บทที่ 16 ลูกพี่ลูกน้องผู้มากตัณหาและกล้าหาญ

สะกิดหัวใจนายขี้เก๊ก

ธราเทพดึงณัฐณิชาให้ลุกขึ้นยืนด้วยกัน พลางเอ่ยกับคุณปู่ว่าพวกเขาควรจะกลับกันได้แล้ว

นภสรณ์รีบก้าวเข้ามาเอ่ยว่า “พี่เทพ ไม่พักอีกสักครู่หนึ่งแล้วค่อยกลับหรือคะ ฉันต้มชาผลไม้เอาไว้ พวกพี่ดื่มชาเพื่อย่อยอาหารก่อนแล้วค่อยกลับนะคะ”

คุณปู่ธรณ์เทพได้ยินแล้วก็เอ่ยยิ้มๆว่า “ในเมื่อน้ำต้มชาแล้ว ก็อย่าทำให้เธอผิดหวัง อีกอย่างวันนี้พวกหลานไม่ต้องกลับไปก็ได้ ถึงอย่างไรห้องที่บ้านก็มีมากมาย ณิชาอยากได้อารัมกถาบทกวีหลานถิงที่ปู่เขียนเอาไว้ฉบับหนึ่งไม่ใช่หรือ พวกหลานอยู่ค้างที่นี่ อีกครู่หนึ่งปู่เขียนเสร็จแล้วจะได้มอบให้ณิชาได้เลย ถือว่าเป็นของขวัญในการพบหน้ากันครั้งแรก!”

นายท่านผู้เฒ่าชื่นชอบนิสัยหลานสะใภ้ผู้นี้มาก รู้สึกว่าเธอมีกิริยาท่าทางที่งามสง่า มีชีวิตชีวา ใจกว้าง ไม่เสแสร้ง ในตอนที่พูดคุยกันก็ไม่หลีกเลี่ยงที่จะเอ่ยถึงชาติกำเนิดของตัวเอง เล่ารายละเอียดการใช้ชีวิตในวัยเด็กกับคุณย่าของเธอมากมาย

นี่ทำให้คุณปู่ธรณ์เทพอดนึกถึงตัวเองที่เคยลำบากในช่วงวัยรุ่นขึ้นมามิได้ และนึกถึงคุณย่าของตัวเอง ดังนั้นจึงยิ่งชื่นชอบในตัวณัฐณิชามากยิ่งขึ้น

ธราเทพมองณัฐณิชาครู่หนึ่ง คล้ายกับว่าถามความเห็นเธอ

แน่นอนว่าณัฐณิชาไม่อยากอยู่ที่นี่ เพราะว่านอกจากคุณปู่ธรณ์เทพแล้ว คนอื่นๆล้วนทำให้เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

แต่ว่าคุณปู่ธรณ์เทพก็เอ่ยขึ้นมาแล้ว เธอจึงไม่สะดวกที่จะทำให้ท่านผู้เฒ่าเสียหน้า จึงเอ่ยยิ้มๆว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มชาที่น้องสาวต้มเสร็จก่อนแล้วค่อยกลับ”

นภสรณ์ได้ยินเธอเรียกตัวเองว่าน้องสาว ก็รู้สึกแย่จนยิ้มไม่ออก รีบหมุนตัวเดินเข้าไปเตรียมชาผลไม้ในห้องครัวทันที

เธอเตรียมน้ำชา พลางมองไปทางประตูคฤหาสน์ ไม่รู้ว่าธิปติพัศ เจ้าหมอนั่นจะกลับมาเมื่อไร ละครในคืนวันนี้ หากไม่มีเขาก็ไม่สามารถแสดงได้จริงๆ

เสียงโครมดังขึ้นที่หน้าประตู ณัฐณิชาจึงหันไปมองอย่างอดมิได้

ก็เห็นชายวัยรุ่นคนหนึ่งเดินโงนเงนเข้ามา คล้ายกับว่าดื่มจนเมาแล้ว

นายท่านผู้เฒ่าขมวดคิ้ว “เคยบอกไปกี่ครั้งแล้วก็ยังไม่ยอมเปลี่ยน น้ำ ถือโอกาสชงน้ำชาสร่างเมาให้เจ้าเด็กเหลวไหลคนนี้ไปด้วยเลย”

นภสรณ์ที่อยู่ในห้องครัวรับคำ

นพนันท์รีบเอ่ยขึ้นว่า “ไอ้หยา นายท่านผู้เฒ่าคะ อย่ามีโทสะเลยนะคะ! ไม่อย่างนั้นให้ฉันไปเดินเล่นกับท่านไหมคะ จะได้ไม่ต้องเห็นธิปติพัศแล้วต้องโมโหอีก!”

รอจนนพนันท์กับคุณปู่ออกไปแล้ว ธราเทพก็เขยิบเข้าไปกระซิบข้างหูณัฐณิชา “ธิปติพัศ ลูกพี่ลูกน้องจอมเหลวไหลที่เคยพูดให้คุณฟัง”

ณัฐณิชาพยักหน้าเข้าใจ ทว่าเมื่อครู่ที่ธราเทพพูดอยู่ใกล้กันมากเกินไป ท่อนแขนจึงวางอยู่ด้านหลังเธอบนพนักพิงโซฟา มองดูแล้วเหมือนกับกำลังกอดณัฐณิชา กระซิบพูดคุยแสดงความรักกันอยู่

นภสรณ์ที่ยืนอยู่ในห้องครัว ก็เห็นท่าทางสนิทสนมของทั้งสองคนเข้าพอดี จึงโกรธจนตาแดงก่ำ แต่เมื่อเห็น ธิปติพัศที่เดินโซซัดโซเซเมาเข้ามา มุมปากก็ยกขึ้นน้อยๆ มาได้เวลาพอดี

เธอรู้จักนิสัยบ้าตัณหาของลูกพี่ลูกน้องตั้งนานแล้ว ขอเพียงแค่ให้ธิปติพัศได้อยู่กับณัฐณิชาสองต่อสอง เช่นนั้นก็มีละครสนุกให้ดูแล้ว

ถึงตอนนั้นให้ธราเทพได้เห็นว่าณัฐณิชายั่วยวนลูกพี่ลูกน้องของเขา ก็จะต้องไล่เธอออกจากตระกูลทวีศักดิ์ทินโชติแน่นอน!

นภสรณ์คิดถึงเรื่องนี้แล้ว ในใจก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น

ในตอนที่นภสรณ์ชงชา ธิปติพัศก็เดินมาถึงห้องรับแขกแล้ว

เมื่อเขาได้เห็นณัฐณิชาก็ตะลึงค้างไป

คนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่เอาถ่านตามแบบฉบับของลูกผู้ดีมีเงิน อายุ 26 ปีเข้าไปแล้ว แต่กลับไม่แสวงหาความก้าวหน้า วันๆใช้ชีวิตอยู่ในซ่องโสเภณี กระทั่งแฟนสาวที่เป็นตัวเป็นตนก็ไม่มี ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องก่อร้างสร้างตัวเลย

สองวันมานี้เขาถูกข่าวของธราเทพทำให้สะเทือนใจไม่น้อย

เมื่อเห็นธราเทพหาภรรยาที่พูดจาฉะฉาน บุคลิกโดดเด่นได้คนหนึ่ง ส่วนตนเองยังโดดเดี่ยวเดียวดาย ก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กๆ

ที่สำคัญก็คือ ก่อนหน้านี้วันหนึ่งยังมีคลิปวิดีโอเรื่องความสัมพันธ์อันคลุมเครือของณัฐณิชากับธราเทพหลุดออกมา เมื่อเห็นสายตาน่าดึงดูดของณัฐณิชาแล้ว ธิปติพัศก็รู้สึกคันยุบยิบจนแทบทนไม่ไหว และอยากพบกับพี่สะใภ้คนนั้นมานานแล้ว

เขานั่งลงบนโซฟาเดี่ยว สนทนากับธราเทพในบางครั้ง และใช้สายตาเหลือบมองไปทางณัฐณิชาบางคราว

ณัฐณิชาเฉลียวฉลาดเป็นพิเศษ จะมองไม่ออกว่าได้อย่างไรเจ้าหมอนี่มีเจตนาคิดไม่ซื่อ แต่เธอกลับไม่โมโห และส่งยิ้มหวานให้กับเขาในช่วงที่คนอื่นไม่ทันได้สังเกต

สิ่งที่ณัฐณิชาคิดอยู่ในใจก็คือ กระทั่งภรรยาของลูกพี่ลูกน้องก็ยังคิดถึง เป็นผู้ชายระยำที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งจริงๆ ดูท่าไม่สั่งสอนคุณสักหน่อย คุณก็คงไม่รู้ถึงความเก่งกาจของหญิงสาวที่แต่งงานไปแล้วสินะ