*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

——————————————————————————————–

“มาน่าเจ้าคิดดีแล้วรึ?”

เย่เทียนตกใจมากมีคนยอมเป็นทาสคนเขาด้วยงั้นเหรอ?

“เจ้านายคะ, สิ่งที่ข้าพูดข้าคิดดีแล้ว ข้ากล้าสาบานต่อหน้าพระเจ้าเลยยังได้!”

มาริน่าพูดอย่างหนักแน่น.

“ก็ได้!”

เย่เทียนพยักหน้า. ในตลาดทาสนั้นมีทาสหญิงอยู่มากมายแต่ก็มีไม่มากนักที่ดูสวย โดยเฉพาะในเวลานี้ที่โรมทำสงครามได้ไม่สู้ดีนัก. ฉะนั้นเย่เทียนคงทำภารกิจนั้นไม่สำเร็จง่ายๆแน่.

เขาจึงต้องทำทุกทางเพื่อที่จะสะสมทาสหญิงให้ได้เยอะๆเท่าที่จะทำได้.

“ท่านลอร์ดครับ…..พวกมันมาแล้ว!”

สีหน้าของแม็กซ์ดูไม่พอใจหน่อยๆ. มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่ไกลจากประตูนักกำลังเดินเข้ามา. หัวหน้าพวกนั้นเป็นชายแก่พุงโย้. ข้างๆเขาก็เป็นชายวัยกลางคนด้วยคิ้วที่ดูวิปลาส.

พร้อมกับทหารจำนวนหนึ่งข้างหลังพวกเขา.

พระเจ้า, พวกนั้นมีเชือกทุกคนเลยแถมยังดูท่าว่าจะมาหาเรื่องด้วย.

พวกเขาคงไม่กล้าหรอกถ้าเป็นช่วงปกติแต่ตอนนี้เนื่องจากโรมพ่ายแพ้ในสงครามซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทางสภาจึงตั้งข้อสงสัยว่ามีคนในโรมเป็นไส้ศึกให้กับพันธมิตรอิตาเลียนดังนั้นทางสภาจึงประกาศให้จับใครก็ตามที่มีเอี่ยวกับพันธมิตร โดยเฉพาะชาวเมืองอิตาเลี่ยน.

แม้ว่าพายุนั้นจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่มันก็ใช่ว่าจะหายไปเลย.

ดังนั้นพวกชนชั้นสูงตัวจ้อยบางพวกก็ทำตัวหยาบคาย. พวกเขากลั่นแกล้งด้วยความแค้นส่วนตัวแถมทำหลายๆอย่างเพื่อจะใส่ร้ายคนอื่นด้วย.

“ทหาร, จับพวกบาปหนาที่ร่วมมือกับศัตรูทั้งหมดนี่ซะ!”

ชนชั้นสูงตัวอ้วนไม่ให้โอกาสแม็กซ์อธิบายอะไรเลยแม้แต่น้อย. เขาโบกมือแล้วตะโกนอย่างดังมาจากหน้าประตู.

การจะจับตัวแม็กซ์นั่นเป็นเรื่องยากแต่ตอนนี้เขากลายมาเป็นแพะตัวใหญ่แล้ว ใครจะปล่อยโอกาสทองนี้ให้หลุดมือกันล่ะ.

“อะไรกัน….”

….

ทหารประมาณ5-6คนวิ่งเข้ามาพร้อมกับเชือกในมือราวกับหมาป่าที่หิวโหย.

ถ้าเย่เทียนไม่อยู่ตรงนี้ล่ะก็ ครอบครัวของแม็กซ์และมาริน่าคงตายแน่ๆและคงไม่มีใครสามารถมาล้างบาปให้พวกเขาได้.

“ตู้ม!!”

….

ตอนที่ชนชั้นสูงตัวอ้วนนั้นกำลังเพ้ออยู่ว่าจะแบ่งทรัพย์สินของแม็กซ์กับเจ้านายตัวเองยังไงดีก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมาจนเขาหลุดจากภวังค์.

ทหารทุกคนที่พุ่งผ่านประตูมาถูกอัดแรงมากจนปลิวไปทางประตู, หน้าต่างแล้วก็ร่วงกับพื้นไปอย่างแรง.

“บ้าจริง, เจ้าผู้ร้ายที่ร่วมมือกับศัตรูกล้าขัดขืนการจับกุมงั้นรึ! ฆ่ามันให้ข้าที!”

ชายอ้วนชั้นสูงคนนั้นโกรธมากถึงขนาดว่าพูดน้ำลายกระจายแล้วก็จ้องเขม็งพร้อมกับออกคำสั่งทันที.

“หมาใครกัน มันกล้ามาเห่าในนี้!”

เสียงที่ดูต่ำและเหยียดหยามของเย่เทียนดังออกมาจากนั้นเขากับแม็กซ์ก็เดินออกมาข้างนอกช้าๆ.

“เวรเอ้ย, เจ้าโง่นี่มันเป็นใครกล้ามาดูหมิ่นชนชั้นสูง. เจ้าหาคดีใส่ตัวซะแล้ว, ข้าจะต้องเอาเจ้าไปเผาให้ได้!”

พอถูกด่าชนชั้นสูงตัวอ้วนนั้นก็โกรธขึ้นไป.

“ไอ้ชนชั้นสูงกำมะลอตัวจ้อยนี่. เจ้ายังไม่ได้เป็นซะด้วยซ้ำ แต่กล้ามาเรียกตัวเองว่าชนชั้นสูงนี่นะ?”

เย่เทียนเย้ย. เขามองสถานะของชายคนนี้ออกได้ตั้งแต่แว่บแรก, เขาก็แค่ตระกูลใต้อาณัติของตระกูลใหญ่เท่านั้น. ถ้าจะพูดจริงๆแล้วล่ะก็ พวกนี้คือทาส. เจ้านายของพวกมันอณุญาตให้เพิ่มชื่อตระกูลใหญ่เข้าไปในผังตระกูลของมันเพื่อให้ดูยิ่งใหญ่ แต่ในห้องบันทึกชื่อชนชั้นสูงในสภานั้นไม่มีชื่อของชายคนนี้อยู่ในนั้นเลย.

ดังนั้นพวกนี้ก็เป็นแค่ชนชั้นสูงกำมะลอเท่านั้น ไม่ใช่ของจริงเลย.

ก็เหมือนกับแม็กซ์ที่ภักดีกับเย่เทียนในตอนนี้, เย่เทียนมีอำนาจมากพอที่จะให้ตระกูลของแม็กซ์มีเกียรติใช้ชื่อ “ซาตาน” แล้วแม็กซ์ก็จะเป็นชนชั้นสูงกำมะลอผ่านอำนาจของเย่เทียน.

พวกชนชั้นสูงกำมะลอนี้ไม่ใช่ชนชั้นสูงตัวจริงในสายตาของพวกชั้นสูงเลยแต่ในสายตาของพวกชาวเมือง พวกเขาก็เหมือนชนชั้นสูงจริงๆ.

พอรู้สถานะของเขาแล้วเย่เทียนก็รู้สึกขยะแขยงมากกว่าเดิม. ถ้าเขารู้ก่อนล่ะก็คงไม่ต้องทำจดหมายปลอมขึ้นมาให้ยุ่งยากหรอก.

“ไม่ทราบว่าที่กำลังพูดอยู่นี่คือผู้ใดกันครับ?”

พอเห็นท่าทางเย่เทียนดูสุดโต่งมากแถมยังสามารถเปิดเผยสถานะของเขาได้ด้วยคำเดียวได้ชายแก่ตัวอ้วนก็ลดความยโสตัวเองลงแล้วถามด้วยเสียงทุ้ม.

“นี่คือคือซาตาน เย่ เทียน, บุตรเขยของตระกูลจูเลียส, เป็นชนชั้นสูง!”

แม็กซ์รู้เลยว่าตัวเองต้องทำเยี่ยงไรโดยที่เย่เทียนไม่ต้องตอบเลย, เหมือนหมาที่ซื่อสัตย์.

“ซาตาน, ท่านลอร์ด. แม้ว่าท่านจะเป็นชนชั้นสูงในสาธารณรัฐโรมและบุตรเขยของตระกูลใหญ่, โปรดให้ข้าถามท่านด้วยเถิด ข้าไม่ทราบว่าทำไมท่านจึงนับญาติกับพวกนี้นักและท่านดูเหมือนจะปกป้องพวกมันด้วย! หากเป็นเช่นนั้น ข้าคงต้องขอจับกุมท่านเพื่อนายท่านของข้า ท่านสุละเพื่อเกียรติยศของมหานครโรม!”

เมื่อชายแก่อ้วนได้ยินสถานะของเย่เทียน, ความรู้สึกริษยาก็ผุดขึ้นมาในตาของเขาจากนั้นเขาก็สวนไป.

“ปากกล้านัก, ถึงว่าทำไมสุละถึงชอบเจ้า! แต่เจ้าน่ะรีบรนเกินไปนะแล้วเจ้าจะได้รู้ว่าการใส่ร้ายชนชั้นสูงตามใจชอบมันน่ากลัวแค่ไหน!”

เย่เทียนตกใจแล้วก็หัวเราะออกมา, ชายคนนี้ไม่ได้ดูโง่เหมือนลักษณะภายนอกเลย เขาฉลาดมาก. เขารู้วิธีข่มเย่เทียนด้วย.

ลูกน้องของตระกูลสุละ ไม่แปลกแหละที่หมอนี่จะเริ่มปากกล้าพอรู้สถานะของเขา.

“จริงๆเจ้าไม่ต้องอ้างโรมเพื่อมาขยี้ข้าก็ได้! เจ้าบอกว่าแม็กซ์กับคนอื่นๆเป็นพวกสมรู้ร่วมคิด งั้นเอาหลักฐานออกมาให้ข้าดูหน่อยซิ!”

เย่เทียนยิ้มแล้วพูดติดตลก, ดูเหมือนสิ่งที่เขาทำเมื่อตะกี้จะไม่เปล่าประโยชน์ซะทีเดียว.

“ท่านลอร์ด, ข้าได้รับรายงานจากชาวบ้านมา. ครอบครัวนี้มีการติดต่ออย่างลับๆระหว่างแม่ทัพของพวกพันธมิตร. ดูก็รู้แล้วว่าพวกนี้สมรู้ร่วมคิดแถมยังทำให้โรมของพวกเราอับอายอีกด้วย!”

ชายแก่อ้วนพูดอย่างเที่ยงธรรม.

“หลักฐานมา! ไม่งั้นข้าเองก็สามารถหาใครซักคนแล้วไปรายงานว่าเจ้าเองก็เป็นพวกกับพันธมิตรได้เช่นกัน. ข้าหวังว่าเจ้าจะมีหลักฐานดีพอที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่เจ้าพูดได้นะ!”

เย่เทียนค่อยๆพูด.

“ฮึ่ม!”

ชายแก่อ้วนถอนหายใจอย่างแรงจากนั้นก็มองไปทางชาวบ้านวัยกลางคนที่ตามเขามาอย่างเลือดเย็น.

“ท่านลอร์ดครับ ข้าเห็นด้วยตาของตัวเองเลย. ข้าเห็นจดหมายที่มาริน่าเขียนให้แม่ทัพของพันธมิตร, ทั้งรักและเทิดทูน. ข้าจำไม่ผิดแน่….”

ตัวของชายคนนั้นสั่นแรงมากจากนั้นก็กัดฟันพูดในสิ่งที่ตัวเองเห็นไป.

เขาคิดว่าแค่รายงานก็จะได้เงินเยอะๆมาใช้แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเบื้องหลังของแม็กซ์จะมีชนชั้นสูงอยู่ด้วย.

“จดหมายมันเป็นยังไงล่ะ?”

เย่เทียนถาม.

“กระดาษขนาดประมาณ2นิ้ว (อันนี้แปลยากครับเลยขอมั่ว)ไม่มีมุม, เดี๋ยวข้าไปหาให้ครับ, แค่มองแว่บเดียวข้าก็จำได้แล้ว!”

ชายวัยกลางคนรวบความกล้าแล้วพูดไป.

“งั้นก็เข้าไปหาเลย, ถ้าจริงล่ะก็ข้าจะไม่มีวันช่วยแม็กซ์กับตระกูลของเขาแน่! แต่ว่าเจ้าต้องรับผิดชอบต่อคำพูด, การกระทำแล้วก็หลักฐานนั่นด้วยล่ะ!”

เย่เทียนสีหน้าเปลี่ยนแล้วพูดอย่างเยือกเย็นจากนั้นก็เปิดทางให้.

“ท่านลอร์ดซาตาน, บางทีท่านอาจจะไม่รู้ตัวแต่ถ้าหากมีสิ่งใดล่วงเกินโปรดอภัยให้ข้าด้วย!”

ชายแก่อ้วนพูดอย่างภาคภูมิ, เย่เทียนก็ยิ้มอย่างเยือกเย็นให้เฉยๆ.

“เจอแล้ว!”

ไม่นานนักเสียงแห่งความยินดีก็ดังขึ้น….