โครงการเลเวล6ได้หยุดชะงักไปแล้ว วู่หยานจึงสามารถกลับมาผ่อนคลายได้อีกครั้ง ตอนนี้จะไม่มีซิสเตอร์คนไหนตายอีกแล้ว ตราบใดที่ไม่ตายซักวันหนึ่งเขาก็ต้องสามารถช่วยพวกเธอได้ครบทุกคน
เวลากลางวัน วู่หยานจะเดินเล่นในเมืองแห่งการศึกษาโดยมีสายงามคอยนำ เดินไปทั่วกับสาวๆนับว่าเป็นอะไรที่สนุกไม่เลวเลยล่ะ ส่วนเวลากลางคืนเขาจะเล่นกิจกรรมผู้ใหญ่กับฮินางิคุอย่างดุเดือด แน่นอนว่าเขาไม่กล้าแตะอิคารอสกับแอสเทรีย……
แม้ว่าก่อนหน้านี้อิคารอสกับแอสเทรียจะบอกว่าจะทำให้วู่หยาน ‘มีความสุข’ แต่ในบ้านยังมีท่านประธานที่รักอยู่ แล้วเขาจะไปกล้ากดสองสาวอย่างโจ้งแจ้งได้ยังไงล่ะ……
ของแบบนี้มันต้องมีเวลา สถานที่ และโอกาสที่ใช่!
แน่นอนว่าตอนกลางดึก เขาก็จะเปลี่ยนร่างไปเป็นจอมโจรวู่หยานไปขโมยเหล่าน้องสาว1-2คน แต่ว่าด้วยจำนวนที่เหลือน้อยนี่ทำให้มีการป้องกันที่แน่นหนามาก ต่อให้เป็นเขาก็ยังหมดหนทางถ้าไม่ยอมเปิดเผยตัวอ่ะนะ
ด้วยเหตุนี้ วู่หยานจึงทำได้แค่ขโมยซิสเตอร์ออกมา1-2คนต่อหลายๆวันเมื่ออีกฝ่ายเผลอลดการ์ดลง ส่วนครั้งอื่นเขาต้องกลับบ้านมือเปล่า
นี่ทำให้วู่หยานเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ แต่เขาต้องอดทนด้วยความหวังที่ว่าจะเจอโอกาศบ้าง1-2ครั้ง
นอกเหนือจากนี้ ชีวิตของวู่หยานก็เรียกได้ว่าธรรมดา เขาใช่ชีวิตไปวันๆอย่างคนธรรมดาทั่วไป เขามีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบนี้ที่ที่เขาเคยเห็นแค่ผ่านทางหน้าจอเท่านั้น
สำหรับมิโคโตะ เธอมักจะมาหาวู่หยานอยู่บ่อยๆด้วยเหตุผลที่ว่า ‘เธอเบื่อ’แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อเธอ……
ถ้ามันแค่นี้วู่หยานก็โอเค เพราะเขาเคยชินกับนิสัยซึนเดเระของเธอแล้ว แต่ทุกครั้งที่มิโคโตะมาหามันดันมียัยยูริทวินเทลติดสอยห้อยตามมาด้วยนะสิ!
สิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าคุโรโกะหรืออีกชื่อยัยโรคจิตนี่ พอสบจังหวะมิโคโตะไม่เห็นทีไรก็มักจะขบฟันแยกเขี้ยวใส่เขาด้วยสีหน้าดุร้ายราวกับอยากจะกินเขาทั้งเป็นยังไงยังงั้น นี่ทำให้วู่หยานปวดหัวจี๊ด แถมยังทำให้เขาต้องเลื่อนแผนการที่จะส่งมิโคโตะขึ้นสวรรค์ออกไปก่อนด้วย……
มิโคโตะเองก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน เธอไม่รู้ว่าทำไมคุโรโกะถึงได้เอะอะโวยวายทุกครั้งที่เธอจะมาที่นี่ คุโรโกะยืนยันจะมากับเธอให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม แม้กระทั่งยอมโดดงานจัสจ์เม้นท์หลายครั้ง นี่ทำให้มิโคโตะรู้สึกปวดหัว
บางทีคงมีแต่วู่หยานที่รู้เหตุผล ยัยยูรินี่คงมาเพื่อป้องกันเขาไม่ให้ทำเรื่องลามกกับมิโคโตะ แต่เธอไม่รู้หรอกว่ามิโคโตะโดนเขาจับกดไปตั้งนานแล้ว…….
ถ้ายัยนี่รู้เข้าล่ะก็ เขามั่นใจเลยว่ากิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งจะถูกเพิ่มเข้ามาในชีวิตเขาแน่นอน นั้นก็คือการดึงเอาแท่งเหล็กออกจากตัว……..
และการมาของมิโคโตะกับคุโรโกะยังทำให้สองสาวโมเอะมาด้วยเป็นอุยฮารุกับซาเต็นครบแก็งเรลกัน ไม่นานนักพวกเธอก็สนิทกับอิคารอส แอสเทรีย และฮินางิคุ โดยทิ้งวู่หยานให้อยู่คนเดียว ทำให้เขาต้องเป็นนั่งที่มุมห้องด้วยความโศกเศร้า……
การมาแต่ล่ะครั้งของกลุ่มเรลกัน ทำให้พวกฮินางิคุมีความสุขมาก เพราะพวกเธอมักจะนำเรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นมาเล่าให้ฟัง!
อย่างเช่นอีเว้นท์ ระเบิดแรงโน้มถ่วง เลเวล อัปเปอร์ AIM burst เหตุการณ์วุ่นวายพวกนี้เกิดขึ้นบ่อยมากห่างกันไม่กี่วันก็เกิดเรื่องวุ่นวายใหม่แล้ว แอสเทรียที่เป็นคนชอบฟังเรื่องเล่าจึงตาเป็นประกายทุกครั้งที่ได้ยินว่าพวกมิโคโตะกำลังจะมาหา ด้วยความหวังที่จะได้ฟังเรื่องใหม่ๆ
แล้วทุกๆครั้งที่พวกมิโคโตะพูดถึง ‘การผจญภัย’ ของพวกเธอ วู่หยานที่นั่งอยู่ที่มุมห้องมักปากบิดเบี้ยว ขณะที่ความรู้สึกเจ็บบางอย่างแผ่ออกมาจากไข่ของเขา
‘มันบ่อยเกินไปไหมเฮ้ย?! ตูทั้งฟังทั้งดูจากหน้าจอมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วนะ! ตูแม้กระทั่งไปดูรอบรีรัน(ฉายซ้ำ)หลายสิบรอบ! โอเคไอ้คุรพระเจ้า เอ็งคววรจะหยุดได้แล้ว!! มันมากพอแล้ว! เอ็งเข้าใจความรู้สึกตูไหมฮะ?! เข้าใจไหม!!!’
แต่ในทางกลับกัน หลังจาก(แอบ)ฟังเรื่องราวที่เหมือนกับที่เขาเคยเห็นมา วู่หยานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างน้อยโลกอินเด็กซ์ก็ยังเป็นโลกที่เขาคุ้นเคยอยู่เหมือนเดิม…….
เวลาได้ไหลไปเหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันหยุนนิ่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง…….
“มาสเตอร์….”
วู่หยานที่กำลังนั่งจ้องอะไรบางอย่างที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เมื่อได้ยินเสียงอิคารอส เขาก็หันไปมอง เห็นตัวอิคารอสเขาก็อดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งไป
ตัวอิคารอสในตอนนี้นับวันยิ่งมีอารมณ์ความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่ามันจะเฉพาะแค่ตอนที่เธออยู่กับเขาหรือคุยกับเขาถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี่ก็เถอะ แต่แค่นี่ก็นับว่าเป็นพัฒนาการที่ดีมากแล้ว
เช่นถ้าเขาจ้องเธอมากกว่า3วินาที อิคารอสจะเขินแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง ท่าทางน่ารักของเขาทำให้วู่หยานคุกเข่าชูมือทั้งสองขึ้นแล้วมองฟ้าขณะที่ในใจกู่ร้องว่า ‘โครตน่ารักเลยโว้ยย’
นอกจากนี้ อิคารอสก็มักจะมาโผล่ที่ห้องของเขาทุกเช้า จากนั้นก็จะโดนวู่หยาน ‘กลั้นแกล้ง’ โดยการบีบนวดหน้าอกเธอจนกระทั่งปลาดยอดชูชันขึ้นมาภายใต้เสื้อผ้าของเธอ อิคารอสในสภาวะนี่นั่นมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เผชิญกับอิคารอสที่นับวันเสน่ห์ยิ่งเพิ่มพูน แม้ว่าเขาจะเห็นหน้าเธอทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น จูบยังเคยมาแล้ว แต่เขาก็ยังควบคุมตัวเองไม่ให้นิ่งอึ้งเวลาเจอเธอไม่ได้เลย
เห็นมาสเตอร์มองตัวเองแล้วนิ่งค้างไปอีกครั้ง ใบหน้าน้อยๆของอิคารอสก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นสี เธอก้มหน้าลง นี่ทำให้วู่หยานได้สติ
ยกมือแตะจมูกตัวเองแล้วยิ้มให้อิคารอส ขณะเดียวก็ตะโกนในใจว่า ‘ยัยจิ้งจอกสาว’ อย่างอดไม่ได้ มองดูหุ่นอันยั่วยวนของเธอ วู่หยานคิดในใจ ‘ตูจะไม่แปลกใจเลยถ้าวันหนึ่งเกิดอดใจไม่ไหวแล้วจับกดเธอเข้าน่ะ…….’
“มีอะไรเหรอ? อิคารอส”
อิคารอสยื่นจดหมายให้วู่หยานด้วยท่าทางเขินอาย “มาสเตอร์ เมื่อกี้มีคนนำจดหมายอันนี้มาส่งให้ แล้วยังบอกอีกว่าต้องส่งให้ถึงมือมาสเตอร์ค่ะ…..”
“จดหมายของฉัน?” วู่หยานมองจดหมายในมืออิคารอสด้วยความสงสัย ยกมือเกาหัวแกรกๆ แล้วรับมันมา
พลิกมันไปมา วู่หยานก็รู้สึกสับสน สถานะที่ระบบมันให้มาบอกว่าเขาไม่มีญาติสนิทหรือคนสนิทที่ไหน แล้วเขายังไม่ได้ไปสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยสถานะนี้ด้วย ถ้างั้นแล้วใครเป็นคนส่งมา??
ยิ่งพวกมิโคโตะยิ่งเป็นไปไม่ได้ วู่หยานส่ายหัวปฏิเสธความคิดนี่ทันที ยัยพวกนั้นเล่นพากันมาบ้านเขาทุกวัน ถ้ามีอะไรก็แค่พูดออกมาตรงๆเลยสิ จะมาส่งจดหมายทำเพื่อ?
คิดยังไงก็คิดไม่ออก วู่หยานจึงทำการฉีกจดหมายออกเพื่อเปิดมัน ข้างในมีบัตรสีแดงขอบทองกับตัวอักษร ‘บัตรเชิญ’
“บัตรเชิญ?” วู่หยานสงสัยหนักกว่าเดิม พอเลื่อนสายตาไปด้านล่างสุดก็เจอตัวอักษรเล็กๆ เขาพูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “โทคิวะได?”
“บางทีหรือว่าจะเป็นบัตรเชิญสำหรับงานเทศกาลประจำฤดูร้อนของโทคิวะได เทศกาลเซย์กะ?”วู่หยานนึกขึ้นมาได้ก่อนจะส่ายหัวปฏิเสธทันที ถ้าเป็นบัตรเชิญนั่นจริงล่ะก็ เมื่อมิโคโตะมาตอนเช้านี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เชิญตัวเอง
มีจดหมายอีกฉบับหนึ่งที่อยู่ในซองจดหมายเขาหยิบชานมข้างๆขึ้นมาจิบ ก่อนที่จะเปิดมันขึ้นมา และตัวอักษรที่สง่างามก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าเขา……
“ถึง คุณ วู่หยาน ด้วยรักและเคารพ……
หวังว่าจะเป็นฤดูกาลที่ดีสำหรับคุณวู่หยาน!
ขอประทานโทษที่รบกวนเวลา ถ้าทำให้คุณไม่พอใจ ฉันต้องขอโทษไว้ล่วงหน้า ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ตัวฉันที่ต่ำต้อยผู้นี้ได้ยินชื่อเสียงของคุณในโทคิวะได นี่ทำให้ตัวฉันเกิดความรู้สึกสนใจมาก ตั้งแต่วันที่ได้ยินชื่อของคุณ ตัวฉันก็ไม่อาจลืมคุณได้เลยด้วยความหวังที่ว่าซักวันหนึ่งจะมีโอกาศได้คุยสองต่อสองกับคุณ…….
ตอนนี้ ตัวฉันที่ต่ำต้อยก็ไม่อาจอดกลั้นหัวใจที่ร่ําร้องอยากจะเจอคุณได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นจึงใคร่เขียนจดหมายนี้ด้วยมือตัวเองใส่ไปกับบัตรเชิญ ตัวฉันหวังว่าคุณที่มีหัวใจอันยิ่งใหญ่จะสามารถหาเวลามาเจอกับผู้ต่ำต้อยคนนี้ได้ ขอขอบคุณเป็นอย่างสูง!”
มองดูตัวอักษรที่สละสลวยแต่กลับมีความหมายกำกวม มันดูเหมือนจดหมายรักมากกว่าจดหมายเชิญอีก วู่หยานส่ายหัวสมแล้วที่เป็นเด็กนักเรียนของโทคิวะได เขาไม่เห็นคนเรียกตัวเองว่าต่ำต้อยกับเรียกคนอื่นว่าคุณอย่างอ่อนน้อมแบบนี้มานานแล้ว สมกับที่เป็นคุณหนู……
แต่นี่ก็ทำให้วู่หยานมั่นใจว่า จดหมายนี่ไม่ใช่ของมิโคโตะล้านเปอร์เซ็น ถ้ามิโคโตะสามารถเขียนจดหมายสุภาพแบบนี้ได้ เธอก็ไม่ใช่มิโคโตะแล้ว
เมื่อวู่หยานเห็นลายเซ็นด้านล่าง เขาก็เบิกตากว้างทันที ปากพ่นชานมออกมาจนหมด แล้วร้องออกมาเสียงหลง
“ทำไมถึงเป็นเธอ!?”