เมืองฉิวซาน อยู่ห่างจากเมือง เสี่ยวหลิงตู่ เพียงครึ่งวัน
กองทัพที่เดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ เพียง หลังเที่ยง ก็มาถึง เมืองเสี่ยวหลิงตู่ และ ทำการปิดกั้นเส้นทางถนนด้านหลังของเมืองเสี่ยวหลิงตู่
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการโจมตีเกิดขึ้นเนื่องจาก กานฉวน ได้นำกองทัพของเมืองเสี่ยวหลิงตู่ วางค่ายขนาดใหญ่อยู่ที่ประตูทิศตะวันตกโดยมีทหารประมาณ 300,000 นายอยู่ประจำการ
เขาได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่เมืองฉิวซาน จะถูกยึดอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้วางกองกำลังไว้ทางด้านหลังเพื่อป้องกัน
“ฝ่าบาทกำแพงเมืองของเมืองเสี่ยวหลิงตู่ไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองฉิวซาน และ แม้ว่าเมืองเสี่ยวหลิงตู่ จะอยู่ใกล้กับแม่น้ำในแง่ของความสามารถด้านป้องกันมันกลับแข็งแกร่งกว่าเมืองฉิวซานอย่างมาก หากเราคิดจะยึดครองคงจะต้องวางแผนอย่างรอบคอบ!”
ในเต็นท์ทหาร ซุนฮก ได้มองไปที่ ลู่เฟิง และ พูดขึ้น
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและตอบกลับ”ข้ารู้อยู่แล้วเรื่องนี้ แต่เมืองเสี่ยวหลิงตู่ จะต้องถูกโค่นให้ได้โดยเร็วที่สุด เหวินยื่อ เจ้ามีความคิดดี ๆ หรือไม่?”
ซุนฮก ได้สั่นศีรษะ”ตอนนี้ข้าน้อยมืดแปดด้าน ยังไม่มีความคิดอะไรดี ๆ เลยพะยะค่ะ!”
ลู่เฟิงมองไปที่ เจี๋ยสวี่
เจี๋ยสวี่ เองก็ยิ้มอย่างขมขื่นและสั่นศีรษะ
เขาถอนหายใจออกมาและตอบกลับ”กานฉวน คนนี้ฉลาดไม่น้อย เขาได้ย้ายตระกูลกานทั้งหมดเข้าไปยังเมืองเสี่ยวหลิงตู่ หากก่อนหน้านี้ใช้ตระกูลของเขาเป็นตัวประกันก็อาจจะพอทำอะไรได้บ้างแต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว”
ลู่เฟิง ได้มองไปที่ทั้งสองคนและกล่าวพูดขึ้น”เหวินเหอ,เหวินยื่อ พวกเจ้าทั้งสองคนระดมสมองคิดหาแผนการเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที ข้าไม่เชื่อว่าเราจะไม่สามารถทลายเมือง เสี่ยวหลิงตู่ ได้!”
“ฝ่าบาท โปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะคิดหาทางให้ได้อย่างแน่นอน!”เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก กล่าวพร้อมกันทันที
ลู่เฟิง ได้พยักหน้า
อีกด้านหนึ่งของเมือง เสี่ยวหลิงตู่ กานฉวน ได้รวบรวมแม่ทัพทั้งหมดไว้ในคฤหาสน์เจ้าเมือง ใบหน้าของเขาค่อนข้างน่าเกลียด
“ตอนนี้ ด้านหลังของ เมืองเสี่ยวหลิงตู่ ก็ถูกปิดกั้นโดยกองทัพของลู่เฟิง และ ด้านหน้าก็ยังเป็นกองทัพของ เหลียนป๋อ พวกเราถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์ ใครมีแผนการอะไรดี ๆ บ้างไหม!”กานฉวน ได้กล่าวพูดขึ้นมา
แม่ทัพคนอื่น ๆ ได้ลดศีรษะลงทีละคน พวกเขาไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้ตอนนี้ เมืองเสี่ยวหลิงตู่ ถูกปิดล้อมโดยสมบูรณ์ ไม่มีใครกล้าแสดงความคิดเห็นออกมา ถ้าล้มเหลว จุดจบเดียวที่รอพวกเขาอยู่ก็คือความตาย
“เจ้าพวกขยะไร้ประโยชน์!”กานฉวน ตะคอกออกมาอย่างเย็นชา”ในวันธรรมดา พวกเจ้าทุกคนต่างโอ้อวดความสามารถภายใต้ผืนนภาแห่ง แต่เมื่อประสบปัญหา พวกเจ้ากลับไม่สามารถทำอะไรได้เลยสักคนแท้จริงแล้วพวกเจ้ามีความสามารถหรือไร้ความสามารถกันแน่?”
เมื่อแม่ทัพเหล่านี้ได้ยินคำด่านินทาพวกเขาก็รู้สึกละอายใจอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากการประชุมมีแม่ทัพคนหนึ่งก้าวเดินออกมา”ท่านแม่ทัพ ดูจากกองกำลังของ ลู่เฟิงแล้ว จำนวนน่าจะไม่เกิน 400,000 นาย เพราะ ที่เมืองฉิวซานจะต้องได้รับการคุ้มกัน เขาน่าจะแบ่งกำลังไปเฝ้าระวังที่นั่นด้วย สำหรับ เหลียนป๋อ ที่มี ทัพประมาณ 300,000 นาย ด้วยทหารรวมกันของพวกเขา น่าจะมีจำนวนคนสูงสุดไม่เกิน 600,000 นาย ซึ่งเทียบเท่ากับพวกเรา”
“และเรามีค่ายทหารขนาดใหญ่นอกประตูตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่ หากไม่เกิดการปะทะกันข้าคิดว่าเราสามารถยึดเมืองเสี่ยวหลิงตู่ไว้ได้นานกว่าครึ่งปี ในเวลาเดียวกัน เราก็ลอบส่งข่าวไปยังอาณาจักรหงเป่าอย่างลับ ๆ บอกว่า จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหนานหยานลู่เฟิง กำลังปิดล้อมเมืองเสี่ยวหลิงตู่ จักรพรรดิแห่งอาณาจักรหงเป่า ไม่ใช่คนโง่ เขาจะต้องส่งกองกำลังไปโจมตีชายแดนของอาณาจักรหนานหยานอย่างแน่นอน ในขณะที่ อาณาจักรหงเป่า ส่งทหารมา วิกฤติของเราจะคลี่คลายทันที ในอนาคต เรายังสามารถร่วมมือกับอาณาจักรหงเป่า ได้อย่างแน่นอน!”
หลังจาก ที่คำพูดของแม่ทัพคนนี้สิ้นสุดลง ใบหน้าของแม่ทัพหลายคนก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่
พวกเขาปกป้องเมืองฉิวซาน และ ปกป้องชายแดนจากการรุกรานของอาณาจักรหงเป่า ตอนนี้ พวกเขากลับจะต้องไปร่วมมือกับอาณาจักรหงเป่า สู้ให้พวกเขายอมจำนนยังดีเสียกว่า
นี่เป็นเพียงความคิดของพวกเขาท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ!
กานฉวน ได้ยินดังนั้น ก็มีความสุขบนใบหน้าของเขา ตราบใดที่เขามีกองทัพขนาดใหญ่อาณาจักรหงเป่า ย่อมให้ความร่วมมือและมอบสถานะที่ดีให้กับเขาอย่างแน่นอน
เขารีบกล่าวพูดทันที”เอาล่ะ เจ้าไปจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด!”
“ขอรับ!”
“คนที่เหลือลงไปจัดการทหารทั้งหมด จะต้องไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้นที่นี่เข้าใจหรือไม่?”
“ขอรับ!”
แม่ทัพเหล่านี้ได้ตอบสนองและได้แยกย้ายกันไปทีละคน
พวกเขาได้ออกไปคุ้มกันแต่ละที่หนึ่งในนั้นก็คือนอกประตูตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่
ขณะเดียวกัน ทางด้านลู่เฟิง
ฉู่ต้าเหว่ย ได้มาหาเขา
แม่ทัพคนนี้ คือคนที่ยอมจำนนต่อเขาตอนที่กองทัพบนที่ราบลั่วซานหยวนพ่ายแพ้
ลู่เฟิง ได้มองไปที่ ฉู่ต้าเหว่ย เขาได้รับจดหมายจากเกาชุน เขาได้อ่านมันและกล่าวถาม”ฉู่ต้าเหว่ย ข้าได้ยินมาว่า เกาชุน บอกว่า เจ้ามีวิธีที่จะทำลายเมืองเสี่ยวหลิงตู่ บอกข้ามาว่าเจ้ามีแผนการอะไร?”
“ฝ่าบาท ถ้าจะพูดให้ถูกคือไม่ใช่การทำลายเมืองเสี่ยวหลิงตู่ แต่เป็นการทำลายค่ายที่ตั้งอยู่นอกประตูตะวันตก จนกองทัพในเมืองเสี่ยวหลิงตู่ไม่สามารถตอบสนองได้ทัน!”ฉู่ต้าเหว่ยได้กล่าวตอบ
“บอกข้ามา!”
ลู่เฟิง ให้ความสนใจกับคำพูดของ ฉู่ต้าเหว่ย เพราะถึงยังไง กองทัพนอกประตูตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่ ก็ยังมีค่ายทหารขนาดใหญ่ที่มีทหารมากกว่า 300,000 คน
หากเขาส่งกองกำลังออกไปโจมตี พวกเขาสามารถปะทะกันและเกิดความสูญเสียจำนวนมากอย่างแน่นอน
แต่ทว่า เมืองเสี่ยวหลิงตู่ สามารถส่งคนออกมาช่วยเหลือได้ มันจะเป็นการเสียเปล่าและทำให้กองทัพของลู่เฟิงเสียหายหนัก
นี่คือปัญหา
เพราะฉะนั้นมันจึงยากที่จะทำลาย
ฉู่ต้าเหว่ย ได้ตอบกลับ”ฝ่าบาท ในค่ายนอกประตูตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่ มีแม่ทัพที่ชื่อ จิ้งซือหรง อยู่”
ลู่เฟิงมองไปที่ เจี๋ยสวี่ ที่อยู่ทางด้านซ้าย และ รอฟังข้อมูลจากปากของอีกฝ่าย
เจี๋ยสวี่ ได้ครุ่นคิดและพยักหน้า”ฝ่าบาท ในค่ายนั่น มีแม่ทัพชื่อ จิ้งซือหรง อยู่จริง ๆ !”
ลู่เฟิงมองไปที่ ฉู่ต้าเหว่ย และกล่าวถาม”เจ้าพูดถึงคนผู้นี้ขึ้นมามีจุดประสงค์อะไรกันแน่?”
“ฝ่าบาท ตอนข้าอยู่ในกองทัพภายใต้คำสั่งของลู่เว่ย ข้ารู้จัก จิ้งซือหรง เขาเป็นคนที่มีความสามารถไม่ได้ด้อยไปกว่าข้า แต่เขาได้ถูกทางครอบครัวบีบคั้นและท้ายที่สุดก็ได้จากมาพร้อมกับทหาร 50,000 นาย ตอนนี้เขาน่าจะอยู่ในค่ายทหารนอกประตูตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่ หากข้าโน้มน้าวให้เขายอมจำนนได้ พวกเราอาจจะทำสำเร็จ!”ฉู่ต้าเหว่ย ได้กล่าวพูดขึ้น
ลู่เฟิง ได้กล่าวถาม”เข้าใจแล้ว เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าให้การสนับสนุนใด?”
“ข้าน้อยไม่ได้ต้องการการสนับสนุนใด ๆ เพียงแค่รอจนกว่าจะมืดแล้วให้ข้าไปยังค่ายทหารนั่นเพียงคนเดียว!”
“ข้าอนุญาติ!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ฉู่ต้าเหว่ย ได้จากไปทันที
“ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าให้ จินยี่เหว่ย เฝ้าระวังตรวจสอบเขาอย่างลับ ๆ ดีหรือไม่?”เจี๋ยสวี่ ได้กล่าวถาม หลังจาก ฉู่ต้าเหว่ยจากไป
ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”ไม่จำเป็น ข้าไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับตัวของเขา ที่ข้าอยากจะรู้ก็คือเขาจะสามารถทำให้ จิ้งซือหรง ยอมแพ้ได้อย่างไร ถ้ามันสำเร็จจริง ๆ พวกเรามีโอกาสที่จะทำลายค่ายนอกประตูตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่!”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับทันที
ลู่เฟิงได้พยักหน้า”ส่งคำสั่งของข้าออกไป ให้จินยี่เหว่ย เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของ กานฉวน ภายในเมือง หากมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้รีบแจ้งต่อพวกเราทันที!”
“ขอรับ!”
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบตกลงทันที
หลังจาก เจี๋ยสวี่ จากไป ลู่เฟิง ก็เดินออกจากเต็นท์ทหารของเขาและมองไปที่กำแพงเมืองเสี่ยวหลิงตู่ที่อยู่ไม่ไกล”ไม่ว่าจะเป็นชัยชนะหรือล้มเหลว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับแผนการของ ฉู่ต้าเหว่ย แล้ว!”
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง ฉู่ต้าเหว่ย ก็สวมใส่ชุดธรรมดาและออกจากค่ายทหารไปนอกประตูทิศตะวันตกของเมืองเสี่ยวหลิงตู่