ตอนที่ 141 สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ 7

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูคอมเมนต์ที่ถล่มทลาย เธอไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรออกไปด้วยซ้ำ คนจากแผนกเทคนิคก็เข้ามาตรวจผู้คนที่คอมเมนต์ถามคำถามเหล่านี้เสียก่อน

“เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว มา ฉันจะแสดงสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ให้พวกคุณได้เห็นเอง!” สวี่หลิงอวิ๋นขยับออกไป จากนั้นนักวิจัยอาวุโสที่อยู่ข้างหลังเธอก็เขยิบมาด้านหน้ากล้องถ่ายทอดสด

ด้านหน้าของเขาปรากฏให้เห็นเหง้าของพืชชนิดหนึ่งที่เรืองแสงอยู่ สมุนไพรทั้งลำต้นถูกแช่เอาไว้ในสารละลายที่มีคุณค่าทางอาหาร ซึ่งมันสามารถมีชีวิตอยู่ได้แม้จะไม่ได้อยู่ในพื้นดินก็ตาม

[นั่นคือสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ใช่ไหม? ไม่ใช่งานศิลปะหรอกเหรอ?]

[ว้าว! มันคือสมุนไพรของเทพเจ้าของจริง รูปร่างดูดีมาก ชอบสุด ๆ ไปเลย!]

สวี่หลิงอวิ๋นคิดในใจกับตัวเองว่า เพราะพวกคุณไม่เคยเห็นมันตอนอยู่ในโคลนยังไงล่ะ

[เหมือนจะเป็นของปลอมนะ พวกเราอยากเห็นข้อมูล!]

[ใช่แล้ว! เอาข้อมูลออกมา! พวกเราบอกว่าอยากเห็นข้อมูลไง!]

[อยากเห็นข้อมูลจัง มันคงผ่านการตรวจสอบจากหลายแผนกแล้วสินะ แต่ทำไมยังไม่ยอมเอาสิทธิบัตรออกมาอีก? ฝ่าบาทโกหกพวกเราหรือเปล่า?]

คอมเมนต์บางส่วนเต็มไปด้วยความคิดเห็นเชิงลบ เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เป็นคนประเภทไหน

ทั้งมีความสุข ผิดหวัง ขุ่นเคือง และอิจฉาริษยา

นักวิจัยยาอาวุโสใช้กรรไกรตัดเปลือกออกมาเป็นชิ้นเล็ก ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนจะใช้มีดขูดเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังออกมาเป็นชิ้นส่วนขนาดเล็ก และวางมันลงบนเครื่องชั่งตราสาร

มีเพียงเสียงปิ๊บที่ดังลอดออกมาจากเครื่องชั่งเท่านั้น

นักวิจัยยาอาวุโสยกข้อมูลขึ้นมาและแสดงให้ทุกคนได้เห็น

[พระเจ้า ข้อมูลสถิติมันช่างน่าเหลือเชื่อมาก จำนวนพลังงานที่สามารถเอามาใช้ได้จริงมีอยู่ถึง 98%!]

[เครื่องชั่งแบบนี้ปลอมผลขึ้นมาไม่ได้ใช่ไหม? งั้นมันต้องไม่ใช่ผลปลอมสิ? สมุนไพรนั่นวิเศษจริงเหรอ?]

[คอมเมนต์บนเป็นอะไร? มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เห็นของดี ๆ ในจักรวรรดิของพวกเราใช่ไหม?]

สวี่หลิงอวิ๋นมองดูคอมเมนต์ทั้งหลาย ก่อนจะยกยิ้มขึ้นโดยไม่พูดอะไร แต่กลับหยิบขวดยาขนาดเล็กในมือออกมา

“ยานี้คือยาที่สกัดออกมาจากสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ มีสรรพคุณช่วยให้ผู้คนฟื้นฟูพละกำลังกลับคืนมาได้ เพียงใช้ยาขวดนี้ขวดเดียวเท่านั้น นักรบที่อยู่ในระดับ 6 ดาวก็จะสามารถฟื้นฟูพละกำลังกลับมาอยู่ในจุดแข็งแกร่งที่สุดได้ในทันที” สวี่หลิงอวิ๋นเขย่าขวดยาในมือ

ขณะเดียวกัน ผู้คนจากแผนกเทคนิคประจำจักรวรรดิที่อยู่ห่างไกลได้ระบุตำแหน่งของผู้คนทั้งหลายเสร็จสิ้นแล้ว และรายงานกับจักรพรรดิโดยตรง

“อะไรนะ?! เกิดเรื่องคอขาดบาดตายแบบนั้นขึ้น! ทำไมพวกเจ้าถึงไม่บอกเรา?!”

เมื่อคิดว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่รักของเขาได้รับความเสียหายร้ายแรงเช่นนี้ จักรพรรดิก็แทบหายใจไม่ออก เป็นลมหน้ามืดล้มลงไป

“ฝ่าบาท อดทนไว้ก่อนพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้พวกกระหม่อมยังมีสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่อีกสองต้น นี่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ท่านอย่าเพิ่งกระวนกระวายไป!” รัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีรู้สึกหวาดกลัวแทบตาย และรีบทูลจักรพรรดิถึงสิ่งที่ต้องการจะทำต่อไป

“พวกเราต้องทำแบบนี้เพื่อตามหาตัวคนร้ายหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? ตอนนี้พวกกระหม่อมหาที่อยู่ของคนพวกนั้นเจอแล้ว เราจะได้รู้ว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

จักรพรรดิทอดสายตามองดูสิ่งของที่แผนกเทคนิคส่งมาให้และหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชี้ตัวผู้ต้องสงสัย

“เอาล่ะ ผู้ดีเก่าพวกนั้นคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อสินะ ถึงกล้ามาแตะต้องของของราชวงศ์ คิดว่าสถานภาพของตนเองมั่นคงมากจนราชวงศ์ไม่กล้าแตะต้องอย่างนั้นหรือ?!”

จักรพรรดิรู้สึกโกรธจัด

“เสด็จพี่ ใจเย็นก่อนเพคะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาจัดการกับพวกเขา” จักรพรรดินีที่นั่งอยู่ด้านข้าง เตือนสติให้จักรพรรดิให้วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใจเย็น “แต่ว่าชนชั้นสูงพวกนั้นมีพืชเพิ่มระดับพลังงานอยู่ในกำมือมากกว่าสิบกว่าชนิด พวกเราอดทนรอก่อนนะเพคะ”

“ถ้าต้องการให้ใครพินาศ ก็ต้องทำให้ผู้นั้นวิกลจริตเป็นบ้าเสียก่อน”

จักรพรรดิกำมือของตนเองแน่นและกล่าวออกมาอย่างขมขื่น

“จักรพรรดินีพูดถูก อดทนกับคนพวกนั้นไปก่อนสักพัก!”

เมื่อไหร่ก็ตามที่สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์เจริญงอกงามเป็นจำนวนมาก เมื่อนั้นก็จะได้เวลาปฏิวัติกับชนชั้นสูงอาวุโสเหล่านั้นเสียที

เดิมทีชนชั้นสูงอาวุโสทั้งหลายคิดว่าราชวงศ์จะต้องถูกโจมตีในคราวนี้ และไม่ได้คาดหวังว่าราชวงศ์จะยังคงทำตัวเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แถมยังดำเนินการถ่ายทอดสดอย่างต่อเนื่อง

อุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นของปลอมหรือสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์นี้มีอยู่จริงกันแน่?

ชนชั้นสูงผู้ยิ่งใหญ่ถึงกับพูดไม่ออกและไม่สามารถแสดงความคิดอะไรออกมาได้

“ต้องทำให้คนรู้เรื่องนี้ให้ได้!” พอลลี่ทุบโต๊ะด้วยความโกรธจัด พวกเขารู้ดีว่าพวกเขาลงแรงมาไกลขนาดนี้ พวกเขาก็ต้องไปให้ถึงสุดทาง ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาไม่รู้จบ

เมื่อใดก็ตามที่ราชวงศ์ได้สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์อันวิเศษเช่นนี้ไปอยู่ในกำมือแล้ว อำนาจของชนชั้นสูงผู้ยิ่งใหญ่ก็จะลดน้อยลงทันที

“ปล่อยสัญญาณเข้าไปได้ไหม?” ชนชั้นสูงผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งพูดท้วงขึ้น

การส่งสัญญาณออกไปในช่วงเวลานี้จะทำให้ผู้คนที่รับไม่ตกเป็นที่สงสัย

“ไม่ต้องกังวลไป ผมมีกำลังคนอยู่ในยานอวกาศลำเลียงอาหาร” ตราบใดที่คนพวกนี้สามารถเข้าถึงสายลับได้ มั่นใจได้เลยว่าข้อความจะถูกส่งต่อโดยเร็วที่สุด

ชนชั้นสูงผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายไม่รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย แม้ว่าพวกเขาจะผ่านอุปสรรคทั้งหลายไปแล้ว แต่กลับยังรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป

ยานอวกาศลำเลียงอาหารมาถึงตรงเวลา

เบลล็อค นีลสัมผัสเหงื่อบนหน้าผากของเขาและมองดูรอบนอก ก่อนจะกล่าวทักทายคู่หูของตนเอง “ฉันจะเอาของไปส่งที่ห้องครัวก่อน เดี๋ยวกลับมา พวกนายช่วยจับตาดูคลังสินค้าไว้ที”

“ไม่ต้องเป็นห่วง! เบลล็อค” คู่หูข้างกายของเขาทำมือเป็นรูป ‘โอเค’ เพื่อแสดงตอบเขา

เบลล็อคขับรถบรรทุกพ่วงซึ่งเต็มไปด้วยเสบียงสำหรับเหล่าทหารทั้งหลายที่อยู่บนดาวเคราะห์หยวนเจีย ในนั้นมีทั้งผัก เนื้อ ไข่ นม และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงเสื้อผ้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์

“หยุด! รายงานชื่อของนายมา!” ทันทีที่เขาเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ฐานทัพ ทหารคนหนึ่งก็หยุดเข้าไว้ขณะที่ในมือทั้งสองถือปืนเลเซอร์

เบลล็อคยิ้มร่าออกมาด้วยความจริงใจ “ผมชื่อเบลล็อคครับ ผมเป็นคนคอยส่งอาหารมาให้ที่นี่ตลอดอยู่แล้ว”

“อืม ไหนขอดูบัตรของนายหน่อย” ทหารยังคงไม่ขยับตัว ขณะมองดูเขาเอาบัตรติดตัวออกมาวางไว้บนฝ่ามือของตนเอง จากนั้นก็เสียบบัตรเข้าไปในเครื่องตรวจจับที่อยู่ในมือ

จนกระทั่งเครื่องตรวจจับส่งเสียงออกมาว่า ‘ข้อมูลถูกต้อง’ ทหารจึงอนุญาตให้เบลล็อคผ่านเข้าไปในครัว

“นายสามารถกลับออกไปได้ทันทีที่วางของเสร็จเรียบร้อยแล้ว” เมื่อทหารมอบหมายหน้าที่ให้เขา แขนกลขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นบนอากาศ และเริ่มขนถ่ายสิ่งของ

และในที่สุดทหารก็ปล่อยทางสะดวกให้กับเบลล็อค

เบลล็อคเคยคิดว่าที่นี่คงจะเข้มงวดมาก โดยคิดไม่ถึงเลยว่าระหว่างทางจะเต็มไปด้วยเหล่าทหารที่ไม่แม้แต่จะเห็นหน้ามาเหลียวแล

ช่างแตกต่างจากความหน้าเลือดในช่วงแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง

เนื่องจากเบลล็อคไม่เห็นคนที่เขาต้องการจะพบ เขาจึงรู้สึกเป็นกังวลเล็กน้อย เขาไม่รู้เลยว่าคนคนนั้นที่คอยติดต่อสื่อสารกับเขาได้ถูกจับตัวไปแล้วหรือยัง หากเป็นเช่นนั้น จะหมายความได้ว่าสถานการณ์ภายในนี้ถูกควบคุมไว้หมดแล้ว

ขณะที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับมัน ทันใดนั้นเบลล็อคก็เหลือบเห็นรูปร่างที่คุ้นเคยกำลังยืนโบกมือมาทางเขาอย่างเงียบ ๆ และนั่นทำให้ตัวเองรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก หลังจากขนถ่ายของเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ไปพบกับผู้ส่งสารที่อยู่บริเวณหัวมุม

“นายมาทำอะไรที่นี่ตอนนี้?!” ชายผู้นั้นไม่คาดคิดว่าเขาจะมาที่นี่ “นายรู้ไหมว่าการที่นายรีบร้อนมาที่นี่ มันจะทำให้พวกเราเป็นอันตรายได้!”

“มีคำสั่งมาจากองค์กร ให้พวกเราค้นหาสิ่งที่พวกเขานำมาถ่ายทอดสดว่าสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จริงหรือไม่”