตระกูลปลายแถวของตระกูลชั้นสอง ยังห่างชั้นกับตระกูลไป๋ของพวกเขาเยอะ ในสายตาของเขา ก็เป็นแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น?

เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋เสี่ยวเสียน ไป๋หงกวงก็แทบจะระเบิด

“กูบอกให้มึงขอโทษไง มึงไม่ได้ยินรึไงวะ!”

ภายใต้ความโกรธเกรี้ยวของไป๋หงกวง เขาเตะไปที่ข้อพับของไป๋เสี่ยวเสียน แล้วกดตัวเขาลงคุกเข่า จากนั้นก็คำรามเสียงดัง“คุกเข่า ให้กับคุณผู้ชายท่านนี้ซะ!”

ตอนนี้ความรู้สึกของเขา รู้สึกเหมือนเดินอยู่บนน้ำแข็งบางๆ ขอแค่มู่เซิ่งโกรธ เกรงว่าทั่วทั้งเจียงหนาน จะไร้ซึ่งตระกูลไป๋อีก

ไป๋เสี่ยวเสียนไม่เข้าใจว่าพ่อของเขาคิดอะไรอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากการออกไปเที่ยวครั้งนั้น เขาก็เกลียดมู่เซิ่งมาก เขาจะขอโทษมันต่อหน้าสาธารณชนแบบนี้ได้อย่างไร?

“พ่อ ผมไม่คุกเข่า ถึงพ่อจะตีผมให้ตาย ผมก็ไม่มีวันคุกเข่าให้ไอ้เศษสวะนี่เด็ดขาด!”

ไป๋เสี่ยวเสียนต่อต้าน

เศษสวะ?

เขากล้าพูดได้อย่างไรว่าคุณผู้ชายท่านนี้เป็นเศษสวะ?

ไป๋หงกวงหัวใจเต้นรัวแรง แล้วยิ้มส่งให้กับมู่เซิ่ง จู่ๆร่างกายของเขาก็กระตุก เสียงดังปึ้ง คุกเข่าให้กับมู่เซิ่ง

“คุณผู้ชายครับ ผมสั่งสอนลูกชายไม่ดีเอง ถึงทำให้เขาไม่เห็นใครอยู่ในสายตา ตอนนี้ โปรดให้โอกาสผมได้ไถ่โทษด้วยเถอะครับ!”

ทั่วทั้งงานเงียบสงัด ทุกคนเบอกตาโพลงด้วยความตกใจ มองดูฉากนี้ รู้สึกเพียงแค่ว่าเหมือนมีพายุอยู่ในใจ

ไป๋หงกวง

เป็นถึงผู้นำของตระกูล แต่กลับคุกเข่า?

ถ้าเกิดให้ไป๋เสี่ยวเสียนขอโทษ ผู้คนยังสามารถรับได้ แต่ไป๋หงกวงถึงกับคุกเข่าลง นี่มันเหนือกว่าสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์ไว้

ชายหนุ่มคนนี้ ตกลงเป็นใครมาจากไหนกันแน่?

ทุกคนรู้สึกเพียงแค่ขนลุกขนพอง

เสิ่นหยิงเซี่ยกับจางฮุยทั้งสองคน ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขาอย่างเหม่อลอย มองดูฉากที่อยู่ตรงหน้า ด้วยจิตใจล่องลอย

นี่เป็นไอ้คนไม่เอาถ่านที่เธอรู้จักรึเปล่า?

“ผมเข้างานแถลงข่าวก่อนนะ เรื่องนี้ รอผมออกมาค่อยว่ากัน”มู่เซิ่งพูดอย่างเรียบเฉยแล้วหันหลังเดินจากมา

“ครับ ผมจะคุกเข่าอยู่ตรงนี้ รอคุณผู้ชายเดินออกมานะครับ”

ไป๋หงกวงกล่าว ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ถ้าคุกเข่าอยู่ตรงนี้ จะสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้ เขาก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว

เพียงแต่ ไม่รู้ว่าหลังจากที่เขาเดินออกมา……

ตระกูลไป๋ของพวกเขา จะสามารถอยู่ในเจียงหนานต่อไปได้หรือไม่

ไป๋หงกวงมองไปยังแผ่นหลังของมู่เซิ่ง ตอนนี้ ประตูเปิดออก มีรปภ.นับไม่ถ้วนต่างพากันมองหน้ากันไปมา แต่กลับไม่มีใครกล้าขัดขวาง