บทที่ 146 กล้าดียังไง

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 146 กล้าดียังไง

ในเวลานี้ถวนจื่อสาบานกับตัวเองว่า เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นและเขาจะต้องปกป้องเจียงหยุนเอ๋อให้ได้ จากนี้ไปถ้ามีเขาอยู่เจียงหยุนเอ๋อจะไม่มีทางได้รับบาดเจ็บอีกเป็นอันขาด

ซู่จี้งยี้อุ้มเจียงหยุนเอ๋อวิ่งไปทางที่ตนเองคุ้นเคย จนมาถึงหน้าห้องของแพทย์ที่รับผิดชอบดูแลผู้ป่วย จากนั้นก็เคาะประตูอย่างแรง: “คุณชายหลัน คุณชายหลัน รีบออกมาเถอะครับ”

และประตูห้องก็ได้เปิดออก หลันเยว่เฉินชะงักไปเล็กน้อยในตอนที่เห็นซู่จี้งยี้ แต่พอมองดูเจียงหยุนเอ๋อที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่ในอ้อมแขนของซู่จี้งยี้ก็ยิ่งทำให้เขาตกใจมากขึ้นไปอีก

“นี่คือ?” หลันเยว่เฉินขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

ซู่จี้งยี้ไม่มีเวลาพูดมาก เพียงแค่เอียงตัวแล้วเดินเข้าประตูไป จากนั้นก็ค่อยๆ นำร่างของเจียงหยุนเอ๋อวางลงบนเตียงอย่างระมัดระวัง

“หม่ามี้” ถวนจื่อวิ่งเหยาะๆ ไปด้วยพร้อมเรียกเจียงหยุนเอ๋อไปด้วย

เนื่องจากขาของถวนจื่อนั้นสั้นกว่าซู่จี้งยี้มาก เขาจึงต้องเร่งฝีเท้าไล่ตามให้ทัน

เมื่อมาถึงที่หน้าห้อง เขาก็ไม่ได้สนใจหลันเยว่เฉินและเดินเข้าห้องไป จากนั้นวิ่งไปที่ข้างเตียงแล้วคว้ามือของเจียงหยุนเอ๋อมาแนบไว้ที่แก้มของตนเอง: “หม่ามี้ หม่ามี้”

ถวนจื่อพูดปนเสียงสะอื้นเมื่อเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อเลือดไหลเยอะขนาดนี้ เขากลัวว่าเจียงหยุนเอ๋อจะจากตนเองไป

หลันเยว่เฉินปิดประตูแล้วเดินมาที่ข้างเตียง

“นี่คือ?” หลันเยว่เฉินมองดูสองแม่ลูก ทั้งคู่ต่างก็ผมยุ่งและมีรอยฟกช้ำตามร่างกาย แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงจะน่าสงสารยิ่งกว่า เพราะเสื้อของเธอดูยุ่งเหยิงมาก

“คุณชายหลัน นี่คือคุณนายน้อยของพวกเรา เธอไม่ระวังไปเจอเหตุการณ์ที่เลวร้ายเข้า ตอนนี้หมดสติไป คุณต้องช่วยเธอนะ ไม่อย่างนั้นคุณชายลี่เอาผมตายแน่” ซู่จี้งยี้อ้อนวอน

หลันเยว่เฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้หญิงของลี่จุนถิง

หลายปีมานี้ไม่เคยได้ยินเลยว่าลี่จุนถิงมีผู้หญิงด้วย เขาเป็นตัวดึงดูดผู้หญิงก็จริง แต่ตอนนี้จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่ขึ้นมา แม้แต่ผู้ช่วยที่มีความสามารถอย่างซู่จี้งยี้ยังพูดแบบนี้ ดูแล้วคงจะเป็นความจริง

หลันเยว่เฉินเป็นเพื่อนสนิทของลี่จุนถิง ทั้งหนุ่มแล้วก็เท่มาก เพียงแต่ไม่ใช่สไตล์เดียวกับลี่จุนถิง แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนไล่ตามอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเทวดาในชุดขาวก็ค่อนข้างเท่ในสายตาของผู้หญิงส่วนใหญ่เหมือนกัน

“อืม ฉันรู้แล้ว” ในเมื่อเป็นผู้หญิงของลี่จุนถิง เขาไม่มีทางเมินเฉยอย่างแน่นอน

หลันเยว่เฉินโทรศัพท์ไปหาผู้ช่วย: “เตรียมห้องผ่าตัด”

พูดจบก็เตรียมที่จะผลักเตียงผู้ป่วยนี้ออกไป

พอถวนจื่อเห็นผู้ชายแปลกหน้ากำลังจะพาหม่ามี้ของตนเองไป ก็คิดว่าจะต้องพาเจียงหยุนเอ๋อไป ทำให้เจียงหยุนเอ๋อไปจากตนเอง เขาจึงไม่ยอมปล่อยมือและกุมมือเจียงหยุนเอ๋ออย่างสุดชีวิต

ซู่จี้งยี้เดินไปข้างหน้าอย่างจนปัญญา จากนั้นลูบศีรษะของถวนจื่อเบาๆ : “คุณชายน้อย คุณต้องเชื่อฟังนะ คุณลุงคนนี้กำลังช่วยแม่คุณอยู่ ถ้าช้าไปและเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของคุณล่ะก็ พวกเราจะต้องถูกแด๊ดดี้ของคุณด่าแน่ๆ ”

ตอนนี้ซู่จี้งยี้ไม่เพียงแต่กังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของเจียงหยุนเอ๋อ แต่ยังกังวลอีกด้วยว่าหลังจากที่ลี่จุนถิงกลับมาจะต้องเดือดดาลอย่างแน่นอน ต้องรู้ว่าตอนนี้ต่อให้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆของเจียงหยุนเอ๋อก็สามารถทำให้ลี่จุนถิงโกรธจนทนไม่ได้

และตอนนี้ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยคนนี้ก็ยังเป็นสุดที่รักในดวงใจของลี่จุนถิงอีกด้วย

พอถวนจื่อได้ยินแบบนี้ถึงยอมปล่อยมือ แล้วตามซู่จี้งยี้ไปที่หน้าประตูห้องผ่าตัดฉุกเฉิน

พวกเขาต่างก็รออยู่ข้างนอกห้องผ่าตัดอย่างร้อนใจ ส่วนถวนจื่อก็เดินไปเดินมาอย่างกังวล

“คุณชายน้อยไม่ต้องห่วงครับ หม่ามี้ของคุณเป็นคนดีฟ้าต้องคุ้มครองอยู่แล้ว คุณมานี่ก่อนสิ เดี๋ยวคุณลุงจะทำแผลให้” ซู่จี้งยี้พูดพร้อมโบกมือให้ถวนจื่อ

เมื่อครู่มัวแต่กังวลเรื่องเจียงหยุนเอ๋อ ตอนนี้ถึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าถวนจื่อก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน แต่ยังโชคดีที่ไม่ร้ายแรงมาก

“คุณชายน้อย ให้พี่สาวพยาบาลพาคุณไปทำแผลสักหน่อยเถอะ” ซู่จี้งยี้จูงถวนจื่อมาตรงหน้าของตน

แต่ถวนจื่อกลับส่ายหน้า: “ไม่เอา ถ้าหม่ามี้ยังไม่ออกมาผมก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

ส่วนซู่จี้งยี้เองก็จนปัญญา เพราะเขาพอจะเข้าใจถึงอารมณ์ในตอนนี้ของถวนจื่อ จึงทำได้เพียงตามใจเขา

“อย่างนั้นคุณเอาของมาทำแผลให้เขาที่นี่เถอะ” ซู่จี้งยี้ออกคำสั่ง

พยาบาลพยักหน้าก่อนจะเดินไปหยิบยาที่ห้องผู้ป่วย

จากนั้นซู่จี้งยี้ก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรรายงานสถานการณ์ให้ลี่จุนถิงทราบ เพราะถึงอย่างไรเรื่องในคราวนี้ก็ค่อนข้างที่จะร้ายแรง

“ลี่จีถองนางตัวดี!” ลี่จุนถิงที่ได้ยินข่าวจากปลายสายก็โมโหจนเขวี้ยงแก้วที่อยู่ในมือลงกับพื้น

เขาโกรธจนไม่เรียกว่าคุณอาเลยด้วยซ้ำ

“ฉันเตือนเธอหลายครั้งแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะทำเรื่องแบบนี้ได้” ลี่จุนถิงกัดฟัน

ตนเองเพิ่งจะจากไปก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น พอแมวไม่อยู่ หนูเลยร่าเริงสินะ?

ซู่จี้งยี้ทำได้เพียงก้มหน้าและไม่กล้าพูดอะไร เพราะเรื่องในครั้งนี้ตนเองก็มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบมาก

ถึงแม้จะอยู่ในระยะที่ห่างไกลกันขนาดนี้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงความโกรธในตอนนี้ของลี่จุนถิงได้อย่างชัดเจน

ลี่จุนถิงตวาดถามเสียงดัง: “แล้วเธอล่ะ? รีบหาตัวมาให้ฉัน ต่อให้ต้องไล่ตามสุดหล้าฟ้าเขียว ถ้าอยู่ฉันต้องเห็นคน แต่ถ้าตายก็ต้องเห็นศพ”

“ครับ” ซู่จี้งยี้พยักหน้า

ลี่จุนถิงยังสั่งกำชับอีกเล็กน้อย ก่อนจะวางสายไป

ซู่จี้งยี้เดินกลับมานั่งข้างๆ ถวนจื่อและนั่งรอไปพร้อมๆ กับถวนจื่อ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ประตูห้องผ่าตัดก็เปิดออก

ถวนจื่อกับซู่จี้งยี้รีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปหา: “คุณลุงหมอ หม่ามี้ของผมเป็นอย่างไรบ้าง?”

หลันเยว่เฉินดึงหน้ากากลง: “คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว เพียงแต่เธอกำลังท้องอยู่และเกือบจะแท้งไป”

พอซู่จี้งยี้ได้ยินแบบนี้ ก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ถ้าเกิดเขาไปไม่ทันล่ะก็ ไม่อยากจะคิดถึงผลที่จะตามมาเลย

พอได้ยินว่าเจียงหยุนเอ๋อปลอดภัยแล้ว ถวนจื่อก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก: “อย่างนั้นผมเข้าไปเยี่ยมหม่ามี้ได้แล้วใช่ไหมครับ?”

หลันเยว่เฉินก้มหน้ามองถวนจื่อแวบหนึ่ง ก่อนจะยิ้มเล็กน้อยแล้วลูบหัวเขา: “ไปเถอะ แต่เบาเสียงหน่อยนะ อย่ารบกวนการพักผ่อนของแม่หนูล่ะ”

ถวนจื่อพยักหน้าแล้วรีบเข้าไปเยี่ยมเจียงหยุนเอ๋อในห้องผ่าตัด

พอเห็นว่าถวนจื่อไปแล้ว สีหน้าของหลันเยว่เฉินก็จริงจังขึ้นมา: “เรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องพูดกับลี่จุนถิง ตอนนี้ผู้ป่วยร่างกายอ่อนแอมาก ส่วนเด็กเองก็รักษาไว้ได้แล้ว”

“คุณชายหลัน เรื่องนี้คุณเป็นคนพูดกับคุณชายลี่จะดีกว่า น่าจะค่อนข้างชัดเจนกว่า เพราะตอนนี้คุณชายลี่เป็นกังวลมาก” ตอนนี้ซู่จี้งยี้ต้องทำทุกเรื่องอย่างระมัดระวังและรอบคอบมากขึ้นกว่าเดิม

พอซู่จี้งยี้พูดจบก็โทรศัพท์หาลี่จุนถิง จากนั้นก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้หลันเยว่เฉิน

หลันเยว่เฉินรับโทรศัพท์มา: “จุนถิง”

“เยว่เฉิน วันนี้ขอบคุณนายมากนะ” ตอนนี้ลี่จุนถิงได้มาถึงที่สนามบินแล้ว

พอได้ยินว่าเจียงหยุนเอ๋อพบเจอเรื่องแบบนี้ ลี่จุนถิงจึงรอต่อไปไม่ไหว แล้วรีบจองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินกลับมา

“นายไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก ฉันอยากจะบอกนายว่าภรรยาของนายท้อง เธอเกือบจะแท้งเพราะเรื่องนี้ ถ้าซู่จี้งยี้ไปถึงไม่ทัน เกรงว่าจะรักษาเด็กไว้ไม่ได้ แม้แต่คนก็…”

ลี่จุนถิงไม่กล้าฟังประโยคหลัง เขารู้สึกเพียงแค่แผ่นหลังของเขาเย็นเฉียบ เขาจินตนาการถึงวันที่สูญเสียเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้เลย

ลี่จุนถิงหรี่ตาลงเมื่อนึกถึงตัวการที่ทำให้เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นและคิดในใจ: “ลี่จีถอง เธอกล้ามาก!”