170 กระจ่างแจ้งทุกสิ่งอย่าง (บังคับ)

13 – 17 นาที เล่ม 6

หลังจากออกจากห้องนักบินซึ่งเมย์อยู่ ผมติดต่อเอลม่าโดยใช้แอพข้อความแล้วพูดว่าผมมีบางอย่างต้องคุยกับเธอแล้วจะไปห้องเธอในไม่นานนี้

ด้วยนี่ การนัดสำเร็จเรียบร้อย ผมครุ่นคิดว่าเทคโนโลยีนั้นสะดวกขนาดไหนแล้วมุ่งหน้าตรงสู่ห้องของเอลม่า

มีมิยังอยู่ในห้องนักบินแล้วบอกว่าเธออยากคุยกับเมย์เกี่ยวกับหลายๆอยาง แต่เธอน่าจะแค่มอบพื้นที่ให้ผมกับเอลม่า ทางจากห้องนนั่งเล่นจากห้องนักบินค่อนข้างยาว ดังนั้นมีมิเลือกอยู่ในห้องนักบินเพื่อให้เวลาผมเรียบเรียงความคิด

“แต่ฉันไม่ได้แม้แต่ต้องคิดเกี่ยวกับมัน”

ผมไปถึงบทสรุปนานแล้ว ผมไม่มีเจตนาจะปล่อยเอลม่าไป

อึน ผมปฏิเสธส่วนนั้นของมันไม่ได้เพราะมันเป็นความต้องการยึดครองเธอมาไว้คนเดียว อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่แค่นั้น ถ้า หลังจากทุกอย่างซึ่งเราผ่านมันมาร่วมกัน ผมยังตัดสินใจโยนเธอไปเผชิญเรื่องราวร้ายๆเพราะผมกลัวเข้าไปมีปัญหากับตระกูลของเธอและสถานการณ์ต่างๆ ผมมันก็แค่พวกต่ำช้าที่สุดของพวกต่ำช้า ผมไม่ได้เป็นคนไร้หัวใจขนาดนั้น

ผมคิดเกี่ยวกับอะไรแบบนี้จนในที่สุดผมก็มาถึงห้องของเอลม่า

“เฮ้นั่น คนสวยงดงาม ฉันมาเคาะเพื่อสวัสดี”

『มันเปิดอยู่』

ผมเคาะประตูแล้วได้ยินเสียงโกรธๆของเอลม่าผ่านลำโพง

ขอโทษผมมีนิสัยแก้ไม่ได้แย่ๆที่สร้างเรื่องตลกจากสถานการณ์จริงจังเพื่อสร้างสมดุลให้มัน

ระหว่างขออภัยในใจผม ผมจับแผงปุ่มต่อจากประตูแล้วเปิดมันเพื่อเข้าห้องเอลม่า

ข้างในห้องเอลม่าน่ารักอย่างน่าตกใจ มีตุ๊กตาของเล่นเอเลี่ยนการ์ตูนตาเดียวและสิ่งมีชีวิตกระรอกผสมแมวซึ่งมีมิใช้ในแอพข้อความกระจายอยู่ทั่วห้อง ถ้าอย่างนั้นตุ๊กตาเหล่านั้นคือหนึ่งซึ่งเข้ามาในตาผมก่อน

แต่มันก็มีบางอย่างตกแต่งมาไม่ธรรมดาอย่างชั้นวางไวน์ซึ่งควบคุมความชื้นกับอุณหภูมิอย่างสมบูรณ์แบบขึ้นเพื่อกระตุ้นสภาพการเก็บรักษาในอุดมคติติดตั้งอยู่ภายในกำแพง และตู้เย็นเล็กๆเติมเต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์เย็นๆ

“นายทำอะไรน่ะ? นายเข้ามาในห้องบางคนแล้วสิ่งแรกที่นายทำคือเหม่อมองมันเหรอ? …นายพูดว่ามีบางอย่างเพื่อคุยกับฉัน”

“ใช่ เกี่ยวกับนั่น…”

เอลม่ากำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมนั่งลงที่เก้าอี้ซึ่งไกลจากมันเล็กน้อย มันค่อนข้างสบายเธอรู้ไหมว่าเก้าอี้นี้จริงๆแล้วถูกเก็บอยู่ใต้พื้นระหว่างการต่อสู้?

อา อย่าให้ความคิดพาไปอย่างไร้จุดหมาย ตัวฉัน เน้นสมาธิ เน้นสมาธิ เมื่อมันเป็นเรื่องอะไรแบบนั้ มันดีที่สุดในการจะพูดมันออกไปตรงๆ

“ฉันถามเมย์เกี่ยวกับสถานการณ์ของครอบครัวของเธอ”

“อา…… เข้าใจแล้ว ไม่ต้องสงสัย มันเมย์ เธอน่าจะสืบมาเล็กน้อยหือ”

เอลม่าพยักหน้า มั่นใจ และจากนั้นยิ้มอย่างขมขื่น มันดดูเหมือนพวกเราทั้งหมดไม่พบว่ามันแปลกที่เมย์ทำอะไรแบบนั้นลับหลังเรา

“เธอบอกฉันเกี่ยวกับทีพ่อของเธอเป็นวิสเคานต์ผู้ดูแล”

“ใช่ นั่นถูกแล้ว ฉันขอโทษ”

“ฉันไม่แน่ใจว่าเธอจะมาขอโทษเรื่องอะไรกัน แต่มันไร้ความสำคัญ ที่รักของฉัน ฉันจะยกโทษให้เธอ!”

“ฟุฟุ นั่นมันอะไรกันน่ะ?”

เมื่อผมพองอกและประกาศว่าผมยกโทษให้เธอในน้ำเสียงหยิ่งยโส เอลม่าพบว่ามันแปลกและหัวเราะเบาๆ อืม อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอผ่อนคลายเล็กน้อย

“ยังไงซะ ที่จุดนี้ ฉันไม่สนใจอีกต่อไปว่าครอบครัวของเธอเป็นขุนนางระดับสูง ฉันไม่มีเจตนาทิ้งเธอไปสำหรับเหตุผลนั้น”

“ฉันดีใจจริงๆที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น แต่มันน่าจะพาปัญหามาให้นายเป็นกองๆใหญ่ๆเลยน่ะรู้ไหม?”

“ยังไงซะ ถ้าเธอพูดอย่างนั้นเอลม่า ถ้าอย่างนั้นมันน่าจะมีปัญหามาก แล้วเธอก็รู้ว่าฉันเกลียดการเข้าไปมีปัญหา ฉันเกลียดมัน แต่มันไม่ใช่เหตุผลมากพอที่จะทิ้งเธอไป เธอเข้าใจว่าฉันจะสื่ออะไรที่นี่ไหม?”

“ฉันล่ะสงสัยจัง? จริงๆแล้วฉันอยากให้นายชัดเจนเกี่ยวกับมันมากกว่านี้

เอลมม่ามองหน้าผมอย่างตั้งใจ ผมยังไม่ชัดเจนพออีกหรืือ? ให้ตายเถอะน่า

“เหมือนที่ฉันพูด ฉันไม่มีเจตนาจะปล่อยเธอไป ถ้ามันเพื่อเธอ ฉันจะรับปัญหาอะไรก็ตามซึ่งมาทางฉัน ถึงจุดหนึ่ง ถ้าฉันรับไม่ได้ในท้ายที่สุด ฉันจะทิ้งทุกอย่างเสียแล้ววิ่งหนีไปกันเธอที่ไหนสักแห่งหนหนึ่ง นั่นชัดเจนพอกับเธอมั้ยคุณนายของผม?”

“…….ใช่ ดังและชัดเจนเลยล่ะ กัปตันที่รักของฉัน

และจากนั้น เอลม่าอ้าแขนชวนผมเข้าไป

“หลังจากการสารภาพ ไม่ใช่มันเป็นเรื่องปรกติที่คนรักทั้งสองจะเกี่ยวพันกันแล้วโอบกอดกันเพื่อจูบเหรอ?”

“ไม่ใช่เธอแค่ดูหนังดราม่าโฮโลวีดีโอมากเกินไปเหรอ?”

แม้ว่าจะพูดอย่างนั้น ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วนั่งต่อจากเอลมม่า แล้วกอดร่างละเอียดอ่อนของเธอ ใช่ นี่รู้สึกถูกต้องพอเหมาะพอดีทุกอย่าง ผมไม่มีเจตนาจะเสียเธอไปจริงๆ

—————————————

หลังจากนั้น เราไม่ได้ทำอะไรซุกซนเป็นพิเศษโดยเฉพาะ

แค่นอนบนเตียงด้วยกันกับเอลม่าแล้วฟังเธอพูดเกี่ยวกับครอบครัวของเธอ

“พ่อของฉันเป็นเจ้าหน้าที่ในสังกัดของสำนักงานดูแลตระกูลจักรวรรดิ

“อึน ฉันไม่รู้เลยว่านั่นคืออะไร”

“ฉันก็ว่าอย่างงั้นสำนักงานดูแลตระกูลจักรวรรดิคือสำรักงานรัฐบาลซึ่งรับมือกับทุกอย่างเกี่ยวกับวังจักรวรรดิ หนึ่งในหน้าที่ของพวกเขาคือรับผิดชอบในการจัดการวังจักรวรรดิซึ่งจักรพรรดิอาศัยอยู่ และทุกที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับมัน ยกตัวอย่างเช้น การบำรุงรักษาวัง สถาที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับวัง และยานพาหนะซึ่งถูกใช้โดยตระกูลจักรวรรดิ”

เข้าใจแล้ว? ผมค่อนข้างสร้างภาพเหมาะสมในหัวของผมแล้วตอนนี้

ไม่ใช่ระยะหน้าที่ขอบพวกเขากว้างไกกลไปนิดหน่อยเหรอ?”

“ใช่ มันมีความรับผิดชอบหลายอย่างและมีบุคลากรเยอะเป้นผลของมัน ่พ่อของฉันอยู่ในแผนกซึ่งดูแลสวนของจักรวรรดิ นั่นเป็นตำแหน่งของเกียรติอันยิ่งใหญ่ พอเข้าใจมั้ย?”

“อึน เข้าใจแล้ว? ฉันเดาว่าการจัดการกับครอบครัวจักรวรรดิปรกติแล้วเป็นนแบบนั้นหือ”

พื้นฐานแล้ว พ่อของเธอเป็นคนสวนของหลวงอย่างเป็นทางการบางอย่างแบบนั้น ใช่ไหม? มันฟังดูค่อนข้างทำให้ตื่นเต้นน้อยกว่าปรกติ แต่เมื่อพิจารณาว่าหัวหน้าของตระกูลได้รับตำแหน่งวิสเคานต์ พวกันน่าจะยิ่งมีเกียรติเยอะยิ่งกว่าชนชั้นกลางแบบผม

“ถ้าอย่างนั้น นิสัยของเขาเป็นยังไง?”

“มาดูกันซิ…… เขาอ่อนโยนแต่ดื้อด้าน เหตุผลใหญ่ที่สุดที่ฉันวิ่งหนีจากบ้านเนื่องจากการสู้กับพ่อผู้ดื้อด้านของฉันแหละ จริงๆแล้ว”

“เข้าใจแล้ว…… และฉันเหมือนนักเลงจากที่ไหนก็ไมม่รู้ซึ่งนำพาเจ้าหญิงห้าวกลับมาบ้าน ใช่…ฉันไม่คิดว่าการพบเจอกันครั้งแรกจะไปได้สวย!”

ลูกสาวห้าวๆจริงๆแล้วกลับมาบ้านระหว่างนำพาทหารรับจ้างสุ่มๆบางคนมาด้วยกันกับเธอ และเธอก็มีความสัมพันธ์ทางกายภายกับทหารรับจ้างที่ว่ามานั้นด้วย ถ้าผมเป็นพ่อเธอ ผมจะหยิบลูกซองแล้วยิงไอ้บัดซบนั้นให้เต็มไปด้วยรูทันที

“อ่ะฮ่าฮ่า ฉันก็ว่า แต่ฉันสงสัยว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆไหม?”

“อึ๋น? ทำไมเธอคิดอย่างนั้นล่ะ?”

“ฉันหมายถึง เธอเป็นผู้กล้าซึ่งได้รีบเหรียญจู่โจมปีกดาบเงินอันทรงเกียรติรู้ป่าว? และเหตุผลที่เธอมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงจักรวรรดิกก็เพื่อรับรางวัลอีก และรายวัลนั้นไม่เป็นเหรียญดาวไขว้ชั้นหนึ่ง (ดาวทอง) หรือเป็นเหรียญดาวไขว้ชั้นสอง (ดาวเงิน) พ่อของฉันอาจดื้อด้าน แต่เคาเคารพอำนาจของตระกูลจักรวรรดิ”

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นนั่นหมายถึงความสำเร็จเสนอทางออกจากเหตุการจนมุมนี้เหรอหือ”

“นั่นใช่แล้ว ในจักรวรรดิทหารรับจ้างพร้อมเหรียญจู่โจมปีกดาบเงินถูกปฏิบัติเป็นอัศวินกิตติมศักดิ์์ และคนเหล่านั้นผู้มีดาวเงินคือบารอนกิตติมศักดิ์ เมื่อเธอได้รับดาวทอง เธอจะค่อนข้างเป็นระดับเดียวกันกับพ่อของฉัน ดังนั้นเขาจะไม่สามารถทำตัวเหมือนสูงส่งหนักหนาแล้วเมินเธอได้อย่างง่ายๆ แม้ว่าเธอได้แค่เหรียญดาวเงิน เธอยังเป็นบารอนกิตติมมศักดิ์ ดังนั้นแบบเดียวกันก็เป็นผล นั่นเพราะถ้าเขาทำอย่างนั้น มันจะเหมือนกับหมิ่นเกียรติของตระกูลจักรวรรดิและตัวจักรพรรดิเอง”

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว ถ้าอย่างนั้นอะไรซึ่งเธอกำลังหมายถึงคือฉันไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับอะไร ใช่ไหม?”

ผมรู้สึกเหมือนน้ำหนักถูกยกออกจากไหล่ของผม

ถ้าอย่างนั้นความสำเร็จก่อนหน้าของผมจบในการช่วยชีวิตผมไว้หือ ไม่มันเป็นความโชคร้ายเปลี่ยนเป็นความโชคดี ไม่ใช่เหรอ? พอมาคิดว่ารางวัลซึ่งผมคิดว่ามีปัญหาจะจบในการมาช่วยบั้นท้ายน่าสงสารของผมในท้ายที่สุด

“อืม จริงๆแล้ว มันเร็วเกินไปที่จะพูดอย่างนั้น”

“อะไรกัน!?”

“แม่และพี่สาวของฉันน่าจะยอมรับนายทันที แต่พี่ชายของฉันคือ……”

เอลม่าแสดงถึงหน้าตามองไปไกลๆบนหน้าของเธอ

“พี่ชาย…”

ผมได้รับลางสังหรณ์ไม่ดี หลังผมเริ่มเหงื่อเย็นไหลออกกระทันหัน อะไรกันวะนี่?”

“อืม เอ่อ…… พูดอีกอย่างเขามีปมอันเรียกว่า ‘ป้มด้อยรักน้องสุดขีด’ และ…

“ไม่ หยุด ไม่ต้องพูดอะไรสักคำอีกแล้ว”

“…เขาก็เป็นผู้สนับสนุนฝ่ายวาดดาบอย่างมีไฟหลงใหลด้วย”

โอ้…… อืม เวรจริงๆ

—————————————

“ไม่ใช่ท่านพูดว่ากำหนดการสำหรับวันนี้ถูกยกเลิกหรือ นายท่าน?”

“บางเวลา ผู้ชายต้องทำอะไรซึ่งผู้ชายต้องทำเพื่อมีชีวิตรอด”

“หืมม”

ขณะผมมองดูการตอบสนองแสนสับสนของเมย์ ผมสาบานอีกครั้งว่าจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเผชิญหน้ากับวิกฤตที่กำลังจะมาถึง

เพราะทั้งหมด ผมสัญญากับเอลม่าไว้แล้ว

ผมจะรับปัญหาอะไรก็ตามซึ่งมาทางผม โดยเสนอไปว่าถ้าผมไม่เสียชีวิตไประหว่างการททำอย่างนั้น ผมเป็นชายผู้รักษาสัญญา! ฮ่าฮ่าฮ่า……ฮ่าาาา

“มันยอดเยี่ยมที่แรงจูงใจท่านสูง นายท่าน แรงจูงใจสูงจะอนุญาติให้ท่านเรียนรู้ได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น”

“ใช่ นั่นถูกแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ และดังนั้นเอง ทำไมเราไม่เพิ่มความเข้นข้นขึ้นอีกระดับหนึ่งล่ะ?”

“เฮ๋?”

และดังนั้นเอง การฝึกจากนรกเริ่มต้นขึ้น

—————————————

มันเป็นสามวันตั้งแต่เมื่อคุยใจต่อใจกับเอลม่า

“ฮิโระซามะ พี่เป็นอะไรมั้ยนี่??”

มีมีเรียกผมอย่างกังวลสู่ผมผู้ที่นั่งห่อไหล่คอตกบนโต๊ะห้องกินเข้าพร้อมจิตวิญญาณของผมบินออกจากปาก แน่นอนว่ามีมิคือสาวน่ารัก ผมถูกนำพามาร้องไห้

“ใช่…… พี่ไม่เป็นอะไร…… พี่จะรอดต่อไป”

มันแค่กระดูกลั่นที่ไหนสักแห่ง ถูกกระแทกกระเด็นไปสุดห้องระหว่างพ่นน้ำลายเป็นเลือด และเลือดออกภายใน มีคำพูดอยู่เมื่อกลับไปที่โลก: อะไรซึ่งไม่ฆ่าคุณททำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น

ฮ่าฮ่าฮ่า บางเวลาผมรู้สึกว่าโลกมันช่างห่วยแตกเสียจริง

“……มีอะไรเหมือนหนังสือการ์ตูนของเหล่าผู้กล้าใจมั้ยที่ตัวเอกรับรู้ถึงอันตรายล่วงหน้าแล้วหลบมันได้ ถูกมั้ย?”

“หืม? อ๊ะ ใช่ มีจริงๆแหละ”

มีมิสับสนอย่างเห็นได้ชัดเจนจากคำพูดรกระทันหันของผม แต่ผมพูดมันต่อไป

“พี่คิดว่ามันเป็นบางอย่างซึ่งสร้างขึ้น แต่ตอนนี้พี่รู้จริงๆเป็นคนแรกว่ามันมีอยยู่จริงๆ…… หรือ จริงๆแล้วพี่เรียนเกี่ยวกับสิ่งบัดซบนี้โดยไม่ได้แม้แต่จะรู้ตัวมัน”

“อ-อย่างนั้นเหรอ?”

“ช่าย…… พี่เรียนโดยการเสียสละร่างกายและวิญญาณไปเลยล่ะ”

ที่ไหนซึ่งการโจมตีกำลังมา ความสามารถเพื่ออ่านอะไรแบบนั้นจากการเคลื่อนไหวร่างกายที่เล็กน้อยที่สุดของคู่ต่อสู้คืออะไรซึ่งคุณเรียกว่าการรับรู้ความกระหายเลือด

การมองเห็นอนาคตเทียมซึ่งมีพื้นฐานจากประสบการณ์เป็นกองใหญ่และผ่านความเข้าใจของร่างกายคู่กับความสามารถในการประมวลผลข้อมูลสูง น่าจะ

ผมคิดทฤษฎีนั้นขึ้นมาระหว่างการฝึกกับเมย์

ความสามารถนั้นซึมลึกเข้าไปในกระดูกของผมแล้ว มันแค่เหมือนทักษะอันผมได้รับระหว่างการเล่นเกมเอฟพีเอสกลัไปที่โลก หรือการรวมประสบการณ์จากการเล่นเอสโอแอล ซึ่งผมจะขัดเกลามันยิ่งมากขึ้นตั้งแต่มาที่มิตินี้

ผมสามารถสร้างภาพสมบูรณ์ของทั้งสนาบรบในหัวผมโดยการได้รับข้อมูลซึ่งแสดงออยู่บนเรดาร์ และยืนยันรูปแบบการเคลื่อนไหวขอยานศัตรู การเตือนรับการกระแทกบนโฮโลแกรมของยานตัวเอง เมื่อไหร่ก็ตามที่การโจมตีโดนโล่ เสียงเตือนซึ่งดังขึ้นในหมู่สิ่งต่างๆ ใช้นั่น ผมสามารถลดความเสียหายของยานผมเป็นน้อยที่สุดได้ระหว่งยิ่งการโจมตีของผมซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าถึงชีวิตสำหรับศัตรูของผม

มันเหมืออนกันกับวิชาดาบ ผมจดบันทึกการสั่นไหวของพื้น การไหลเวียนของอากาศบนผิวของผม การเคลื่อนไหวของเท้าและดวงตาของศัตรูผมเห็นได้ด้วยตาของผม เสียงของเสื้อผ้าขยุกขยิกและเสียงก้าวเท้าซึ่งผมรับเข้ามาในหูของผม และข้อมูลอื่นๆซึ่งทำให้ผมจับภาพการเคลื่อนไหวที่เป็นไปได้ขอศัตรู และจากนั้น ผมจะสามารถหลบการโจมตีของศัตรูเพื่อปลดปล่อยการโจมตีสวนอันตรายถึงชีวิต

ขอบคุณการฝึกดุจนรกรายวันของเมย์ซึ่งผมถูกกระทืบเกือบตาย จนผมได้รับความสามารถรับรู้ความกระหายเลือด หรือบางทีคุณเรียกมันวว่าการรับรู้พื้นที่ระดับเสร็มกำลัง ไม่ว่าอย่างไร มันเป็นบางอย่างแบนั้น และผมามารถใช้งานความสามารถวิชาดาบนี้

ผมเคยอาเจียนเป็นเลือดเป็นสิบๆครั้งเมื่อผมสู้กับเมย์ แต่ผมสามารถลดไปถึงเจ็ดครั้งได้วันนี้

“พูดถึงแล้ว มีมิ ขอถามอะไรบางอยย่างน้องได้มั้ย……?”

“คะ?”

“เอ่อ น้องจะไม่มาแล้วบอกพี่ว่าน้องเป็นคุณหนูจากตระกูลดูคัลหรือบารอน ใช่มั้ยน้อง?”

คุณเห็นไหม ยานอวกาศตรีเซเรน่าเป็นลูกสาวของมาร์ควิส คริสคือหลานของเอิร์ล และจริงๆแล้วเอลม่าเป็นลูกสาวของวิสเคานต์ ‘ถ้าเป็นแบบนี้ แล้วจริงๆแล้วมีมิจะเป็นอะไร…?’ คืออะไรซึ่งเข้าสู่หัวผมไม่นานจากตอนนี้ ดังนั้นันดีกว่าที่ถามตอนนี้

“เอ๋? หนูไม่คิดอย่างนั้นน่ะ หนูเป็นชนชั้นกลางจักรวรรดิของแท้ และปู่ย่าตายายเป็นพลเมืองโคโลนีอวกาศธรรมดาด้วยเหมือนกัน”

“ฮ่าฮ่าฮ่า นั่นถูกแล้ว ไม่ใช่เหรอ? ไม่มีทางที่นั่นจะเกิดขึ้นหืออ”

ไม่ว่าอย่างไร มีมิควรจะไม่เป็นไร ถ้าเธอมาจากตระกูลซึ่งมีอำนาจสูงเธอจะไม่ตกไปสู่ก้นบึ้งของสังคมในเหตุการซึ่งเธอได้รับหนี้ก้อนใหญ่

“ยังไงซะ แน่นอน หนูจะไม่ให้ตายเถอะน่า หนูดูเหมือนคุณนายขุนนางกับพี่เหรอ ฮิโระซามะ?”

“อืม มีมินน่ารักหลังจากทั้งหมด…… น้องปลอมเป็นคุณหนูได้ถ้าแต่งตัวสักนิด รุ้ไหม?”

“หนูจะแค่จบนการถูกเสื้อผ้าใส่หนูแทนจะเป็นอีกทางหนึ่งแม้ว่าหนูเปลี่ยนเข้าไปสู่บางอย่างซึ่งตกแต่งไม่ธรรมดา หนูไม่มีบรรยากาศเด่นคมเหมือนเอลม่า และการวางตัวมีศักดิ์ศรีของเซเรน่าซามะ หรือความสง่างามของคริสจัง”

“อย่างนั้นเหรอ? พี่คิดว่าหนูจะทำได้ดีเมื่อหนูใส่ชุดโกติคโลลิซึ่งพี่ซื้อกลับไปเมื่อตอนนั้น พี่อากจะเห็นหนูใส่พวกมันอีกครั้ง”

“เอ๋? ม-อืม แต่หนูไม่คิดว่าเสื้อผ้าแบบนั้นเหมาะกับหนูจริงๆ”

หน้าของมีมิเปลี่ยนเป็นแดงกระทันหันขณะเธอตอบพึมพำอย่างเขินอาย น่ารักเสียจริงๆ

ผมสามารถเกลี้ยกล่อมมีมิผู้ขี้อายให้ใส่เสื้อผ้าโกติคโลลิซึ่งผมซื้อก่อนหน้าได้เพื่อรักษาหัวใจของผมซึ่งถูกทำให้น่วมโดยการฝึกรายวันของเมย์

แปลโดย: wayuwayu

สนับสนุนผลงาน โดเนทได้ที่

067-3-63958-5

วายุ แซ่จิว

กสิกรไทย

ได้โปรดโดเนทสนับสนุนผู้แปล ติดตามข่าวสาร สปอนเซอร์ตอน ช่องทางติดต่อ Facebook : wayuwayu แปล / X : @wayutl