“แผนของซาตานที่ว่าแบ่งปันผลประโยชน์หรือแผนโจมตีสุละนั้น ยอดเยี่ยมทุกอย่าง. ข้าคิดว่าจะเพิ่มแผนดีๆแบบนี้ลงในหนังสือที่เด็กรุ่นหลังต้องอ่านให้ได้ และข้าหวังว่าลอร์ดซาตานคงจะไม่ลังเลที่จะช่วยนะ….”

พ่อของออเรเลียพูดด้วยรอยยิ้มและกล่าวชมเย่เทียนอย่างมาก.

ออเรเลียได้อธิบายกลยุทธ์และเรื่องปันผลให้พวกเขาฟังไปแล้วก่อนที่เขาจะมา.

พวกเขาพอใจกับส่วนแบ่งมากๆและยกย่องสติปัญญาของเย่เทียนด้วย.

แต่พวกเขาทุกคนก็ตกใจแผนโจมตีสุละของเย่เทียนบ้าๆนั่นมาก!

พวกเขาไม่เคยเจอใครบ้าบิ่นขนาดนี้มาก่อน!

ความคิดเขานั้นมุทะลุ, มองการณ์ไกลและเหนือความคาดหมายพวกเขามาก.

พวกเขาคิดว่าตราบใดที่แผนของเย่เทียนสำเร็จ, ชื่อเสียงของสุละและอำนาจหลายปีของเขาจะต้องตกต่ำลงอย่างแน่นอนและสุละคงถูกตัดอำนาจออกหลายปีแน่.

ส่วนฝั่งพวกเรา, ด้วยทรัพย์สินที่กว้างใหญ่และมีเหมืองเหล็กในครอบครองพวกเราคงมีโอกาสที่จะได้เลือกเป็นกงศุลเยอะมากแน่ๆ.

พ่อของออเรเลียที่ว่ากันว่าไม่ค่อยเข้าร่วมกับผู้อื่นนัก พอได้ยินแผนของเย่เทียนแล้วเขาเองก็อยากจะร่วมพันธไมตรีเลย.

เย่เทียนได้รับความนับถืออย่างสูงเพราะแผนของเขาเพราะคนรุ่นเดียวกันกับเขาน่าจะเรียนรู้จากแผนเขาได้เยอะ.

ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะหารือกับเย่เทียนและนำแผนของเขามาใส่ไว้ในหนังสือสำหรับคนรุ่นหลังให้อ่าน. เขามั่นใจว่าตราบใดที่เด็กรุ่นหลังสามารถเข้าใจแผนนี้ได้ล่ะก็อนาคตก็คงจะสดใสมากแน่.

มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมากที่ซาตาน, ชายหนุ่มคนนี้สามารถคิดแผนแบบนี้ออกมาได้.

“ขอบพระคุณสำหรับคำชมครับ!”

เย่เทียนยิ้มหน่อยๆ, เขาไม่คิดเลยว่าแผนที่ใครก็ได้ในอนาคตสามารถคิดได้จะทำให้พวกเขาชื่นชมขนาดนี้.

“เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรมั้ย?”

หลังจากฟังรายละเอียดของแผนอีกที พ่อของออเรเลียก็ถามเย่เทียนด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย.

“ครับผม, การสร้างสถานการณ์ไม่ใช่เรื่องง่าย. หากทาสที่ข้าส่งไปไม่แข็งแกร่งพอ, พวกเขาคงถูกฆ่าตายทันทีแน่และข่าวลือก็จะไม่แพร่ออกไป แล้วแผนเราก็จะล้มเหลว…”

เย่เทียนกล่าวด้วยความกังวล “ดังนั้น, หากท่านมีทาสสปาตั้นในครอบครอง โปรดมอบมันให้ข้าด้วยครับ!”

เย่เทียนขอทาสสปาตั้นแบบมีเหตุผลจริงๆ.

“สปาตั้น? ถึงเราจะมีบ้างแต่พวกมันก็ยังไม่ฟังคำสั่งนะ. ถ้าเราปล่อยให้ทำงานยากแบบนี้ ข้ากลัวว่ามันจะแย่ลงไปน่ะสิ!”

พ่อของออเรเลียกังวลเล็กน้อย.

“ข้าสามารถฝึกพวกมันได้ครับ. อย่ากังวลไปเลยครับ! พวกทาสสปาตั้นที่อยู่ในบ้านข้าก็ถูกข้าฝึกให้ฟังคำสั่งได้แล้วทั้งนั้น, ว่าง่ายมากเลยล่ะครับ!”

เย่เทียนยิ้มแล้วพูดอย่างภูมิใจ.

“เจ้าฝึกทาสสปาตั้นได้งั้นรึ?”

พ่อของออเรเลียเริ่มคิดใหม่เกี่ยวกับเย่เทียน.

“ก็ข้าเป็นนายทาสหนิครับ!”

เย่เทียนพยักหน้าช้าๆ.

“ถ้าเป็นงั้น เพื่อเป็นการตอบแทน, ข้าจะให้ทาสสปาตั้นทั้งหมดในบ้านข้าให้เจ้าเลย. ข้าไม่อยากเลี้ยงพวกมันไว้ จะฆ่าทิ้งก็สงสารอยู่…”

พ่อของออเรเลียเลือกที่จะเชื่อเย่เทียน. เพราะเขารู้ว่าเย่เทียนที่คิดแผนดีๆแบบนั้นออกมาได้คงไม่ทำอะไรผิดพลาดง่ายๆแน่.

“ที่บ้านเราเองก็มีบ้างอยู่, ข้าจะมอบให้ท่านเมื่อถึงบ้านนะ!”

“ข้าด้วย….”

คุณหญิงยูเลียและคุณหญิงฉินน่าสัญญากับเย่เทียนด้วยเช่นกัน แล้วก็มองมาทางเย่เทียนด้วยความปลื้มใจ.

ก็คงได้แค่ปลื้มแหละ, ไม่กล้าคลั่งหรอกเพราะคนอยู่เยอะตรงนี้.

“งั้นข้าขอขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตา…..”

เย่เทียนดีใจมาก, เขาหวังว่าจะได้นักรบสปาตั้นมาซัก100คนรอบนี้.

“ถ้าไม่มีใครมีข้อขัดค้านแล้ว, เราก็มาเริ่มลงนามพันธไมตรีกันเถอะ, สู้ด้วยกันถอยด้วยกัน, ปกป้องกันและกัน, ฝั่งหนึ่งมีปัญหา อีก4ฝั่งต้องช่วยเหลือ….”

จากนั้นออเรเลียก็นำกระดาษออกมา5แผ่นที่เขียนเนื้อหาการทำสัญญาไว้.

สิ่งที่ควรจะหารือกันก็ได้หารือไปหมดแล้ว ทุกคนจึงไม่มีอะไรจะพูดอีก. พวกเขาหยิบปากกาขึ้นมาแล้วลงชื่อในใบสัญญาในนามตัวแทนตระกูล.

“ไชโยแด่ไมตรีของเรา!”

….

เมื่อสัญญาเสร็จสิ้นทุกคนก็ยกแก้วไชโยให้กัน.

“ท่านลอร์ดซาตาน, ข้าคงต้องอภัยแล้ว, พอดีพวกเรามีเรื่องที่ต้องตกลงกันระหว่าง4ตระกูลใหญ่น่ะ เราขอปรึกษากันได้มั้ย…..”

พอวางแก้วไวน์ลง, พ่อของออเรเลียก็กล่าวขอโทษกับเย่เทียน, เพราะยังไงเย่เทียนก็เป็นหน้าใหม่.

“ข้าเข้าใจครับ…..งั้นข้าขอตัวออกไปเดินเล่นก่อน….”

เย่เทียนยิ้มและไม่รู้สึกอายเลย เพราะยังไงเรื่องที่พวกเขาจะหารือกันก็เป็นความลับ.

“ซาตาน, เจ้าออกไปเดินกับข้าสิ…..”

แม่ของออเรเลียลุกขึ้นแล้วพูดกับเขา.

“อื้ม, แอนเดรีย, ดูแลท่านลอร์ดซาตานแทนข้าด้วยนะ, เพราะเราเสียมารยาทแล้ว…”

พ่อของออเรเลียพูดกับภรรยาของเขา.

“เป็นเกียรติที่ได้เดินเล่นกับมาดามครับ….”

เย่เทียนยิ้มแล้วยื่นมือออกไป, แล้วค่อยๆกุมมือของแอนเดรีย.

หุ่นของแอนเดรียนั้นดูมีเสน่ห์มากแถมยังดูดีอีกด้วย แต่เวลาก็ได้ฝากรอยตีนกาไว้ที่หน้าของเธอล่ะนะ…..

ตอนนี้เธออายุ40ต้นๆแล้ว รู้สึกว่าเธอน่าจะแต่งงานตอนยังเด็ก น่าจะ12ปีได้มั้ง.

“อาทิตย์ตกดินสวยจังนะ….”

แอนเดียถอนหายใจขณะเดินออกมาจากห้องแล้วมองเห็นสีแดงกำลังลับฟ้า.

“ครับ ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว…”

เย่เทียนเองก็ถอนหายใจ.

“เห้อ, ทำไมคนเราถึงต้องเป็นเช่นนี้นะ? อีก2ปีข้าว่าข้าคงแก่เกินที่จะออกไปไหนมาไหนซะแล้ว….”

แอนเดรียรู้สึกเศร้าใจแล้วพูดออกมา.

“ความสวยมันไม่ยั่งยื่น เป็นเรื่องน่าเศร้าจริงนะครับ…”

เย่เทียนเองก็ถอนหายใจ.

“ข้านึกว่าเจ้าจะปลอบข้าซะอีกนะ พ่อหนุ่มหน้าใส….”

แอนเดรียไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี, เย่เทียนเหมือนจะพูดผิดกับเธอซะแล้ว.

“ท่านหญิงนั้นงดงามและไม่มีผู้ใดเทียบได้แน่นอนครับ. อายุขนาดนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะคงหุ่นให้ดีแบบนี้ไว้ได้!”

เย่เทียนยิ้ม.

“แหะๆ….คงจะดีนะถ้ามันดูดีอย่างที่เจ้าพูด. ดูสิมันหย่อนขนาดไหน…..ข้าว่าถ้าข้าเอาให้ท่านดู ท่านคงไม่อยากดูอีกรอบสองแน่”

แอนเดรียยิ้มแล้วพูดด้วยความเศร้า. และต่อหน้าเย่เทียนนั้นเธอก็ยกภูเขาเธอแบบไม่สนใจอะไรเลย ราวกับว่าเธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สวยไปแล้ว.

“แม้ว่าข้าจะเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่ข้าคิดว่าข้าสามารถทำให้มันสวยเหมือนแต่ก่อนได้ อย่างน้อยก็ภายนอกล่ะนะครับ!”

เย่เทียนตกใจเล็กน้อยแล้วยิ้ม. เขาวางแผนว่าจะขายชุดชั้นในให้แอนเดรียเพื่อดูว่ามันจะเป็นที่นิยมขนาดไหน.