บทที่1ตอนจบ・พาร์ทจบ

มีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่ฉีกขาด

「อั่กกก!」

ด้วยความเจ็บปวดและเสียเลือดตัวข้าจึงล้มลง คุกเข่าอยู่กับพื้น

สิ่งที่ข้าทำนั้นง่ายมากก็คือใช้ภาพลวงตาซ้อนภาพลวงตาอีกชั้นหนึ่ง

แต่ว่ามันเป็นไปได้เหรอ?

เนื่องจากการทำแบบนั้นมันจะทำให้ตัวของ “เกนมุ(คมดาบผ่ามายา”มองเห็นได้ยากมาก

เพื่อสกัดกั้นจึงใช้ภาพลวงตาไปในทิศทางเดียวกันโดยที่ข้าจะต้องไม่เบี่ยงวิถีของมัน

อาจารย์ทำสิ่งที่ยากกว่าข้ามากกว่ายิ่งกว่างมเข็มอีก

ความแตกต่างทุกอย่างนั้นเห็นได้ชัดทั้งประสบการณ์ ไม่มีอะไรที่ข้าจะชนะได้เลย

“ไม่สามารถเอาชนะได้”คำพูดของอาจารย์สะท้อนความคิดของข้าที่กำลังจมปลัก

「โนโซมุปลดปล่อย”พันธนาการ”ซะ」

(หะ)

「แกน่าจะรู้ตัวดีการจะเอาชนะข้าได้คือการปลด”พันธนาการ”ออกซะ」

(ถ้าใช้ละก็อาจจะเอาชนะอาจารย์ได้ก็ได้)

นั่นเป็นวิธีเดียวที่จะเอาชนะอาจารย์ ข้าตระหนักได้ถึงความเป็นไปได้เดียว

ยังไงก็ตามข้านึกถึงฝันนั่น

เทียแมทที่อยู่ในทะเลแห่งความฝันและความวิตกกังวลในตอนนั้น ดวงตาของผู้ชายที่ข้าเห็นในความฝันนั่นคือความหวังที่ต้องการจะมีชีวิตอยู่

อาจจะเป็นเพราะเป็นจิตวิญญาณเทพมังกร แม้ร่างกายจะตายไปแล้ว แต่จิตยังคงอยู่

และ”พันธนาการ”อาจมีไว้เพื่อผนึกพลังของหมอนั่นรวมถึงจิตวิญญาณด้วยนั้น?

(หากปลดปล่อยมันออกมาเป็นไปได้ไหมที่หมอนั่นจะถูกปลดพันธนาการมาด้วย……)

「………………………………」

…………ข้าไม่สามารถทำได้ ถ้าข้าปลดปล่อยเทียแมทมันจะเข้ามาควบคุมตัวข้ารึไม่ก็ไม่รู้ แต่การเอาชนะอาจารย์ก็มีแต่ต้องปลด”พันธนาการ” แต่ถ้าข้าไม่ทำยังไงก็ต้องตาย

「ยังลังเลอยู่สินะ」

อาจารย์ยังคงพูดเช่นนั้น ข้ายกดาบเพื่อป้องกันการโจมตี แต่การเคลื่อนไหวข้าช้าลงเพราะบาดแผลก่อนหน้านี้

ข้าพยายามหลีกเลี่ยงมันให้ได้มากที่สุด แต่อาจารยก็ฟาดฝักดาบเข้ามาที่ตัวข้า

「อั่ก เอือก อ๊ากก!」

การโจมตีของอาจารย์ทำให้ข้าเจ็บปวดไปทั่วร่างเลือดที่ไหลไม่หยุดทำให้สติข้าเริ่มมืดมน

“จะตายอีกแล้วยังงั้นเหรอ?”

บางทีอาจจะเป็นเพราะลังเลที่จะต้องสู้กับอาจารย์ทำให้ข้าต้องเป็นเช่นนี้ “อยากจะรอด”แต่ไม่ได้รู้สึกอยากจะ“สู้กับอาจารย์”สติของข้าค่อยๆเลือนลางไปเรื่อยๆ

ตอนนั้นเองตอนที่ข้าจ้องมองไปทางอาจารย์ข้าก็เห็นว่าใบหน้าของเธอบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัดราวกับต้องฝืนทำอะไรที่มันทรมานใจตัวเอง

“ทำไมถึงต้องทำแบบนี้ละครับ?”

ข้าที่ทำหน้าเหมือนกับถามเช่นนั้นเธอจึงพูดออกมาพร้อมกับร้องไห้

「โนโซมุ ข้าน่ะใกล้จะตายแล้ว ไม่นานนี้เองข้าก็จะจากไป」

◇◆◇

ข้าขอโทษ ขอโทษจริงๆ โนโซมุ

ข้าขอโทษที่ต้องทำแบบนี้กับเจ้า ข้าขอโทษที่ต้องทำร้ายเจ้าถึงเพียงนี้

แต่นี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วละอย่างน้อยช่วยตอบสนองความเห็นแก่ตัวครั้งสุดท้ายของยายแก่คนนี้ที

ในขณะที่คิดอย่างนั้นด้วยความสิ้นหวังข้ายังคงโจมตีโนโซมุต่อไป แววตาของเขาเข้ามาในดวงตาของข้า

สายตาของโนโซมุไม่มีความตั้งใจที่ “อยากจะมีชีวิต”อย่างแรงกล้าเหมือนกับตอนวิกฤตครั้งอื่นๆ ตอนนี้เขามีแต่หวังที่จะตาย

ไม่ได้นะเจ้าน่ะ!เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้! ข้ายังมีอะไรที่อยากจะสอนเจ้าอีกมายแต่เจ้าทำแบบนี้ไม่ได้……….ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเป็นแบบนี้!!

ข้าเกือบจะร้องไห้ออกมาเพราะข้าไม่สามารถบอกความจริงนั่นได้

ข้าต้องพูดออกไป……ไม่งั้นเขาจะไม่ยอมรับความจริงสักที

เพราะเหตุนั้นเอง……………………。

「โนโซมุ ข้าน่ะใกล้จะตายแล้ว ไม่นานนี้เองข้าก็จะจากไป」

◇◆◇

「โนโซมุ ข้าน่ะใกล้จะตายแล้ว ไม่นานนี้เองข้าก็จะจากไป」

หะ กำลังจะตาย? อาจารย์เป็นอะไร? เพราะอะไรกันล่ะ?

「ข้าป่วยเป็น “โรคหลับไม่เลือกที่” เป็นโรคที่จะทำให้ข้าค่อยๆสูญเสียแรงกายไปเรื่อยๆและทุกอย่างจะด้านชาจนสุดท้ายก็ตายในที่สุด เหมือนคนตายตามปกติ」

「เอะ! ถ้างั้นก็ต้องรีบรักษาสิครับ「ไม่มีวิธีรักษา และข้าก็คงมีชีวิตได้อย่างมากต่อไปก็อีกคืนเดียวเท่านั้น」อะไรกัน…………」

「ถ้าข้าควบคุมมันได้มากกว่านี้สักหน่อยละก็ อย่างน้อยก็อยากจะอยู่ให้นานกว่านี้」

「ถ้างั้น! ทำไมถึงไม่!! แม้จะมีเวลาเพียงเล็กน้อยแต่น่าจะทำอะไรได้บ้าง「ข้าน่ะ…………」อาจารย์ครับ!!!!」

อาจารย์เมินคำพูดของข้าและยังคงเล่าต่อไป แต่ว่าคำพูดถัดไปก็หยุดคำถามทุกอย่างของข้า

「ข้ามาที่นี่เพราะถูกครอบครัวทรยศ…………」

「เอะ…………」

「 ข้านะถูกพี่สาวทรยศ ข้าทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง และหนีมายังทวีปแห่งนี้」

จากนั้นเองอาจารย์ก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับครอบครัวของอาจารย์ แต่เขาไม่เคยบอกข้าว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอดูมีความสุขมากๆยามพูดถึงครอบครัว อาจารย์คงจะรักครอบครัวของเธอจริงๆ

「แกกับข้านะคล้ายกันมากเลยใช่ไหมล่ะ โดนหักหลังและโดนหัวเราะเยาะเย้ย ต่างคนต่างหนีความจริง」

ก็เป็นเหมือนที่อาจารย์บอก ข้านั้นละเลยหน้าที่ของตนตอนที่ข้าบอกรักกับลิซ่าข้าก็หนีออกมา

「ข้าไม่อยากจะตายอยู่ในที่แห่งนั้น ข้าเลยหนีออกมาจากที่นั่น」

ข้ายังคงฟังอาจารย์พูดไปอย่างเงียบๆ

「ข้าไม่เหลืออะไรแล้ว แต่ตอนที่ข้าได้พบกับเจ้า เจ้าเหมือนกับข้าในวัยนั้น แต่สิ่งที่เจ้าต่างจากข้าคือเจ้าเป็นคนไม่ยอมแพ้ในชีวิต ซึ่งนั่นเป็นความรู้สึกที่ข้าไม่มีเลย」

「โนโซมุ ได้โปรดละนี่เป็นคำขอสุดท้ายในชีวิตของข้า เป็นความเห็นแก่ตัวของข้า………ข้าที่หนีความจริงมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ ข้ามีบางอย่างจะบอกเจ้า」

เธอพูดพร้อมกับขอร้อง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา

「นี่คือคำขอสุดท้ายของข้า คำขอสุดท้ายในชีวิต เจ้าจะช่วยยอมรับในสิ่งที่ข้าเป็นได้ไหม」

………………คำพูดนั่นทำให้ตัวข้าเหมือนตื่นจากภวังค์

เธอตัดสินใจทางเดินของตัวเองแล้วอย่างน้อยเธอก็อยากเลือกฉากจบของชีวิตด้วยตัวเอง

…………มันเป็นเรื่องง่ายถ้าข้าบอกจะให้เธอใช้ชีวิตต่อไป แต่ว่าเธอเลือกเส้นทางของเธอแล้วเธออยากจะจบมันไว้ที่นี่สินะ? แม้ว่าข้าจะพยายามกล่อมเธอเท่าไรแต่เธอก็ตัดสินใจไปแล้ว

……………………ข้าเองก็ยอมรับว่าตัวเองนั้นหนีความจริงมาโดยตลอด

วิ่งหนี หนีมาตลอดหนีความจริงนั่น “วิ่งหนี” มาโดยตลอด…………

แต่ว่า…………

เมื่อข้าจ้องไปที่หน้าของอาจารย์ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ราวกับเด็กหลงทาง

ถ้าข้ายังหนีจากคำขอของอาจารย์อีคก ข้าก็คงไปพบหน้าใครได้อีกแล้ว นอกเหนือจากนั้น ข้าไม่อยากเห็นอาจารย์ในสภาพนี้เลย!!!

ข้ายื่นมือไปจับโซ่ที่ผูกมัดข้าเอาไว้ ถ้าปลดปล่อย “พันธนาการ” อาจจะโดนเทียแมทกลืนกินได้

แต่ถ้าข้าหนีจากคำขอร้องครั้งสุดท้ายของอาจารย์ไป ข้าจะเสียใจไปตลอดชีวิต!!

ข้าทำลายโซ่ตรวนที่ “พันธนาการ” ด้วยแรงใจอันแท้จริงของข้าเอง

จากนั้นเองภาพตรงหน้าก็มืดลง

◇◆◇

ข้ากลับมาอยู่ที่ทะเลสาปแห่งความฝันอีกครั้ง มีมังกรร่างยักษ์สีดำอยู่ตรงหน้า

“ราชันย์มังกรเทียแมท”

เมื่อมันเห็นข้า มันพยายามเอาเท้าหน้ามาบดขยี้ข้าทันที

ข้ากระโดดถอยหลัง พร้อมกับลงจอดที่พื้นผ่านคลื่นกระแทกนั่น แต่ในเวลานั่นหมอนั่นก็สะบัดหางมาทางข้า

มันเร็วกว่าการต่อสู้ครั้งล่าสุดอย่างเห็นได้ชัด!!!

หางนั่นกระทบเข้าตรงๆโดยไร้ซึ่งความลังเล

「อั่ก!!!」

ตัวข้าลอยไปในอากาศ ร่างกายแหลก แม้จะยังได้สติแต่ความเจ็บปวดก็แล่นไปทั่วร่าง

ข้าไม่สามารถอยู่เฉยได้และไม่รู้สึกถึงแรงกระแทกที่พื้นเลย แต่ข้าคิดว่าสมองข้ามันคงกระแทกซะจนความเจ็บปวดด้านชา

เจ็บปวดไปหมดไม่รู้ว่ามีร่างกายอยู่อีกต่อไปไหม แต่ข้าก็ลุกด้วยแรงทั้งหมดที่มี มันพยายามจะอ้าปากและปล่อยเพลิง แต่รอบนี้ข้ามาพร้อมจิตสังหารที่จะฆ่ามัน!

「ย๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!」

ข้าตะโกนก้องพร้อมกับพุ่งเข้ามาเทียแมท!

ไม่มีเวลาจะมามัวพิจารณาความต่างของพลังแล้ว ยิ่งกว่านั้น………

「ข้าไม่ได้เรียกแกมาสักหน่อย! แกน่ะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้าาาโว้ยยย!!」

ข้าไม่สนใจแกหรอกในตอนนี้!!

เทียแมทปล่อยลมหายใจออกมา ข้าพยายามจะหลบด้วยการเอี้ยวตัวหลบแต่ว่าเขาก็หลบไปได้แค่ครึ่งหนึ่งและเปลวไฟที่เผาผ่านครึ่งหนึ่งก็ดับมอดไป

ข้าไม่สนใจพร้อมกับกระโดดด้วยเท้าซ้ายกระโจนเข้าหาเทียแมท มันส่งเสียงคำรามพร้อมกับคลื่นกระแทก

ทันใดนั้นข้าก็กระโดดเข้าไปในปากของมัน ปากปิดลงและมันก็กัดร่างของข้าทันที

ร่างกายของข้าถูกตัดออกเป็นครึ่งท่อนศีรษะขาด ร่างกายเป็นรูพลุนไปทั่วร่างแต่ก็ไม่ได้กลายเป็นเศษเนื้อ

อย่างไรก็ตามเพราะนี่เป็นโลกแห่งวิญญาณบาดแผลที่ควรถึงตาย แต่มันก็เจ็บปวดได้ไม่นาน

เมื่อข้ามองร่างกายที่ถูกฉีกขาด ร่างกายเหล่านั้นต่างเปล่งประกายท่ามกลางเลือดสดๆ

แสงนั้นมีห้าสีคือ ดำ แดง น้ำเงิน เขียว และ เหลือง ข้าสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลแม้ว่ามันจะเล็ก แต่ก็น่าจะเป็นพลังของมัน

ข้าเข้าถึงแสงนั่นและสัมผัสมัน ร่างการครึ่งล่างสูญเสียอวัยสะภายในไปหมดแล้ว

แขนขวาที่ขาดและแขนซ้ายที่ถูกบดจนไม่เหลือรูปร่าง แทบจะไร้ซึ่งสติไดยินเพียงเสียงที่หลุดรอดออกมาจากปาก

ยังคงยื่นมือออกไป เมื่อมือสัมผัสแสงไฟเหล่านั้น แสงก็ส่องประกายเจิดจรัสจากนั้นสติข้าก็มืดลงอีกรอบ

◇◆◇

เมื่อสังเกตเห็นข้าก็กลับมาที่เดิมแล้ว

「ย๊ากกกกก!!!」

พลังนั่นเอ่อล้นมาทั่วร่าง พลังที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าจิตวิญญาณของข้า

ข้าไม่มีเวลา ถ้ายังปล่อยไว้นานกว่านี้โดนยึดร่างแน่ กรณีเลวร้ายที่สุดก็จะตาย!

อาจารย์มองมาด้วยท่าทางมีความสุข

ถือดาบพร้อมกับเลือดที่หลั่งไหล แต่ว่าข้าไม่สนใจ

「จะลุยละนะครับ!!!」

「เข้ามาเลย!! เจ้าศิษย์โง่!!!」

อาจารย์เองก็ปลดปล่อยพลังมากกว่าเดิม และถือดาบคาตานะไว้แน่น

ข้ายอมรับทุกอย่างที่อาจารย์แบกไว้ ด้วยแรงมุ่งมั่นเช่นนั้น ข้าเข้าไปเผชิญหน้ากับอาจารย์อีกรอบ

◇◆◇

ทั้งสองต่างเปิดใช้ คิ “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ”อีกครั้งและเข้าปะทะกัน เพลงดาบอันแสนซับซ้อนท่ามกลางคืนที่มืดมิดปล่อยให้แสงจันทร์ส่องประกายที่ปลายดาบ

ความเร็วมันมากกว่าเดิมอย่างเทียบไม่ติดแม้แต่นักรบชั้นแนวหน้าก็ยังดูอ่อนหัดไปเลย

เพลงดาบต่างฟาดฟันอย่างรุนแรง แม้จะดูเสมอกันแต่มันมีความต่างอย่างเห็นได้ชัด

การโจมตีของโนโซมุทำให้แขนของชิโนะชาและการโจมตีของชิโนะก็โดนโนโซมุปัดป้องได้หมดในทางกลับกันการประลองกำลังนี้เธอกำลังจะแพ้

แม้ว่าทักษะของชิโนะจะสูงมากแค่ไหนก็ตามแต่ความสามารถของโนโซมุที่ปลด”พันธนาการ”นั้นมันมากมายเหนือคณานับ

ชิโนะเองก็อ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนบ่นออกมาด้วยความขมขื่น

「คุคุคุ!ท้องเจ้าไม่เป็นอะไรงั้นเหรอ! เจ้าศิษย์โง่นี่!!」

「พูดอะไรของอาจารย์ครับ!ไม่มีใครจะมาเปิดเผยช่องว่างให้กับสาวๆได้เห็นหรอกครับ!! อาจารย์เองก็ดูท่าจะแก่จนเลอะเลือนแล้วนะครับ!!!」

「พูดอะไรของเจ้ากันนะ! ไม่ว่าอายุจะเป็นยังไง!!สำหรับผู้ชายที่ไม่เข้าใจจิตใจของหญิงสาวน่ะ นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เจ้าถูกทิ้งยังไงละ!!!」

「เอะ! พูดอะไรของท่านกัน!! ไม่อยากโดนยายแก่ฮิคิโคโมริคลั่งดาบมาพูดแบบนั้นหรอกนะครับ!! ดูท่าจะแก่จนเลอะเทอะมากแล้วนะครับ!ท่านน่ะไร้เดียงสาเกินไป!!!」

「เหอะ ข้านะเหรอไร้เดียงสา!นี่แกกล้าพูดแบบนี้กับอาจารย์ของเจ้างั้นเหรอ!!เอาเถอะ!จะทำลายความอวดดีนั่นให้ดูเอง!!!」

「แน่นอน! ข้าเองก็เบื่อท่าทางอวดเบ่งของอาจารย์เต็มทนแล้ว!อาจารย์เองก็ชอบเล่นมุกบ่อยๆใช่ไหมละ!! ถ้างั้นรอบนี้อยากจะตายสักกี่ครั้งดีครับ!!!」

「เอาจริงๆข้าก็ไม่อยากตายหรอนะ เจ้าศิษย์โง่! แต่ตัวข้ามันอยู่ฝั่งแม่น้ำซันสึไปแล้วครึ่งตัวน่ะสิ!!」

(TN:แม่น้ำซันสึ แม่น้ำแห่งความตาย)

「แบบนั้นก็แย่สิครับーーーーー! ทำไมถึงต้องมาตายเพราะคนตบมุกด้วยฟะเนี่ย!!!!」

「อย่าไปห่วงเรื่องแบบนั้สิเจ้าโง่นี่! ไม่เป็นไรหรอกยังไงข้าก็จะกลับมา!!」

「แบบนั้นน่ากลัวตายชักーーーーーーー! 」

การต่อสู้ไปพูดไปพร้อมกับใช้เทคนิคขั้นสูงมันเป็นอะไรที่โครตเส็งเคร็ง แม่มเอ้ยความตึงเครียดหายไปหมดเลย

ระหว่างที่ใช้ “ก้าวพริบตา- เพลงดาบเริงระบำ”ความเร็วมันสูงขึ้นพละกำลังที่ใช้ก็มากขึ้น

「ชิ! เมื่อไรจะตายฟะ!!」

「เอะ!นี่แช่งงั้นเหรอ!! นี่แกอยากจะฆ่าคนแก่ขนาดนี้เลยเหรอ!!!」

「ก็แน่สิ!! ก็บอกตั้งแต่แรกแล้ว!! ยัยแก่ที่ชอบขุดแผลใจคนอื่นน่ะลงนรกไปซะเถอะ!」

ชิโนะวางมือบนลงสะโพกและเริ่มตั้งสมาธิ เธอปลดปล่อยพลังจิตและยื่นมืออกมา

คิ“ปืนใหญ่”

เป็นเทคนิคที่จะเป่าคู่ต่อสู้ให้ปลิวด้วยแรงคิที่อัดแน่นไว้

ชิโนะยิงตรงไปทางโนโซมุ ผู้ที่โดนปืนใหญ่นั่นพัดปลิวไป

「ชิ! ศัตรูสำหรับผู้หญิง!!!」

คำพูดนั่นห่างไกลจากหญิงสาวนักชิโนะปลดปล่อยเทคนิคที่ซ่อนเอาไว้

คิ“คมดาบลวงตา”

แม้จะบีดอัดจนคมกริบแต่โนโซมุก็พร้อมที่จะรับมือ

「เหอะนี่ละคนชอบลวงโลก!! อายุนี่ก่ออาชญากรรมได้แล้วนะเฟ้ย!!!」

ข้าเองก็ปล่อยเทคนิคเดียวกันออกไป เทคนิคทั้งสอนเฉือนผ่านกันและภาพลวงตานั่นก็พังทลายทั้งคู่

ภาพลวงตาก็ต้องถูกทำลายด้วยภาพลวงตา

ตอนที่สู้กับเทียแมทเขามีสมาธิมากจนเวลารอบข้างช้าลง เพราะความเข้มข้นของคิที่สูงมากเลยทำให้ดูได้ง่าย

ทั้งสองยังคงปล่อยจิตวิญญาณไปทั่วและปลดปล่อยเทคนิคต่างๆที่มี

「อาจารย์น่ะพอมาคิดดูแล้วนะใหญ่ไม่เบา!!!」

「ไอ้เศษสวะเอ้ย!! นี่มันคุกคามทางเพศชัดๆ!!!」

คิ “คมดาบมายา-หวนกลับ-”

คมดาบจำนวนมากตัดผ่านซึ่งกันและกันจนกลายเป็นเสียงระเบิดดังสนั่น

เทคนิคของทั้งสองเข้าปะทะกัน

โดยใช้แรงโน้มถ้วงจากการหวนกลับของคมดาบ ที่ดาบส่งไป เพื่อเฉือนศัตรูในเวลาเดียที่ดาบพุ่งออกไป

คิ “ขาดสะบั้น”

เป็นเทคนิคทำลายอวัยวะภายในของฝ่ายตรงข้ามโดยการใช้คิเข้ากระแทกร่างกายของคู่ต่อสู ้ ถ้าโดนเข้าอวัยวะภายในจะแหลกละเอียด

ทักษะของทั้งสองก็ยังคงเสมอกันเรื่อยไป

เทคนิคของทั้งสองที่เข้าปะทะกันทำให้เกิดรอยแตกที่พื้น และทั้งสองก็ปลดปล่อยกระบวนท่าถัดไป

ทั้งสองมุ่งสมาธิไปที่มือซึ่งไร้ดาบ

จำนวนคิมันมากมายเหนือกว่าที่เป็นมาจนถึงตอนนี้

พลังของมันทำให้พื้นที่รอบๆแตกเป็นเสี่ยงๆระหว่างนั้นเองเสาไฟทั้งสองก็ปะทุขึ้นมา

คิ“ระเบิดทำลายล้าง”

เทคนิคที่ปล่อยคิทั้งหมดลงไปที่ปลายเท้าของคู่ต่อสู้จนมันผลักดันพื้นดินจนเกิดเป็นเสาแสง

มันมีพลังทำลายล้างที่สูงมาก

แสงสายฟ้าของทั้งสองฟาดเข้าห่ำหั่นกันพื้นดินโดยรอบต่างถูกบดละเอียด

「มากกว่านี้อีกสิเจ้าศิษย์โง่!!!」

「แน่นอนครับ!!!」

ทั้งสองปลดปล่อยกระบวนท่ายิ่งขึ้นไปอีกการต่อสู้ของพวกเขา ร่างกายทั้งหมดล้วนกลายเป็นของมีคมที่ฟาดฟันห่ำหั่นกัน

หมัด ขา เข่า ศอก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นอาวุธฟาดฟันกันจนกลายเป็นดั่งแตงโมสีเลือด

ในที่สุดรอบตัวของทั้งสองแสงที่ปรากฏก็แปรเปลี่ยนเป็นเกลียว

ในความเป็นจริงพวกเขาใช้มันมานานแล้ว

เวทย์พิธีกรรม “คลื่นแห่งชีวิต”

เป็นเวทย์พิธีกรรมที่ใช้การแทรกแซงตามชื่อที่เรียก โดยหยิบยืมพลังของปีศาจจากนอกโลกมา

ก็อย่างที่คาบเรียนของอาจารย์ นอร์น อัลทิน่า ต้นกำเนิดของเวทย์ทั้งปวงก็มาจากการหยิบยืมพลังของสิ่งต่างๆมาใช้

เดิมทีแล้ว“การเต้นรำ”จะถูกอุทิศให้ศาสนาชินโต

แต่การใช้พลังในครั้งนี้คือการหลอมรวมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกันระหว่าง “การเต้นรำ”และ ”เทพ”

บางคนเองก็ใช้การ “เต้นรำ”เพื่อเป็นตัวดำเนินการในการใช้เวทย์พิธีกรรม

เพราะฉะนั้น “คลื่นแห่งชีวิต”นี้จะดูดซับพลังปีศาจโดยรอบและทำให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นยิ่งรวบรวมมากเท่าไรก็จะแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตามการใช้เวทย์พิธีกรรมมีวิธีตายตัวและหากตัดบางส่วนออกประสิทธิภาพจะลดลง

การปะทะกันของสองบุคคลที่กำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆทำให้ต้นไม้รอบๆต่างกระจัดกระจาย

การเต้นรำของทั้งสองยังคงไม่หยุดและแสงพลังของปีศาจก็ไหลเข้ามารวมกันขึ้นเรื่อยๆ

◇◆◇

จู่ๆรอบๆข้างข้าก็เริ่มมืดลง

เพื่อต่อกรกับศิษย์สุดแกร่ง เขาทุ่มทุกอย่างที่มีจนถึงขีดสุด

ถึงอย่างงั้นพวกเราก็ยังสู้สี

เพราะการใช้คิเกินขีดจำกัดทำให้ “โรคหลับไม่เลือกที่”อาการมันกำเริบ คิที่เสียไปไม่สามารถฟื้นฟูได้อีกแล้ว

ตอนนี้เองการตายของข้าก็ถูกกำหนดแล้ว

(อืม………เท่านี้ก็น่าจะพอ)

จ้องมองศิษย์คนสุดท้ายในชีวิตขณะที่คิดว่ามันเป็นเหมือนคนอื่นคนไกล

…………หมอนั่นแข็งแกร่งขึ้นมากจริงๆ มีเพียงไม่กี่คนหรอกที่จะเอาชนะหมอนั่นได้ ถ้าเขาปลด “พันธนาการ” ออก

แม้แต่พวกนั้นก็อาจจะโดนหมอนี่โค่นล้มเอาก็ได้

ตอนนี้หมอนั่นกำลังเผชิญหน้ากับพลังอันยิ่งใหญ่ด้วยตัวของเขาเอง

พลังมหาศาลที่อาจจะบดขยี้ร่างกายนั่นได้ เป็นคนธรรมดาคงกลัวที่จะใช้แต่กลับหมอนี่ไม่ใช่

เขาเผชิญหน้ากับความกลัวเหล่านั้นเพื่อทำตามคำขอของหญิงชราคนนี้

ถึงนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายก็ตาม แต่ว่า………………………………ขอบคุณจริงๆโนโซมุ

◇◆◇

ข้าพยายามอดกลั้นพลังเอาไว้เนื่องจากพลังมันมากเกินไป ข้าไม่สามารถทนอยู่ในสภาพนี้ได้นานนัก

พละกำลังที่ทะลุขีดจำกัดนี่ ข้าไม่สามารถควบคุมการโจมตีได้ด้วยซ้ำ ต้องใช้ไปสักพักถึงจะคุมได้

การเคลื่อนไหวของพลังปีศาจโดยรอบเริ่มหนาแน่นขึ้นทำให้เราต้องตัดสินกันแล้ว

นี่เองก็คงเป็นจุดจบระหว่างข้ากับอาจารย์ที่คอยสอนมาตลอดเวลา

ได้พบกันในป่า

กฏเหล็กที่เหมือนกับนรกนั่น

คอยแนะนำอยู่ห่างๆ

「ยินดีต้อนรับกลับนะ」ที่เคยได้ยิน

ที่นี่น่ะจะเป็นสถานที่ๆอาจารย์ “จะต้องกลับมา”แน่นอน

ทุกอย่างกำลังจะหายไปในไม่ช้า

ข้าเศร้ามากจริงๆ………แม้จะรู้สึกเศร้ามากมายขนาดไหน…………แต่นี่ก็เป็นคำขอสุดท้าย……ในชีวิตของเธอ!

ข้าไม่สามารถแสดงสีหน้าเศร้าสร้อยนั่นให้เธอเห็นได้

ถึงแม้ข้าจะเป็นคนสุดท้ายที่คอยอยู่ร่วมกับอาจารย์ แต่ตลอดเวลาที่ผ่าน……………ข้าขอขอบคุณมากๆ

เวทย์พิธีกรรมมาถึงจุดสิ้นสุด ทั้งสองวิ่งเข้าปะทะกันด้วยแรงมหาศาล

คลื่นกระแทกนั่นทำให้ต้นไม้โดยรอบปลิวกระจายไปหมด

ทั้งสองหันเข้าปะทะกันอีกรอบ

ในขณะเดียวกันก็ส่งพลังทั้งหมดลงฝักดาบและบีบอัดจนถึงขีดสุด

คิ“คมดาบมายา-ชั่วพริบตา-”

เทคนิคดาบที่รวดเร็วที่สุดของทั้งสอง ที่ใส่ความรู้สึกอันมากมายลงไป

ดาบที่แบกความรู้สึกของทั้งสองตัดผ่านกัน

ความเงียบหวนคืนสู่ป่า

ดาบของโนโซมุเหลือเพียงแค่ด้าม

ดาบที่ปล่อยออกมากระทบกันจนดาบของโนโซมุแตกเป็นเสี่ยงๆ

หลังจากนั้นเองอาจารย์ชิโนะก็ล้มลง

「อาจารยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย์!!!」

โนโซมุรีบเข้าไปหาเธอทันทีที่ล้มลง แต่ใบหน้าของเธอกลับซีดและไร้ซึ่งชีวิตชีวา

「……………………โนโซมุ แกแข็งแกร่งขึ้นแล้วนะ…………ข้าไม่มีอะไรจะสอนเจ้าอีกแล้วล่ะ…………。」

「อาจารยยย์ ฮึก…………。」

แม้แต่โนโซมุที่ไม่มีความรู้ด้านแพทย์ก็รู้ได้ว่าอาจารย์นั้นตายแล้ว

「ข้ามีความสุขจริงๆ ที่เจ้ายอมตอบรับความเห็นแก่ตัวของหญิงชราคนนี้…………จำข้าไว้ด้วยละ」

มุมของดวงตาขาเริ่มร้อนผ่าว เมื่อเผชิญหน้ากับการอำลาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โนโซมุก็กลั้นน้ำตาของเขาไม่อยู่

「โนโซมุขอให้เจ้าจงจำไว้」

「แม้ว่าเจ้าพยายามจะหนี แม้ว่าเจ้าจะล้ม แต่จงมองความเป็นจริงว่าเจ้าได้ทำอะไรลงไป ถ้าแกมัวแต่พยายามลืมเรื่องราวเหล่านั้นเจ้าก็จะเป็นดั่งเช่นตัวข้า」

บางทีเธอเริ่มจะมองไม่เห็นรอบข้างแล้ว ตัวของเธอเริ่มเย็นขึ้น

「แม้ว่าข้าจะพยายามหนีสักเท่าไร แม้ว่าจะหยุดไปสักแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรจะลืมมันไป จงก้าวไปข้างหน้าต่อไป แต่อย่าได้ลืมความรู้สึกนี้ไว้…………」

「……………………ฮะ ฮึก อะครับ อาจารย์…………」

เธอยิ้มราวกับโล่งอกที่ได้ยินคำตอบของโนโซมุ

「แค่นี้ข้าก็ดีใจแล้ว………………เพียงเท่านี้ก็อุ่นใจแล้ว」

เธอเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ เป็นพระจันทร์เต็มเดือนที่แสนสงบที่สุด

「โนโซมุ…………………ข้าเหนื่อยเหลือเกิน……………ข้าจะหลับไปตลอดกาล………ไว้พบกันใหม่ในสักวันหนึ่ง」

「…………คะคะครับอาจารย์……ราตรีสวัสดิ์ครับ」

เธอพอใจและค่อยๆหลับตาลงอย่างช้าๆ จนในที่สุดเธอก็หลับไปชั่วนิรันดร์

สิ่งที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังก็คือคนที่ปิดชีพเธอด้วยมือคู่นี้ ด้วยมือของศิษย์คนนี้

◇◆◇

เป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้วที่โนโซมุสอบขึ้นปี 3 ได้

การทดสอบทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี…………。

โนโซมุนึกถึงตัวเองในตอนนี้

ตอนนี้ตัวข้าที่ยังคงหยุดนิ่ง เรื่องของลิซ่า เรื่องของสถาบัน และตัวข้าเอง

อยากจะหนีอีกเท่าไรก็แล้วแต่เจ้า แต่อย่าได้หยุดนิ่ง

แต่ว่าแม้เจ้าจะหนีไปเพียงใดก็จงหันกลับมามองความเป็นจริง

คำพูดสุดท้ายของอาจารย์ที่ยังคงเหลืออยู่ในใจข้า เป็นจุดมุ่งมั่นครั้งใหม่ ข้าเริ่มก้าวเข้าสู่รั้วของสถาบันของโซลมินาติอีกครั้งหนึ่ง